<h2>Grab มองกรณี foodpanda ปิดตัว ธุรกิจมีทั้งโอกาสและความท้าทายเสมอ ยิ่งฟู้ดเดลิเวอรี่ยิ่งมีความท้าทายสูง ต้องสร้าง "สมดุล" ให้วงจรธุรกิจให้ได้ ส่วนแกร็บปรับตัวมา 2-3 ปี จนทำกำไรได้ต่อเนื่อง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริบททางการแข่งขันที่เปลี่ยนไป ซึ่งแกร็บมองว่ามีทั้งโอกาสและความท้าทายที่มาควบคู่กันเสมอ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของผู้เล่นในตลาดอยู่เป็นระยะ แต่ในแง่ของโมเดลธุรกิจ ฟู้ดเดลิเวอรีถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในแง่ของการสร้าง “สมดุล” ให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ เพราะในอีโคซิสเต็มของบริการฟู้ดเดลิเวอรีนี้มีทั้งลูกค้า คนขับ ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงแพลตฟอร์ม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การบริหารธุรกิจให้ทุกฝ่ายพึงพอใจและได้รับประโยชน์ร่วมกันมากที่สุดถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่แพลตฟอร์มต้องเรียนรู้และปรับกลยุทธ์กันตลอดเวลา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความเคลื่อนไหวล่าสุด แกร็บขอเป็นกำลังใจและพร้อมยืนหยัดเคียงข้างร้านค้า คนขับ และผู้ใช้บริการทุกท่านในช่วงเวลานี้ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่ากลยุทธ์ที่แกร็บได้ปรับและดำเนินการมาในช่วง 2-3 ปีหลังนั้นมาถูกทางแล้ว โดยเรามุ่งเน้นสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่าง “ยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลในวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก ซึ่งสะท้อนผ่านผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่สามารถทำกำไรต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง และสามารถครองความนิยมอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดของ GrabFood ที่มีถึง 46 % (อ้างอิงจากรายงานของ Momentum Works ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชั้นนำที่น่าเชื่อถือในระดับภูมิภาค)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างอุปสงค์เทียม (Fake demand) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ควบคู่ไปกับการสร้าง loyalty กับฐานลูกค้าหลักผ่านแพ็กเกจสมาชิก GrabUnlimited แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีโปรโมชัน ให้ส่วนลดและทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แน่นอนว่าการเข้าใจความเคลื่อนไหวของตลาดและคู่แข่งถือเป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการไม่หลุดจากวิสัยทัศน์และ “เป้าหมาย” (Purpose) อันเป็นแก่นสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งสำหรับแกร็บ เราไม่เคยหยุดมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/foodpanda-ceases-operations-in-thailand" alt="5 ปีขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน foodpanda ยุติกิจการในไทย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค. 2568">5 ปีขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน foodpanda ยุติกิจการในไทย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค. 2568</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Grab มองกรณี foodpanda ปิดตัว ธุรกิจมีทั้งโอกาสและความท้าทายเสมอ

<h2>หลัง foodpanda ฟู้ดเดลิเวอรี่รายแรกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2555 ประกาศปิดกิจการในไทย โดยจะยุติการให้บริการในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นี้ หลังประสบภาวะขาดทุนตลอด 13 ปีที่ดำเนินกิจการ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ให้ความเห็นเกี่ยวกับสภาพตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทยหลังการถอนตัวของ foodpanda ว่า “การถอนตัวของ foodpanda ทำให้อุตสาหกรรมฟู้ดเดลิเวอรีของไทยเข้าสู่การแข่งขันแบบ Duopoly อย่างชัดเจน โดยจากข้อมูลของ Redseer ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 LINE MAN ครองส่วนแบ่งตลาดจากจำนวนธุรกรรมที่ 44% ขณะที่ Foodpanda มีส่วนแบ่งประมาณ 5% แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในจำนวนผู้เล่น แต่โครงสร้างตลาดยังคงมีเสถียรภาพ และการแข่งขันยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานการณ์นี้มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจาก ‘สงครามราคา’ สู่ ‘สงครามคุณภาพ’ โดยผู้เล่นที่เหลือสามารถจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น เปิดโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน และมีทรัพยากรเพียงพอในการลงทุนพัฒนาบริการใหม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านของผู้บริโภคนั้นได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากมีตัวเลือกบริการเท่าเดิม โดยเฉพาะ LINE MAN ที่ให้บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศอยู่แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้ทันที โดยไม่เสียโอกาสในการเข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หนึ่งในผลกระทบหลัก คือกลุ่มไรเดอร์และร้านค้าบางส่วนที่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์ม LINE MAN Wongnai จึงเตรียมความพร้อมรองรับกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสร้างรายได้และไม่เกิดภาวะว่างงานหรือธุรกิจสะดุดชั่วคราว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;LINE MAN Wongnai พร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้ไรเดอร์-ร้านค้า เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยมีมาตรการดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ไรเดอร์: บริษัทฯ กำลังพิจารณาเปิดรับไรเดอร์เพิ่มเติมในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดที่ foodpanda มีให้บริการ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการว่างงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ร้านค้า: ร้านค้าที่เคยขายผ่าน foodpanda สามารถเข้าร่วมขายบน LINE MAN ได้ทันทีที่ <a target="_blank" href="https://e-contract.wongnai.com/landing" alt="https://e-contract.wongnai.com/landing">https://e-contract.wongnai.com/landing</a> โดยบริษัทฯ จะนำเสนอเงื่อนไขพิเศษสำหรับร้านค้าใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวและเริ่มขายต่อได้อย่างราบรื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ LINE MAN กลายเป็นผู้เล่นหนึ่งเดียวในไทยที่ให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ได้พัฒนาฟีเจอร์เพื่อรองรับฐานผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นในช่วงที่ตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่พำนักในไทย ทำให้สามารถเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มใหม่ได้อย่างราบรื่น เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/foodpanda-ceases-operations-in-thailand" alt="5 ปีขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน foodpanda ยุติกิจการในไทย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค. 2568">5 ปีขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน foodpanda ยุติกิจการในไทย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค. 2568</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ซีอีโอ LINE MAN Wongnai มองกรณี foodpanda ปิดตัว ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่เมืองไทยจะแข่งขันแบบ Duopoly

