 10 แบรนด์ดังฉลอง Pride Month 2023 สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ

<h2>นักออกแบบชื่อดังเมินกระแสความเรียบง่ายในแฟชั่นโชว์ครั้งแรกหลังชนะคดีกับ Adidas</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/YLVGSJuSWCtFjUmB5tca.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="YLVGSJuSWCtFjUmB5tca.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="620,372" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp; บทสนทนาสำหรับงาน New York Fashion Week ดูเหมือนห่างไกลจากเวทีที่หวือหวาน่าจดจำ เมื่อรันเวย์แห่งนี้นำเสนอแฟชั่นเสื้อผ้า “อันแสนเรียบง่าย” สวมใส่ในชีวิตประจำวันแทนที่จะเป็นการสร้างกระแสฮือฮา ทว่านักออกแบบชาวอเมริกัน Thom Browne กลับทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เมื่อแฟชั่นโชว์ของเขาเมื่อเย็นวันอังคารช่างน่าอัศจรรย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บนเวทีที่มีเครื่องบินแบบเก่าตกอยู่กลางทราย เมื่อนางแบบสองคนแรกก้าวออกมา เสียงบรรยายก็เล่าถึงผู้มาเยือนดาวเคราะห์ดวงใหม่ทั้งสอง คนหนึ่งสวมชุดจัมพ์สูทบุนวมดูคล้ายนักบินอวกาศ ส่วนอีกคนผมฟูชี้และสวมเบลเซอร์ที่แถบสี่เส้นเจ้าปัญหาของ Browne บนแขนเสื้อ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/CBJZG8EN1SHexEYQN9Kw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="CBJZG8EN1SHexEYQN9Kw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="620,372" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="1"></figure></div>&nbsp; &nbsp; การแสดงดำเนินต่อไปโดยมีกลุ่มนายแบบสวมชุดตกแต่งเล็บมือและเท้ายาวๆ และเครื่องประดับศีรษะที่ดูคล้ายดาวเสาร์ก้าวเข้ามาบนเวที&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตามด้วยกลุ่มคนชุดเสื้อไหล่โคร่งทำจากขนสัตว์คล้าย Chanel กระโปรงพองๆ คอร์เซ็ต และกระเป๋าทรงกับสุนัขพันธุ์ดัชชุน แน่นอนว่าต้องมีลวดลายแถบเส้นซึ่งเป็นสัญลักษร์ของแบรนด์มากมายบนเสื้อแจ๊คเก็ตและกระโปรงทรงป้าย ชุดสุดท้ายเป็นชุดราตรีทำจากผ้าเนื้อบางละเอียดและเสื้อแจ๊คเก็ตสีขาวที่ถูกดัดแปลงเป็นกระโปรงแทน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/ddMccMUD8YLLGG2jSNnw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ddMccMUD8YLLGG2jSNnw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="620,372" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านหลังเวที Browne ที่เพิ่งชนะคดีกับแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ Adidas ว่าด้วยการใช้แถบเส้นเป็นโลโก้ในเดือนมกราคมเผยว่าการแสดงนี้อ้างอิงมาจาก The Little Prince (เจ้าชายน้อย) นวนิยายขนาดสั้นที่ถูกเขียนขึ้นในปี 1943 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายผู้ออกเดินทางเยือนดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงโลก “ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจอะไรเลย เด็กต่างหากที่เข้าใจทุกอย่าง” เขากล่าวและเสริมว่า “การสร้างจินตนาการที่ทำให้โลกเราน่าสนใจและน่าอยู่ยิ่งขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมาก” &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อถามว่าเขารู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ที่คดีความจบลงเสียที