<h2>AWC และ Meliá เปิดตัวโรงแรมแห่งแรกใจกลางพัทยา เผยโฉม “โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย” นับเป็นโครงการแรกของ AWC ในเมืองพัทยา ในฐานะส่วนหนึ่งของ The Aquatique Destinations Pattaya โครงการเมกะโปรเจกต์แบบมิกซ์ยูสระดับแฟล็กชิปของบริษัทภายใต้แผนพัฒนาสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือในระยะยาวกับ Meliá Hotels International กับการเปิดตัว โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทบนชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย รวมถึง Lay Beach Club บีชคลับแห่งแรกของเมืองพัทยา ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์พักผ่อนริมชายหาดอันน่าประทับใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย ยังเป็นส่วนหนึ่งของ The Aquatique Destinations Pattaya ภายใต้แนวคิดสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ที่ประกอบด้วย 6 โรงแรม โดยมีงบลงทุนสำหรับการพัฒนาระยะยาวทั้งสิ้นรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึง 2,000 ล้านบาทสำหรับการพัฒนาโรงแรมแห่งนี้โดยเฉพาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยแผนการลงทุนในระยะยาวนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของพัทยา ที่จะช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับท้องถิ่นผ่านการสร้างงานและมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนโดยรอบ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/EUFHxC5PHitdAJQmUu5X.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="EUFHxC5PHitdAJQmUu5X.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนั้น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย ยังได้รับการออกแบบตามกรอบการดำเนินงานความยั่งยืนของ AWC ในด้านสภาพแวดล้อมหรือ Better Planet เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม กับการเป็นโรงแรมแรกในชลบุรีที่ตั้งเป้าจะได้รับมาตรฐาน LEED และ WELL ในระดับ Gold&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึงโครงการ เดอะ GALLERY ที่ช่วยสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตหรือ Better People และ Better Prosperity ผ่านการสร้างงานและสนับสนุนคุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนผ่านการลงทุนระยะยาว สะท้อนความมุ่งมั่นของ AWC ในการสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กาเบรียล เอสการ์เร ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meliá Hotels International กล่าวว่า “โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของเราในเอเชีย ผ่านความร่วมมือกับ AWC ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของเราในประเทศไทย ต่อเนื่องจากความสำเร็จของการเปิดตัว INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit เมื่อปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรามั่นใจว่าโรงแรมแห่งนี้จะสามารถมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครให้กับแขกผู้เข้าพักได้อย่างแท้จริง อีกทั้งพัทยายังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงนับเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/tT2xv6dM2pZocoEukL4B.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="tT2xv6dM2pZocoEukL4B.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราเชื่อมั่นว่าอัตลักษณ์ในแบบสเปนและความมุ่งมั่นด้านการบริการของเรา ประกอบกับวิสัยทัศน์ของ AWC จะช่วยให้เราสามารถมอบประสบการณ์ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้มาเยือน เชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นและหลอมรวมความเป็นเอกลักษณ์ของสเปนได้อย่างกลมกลืน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย พร้อมให้บริการผู้เข้าพักที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ผสานการทำงานและการพักผ่อน (Workcation) กลุ่มดิจิทัลโนแมด กลุ่ม MICE นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของไลฟ์สไตล์ หรือกลุ่มลักชัวรีที่มองหาประสบการณ์การพักผ่อนในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโรงแรมประกอบไปด้วยห้องพักจำนวน 