<h2>กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวที่น่าใจหาย เมื่อแอปพลิเคชั่นฟู้ดเดลิเวอรี่อย่าง foodpanda ประกาศยุติกิจการ รวมถึงปิดให้บริการแอปพลิเคชั่นในไทย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 พร้อมกับประเด็นชวนคิดที่ว่า หรือสาเหตุมาจากที่ foodpanda ขาดทุนสะสมต่อเนื่องมาหลายปี</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในประกาศของ foodpanda ที่เผยแพร่บนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ระบุดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“foodpanda Thailand ขอแจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน foodpanda มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมจัดส่งความสุข ผ่านทุกๆ ออเดอร์ให้แก่ลูกค้าทุกท่านในประเทศไทย เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ลูกค้าที่รักยิ่งของเรา และได้รับการสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอดจากร้านค้า พาร์ทเนอร์ และไรเดอร์ทุกท่าน ที่ร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพตลาดในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของฟู้ดแพนด้าอีกต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เรามีความเสียใจอย่างยิ่งที่การเดินทางของเราต้องสิ้นสุดลง และเราขอขอบพระคุณลูกค้าทุกๆ ท่านที่เชื่อมั่นในฟู้ดแพนด้าเสมอมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขอแสดงความนับถือ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/PxKjo5W7hW9TvChNJ5Ws.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="PxKjo5W7hW9TvChNJ5Ws.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่แถลงการณ์ที่แจ้งต่อสื่อมวลชน ระบุดังนี้ “การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการปรับกลยุทธ์เชิงภูมิศาสตร์ของ Delivery Hero ซึ่งเคยดำเนินการมาแล้วในหลายประเทศ เช่น เดนมาร์ก กานา สโลวาเกีย และสโลวีเนีย โดยบริษัทจะมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ที่มีศักยภาพในการเติบโตและผลตอบแทนที่สูงกว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ทั้งนี้ ทีมงานระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบงานสนับสนุนด้านต่างๆ เช่น การตลาด และการบริหารทรัพยากรบุคคลสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะยังคงดำเนินงานตามปกติต่อไป”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ foodpanda เป็นบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ที่เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2555 หรือตั้งแต่ 13 ปีก่อน เรียกได้ว่าเป็นรายแรกๆ ในไทยเลยก็ว่าได้ และสามารถขยายฐานลูกค้าและการให้บริการจนครบ 77 จังหวัดทั่วไทยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ถึงอย่างนั้น ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงในตลาดนี้ foodpanda ประสบภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานผลประกอบการ บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ จำกัด ในปี 2562-2566 ไว้ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ปี 2562 รายได้ 818,156,828 บาท ขาดทุน 1,264,503,583 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ปี 2563 รายได้ 4,375,128,919 บาท ขาดทุน 3,595,901,657 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ปี 2564 รายได้ 6,786,566,010 บาท ขาดทุน 4,721,599,978 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ปี 2565 รายได้ 3,628,053,048 บาท ขาดทุน 3,255,107,979 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ปี 2566 รายได้ 3,843,303,372 บาท ขาดทุน 522,486,848 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หรือรวมแล้วในระยะเวลา 5 ปี ขาดทุนสะสมรวม 13,359,600,045 บาท&nbsp;และนั่นก็น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยุติกิจการในครั้งนี้ ย้อนฟัง ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ นี่คือปีแห่งความจริงของตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สมรภูมิตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยในปี 2567 ยังคงร้อนแรงเช่นเคย ขณะที่รายใหญ่ๆ ต่างก็ยังคงงัดกลยุทธ์ใหม่ๆ มาสู้กันอย่างดุเดือด แต่บางรายกระแสเริ่มเงียบ ไปจนถึงข่าวใหญ่เป็นของ ‘โรบินฮู้ด’ ที่ประกาศปิดตัว ก่อนที่จะมีนายทุนซื้อกิจการไปทำต่อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานการณ์ที่เห็นในปี 2567 นั้น ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่านี่คือปีแห่งความจริงของตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การมีผู้เล่นเปลี่ยนหน้าไป ทำให้เริ่มเห็นแล้วว่าสุดท้ายจะเหลือผู้เล่นกี่รายในตลาดระยะยาว ซึ่งตรงกับตลาดทั่วโลกที่สุดท้ายจะเหลือผู้เล่น 2-3 ราย เนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่ Volume สูง ต้องการการมี Economy of Scale และต้องการบริษัทที่ไซส์ขนาดหนึ่งในการโตได้แบบยั่งยืน ดังนั้นปีนี้เป็นความเป็นจริงว่าตลาดเป็นยังไง และใครจะอยู่ได้ในระยะยาว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เขายังมองอีกว่าปี 2568 จะยิ่งชัดขึ้นกว่าเดิมว่าผู้เล่น 2 อันดับแรกจะเป็นอย่างไร และผู้เล่นที่เหลือจะเป็นอย่างไร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในปี 2566 เคยมีข่าวต่างประเทศรายงานว่า Delivery Hero บริษัทแม่ของ foodpanda จากเบอร์ลิน เตรียมขายกิจการ foodpanda ในแถบอาเซียน โดยมีกระแสว่า Grab อาจเป็นผู้ซื้อกิจการต่อ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหว รวมถึงเคยมีกระแสว่า LINE MAN Wongnai จะซื้อกิจการต่อเช่นกัน แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ภาพ: AFP เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/marketing/yod-said-2024-is-the-real-year-of-thailand-food-delivery-market" alt="‘ยอด’ มองตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทย ปีนี้เห็นชัดว่าใครจะอยู่ได้ยาว ส่วน ‘ไลน์แมน’ จำนวนธุรกรรมขึ้นอันดับ 1 แล้ว">‘ยอด’ มองตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทย ปีนี้เห็นชัดว่าใครจะอยู่ได้ยาว ส่วน ‘ไลน์แมน’ จำนวนธุรกรรมขึ้นอันดับ 1 แล้ว</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