เขาก็ให้คำตอบ “โล่งมาก! แต่ผมก็ยังจะทำแบบนี้แม้จะแพ้คดีก็ตาม” &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลการตัดสินคดีทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ย้อนกลับไป แบรนด์กีฬาชื่อดังกล่าวหา Browne ว่าการที่เขาใช้แถบสี่เส้นเป็นโลโก้นั้นคล้ายคลึงกับโลโก้แถบสามเส้นของพวกเขาเป็นอย่างมาก หาก Adidas ชนะการฟ้องร้อง พวกเขาจะเรียกเงิน 867,225 เหรียญสหรัฐฯ เป็นค่าลิขสิทธิ์ และอีกมากกว่า 7 ล้านเหรียญทดแทนกำไรที่ทาง Adidas เชื่อว่า Browne ได้จากการใช้ลายแถบเส้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังคำตัดสิน โฆษกของแบรนด์กล่าวว่า “พวกเราตั้งใจจะออกแบบและนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์ที่กลายมาเป็นตัวการันตีคุณภาพของ Thom Browne ต่อไป” ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/n24ceFEgSkoskBH4bU8G.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="n24ceFEgSkoskBH4bU8G.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="960,540" style="" data-index="3"><figcaption><div>Thom Browne</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทิศทางของ Browne ในปี 2023 นั้นมีทีท่าจะเป็นไปด้วยดี หลังผ่านต้นปีไปไม่นานทางแบรนด์ก็ประกาศว่าจะจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินกิจการในประเทศเกาหลีด้วยตัวเอง จากที่แต่เดิมเคยอยู่ภายใต้ความดูแลของ Samsung&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเร็วๆ นี้ JuJu Smith-Schuster ผู้เล่นตำแหน่งปีกจากทีมอเมริกันฟุตบอล Kansas City Chiefs ก็ได้สวมใส่กระโปรงของ Thom Browne ไปงาน Superbowl&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักแสดงดัง Whoopi Goldberg และแรปเปอร์ Queen Latifah ยังนั่งอยู่แถวหน้าสุดในการแสดงแฟชั่นโชว์ติดกับคนรักของ Browne อย่าง Andew Bolton ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ British Museum โดย Browne ได้นำกล่องช็อกโกแลตมาให้ Bolton ในโอกาสวันวาเลนไทน์ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/Uge6FsnkpEc5ujGGcDeJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Uge6FsnkpEc5ujGGcDeJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="620,372" style="" data-index="4"></figure></div> หากการแสดงแฟชั่นโชว์ชวนพิศวงของ Browne ปฏิเสธความไม่หวือหวา Gabriela Hearst ก็ตรงกันข้าม ผลงานของเธอซึ่งบางส่วนได้แรงบันดาลใจจากนักออกแบบแนวโมเดิร์นอย่าง Eileen Gray และจัดแสดงที่เขต Brooklyn ในช่วงก่อนหน้าของวันนั้นตอบโจทย์ความเรียบง่าย เหล่าชุดสูทกับกระโปรง เดรสยาว และเสื้อคลุมที่ตัดมาอย่างดี หากมีเงินมากพอ จะสวมมันเดินออกจากงานเลยก็ไม่ได้ดูขัดตาแต่อย่างใด แปลและเรียบเรียงโดย พรรณราย ดวงดีเด่น จาก Thom Browne shoots wearability to the moon at Little Prince-inspired New York show เผยแพร่บน theguardian.com ภาพ: Lexie Moreland/WWD/Getty Images, AFP อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-superbowl-2023" alt="มูลค่ามหาศาลเบื้องหลังงาน Super Bowl ปี 2023">มูลค่ามหาศาลเบื้องหลังงาน Super Bowl ปี 2023</a>​<hr class="__se__solid">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine​