234 ห้อง พร้อมการออกแบบร่วมสมัยเข้ากับกลิ่นอายของท้องถิ่น ซึ่งมีไฮไลต์สำคัญประกอบไปด้วย Lay Beach Club บีชคลับแห่งแรกของ AWC และ Meliá ในประเทศไทย พร้อมนำเสนอที่สุดแห่งประสบการณ์การพักผ่อนและความบันเทิงภายในโรงแรม ประกอบไปด้วยพื้นที่รูฟท็อปสุดตระการตาให้แขกได้เพลิดเพลินไปกับความงดงามของวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/j6JMHfwEEiUYVsdZGES9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="j6JMHfwEEiUYVsdZGES9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งยังผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอย่างลงตัวกับพื้นที่ชมภาพยนตร์กลางแจ้ง การแสดงและดนตรีจากดีเจ การออกแบบพื้นที่นั่งแบบขั้นบันไดเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำพร้อมฟังก์ชันสปาและหาดทรายเทียม ในขณะที่บาร์ภายในบีชคลับพร้อมให้บริการเครื่องดื่มซิกเนเจอร์แก่แขกผู้เข้าพัก สร้างนิยามใหม่ให้กับการพักผ่อนริมชายหาดสนุกและมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเคย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ โรงแรมยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่สนามหญ้ากลางแจ้งสำหรับพักผ่อน สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก The Level คลับเลาจน์ ยี่ สปา (YHI Spa) ฟิตเนส และห้องชมภาพยนตร์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/8UhVBinuiZuTAD7XYTPu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="8UhVBinuiZuTAD7XYTPu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านบริการอาหารทาง “โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย” ได้รังสรรค์ประสบการณ์หลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์ผู้เข้าพัก โดยสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับห้องอาหารแบบ All-Day Dining สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนได้ที่ “สเน่ห์ สาเหร่ห์” ดื่มด่ำไปกับศิลปะการปรุงอาหารสไตล์ Nikkei แบบญี่ปุ่น-เปรู ที่ “เดนซ์” หรือลิ้มลองอาหารจีนร่วมสมัยสไตล์กวางตุ้ง-เสฉวนที่ “ยี่ถง ไชนิส เรสเทอรองค์ แอนด์ สกายบาร์”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับการผ่อนคลายใน “ชล เล้าจ์” (ล็อบบี้บาร์) และ “ลูล่า บีชช์ บาร์” ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่ผสานประสบการณ์ลักชัวรีเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ใจกลางเมืองพัทยา พร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนโดดเด่นไม่ซ้ำใครได้อย่างลงตัว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/ep6h5xMwqqXJxhgMk6vV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="ep6h5xMwqqXJxhgMk6vV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย สะท้อนความมุ่งมั่นของ AWC ในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า ผ่านการพัฒนาโครงการให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางที่ส่งเสริมทั้งความคิดสร้างสรรค์ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม การส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการยึดมั่นในหลักการด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้เข้าพักและชุมชนท้องถิ่น” นางวัลลภา กล่าวสรุป “โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย จึงนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยผลักดันพัทยาให้ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างแท้จริง” เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/awc-invests-16-billion-baht-build-mixed-use-project-woeng-nakorn-kasem-yaowaraj" alt="AWC ทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน สร้างโปรเจกต์ยักษ์ 'เวิ้งนครเกษม เยาวราช' เตรียมเปิดเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ปี 2572">AWC ทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน สร้างโปรเจกต์ยักษ์ 'เวิ้งนครเกษม เยาวราช' เตรียมเปิดเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ปี 2572</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC ทุ่ม 2,000 ล้านบาท ผนึก Meliá ผุดโรงแรมใหม่กลางพัทยา