5 ปีขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน foodpanda ยุติกิจการในไทย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค. 2568

<h2>foodpanda เผย 15 อันดับ เมนูสตรีทฟู้ดที่มียอดสั่งและยอดเสิร์ชสูงสุดแห่งปี 2567 โดย 'ผัดกะเพรา' กลับมาทวงบัลลังก์ครองอันดับ 1 จากยอดสั่งออเดอร์มากกว่า 800,000 จาน หลังจากที่เคยพลาดท่าเสียแชมป์ให้กับ 'ข้าวผัด' ไปเมื่อปีก่อน </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;foodpanda สรุปสถิติแห่งปี 2567 ในฝั่งบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ เผย 15 อันดับ เมนูยอดสั่งและยอดเสิร์ชสูงสุด จากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ใช้บริการทั่วประเทศไทย โดยเมนูครองแชมป์ 15 อันดับ สองประเภททั้งจากยอดสั่งและยอดเสิร์ช ล้วนเป็นเมนูอาหารไทยตามสั่ง สตรีทฟู้ด หรืออาหารจานเดียวที่ทานง่ายเน้นความสะดวกรวดเร็ว โดยปีนี้ “ผัดกะเพรา” กลับมาเป็นเมนูยืนหนึ่งยอดสั่งเติบโตสูงสุดบน foodpanda อีกครั้ง หลังจากได้อันดับหนึ่งในปี 2565 และเสียแชมป์ให้ “ข้าวผัด” ในปี 2566 ซึ่งการกลับมาทวงตำแหน่งของผัดกะเพราในปีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความอร่อยที่ TasteAtlas เว็บไซต์ให้ข้อมูลด้านอาหารทั่วโลก ได้ยกให้ผัดกะเพราเป็นอาหารจานผัดที่ดีที่สุด <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/VgxJxD6Sa11yvswPKWP6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VgxJxD6Sa11yvswPKWP6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมนูยอดสั่งสูงสุด 15 อันดับ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. ข้าวกะเพรา 2. ข้าวผัด 3. ตำไทย 4. ข้าวมันไก่ 5. ขนมจีน 6. ชาไทย 7. ลาบ 8. ผัดซีอิ๊ว 9. ตำป่า 10. ราดหน้า&nbsp;11. ไข่เจียว 12. ผัดไทย 13. คอหมูย่าง 14. ไก่ย่าง และ 15. ข้าวขาหมู&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมนูยอดเสิร์ชสูงสุด&nbsp;15 อันดับ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. ส้มตำ 2. ก๋วยเตี๋ยว 3. ข้าวมันไก่ 4. ยำ 5. ไก่ทอด 6. ขนมจีน 7. โจ๊ก/ ข้าวต้ม 8. โรตี/ เครป 9. ผัดไทย 10. ไก่ย่าง 11. ข้าวขาหมู 12. สุกี้ 13. หมูปิ้ง 14. ก๋วยเตี๋ยวเรือ และ 15. ปลาเผา​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/VwD3EGmUa8GRwwwFqETQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VwD3EGmUa8GRwwwFqETQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผัดกะเพรายอดสั่งอันดับหนึ่ง 800,000 จาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อาหารจานเดียวรสชาติคุ้นเคย ที่คนไทยมักสั่งเสมอเวลาคิดไม่ออกว่ากินอะไรดีช่วงมื้อกลางวัน นอกจากกลิ่นหอมของใบกะเพรา พริก กระเทียม ยังเลือกเนื้อสัตว์ในผัดกะเพราได้ตามชอบทั้ง กะเพราไก่สับ กะเพราหมูชิ้น กะเพราปลาหมึก กะเพราเนื้อ หรือจะเพิ่มทอปปิ้งเป็นไข่ดาวขอบกรอบไข่แดงลาวา หรือไข่เจียวร้อน ๆ ก็ได้เช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ข้าวมันไก่เมนูม้ามืด ติดอันดับต้นทั้งยอดออเดอร์และยอดเสิร์ช&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;‘ข้าวมันไก่’ ครองอันดับต้นๆ ทั้งยอดสั่งและยอดเสิร์ช โดยมียอดสั่งเป็นอันดับ 4 รวมแล้วอยู่ที่ 500,000 จาน และยอดเสิร์ชเป็นอันดับ 3 แม้จะไม่ได้เป็นเมนูฮิตติดเทรนด์ แต่ก็เป็นเมนู Comfort Food ของคนไทยและต่างชาติ องค์ประกอบในจานมีไม่มาก แต่ก็ไม่ง่ายที่จะทำให้อร่อยทั้งถูกใจนักกิน ทั้งข้าวมันที่เรียงเม็ดเงางาม ไก่ต้มเนื้อนุ่มหนังเจลลี่หรือไก่ทอดหนังกรอบ น้ำซุปร้อน ๆ คล่องคอ และที่สำคัญน้ำจิ้มรสเด็ด foodpanda เลือกมาให้ 3 ร้าน พร้อมส่วนลดพิเศษจากแคมเปญ “รวมร้านฮิตถูกยืนหนึ่ง”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส้มตำ เมนูประจำชาติสาวออฟฟิศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถ้าส้มตำไม่ติดอันดับก็ถือว่าไม่ใช่สถิติจากประเทศไทย! ‘ส้มตำ’ ติดอันดับ 1 ยอดเสิร์ชสูงสุด ในขณะที่ยอดออเดอร์ของ ‘ตำไทย’ อยู่ที่อันดับ 3 และ ‘ตำป่า’ อยู่ที่อันดับ 9 และที่สำคัญส้มตำยังเป็นอาหารที่สามารถนำไปดัดแปลงได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ตำถาด ตำเส้นเล็ก ตำด๊องแด๊ง ตำลิ้นจี่ เป็นต้น ไปลองส้มตำร้านเด็ดจาก foodpanda กันได้เลย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โทมัส วอน โมสเนอร์ กรรมการผู้จัดการ foodpanda ประเทศไทย กล่าวว่า จาก 15 อันดับเมนูสรีทฟู้ดยอดฮิต โดย foodpanda ทั้งยอดออเดอร์และยอดเสิร์ช ทำให้เราพบอินไซต์สำคัญว่า แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือกรับประทาน แต่ลูกค้ายังนิยมสั่งอาหารไทยแบบจานเดียว หรืออาหารตามสั่งที่รสชาติคุ้นเคย ทำให้เราได้ข้อสรุปว่า อาหารไทยยังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;foodpanda จึงออกแคมเปญ “รวมร้านฮิตถูกยืนหนึ่ง” ที่มีเป้า 3 ด้าน คือ 1.) มุ่งนำเสนอเมนูอาหารไทยฮิตติด เทรนด์เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยเมนูไวรัลจากร้านฮิต 2.) สนับสนุนศักยภาพของพันธมิตรร้านอาหารขนาดเล็กและกลาง ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วไทย ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และ 3.) คืนกำไรให้กับลูกค้าและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศช่วงปลายปีจนถึง 31 มกราคม 2568 ด้วย ส่วนลดพิเศษจากแคมเปญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 550px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/bhNzsYzYtm26GB33yPTx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="550px,754px" data-align="center" data-file-name="bhNzsYzYtm26GB33yPTx.jpg" data-file-size="0" origin-size="550,754" data-origin="550px,754px" style="width: 550px; height: 754px;" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"foodpanda ได้คัดสรรร้านอาหารทั่วไทย เข้าร่วมแคมเปญ ‘ร้านรวมฮิตถูกยืนหนึ่ง’ กว่า 2,175 ร้าน รวมแล้วกว่า 200 เมนูเด็ด ครอบคลุมทั้งไทยสตรีทฟู้ด อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงอาหารนานาชาติทั้งตะวันออกและตะวันตก และยังเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตทั้งชา กาแฟ หลากหลายแบรนด์ดังอีกด้วย” โทมัส กล่าว&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ทาง foodpanda ยังได้มอบของขวัญสุดพิเศษส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตลอดช่วงเทศกาลนี้ ด้วยส่วนลด&nbsp;20% ทันที่&nbsp;เมื่อสั่งอาหารจากร้านที่ร่วมรายการ และส่วนลด&nbsp;50 บาท ด้วยการใส่โค้ด ‘HIT50’&nbsp;สำหรับเมนูและร้านอาหารที่ร่วมแคมเปญ “รวมร้านฮิตถูกยืนหนึ่ง1” ทั่วประเทศ นับตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2568​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/xbeFgw41e8PFDWNDc6tU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xbeFgw41e8PFDWNDc6tU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ภาพ: foodpanda​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/hungry-hub-partner-with-stb-expanding-to-singapore" alt="เจาะความสำเร็จ Hungry Hub ยอดผู้ใช้แอป 1 ล้านคนต่อเดือน ลุยขยายสู่สิงคโปร์ ตั้งเป้าเป็น OTA ร้านอาหารระดับโลก">เจาะความสำเร็จ Hungry Hub ยอดผู้ใช้แอป 1 ล้านคนต่อเดือน ลุยขยายสู่สิงคโปร์ ตั้งเป้าเป็น OTA ร้านอาหารระดับโลก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

