Beam ตอบโจทย์การชำระเงินผ่านออนไลน์ด้วย One-Click Checkout

<h2>ในการประกาศรายชื่อของทำเนียบ 30 Under 30 Asia ครั้งที่ 8 ประจำปี 2023 ที่ผ่านมา Forbes ได้คัดสรรบรรดาผู้ประกอบการ ผู้นำ และผู้บุกเบิกรุ่นใหม่จากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่ละคนเป็นคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปี และต่างก็สร้างความเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับรายชื่อในปีนี้มีชาวไทยปรากฏอยู่ 6 คนจากสาขาต่างๆ 5 สาขา พวกเขาและเธอต่างก็เบ่งบานอย่างงดงาม ทำประโยชน์ต่อสังคม ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนมากมาย โดยทั้ง 6 รายชื่อประกอบไปด้วย <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/aP1DdWqmLD9ph9Xq7i84.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="aP1DdWqmLD9ph9Xq7i84.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="416,416" style="" data-index="0"></figure></div>เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นักแสดง อายุ: 23 ปี สาขา: บันเทิงและกีฬา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงโดยมีผลงานซีรีส์เรื่อง “เพราะเราคู่กัน” (2020) และ “หัวใจรักสี่ดวงดาว” (2021) ซึ่งเรื่องหลังเป็นรีเมคเวอร์ชั่นไทยของหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับการดัดแปลงเป็นซีรีส์มาแล้วในหลายประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิน เป็นชื่อที่แฟนคลับใช้เรียกนักแสดงและนักร้องหนุ่มผู้นี้ เขายังเป็นแฟชั่นไอคอนอนาคตไกลที่ได้ไปปรากฏตัวอย่างสง่างาม ณ งานแฟชั่นโชว์ Milan Men s Fashion Week ทั้งในปี 2022 และปีนี้ด้วยเช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิน ยังดำเนินธุรกิจหลายอย่าง ทั้งแบรนด์แฟชั่น VELENCE และร้านขนมมาการอง SOURI ที่เขาร่วมด้วยช่วยกันดูแลกับพี่สาว นอกจากนี้เมื่อเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา วินยังได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของแบรนด์แฟชั่นลักชูรีชื่อดังอย่าง Prada ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/NDMrBXq94qNr2Jz7HGQw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="NDMrBXq94qNr2Jz7HGQw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="416,416" style="" data-index="1"></figure></div>ณัฐภัทร ไชยมโนวงศ์ และวิน วารีเกษม ผู้ร่วมก่อตั้ง Beam อายุ: 29 ปี (ทั้งสองคน) สาขา: การเงินและบริษัทร่วมลงทุน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท Beam ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 เพื่อนำเสนอหนทางการชำระเงินแสนสะดวกสบายในคลิกเดียวแก่บรรดาร้านค้าออนไลน์ เพียงผู้ขายส่งลิงค์ของ Beam ให้กับผู้ซื้อ โดยมีทางเลือกการชำระเงินอันหลากหลาย ไม่ว่าจะอีวอลเล็ต บัตรเครดิต หรือจะซื้อก่อนจ่ายทีหลังก็ย่อมได้ ทางบริษัทคิดค่าธรรมเนียมด้วยอัตราคงที่ต่อการดำเนินการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Beam เผยว่ามีร้านค้าลงทะเบียนมากกว่าหนึ่งพันรายภายใน 12 เดือนแรกหลังเปิดตัว รวมถึงแบรนด์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น Rimowa, Leica, Bang &amp; Olufsen และอื่นๆ ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ทางบริษัทระดมทุนรอบ Seed Funding ได้ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีผู้สนับสนุนสำคัญคือบริษัทร่วมลงทุน Sequoia India ที่มาพร้อมโครงการส่งเสริมธุรกิจ Surge และบริษัทที่ลงทุนในเทคโนโลยีระดับโลก Partech Partners ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/Rew2NTfTE9Ro9GyKmfim.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="Rew2NTfTE9Ro9GyKmfim.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="415,416" style="" data-index="2"></figure></div>ณัฐธิชา นามวงษ์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ อายุ: 26 ปี สาขา: สื่อ การตลาด และโฆษณา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณัฐธิชา นามวงษ์ ยูทูบเบอร์ชาวไทยที่รู้จักกันในชื่อ เก๋ไก๋สไลเดอร์ สร้างสรรค์วิดีโอต่างๆ เกี่ยวกับแฟชั่นและชีวิตประจำวัน มีรายงานว่าเธอเป็นคนแรกในประเทศไทยที่มีผู้สมัครติดตามบน YouTube ถึง 10 ล้านราย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันเธอมีผู้สมัครติดตาม 16.3 ล้านรายบน YouTube และผู้ติดตาม 8.7 ล้านรายบน TikTok ความนิยมอันล้นหลามยังส่งให้เธอได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “บั้งไฟสไลเดอร์” ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ​<div class="se-component se-image-container __se__float-" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 416px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/AkHwhcPAWxK9zhvFJFKQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="416px,416px" data-align="" data-file-name="AkHwhcPAWxK9zhvFJFKQ.jpg" data-file-size="0" origin-size="416,416" data-origin="416px,416px" style="width: 416px; height: 416px;" data-index="3"></figure></div>มัญญสิริ โชติบูรณ์วงศ์ ผู้ก่อตั้ง HER (Health. Equity. Respect.) อายุ: 18 ปี สาขา: ผู้ประกอบการเพื่อสังคม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;HER เริ่มต้นขึ้นเพื่อทลายกรอบต้องห้ามเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพของผู้หญิง และยังสร้างสรรค์ผ้าอนามัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศไทย ผ้าอนามัยเหล่านี้ผลิตจากชานอ้อย โดยมีการจ้างงานหญิงที่เพิ่งออกจากเรือนจำและกำลังพยายามหาทางกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน HER ยังจัดเวิร์คช็อปต่างๆ ตลอดจนพูดให้ความรู้เรื่องประจำเดือนและอนามัยการเจริญพันธุ์ในที่สาธารณะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มัญญสิริได้รับรางวัล Diana Award จากประเทศอังกฤษเมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลมอบให้เยาวชนที่สร้างสรรค์สังคม นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลสตรีแห่งอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Women of Future Southeast Asia) ประจำปี 2022 จากการทำกิจกรรมบริการสาธารณะ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/Be5ScJXrM116UBD4H8Np.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="Be5ScJXrM116UBD4H8Np.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="415,416" style="" data-index="4"></figure></div>พริษฐ์ เที่ยงธรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง Edsy อายุ: 29 ปี สาขา: เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อปี 2021 พริษฐ์เริ่มต้น Edsy แพลตฟอร์มเทคโนโลยีการศึกษาที่สร้างสรรค์มิติใหม่ในการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับเด็กๆ โดยพาพวกเขาสู่การผจญภัยในโลกเสมือนจริง และสนับสนุนให้พวกเขามีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่ตนเองสนใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Edsy จัดคลาสเรียนแบบไลฟ์มากกว่า 30,000 คลาส และยังร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐที่สำคัญหลายราย เช่น มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี, มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์, กรุงเทพมหานคร และอื่นๆ อีกมากมายในการเข้าถึงนักเรียนด้อยโอกาสทั่วประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พริษฐ์ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Edsy โดยตัวเขานั้นจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา แปลและเรียบเรียงโดย พรรณราย ดวงดีเด่น จากบทความ Forbes 30 Under 30 Asia List&nbsp;ซึ่งเผยแพร่บน forbes.comอ่านเพิ่มเติม: <a href="https://www.forbesthailand.com/world/asia/forbes-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2-10-%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-30-under-30-asia-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2023" alt="Forbes เผย 10 ไฮไลต์จากรายชื่อ 30 Under 30 Asia ประจำปี 2023">Forbes เผย 10 ไฮไลต์จากรายชื่อ 30 Under 30 Asia ประจำปี 2023</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