<h2>AWC ลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมจำนวน 2 แห่งในไทยกับ Hotel Okura ได้แก่ โรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ (Okura Resort Chiang Mai) ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์โอกุระแห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย และโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา (The Okura Prestige Sukhumvit Bangkok Hotel and Spa) ใจกลางย่านทองหล่อ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความร่วมมือระหว่าง AWC และ Hotel Okura ในครั้งนี้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาโรงแรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน ทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยความร่วมมือในครั้งนี้ได้ผสานจุดแข็งอันโดดเด่นของทั้งสองฝ่ายเพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันในฐานะผู้นำด้านการให้บริการระดับลักชัวรี โดยมุ่งนำเสนอประสบการณ์เหนือระดับที่ผสมผสานการบริการอันเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจในแบบญี่ปุ่นเข้ากับความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของไทยเพื่อต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับ Hotel Okura และขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมอันโดดเด่นของเราสู่สองเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสันที่สุดของประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ จะสร้างนิยามใหม่ให้กับทางการท่องเที่ยวลักชัวรีและยั่งยืนในประเทศ พร้อมผสมผสานมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมอันงดงามของเชียงใหม่ เข้ากับกลิ่นอายการออกแบบและการให้บริการแบบญี่ปุ่นต้นตำรับ ทั้งยังจะเชื่อมต่อกับ โครงการไลฟ์สไตล์เดสทิเนชั่นของ AWC อย่าง “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น” เพื่อเสนอประสบการณ์น่าประทับใจ กับการถ่ายทอดความงดงามของอาณาจักรล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์เคียงคู่กับความสง่างามในแบบฉบับญี่ปุ่นเพื่อมอบประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา ในย่านทองหล่อจะถูกพัฒนาเป็นโอเอซิสแห่งการพักผ่อนใจกลางเมือง ด้วยบริการด้านสุขภาพองค์รวมและการเข้าพักแบบระยะยาว นำเสนอประสบการณ์การดูแลสุขภาพสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ในย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ พร้อมนำเสนอประสบการณ์แบบรีสอร์ทในเมืองด้วยกลิ่นอายแบบบญี่ปุ่นและประสบการณ์เหนือระดับแบบหาที่ไหนไม่ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการพัฒนาโรงแรมอันโดดเด่นแห่งใหม่ทั้งสองนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก แต่จะยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศและสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอีกด้วย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โทชิฮิโระ โอกิตะ ประธานและกรรมการผู้แทน Hotel Okura Co., Ltd., กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้บรรลุอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญกับ AWC ผ่านการพัฒนาโรงแรมใหม่ในประเทศไทย ต่อเนื่องจากความสำเร็จของ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำแบรนด์โอกุระมาสู่เชียงใหม่และภาคเหนือของประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยความมุ่งมั่นของเราในการมอบบริการที่พักระดับโลก ที่ผสมผสานความสง่างามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับเสน่ห์ท้องถิ่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยเครือข่ายโรงแรมลักชัวรีที่ตั้งอยู่ทั่วโลก ทำให้เราสามารถผสมผสานความงดงามและความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัว และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับ AWC จะช่วยมอบประสบการณ์พิเศษและบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ทั้งแขกชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างแน่นอน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ จะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์โอกุระแห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนช้างคลานซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดดเด่นด้วยตลาดและศูนย์การค้า อาหารท้องถิ่น และสีสันยามค่ำคืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประกอบด้วยห้องพักที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันกว่า 200 ห้อง ผสมผสานความหรูหราสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับวัฒนธรรมล้านนาร่วมสมัย พร้อมห้องพักแบบเรียวกังที่ครบครันด้วยเสื่อทาทามิ ชุดยูกาตะ และออนเซ็นส่วนตัว