'ผัดกะเพรา' ครองแชมป์อันดับ 1 ปี 67 ยอดสั่งซื้อผ่านแอป foodpanda สูงสุดกว่า 800,000 จาน

“อาหารไทย” ฮิต! คว้าอันดับ 1 อาหารขายดีบน foodpanda แซงไก่ทอด-เบอร์เกอร์-ชานม-พิซซ่า

<h2>foodpanda อัพเดตอินไซต์ฟู้ดเดลิเวอรี่และรีเทล ปี 2566 รวบรวมข้อมูลจากทั้ง 11 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย ปากีสถาน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา และเมียนมา ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เจาะลึกพฤติกรรมการสั่งอาหาร ของกินของใช้ รวมถึงบริการส่งของแบบ on-demand ที่ทำให้เห็นชัดเจนว่าอุตสาหกรรม quick commerce ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และอินไซต์นี้ยังเป็นประโยชน์ทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรวมถึงนักการตลาดในปี 2567 นี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากการข้อมูลปี 2564-2566 ทั่ว APAC พบว่ามียอดสั่งเฉลี่ยต่อบิลของบริการฟู้ดเดลิเวอรี่จาก foodpanda เพิ่มมากขึ้น 30% และในขณะเดียวกัน ยอดสั่งเฉลี่ยต่อบิลของบริการ Quick Commerce อย่าง pandamart และ foodpanda shops ก็เพิ่มขึ้น 50% &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังพบว่า ในวันศุกร์และวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีการสั่งอาหารและของกินของใช้จาก foodpanda มากกว่าวันอื่นๆ ในสัปดาห์ 10% โดยช่วงพีคคือวันอาทิตย์ มื้อกลางวัน (11.00-12.00 น.) และมื้อค่ำ (18.00-19.00 น.)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การที่ foodpanda มีบริการหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่บริการแบบ Delivery คือ จัดส่งอาหาร จัดส่งของกินของใช้โดย pandamart และ foodpanda shops จัดส่งของแบบ On-demand โดย pandago รวมถึงบริการแบบ Non-delivery อย่างรับเองที่ร้าน (pick-up) และ pandapro แพ็กเกจสมาชิกรายเดือนสุดคุ้ม ทำให้จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ foodpanda มากกว่า 2 บริการขึ้นไป มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากปี 2563 ถึง 2566​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/S6tKqisk4922K7sE9AkK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="S6tKqisk4922K7sE9AkK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="900,900"></figure></div> Fun fact:&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-foodpanda ทั่ว APAC ส่ง “มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ” ให้ลูกค้า “นาทีละ 30 ถุง”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ในประเทศไทย จำนวนลูกค้าใช้บริการ foodpanda สูงสุดในวันอาทิตย์ รองลงมาคือวันจันทร์ รวมท็อป 5 เมนูอาหารและไอเท็มยอดฮิตทั่ว APAC ปี 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “อาหารยอดฮิต” (Food Delivery) คือ เบอร์เกอร์ ไก่ทอด พาสต้า ก๋วยเตี๋ยว และพิซซ่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “ของกินของใช้ยอดฮิต” (Grocery) คือ ผักผลไม้ ชาและกาแฟ ไข่ไก่ น้ำแร่ และขนมขบเคี้ยว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “ของที่ส่งผ่านบริการ pandago” คือ กุญแจ ดอกไม้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คอนแทคเลนส์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “อาหารที่ลูกค้าเสิร์ชมากที่สุด” คือ พิซซ่า (ถูกเสิร์ช 17 ล้านครั้ง) เบอร์เกอร์ เค้ก เครื่องดื่ม และซูชิ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “ของกินของใช้ที่ลูกค้าเสิร์ชมากที่สุด” คือ นม (ถูกเสิร์ช 1.8 ล้านครั้ง) ขนมปัง ไข่ไก่ ไอศกรีม