6 คนไทยรุ่นใหม่ ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่เอเชีย "30 Under 30 Asia 2023"

วิธีการเช็กเอาท์ หรือการชำระเงินออนไลน์นั้นกำลังเปลี่ยนไป ท่ามกลางจุดเปลี่ยนที่สำคัญของโรคระบาดโควิด-19 นั้น เกิดการล็อกดาวน์ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ย่อมส่งผลทำให้คนส่วนใหญ่นั้นได้หันมาใช้ระบบ E-Commerce ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของหรือใช้บริการออนไลน์พร้อมกับระบบการชำระเงินในรูปแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายตอบสนองไลฟ์สไตล์

จากรายงานของ JP Morgan E-commerce Payment Trends Report พบว่าปัจจุบันตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการเติบโตของระบบ E-Commerce เป็นไปอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงปี 2566 ในระดับที่สูงถึง 18.6% ต่อปี แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไป คือ รูปแบบการชำระเงิน เช่น การชำระเงินผ่านบริการบัตรเดบิต บัตรเครดิต e-wallets การโอนเงินผ่านธนาคารหรือการชำระเงินปลายทางด้วยเงินสด

ตลาด E-Commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นยังถือว่าอยู่ในระดับการเติบโตขั้นต้นเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าประชากรส่วนใหญ่ในภูมิภาคดังกล่าวได้เข้าสู่โลก E-Commerce แล้ว แต่คนส่วนใหญ่นั้นยังไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับทุกการใช้จ่ายดำเนินชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยในโลก offline เช่น บุคคลหนึ่งอาจจะเคยสั่งอาหารผ่านระบบ E-Commerce แล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การซื้อเสื้อผ้าหรือการสั่งซื้อดอกไม้ผ่านช่องทางออนไลน์