ที่แขกจะสามารถดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การพักผ่อนที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับมรดกทางประเพณีของภาคเหนือ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงอาหารเลิศรส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โรงแรม โอกุระ รีสอร์ท เชียงใหม่ มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2571 โดยจะมาพร้อมกับห้องอาหารญี่ปุ่น-ล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานวัตถุดิบท้องถิ่นเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบญี่ปุ่น เตรียมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศแบบโอมากาเสะและล้านนาไคเซกิ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยิ่งไปกว่านั้น แขกยังจะได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ออนเซ็น สปา ห้องอาหารแบบ All Day Dining คาเฟ่และห้องอาหาร เลานจ์ รูฟท็อปบาร์ และสระว่ายน้ำ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา จะนำเสนอประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบองค์รวมและบริการเข้าพักแบบระยะยาวในพื้นที่ทองหล่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ นำเสนอการเข้าพักอันเป็นเอกลักษณ์และการต้อนรับอย่างอบอุ่น กับล็อบบี้ลอยฟ้าและรูฟท็อปบาร์สไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมสวนกลางแจ้ง ผสมผสานการดูแลสุขภาพเข้ากับทัศนียภาพอันงดงามของเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพ เพื่อมอบพื้นที่ให้แขกผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายและเติมเต็มทั้งร่างกายและจิตใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มาพร้อมกับบริการและฟีเจอร์บนชั้นดาดฟ้าอื่นๆ อาทิ ห้องอาหารแบบ All Day Dining ห้องอาหารพิเศษต่างๆ และรูฟท็อปบาร์ที่มอบวิวเมืองแบบพาโนรามา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ แขกยังสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ที่บริเวณคาบานาสุดหรูริมสระว่ายน้ำ ลิ้มรสหนึ่งในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อสร้างสมดุลที่ดี รวมไปถึงเมนูซิกเนเจอร์ในรูปแบบของ โอกุระ เพรสทีจ อีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา ยังนำเสนอห้อง Onsen Suite แบบต้นตำรับ และสัมผัสเสน่ห์เหนือกาลเวลาของห้องพักสไตล์เรียวกังอันเป็นเอกลักษณ์ หรือเลือกพักในห้องแบบตะวันตกที่ความสะดวกสบาย โดยโรงแรมยังมาพร้อมโปรแกรมสุขภาพเฉพาะบุคคลที่ผสมผสานศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับเทรนด์สุขภาพสมัยใหม่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยนักโภชนาการมืออาชีพ พร้อมสัมผัสการดูแลสุขภาพด้วยวารีบำบัด (Hydrotherapy) และการเจริญสติ (Mindfulness) เพื่อคืนพลังให้กับทั้งร่างกายและจิตใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ สุขุมวิท กรุงเทพ โฮเทล และ สปา มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ด้วยห้องพักกว่า 200 ห้อง ผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบร่วมสมัยที่นำธรรมชาติมาประยุกต์เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Biophilic) ควบคู่กับสุนทรียะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ โรงแรมยังให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ด้วยการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน ลดความร้อนจากภายนอกอาคาร และการติดตั้งระบบจัดการน้ำอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โรงแรมทั้งสองแห่งจะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอระดับลักชัวรีของ AWC และสานต่อความสำเร็จของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ และเรือโอกุระ ครูซ เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการบริการและเวลเนสให้กับประเทศไทย AWC หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกเข้ามาสัมผัสกับการบริการชั้นเลิศ ความรุ่มรวยทางวัฒนธรรม และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่โรงแรมภายใต้แบรนด์โอกุระแห่งใหม่ทั้งสองนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก” วัลลภา กล่าวปิดท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/okura-cruise-now-available-in-bangkok" alt="AWC และ Okura เปิดตัวเรือ ‘Okura Cruise’ เรือไคเซกิและเทปันยากิสุดหรูลำแรกของโลก ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมชิมไฟน์ไดนิ่ง">AWC และ Okura เปิดตัวเรือ ‘Okura Cruise’ เรือไคเซกิและเทปันยากิสุดหรูลำแรกของโลก ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมชิมไฟน์ไดนิ่ง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC จับมือ Hotel Okura พัฒนา 2 โรงแรมในเชียงใหม่และกรุงเทพฯ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท

<h2>บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เดินหน้ารับนโยบายการเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ประกาศความพร้อมต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก มั่นใจท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมเผยโฉมโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์</h2>
ตามที่ประเทศไทยได้มีนโยบายเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวและไม่จำกัดพื้นที่นั้น ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงภาพรวมและผลตอบรับหลังการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ อัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 2,000-3,000 คน/วัน เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาจำนวนมากที่สุด

รองลงมาได้แก่ เยอรมนี อังกฤษ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน ผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing New Chapters” ของ ททท.ทั้ง 29 สำนักงานทั่วโลก ทั้งคาดว่าปี 2564 ประเทศไทยจะรับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน

สำหรับตลาดในประเทศ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ กล่าวว่า ททท. ได้เตรียมสินค้าการท่องเที่ยวแบบ Theme Campaign ที่ตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกกลุ่ม เริ่มจาก UNSEEN New Series เที่ยววันธรรมดา เมืองรองต้องลอง ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Workation Thailand และ Thailand Premium เป็นต้น โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท. กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการสายการบิน ขนส่ง ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ตลอดจนผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก

“ททท. มั่นใจว่า ภายในปี 2564 นี้ ประเทศไทยจะสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 625,700 ล้านบาท และจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ในปี 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 1,938,034 ล้านบาท ด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ 160 ล้าน คน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ 18 ล้านคน” ฐาปนีย์กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-53821" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/วัลลภา-ไตรโสรัส_1001.jpg" alt="" width="400" height="600" />

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่าจากนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ หรือภูเก็ตที่เปรียบเสมือนประตูด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า รวมถึงแพ็คเกจ “Test &amp; Rest SHA+” สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยบริการที่พักพร้อมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 และช่วงต้นปีหน้าเริ่มมีกำลังซื้อจากกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงที่เริ่มเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ รวมถึงงานในรูปแบบที่การประชุมออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้ อาทิ งานแต่งงาน งานสัมมนารวมทีมสร้างพลังองค์กรและธุรกิจ และคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราเติบโตกลับมาได้ต่อเนื่องการสามารถกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นไป

“ด้วยกลยุทธ์ของ AWC ที่มีความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทำให้บริษัทฯ สามารถดึงฐานลูกค้าเดิมที่มีกำลังซื้อสูงกลับเข้ามาได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศ ถือเป็นจุดแข็งของเราในการร่วมกับพันธมิตรให้การสร้างคุณค่าและประสบการณ์ รวมทั้งจัดรูปแบบบริการแบบองค์รวมในการดูแลการเดินเข้ามาในประเทศ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับการท่องเที่ยวไทยของเรากลับมาดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง” วัลลภา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ AWC ยังเดินหน้าเสริมพอร์ตโฟลิโอ ธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน ได้เปิดให้บริการโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถลางใจกลางพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าภูเก็ตเป็นโรงแรมขนาด 248 ห้องพักที่บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมระดับโลกที่มีแบรนด์อันโดดเด่นภายใต้การบริหารกว่า 30 แบรนด์ชั้นนำ และเป็นโรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์ “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท” บนเกาะภูเก็ต โดยปรับปรุงจากโรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ซึ่ง โดยบริษัทฯ ได้บูรณาการแนวคิดในการออกแบบภายในที่ผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมนำเสนออาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชนที่แสดงถึงเอกลักษณ์และคุณค่าของจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ AWC ได้ประกาศความพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสู่กลุ่มโรงแรมในเครือทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ใน 6 เมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง กรุงเทพฯ กระบี่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย ด้วยจำนวนห้องพักรวมกันกว่า 4,941 ห้อง ผ่านการรับรองและให้บริการตามมาตรฐานของ Amazing Thailand Safety &amp; Health Administration หรือ SHA+ รวมถึงมาตรฐานของเชนบริหารโรงแรมระดับโลก ที่ให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยของแขกผู้มาใช้บริการ

อ่านเพิมเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/property/%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%8b%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b9%8c-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%82%e0%b8%88%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c.html">“นายาเรสซิเดนซ์” ตอบโจทย์ “วัยอิสระ” ไลฟ์สไตล์หลังเกษียณ เช่าคอนโดฯ “พ่วงบริการสุขภาพ”</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

AWC จับมือ ททท.ขานรับเปิดประเทศ อวดโฉมใหม่ “โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์”

“AWC” ลุย 3 โครงการใหญ่ รีโพสิชันนิ่ง “รีเทล-ออฟฟิศ-โรงแรม”

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหญ่หวนกลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่ง ทำให้หลายบริษัทต้องเร่งปรับแผนธุรกิจ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว และเพื่อให้แผนธุรกิจของทุกท่านมีข้อมูลที่รอบด้าน

“Forbes Thailand” ขอมอบสิทธิพิเศษให้ท่านได้อ่าน E-Magazine ฉบับเดือนสิงหาคม 2564 ฟรี!!!