และเส้นก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่ foodpanda ไทยไม่น้อยหน้า ขอส่งเมนูอาหารและไอเท็มเด็ด ปี 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “อาหารยอดฮิต” (Food Delivery) คือ ข้าวผัด ข้าวกะเพรา ข้าวมันไก่ ส้มตำปูปลาร้า และผัดซีอิ๊ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “เครื่องดื่ม” ยอดฮิต คือ กาแฟ ชาเขียว ชาไทย โกโก้ และชาไข่มุก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-5 อันดับ “ของกินของใช้ยอดฮิต” (Grocery) คือ กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม โซดาขวด น้ำดื่ม น้ำปลา และผงปรุงรส Fun fact:&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ลูกค้า foodpanda ใน “ฮ่องกง” สั่งก๋วยเตี๋ยววันละมากกว่า 10,000 ชาม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ลูกค้า foodpanda ใน “สิงคโปร์” และ “มาเลเซีย” สั่ง “ไก่ทอด” มากกว่าประเทศอื่นใน APAC ถึง 30%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ผลไม้ที่ลูกค้า foodpanda ใน “สิงคโปร์” นิยมสั่งมากที่สุดคือ “ทุเรียน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-บริการ Non-delivery อย่าง pandapro ก็มียอดสมัครเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน ซึ่งสมาชิก pandapro ประหยัดค่าส่งและได้ส่วนลดอื่น ๆ รวมแล้วมูลค่ามากกว่า 5 เท่าของค่าสมัคร พาร์ทเนอร์มอง foodpanda เป็นหนึ่งใน Advertising Platform&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดส่งอาหารและของกินของใช้ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วเอเชียแปซิฟิก foodpanda ยังเป็นแพลตฟอร์มที่พาร์ทเนอร์ ไว้วางใจในฐานะแพลตฟอร์มที่มี “โซลูชั่นโฆษณา” (Adtech) ไม่ว่าจะเป็น “restaurant ads” “q-commerce ads” และ “panda ads” ที่ช่วยสร้างผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS - Return on Advertising Spend) ให้ร้านค้า รวมถึงแบรนด์และแคมเปญของพาร์ทเนอร์ได้ 14.22 เท่า และยังสามารถช่วยเพิ่ม Click Through Rate (CTR) ได้ 24% และเพิ่ม Impressions ได้ 32%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และยังมีอีกหลายฟีเจอร์ ที่ช่วยผลักดันขีดความสามารถให้ธุรกิจของร้านค้าพาร์ทเนอร์เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-rating &amp; review - ดูเรทติ้งของร้านและตอบรีวิวจากลูกค้าได้ง่ายขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-pandaclicks - ร้านอาหารปรากฏที่ด้านบนเพิ่มโอกาสมองเห็นมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-pandabox - ฟีเจอร์ pop up โปรโมชั่นภายในแอปช่วยดึงคนเข้าร้านมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-dynamic search bar - ขึ้นชื่อร้านในช่องค้นหาพร้อมโปรโมชั่นช่วยเพิ่มยอดขาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งหมดนี้คืออินไซต์ผู้บริโภคในธุรกิจจัดส่งอาหาร ของกินของใช้ และค้าปลีก ของปี 2566 จาก foodpanda ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นข้อมูลที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงสร้างโอกาสจากแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่อย่าง foodpanda ที่มีเครื่องมือทางการตลาดหลากหลายในการช่วยยกระดับธุรกิจขอบพาร์ทเนอร์ ให้เติบโตในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/8-trend-food-business-from-crg" alt="CRG เผย 8 เทรนด์ธุรกิจอาหารน่าจับตา รับมือความท้าทายเศรษฐกิจปีนี้">CRG เผย 8 เทรนด์ธุรกิจอาหารน่าจับตา รับมือความท้าทายเศรษฐกิจปีนี้</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