นอกจากนี้งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า เหตุผลที่ผู้บริโภคนั้นยังเปลี่ยนพฤติกรรมนี้มาใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้นนั้นเพราะประสบการณ์ที่ยังคงมี friction หรือความลำบากอยู่มาก จากการเลือกสินค้าไปถึงการจัดส่ง แต่สิ่งหนึ่งที่มี friction สูงนั้นคือขั้นตอนการเช็กเอาท์ออนไลน์ที่มักไม่สะดวกเท่าการรูดบัตร การที่จะต้องสร้างบัญชี กรอกแบบฟอร์ม ทำการชำระเงินผ่านหลายขั้นตอน ย่อมชะลอการความเร็วการเติบโตของ E-Commerce โดยรวม

<img class="alignnone size-large wp-image-50682" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/2a3b9bd0958157b5a5f595f0b89082ce-1024x683.png" alt="" width="640" height="427" />

วิน (ชัยชนะ) วารีเกษม ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร Beam กล่าวว่า “เราใช้วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเรา แต่เมื่อเราต้องชำระเงินออนไลน์ ไม่มีวิธีใดที่ราบรื่นเท่ากับประสบการณ์ออฟไลน์ที่เป็นเพียงแค่การรูดบัตร แตะบัตร หรือสแกน QR ด้วยมือถือ”

บัตรเครดิตและระบบการโอนเงินนั้นเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์สูงมาก แต่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อ E-Commerce แต่นำไปใช้ใน E-Commerce เป็นอย่างมาก Friction ที่มีอยู่นั้นได้ส่งผลทำให้นักชอปแต่ไม่สามารถใช้บริการ E-Commerce ได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควร

“เราจึงต้องการโซลูชันเพื่อตอบสนอง E-Commerce ยุคใหม่ ให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านโซเชียลหรือเว็บไซต์ด้ด้วยระบบ One-Click Checkout ภายในแค่หนึ่งคลิก"

<img class="alignnone size-large wp-image-50683" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/bc4bba7c413e2168be6b997e518aa796-1024x683.png" alt="" width="640" height="427" />

“ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์นั้นก็ได้หันมาหาวิธีการขายสินค้าและบริการตรงกับผู้บริโภค direct-to-consumer (D2C) ที่ส่งผลบวกทำให้สามารถรักษาผลกำไรและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Beam มีการทำการศึกษาทุกคลิกในวิธีการเช็กเอาท์ออนไลน์เดิมมาคิดใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีสุดสำหรับการชอป บนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งบนโซเชียลและเว็บไซต์ ด้วย One-Click Checkout โดยการร่วมมือกับ Payment Service Providers ชั้นนำของโลก โดยตั้งใจที่จะช่วยอำนวยความสะดวกนักชอปและร้านค้า พร้อมช่วยขับเคลื่อนตลาด E-commerce อย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

ระบบการชำระเงินกำลังก้าวไปสู่การเป็นสาธารณูปโภคอย่างหนึ่ง คล้ายกับระบบไฟฟ้า น้ำประปา หรือระบบโทรศัพท์ โดยหากว่าเราจะเพิ่มการใช้งานอย่างก้าวกระโดดนั้น เราจำเป็นจะต้องลด friction และขั้นตอนต่างๆ ให้นักชอปใช้งานได้ง่ายอย่าง One-Click Checkout เปรียบเสมือนสมัยที่มีนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือใหม่ที่ลด friction ลงและได้กระตุ้นการโทรเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับโทรศัพท์บ้านในยุคอดีต

<img class="alignnone size-full wp-image-50638" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/one.jpg" alt="" width="720" height="480" />

Beam กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการชอปออนไลน์ด้วยระบบ One-Click Checkout โดยคุณวินร่วมก่อตั้งกับคุณณัฐภัทร ไชยมโนวงศ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี คุณชินกฤต เปี่ยมชล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และเป็น Startup ที่ได้รับการสนับสนุนจาก คุณธีรพงศ์ จันศิริ นักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย เป็นผู้ร่วมการระดมทุนเมื่อกลางปี 2021 ที่ผ่านมาในรอบ Pre-seed round

ในขณะนี้ทาง Beam ได้เปิดให้ผู้ค้าขายออนไลน์สามารถลงทะเบียนได้ในไม่กี่นาทีในสิงคโปร์และไทย ผ่านเว็บไซต์ <a href="http://www.beamcheckout.com">www.beamcheckout.com</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events