Thom Browne สวนกระแสแฟชั่นเวที New York นำแรงบันดาลใจจาก Little Prince ขึ้นแสดง

<h2 class="p1">H&amp;M, Nike และแบรนด์ตะวันตกอื่นๆ เผชิญกระแสต่อต้านในจีนอย่างรุนแรง หลังสื่อท้องถิ่นเปิดเผยคำแถลงการณ์ของบริษัทเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับรายงานการบังคับใช้แรงงานในมณฑล Xinjiang พร้อมประกาศว่าจะเลิกสั่งซื้อฝ้าย ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า</h2>
<img class="alignnone wp-image-43412" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/https___d1e00ek4ebabms.cloudfront.net_production_551e68bc-019e-4452-a3d0-1be8919881b7.jpg" alt="H&amp;M Nike" width="720" height="405" />
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สำนักข่าว People’s Daily ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางการจีนได้ออกมาเปิดเผยผ่านทางโซเชียลมีเดีย ถึงการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของ Nike, New Balance, Adidas และแบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษอย่าง Burberry ในประเด็นการเลิกสั่งซื้อฝ้ายจาก Xinjiang
พร้อมระบุว่า เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา H&amp;M แบรนด์แฟชั่นจากสวีเดน ได้ออกมาประกาศว่า จะไม่ดำเนินธุรกิจร่วมกับโรงงานผลิตผ้าไม่ว่าแห่งใดๆ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว
ด้านกระบอกเสียงของ<a style="color: #333333;" href="https://passport.weibo.com/visitor/visitor?entry=miniblog&amp;a=enter&amp;url=https%3A%2F%2Fweibo.com%2F2803301701%2FK7J3ajVFR%3Frefer_flag%3D1001030103_%26type%3Dcomment&amp;domain=.weibo.com&amp;ua=php-sso_sdk_client-0.6.36&amp;_rand=1616746992.3599#_rnd1616666850254">พรรคคอมมิวนิสต์</a>กล่าวว่า H&amp;M เลือกที่จะเชื่อ “คำโกหกของคนหมู่น้อย” มากกว่าการรับฟัง “เสียงของประชาชนชาวจีนกว่าพันราย”
ไม่เพียงเท่านี้ ชาวจีนจำนวนมากบนโลกออนไลน์ยังได้แสดงความคิดเห็นบน<a style="color: #333333;" href="https://weibo.com/login.php"> Weibo </a>ซึ่งเทียบเท่ากับ Twitter ของจีนว่า “ตลาดจีนไม่ต้อนรับบุคคลอันตรายที่แทงข้างหลัง” 
ล่าสุด พบว่ามีแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนอย่าง JD.com, Pinduoduo, และ Taobao ได้เลิกจำหน่ายสินค้าของ H&amp;M เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ Huang Xuan นักแสดงชื่อดังได้ออกมาประกาศยกเลิกสัญญากับ H&amp;M พร้อมระบุว่าตนต่อต้านข่าวลือที่พยายามจะทำให้จีนเสียเกียรติยศ ขณะที่ Jackson Yee ศิลปินขาวจีนก็ได้ออกมายกเลิกสัญญากับ Adidas ในเวลาต่อมา
ในที่นี้ จากการรายงานของ Forbes พบว่าสินค้าของ Nike, Adidas และแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับการกล่าวถึงโดย People’s Daily ยังคงวางจำหน่ายทางออนไลน์ในจีน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าในอนาคตจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับ H&amp;M หรือไม่
ทั้งนี้ ประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ Better Cotton Initiative (BCI) โครงการเพื่อความยั่งยืนที่อยู่ภายใต้การบริหารของ World Wildlife Fund for Nature (WWF) ซึ่งมี Nike, Adidas และ Burberry เป็นสมาชิก ได้ออกมาประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า จะยกเลิกการสั่งซื้อฝ้ายที่ผลิตในมณฑล Xinjiang ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป และต่อมาในเดือนตุลาคมก็ได้ยุติการลงพื้นที่ในเขตปกครองดังกล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการประกาศข้างต้นนี้จะถูกลบออกจากหน้าเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศตะวันตก อันได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหภาพยุโรป ได้ออกมาประกาศมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และหน่วยงานจีน โดยเชื่อว่ามีส่วนพัวพันกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนมุสลิมอุยกูร์ในค่ายแรงงาน Xinjiang ด้วยการทรมาน บังคับใช้แรงงาน และการล่วงละเมิดทางเพศ จากการรายงานของเอกสารที่รั่วไหลและภาพถ่ายทางดาวเทียม
ด้านทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการคว่ำบาตรประเทศตะวันตก พร้อมยืนยันว่า ค่ายแรงงานดังกล่าวได้ได้ถูกปรับโครงสร้างเป็นพื้นที่สำหรับ “การเรียนรู้” การต่อต้านการก่อการร้าย
ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลากหลายสำนักของรัฐได้ออกมาเผยแพร่บทความและวิดีโอ เพื่อแสดงให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ใน Xinjiang ที่ปรากฎภาพของเครื่องจักรอัตโนมัติและบทสัมภาษณ์ของชาวอุยกูร์ที่ระบุว่า "พวกเขาต่อสู้เพื่อที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ ทั้งยังได้รับค่าตอบแทนในอัตราสูง"
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Chinese State Media Fuels Backlash Against Nike, H&amp;M And Others Over Xinjiang ‘Forced Labor’ Statements เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%90%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94-facebook.html">รัฐบาลทหารเมียนมาปิด Facebook ชั่วคราว อ้างก่อให้เกิดความไม่มั่งคง</a>