foodpanda เปิดอินไซต์ “เบอร์เกอร์” ครองแชมป์เมนูที่คนสั่งมากสุดในเอเชียแปซิฟิก

<h2>foodpanda แพลตฟอร์มจัดส่งอาหารและของกินของใช้ ที่ให้บริการใน 11 ตลาดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จับมือ airasia Superapp (ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น airasia MOVE) แพลตฟอร์มซูเปอร์ แอปด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวชั้นนำของอาเซียน ร่วมกันชูจุดแข็งด้านการบริการของทั้งสองแพลตฟอร์ม เพิ่มประสบการณ์ใหม่ที่คุ้มค่าและสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทั้งสองแพลตฟอร์มในประเทศไทย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การผนึกกำลังครั้งนี้ ผู้ใช้งาน airasia Superapp สามารถเข้าถึงบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ของ foodpanda ซึ่งมีเมนูอาหารและร้านสุดอร่อยให้เลือกหลากหลายจากพาร์ทเนอร์ร้านอาหารทั่วประเทศ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งอาหารอร่อยมาลิ้มลองได้ทุกที่ทุกเวลา ในขณะเดียวกัน ลูกค้าของ foodpanda จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่นอกเหนือจากบริการจัดส่งอาหารและของกินของใช้ ด้วยบริการเรียกรถจาก airasia ride ที่ราคาคุ้มค่าทุกเส้นทาง เรียกรถง่าย ไม่ว่าใกล้หรือไกลก็เดินทางได้อย่างสะดวก ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยทั้งสองบริการยังสามารถรับคะแนน airasia points เพื่อใช้แทนเงินสดจ่ายค่าสินค้าบริการ อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบินทั้งสายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินอื่น ๆ ค่าห้องพักโรงแรม และแลกดีลข้อเสนอด้านไลฟ์สไตล์กับพันธมิตรสุดพิเศษบน airasia Superapp ได้อีกด้วย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ศิริภา จึงสวัสดิ์ CEO foodpanda ประเทศไทย กล่าวว่า “foodpanda ในฐานะผู้ให้บริการจัดส่งอาหารและของกินของใช้ และได้ให้บริการในประเทศไทยมากว่า 11 ปี วันนี้เรายินดีมากที่ได้พันธมิตรอย่าง airasia Superapp ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเดินทางและการท่องเที่ยวชั้นนำของภูมิภาค มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ foodpanda เติมเต็มบริการให้ครบครันมากยิ่งขึ้น เรามี 2 เป้าหมายหลักจากการร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้ เรื่องแรกคือมอบประสบการณ์การบริการที่ครบครันและไร้รอยต่อให้กับลูกค้าปัจจุบันของทั้ง airasia Superapp และ foodpanda เรื่องที่สองคือการขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เกิด Ecosystem ทางธุรกิจที่สมบูรณ์และยั่งยืนมากขึ้น โดยความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้เริ่มต้นที่มาเลเซียในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา” ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/FTYtr16EbphCNmSMfNAw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="FTYtr16EbphCNmSMfNAw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;" data-index="0" origin-size="1301,734"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;เบนจี ลิม หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์พันธมิตรทางธุรกิจและพัฒนาตลาดต่างประเทศ airasia Superapp กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่รายใหญ่ในไทยอย่าง foodpanda ภายใต้ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองแอปฯ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานของแต่ละแอปฯ สามารถรับบริการใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการได้หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น ผู้ใช้งานของ foodpanda สามารถเข้าถึงบริการเรียกรถยนต์รับส่งผ่านแอปพลิเคชั่นได้ทันที จึงสามารถเดินทางในกรุงเทพฯ ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นในราคาที่คุ้มค่าทุกการเดินทาง” อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2" alt="อิสราเอลเข้าสู่สงคราม จับตาผลกระทบไทย">อิสราเอลเข้าสู่สงคราม จับตาผลกระทบไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

foodpanda จับมือ airasia Superapp ติดปีกยกระดับบริการครบวงจร

<h2 class="p1">foodpanda เผยแพร่รายงานด้านสังคมฉบับแรก ในธีม “pandapurpose 2021” เน้นย้ำถึงความคิดริเริ่มที่บริษัทได้ทำเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในเอเชีย ในฐานะแพลตฟอร์มอาหาร และของกินของใช้แนวหน้าแห่งเอเชีย</h2>
รายงาน pandapurpose 2021 นำเสนอการดำเนินงานของ foodpanda ใน 12 ตลาด ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ปากีสถาน สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และฟิลิปปินส์ ในการสนับสนุนไรเดอร์ ร้านค้า และลูกค้า ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
foodpanda ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือให้ชุมชนสามารถเติบโตได้ ผ่านการส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (MSMEs) ด้วยนวัตกรรมของดิจิทัลใหม่ๆ และการเสริมสร้างศักยภาพให้ไรเดอร์ในเอเชีย และอีกหลากหลายโครงการ เช่น โครงการท้องถิ่นในปากีสถาน และบังกลาเทศที่ช่วยให้ผู้ประกอบการหญิงได้มีส่วนร่วมในเศรษฐกิจมากขึ้น ผ่านโครงการ Home Chef ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา

<figure><img class="wp-image-64068 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/Jakob-Angele-CEO-foodpanda.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Jakob Sebastian Angele ซีอีโอแห่ง foodpanda ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก</figcaption></figure>
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของปี 2021 และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความยั่งยืนทั่วภูมิภาค “ตั้งแต่ foodpanda ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 เรายึดมั่นใน core value ของเราคือ “พรุ่งนี้ต้องดีขึ้นร้อยละ 1” (get 1% better every day) เราต่อยอดเทคโนโลยี มาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้คนนับล้าน เพราะเราเชื่อว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ต่อยอดธุรกิจ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างพื้นที่ที่เกิดประโยชน์กับระบบนิเวศของเรา ทั้งพันธมิตรร้านค้า ไรเดอร์ และลูกค้า” Jakob Sebastian Angele ผู้นั่งเก้าอี้ซีอีโอแห่ง foodpanda ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
โดย รายงานด้านสังคมฉบับแรกนี้ พูดถึงเป้าหมายหลัก 3 ด้าน ซึ่งอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ของ foodpanda อันประกอบไปด้วย ผู้คน ความก้าวหน้า และสิ่งแวดล้อม