เพื่อให้ทุกท่าน ไม่พลาดข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และแนวคิดที่สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจของท่าน ให้พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ และก้าวต่อไปข้างหน้า

สามารถคลิกเพื่อลงทะเบียนอ่าน Free E-Magazine ได้ที่

<a href="https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSciWvuLfaiWh1FhzDnhQnbr8SOvqB78BuhJ5P3lGHXJUnR5Cg/viewform">https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSciWvuLfaiWh1FhzDnhQnbr8SOvqB78BuhJ5P3lGHXJUnR5Cg/viewform</a>

สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสั่งซื้อนิตยสาร สามารถ inbox ได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine">https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine</a>

========

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2564 - วัลลภา ไตรโสรัส POWER OF LAND DEVELOPER นำทัพ “AWC” ลุยลงทุนแสนล้าน - หากเอ่ยถึงมหาเศรษฐีเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จักตระกูล “สิริวัฒนภักดี” และธุรกิจหลากหลายของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ AWC หรือ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป ที่นำทัพโดยนักธุรกิจหญิงรุ่นที่ 2 ของตระกูลผู้โดดเด่นทั้งในด้านธุรกิจและชีวิตครอบครัว
เศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล CV เสริมแกร่งโรงไฟฟ้าชีวมวล - แต้มต่อทางธุรกิจเล็กแต่คิดใหญ่ที่เล็งเห็นช่องว่างการเติบโตในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็กพร้อมชูประสบการณ์และความเชี่ยวชาญงานวิศวกรรมเป็นใบเบิกทางสร้างความเชื่อมั่นคว้าบิ๊กโปรเจ็กต์ EPC ในโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดของไทยควบคู่การเดินหน้าขยายโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในและต่างประเทศ
มรกต กุลธรรมโยธิน INETREIT ทรัสต์รับเทรนด์ดิจิทัล - ก้าวต่อของความสำเร็จหลังการบุกเบิกธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์และระบบคลาวด์ในประเทศ สู่การจัดตั้งทรัสต์โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกองแรกของไทยเพื่อลงทุนขยายศูนย์ Internet Data Center รับดีมานด์และความเปลี่ยนแปลงยุค work from anywhere พร้อมสนองตอบการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล
อรรถนพ พันธุกำเหนิด เสริมเทรนด์อสังหาฯ Medical Center &amp; Resort - โควิด-19 นำความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมาสู่โลก ทำให้ธุรกิจการเดินทางท่องเที่ยวหยุดชะงักธุรกิจที่พักซึ่งกำลังมาแรงก่อนหน้านั้นกลายเป็นกิจการที่ขาดรายได้ ผู้คนเริ่มมองหาช่องทางกระจายความเสี่ยงคำตอบที่ชัดเจนคือ บริการด้านสุขภาพ และเป็นที่มาของเทรนด์ใหม่ Medical Center &amp; Resort
กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี นายหญิง TPOLY Group - จากอาชีพแม่บ้านเต็มเวลา ทำหน้าที่ดูแลลูกๆ 3 คน ไม่ต้องรับรู้เรื่องธุรกิจเพราะคู่ชีวิตไม่เคยนำเรื่องงานกลับมาคุยที่บ้าน แต่เมื่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของ “เจริญ จันทร์พลังศรี” ผู้นำครอบครัว ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) ในปี 2556 เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเธอ
ภายในฉบับพบ “Thailand’s 50 Richest การจัดอันดับมหาเศรษฐีไทย” และ รายงานพิเศษ "ภารกิจผู้หญิงกับการรับมือโควิด-19" ร่วมอ่านบทความและเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก <a href="https://bit.ly/3luqRpe">Forbes Thailand ฉบับสิงหาคม 2564 อ่านรูปแบบ e-Magazine</a>

<a href="https://bit.ly/3luqRpe"><img class="alignnone wp-image-48998 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/forbes-thailand-วัลลภา-ไตรโสรัส_004.jpg" alt="วัลลภา ไตรโสรัส" width="600" height="788" /></a>

<a href="https://bit.ly/3luqRpe"><img class="alignnone wp-image-48996 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/forbes-thailand-วัลลภา-ไตรโสรัส_002.jpg" alt="วัลลภา ไตรโสรัส" width="600" height="788" /></a>

<a href="https://bit.ly/3luqRpe"><img class="alignnone wp-image-48997 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/forbes-thailand-วัลลภา-ไตรโสรัส_003.jpg" alt="วัลลภา ไตรโสรัส" width="600" height="788" /></a>

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events