H&M, Nike เผชิญกระแสต่อต้านในจีน หลังแสดงความเห็นประเด็นสิทธิมนุษยชน

<h2>Adidas ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่สัญชาติเยอรมัน เตรียมขาย Reebok แบรนด์ในเครือจากบอสตัน หลังถือครองความเป็นเจ้าของมานานถึง 15 ปี เพื่อหันมาโฟกัสแบรนด์ของตัวเองในตลาดโลก</h2>
<img class="alignnone wp-image-41517" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/960x0-4.jpg" alt="Adidas" width="720" height="480" />

ล่าสุด ทาง Adidas ได้ออกมาประกาศว่า รายละเอียดของแผนการการดำเนินงานในอีก 5 ปีต่อจากนี้ของทางบริษัทจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ กระบวนการหยุดลงทุนในแบรนด์ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/roberthart/2021/02/16/adidas-to-unload-reebok-and-focus-on-own-brand/?sh=2e3962834bc0">Reebok</a> ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2021 เป็นต้นไป

ในปี 2006 Adidas เข้าซื้อกิจการ Reebok เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดอุปกรณ์กีฬาในสหรัฐอเมริกาจากแบรนด์คู่แข่งอย่าง Nike อย่างไรก็ดี หลังจากที่พิจารณาผลประกอบการในปี 2020 ที่ผ่านมา บริษัทได้กลับมาคิดทบทวนถึง <a style="color: #993300;" href="https://www.adidas-group.com/en/media/news-archive/press-releases/2020/adidas-assesses-strategic-alternatives-reebok/">“กลยุทธ์การดำเนินงานของ Reebok”</a> เพื่อสร้างทางเลือกให้กับแบรนด์ย่อยของตนใหม่อีกครั้ง

“Reebok และ Adidas จะสามารถตระหนักถึงศักยภาพในการเติบโตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากทั้งสองแบรนด์มีความเป็นอิสระต่อกัน” Kasper Rorsted ซีอีโอ กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมย้ำว่า “โอกาสการเติบโตในระยะยาวของแบรนด์อุปกรณ์กีฬายังโดดเด่นอยู่มาก” 

ในที่นี้ Rorsted ยืนยันว่า “ต่อจากนี้ ทั้งสองแบรนด์จะร่วมกันทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้กับแบรนด์ Reebok และทีมงานทุกคน” โดยมีความเป็นไปได้ว่า Adidas อาจแยก Reebok ออกไปเป็นเป็นบริษัทใหม่ หรือขายให้กับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทค้าปลีกหรือกองทุนหุ้นนอกตลาด

ทั้งนี้ สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Reebok มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ร่วมพันธมิตรกับ <a style="color: #333333;" href="https://www.forbes.com/sites/roberthart/2021/02/16/adidas-to-unload-reebok-and-focus-on-own-brand/?sh=2e3962834bc0">Cardi B</a> แรปเปอร์ชื่อดัง และขยายฐานตลาดไปสู่การผลิตเสื้อผ้าสตรี ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Adidas To Unload Reebok And Focus On Own Brand เผยแพร่บนForbes.com
อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/tory-burch-หาทางรอดในช่วงโควิด.html">พลิกตำราหาทางรอดในวงการแฟชั่นของ Tory Burch ช่วงวิกฤตโควิด-19</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events