<h3 class="p1">ผู้คน: ส่งเสริมการเติบโตของชุมชน </h3>
foodpanda เชื่อว่าสังคมจะเติบโต ก็ต่อเมื่อมีระบบนิเวศที่ส่งเสริมและเอื้อให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถเติบโตและไปต่อได้
ในปี 2021 ทางบริษัทได้ลงทุน 29 ล้านเหรียญ เพื่อสนับสนุนธุรกิจ MSMEs ทั่วทั้งภูมิภาค เช่น ร้านค้าในตลาดสดในไทยและไต้หวัน ร้านโชห่วยในมาเลเซียและฟิลิปปินส์ และร้านค้าริมถนนในสิงคโปร์ โดยเป็นการช่วยเหลือด้านนวัตกรรมดิจิทัล ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องทางหารายได้และเชื่อมต่อกับลูกค้าแบบออนไลน์ได้
<img class="alignnone size-full wp-image-64067" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/pandapurpose-People.jpg" alt="" width="720" height="405" />
นอกจากนี้ foodpanda ยังได้บรรเทาสถานการณ์คนตกงานผ่านการจ้างไรเดอร์รายใหม่กว่า 370,000 คนในปี 2021 อีกทั้ง มีการลงทุนเพิ่มถึง 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ของไรเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมด้านความปลอดภัย ประกัน และการช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการซื้อจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์
ทางบริษัทยังจัดสรรงบอีก 500,000 เหรียญ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นและชุมชนในการบรรเทาสถานการณ์โควิด ผ่านการจัดส่งอาหาร ของใช้จำเป็น และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ขาดแคลน รวมถึงส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนผ่านความร่วมมือกับกระทวงสาธารณสุขของแต่ละประเทศอีกด้วย

<h3 class="p4">ความก้าวหน้า: ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมดิจิทัลและการมีส่วนร่วมแบบไม่แบ่งแยก </h3>
ในปี 2021 foodpanda ทำให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทด้านเศรษฐกิจมากขึ้น โดยมีจำนวนไรเดอร์ผู้หญิงเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการหญิงในแพลตฟอร์มผ่านโครงการ Home Chef 
<img class="alignnone size-full wp-image-64066" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/pandapurpose-v1-.jpg" alt="" width="720" height="405" />
นอกจากนี้ยังมีการลงทุน 91,000 เหรียญ เพื่อพัฒนาศักยภาพไรเดอร์ ในฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา การพัฒนาตนเอง และการตลาด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต
ในสิงคโปร์ foodpanda มีการอบรม 19,500 ชั่วโมงเพื่อส่งเสริมคนทำงานระดับ mid-career ให้ก้าวสู่การเป็นวิศวกรข้อมูลและซอฟต์แวร์ผ่านโปรแกรม GoSchool และ #GetReadySG และยังได้ลงทุนกว่า 70,000 เหรียญในด้านสุขภาพจิต และมีแอปสำหรับการดูแลจิตใจให้แก่พนักงานและไรเดอร์อีกด้วย

<h3 class="p1">สิ่งแวดล้อม: สร้างคนรุ่นใหม่ หัวใจสีเขียว</h3>
ในฐานะบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจใน 12 ประเทศทั่วเอเชีย foodpanda ได้ริเริ่มโครงการด้านเทคโนโลยีเพื่อเชิญชวนให้ร้านค้า ไรเดอร์ และลูกค้า ใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยทางบริษัทได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในประเทศต่างๆ เดินหน้าทำโครงการเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านอาหาร และลดขยะพลาสติกเพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญต่อธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ในปี 2021
<img class="alignnone size-full wp-image-64065" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/pandapurpose-Planet.jpg" alt="" width="720" height="405" />
foodpanda ลดการใช้ช้อนส้อมพลาสติกได้ถึง 900 ล้านชิ้น ผ่านฟีเจอร์ในแอปที่ให้ลูกค้าเลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติก และยังมีสินค้ายั่งยืน กว่า 25,000 ชนิด (เช่น อาหาร plant-based) ให้เลือกซื้อผ่าน pandamart และ foodpanda shops โดยฮ่องกงและไต้หวันเป็นตลาดแรกของทางบริษัทที่มีการมอบตราสัญลักษณ์ “ร้านค้าสีเขียว” ให้กับร้านค้าพันธมิตร ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 70 ร้าน ที่ได้รับการรับรองจาก foodpanda โดยโมเดลนี้จะขยายสู่ตลาดอื่น ๆ ในปี 2022
อีกทั้ง ในปี 2021 foodpanda สิงคโปร์ เป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่เจ้าแรกที่มีเมนู cultured-meat จำหน่าย โดยร่วมมือกับ GOOD Meat อีกด้วย
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดจากการจัดส่งอาหาร จึงรณรงค์ให้ใช้วิธีจัดส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลที่ได้คือ กว่าร้อยละ 20 ของ foodpanda ไรเดอร์ทั่วเอเชีย เปลี่ยนวิธีการจัดส่งเป็น การเดิน การขี่จักรยาน หรือการใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าแทน
ก้าวต่อไปในปี 2022 และในอนาคต
รายงานด้านสังคมฉบับแรกนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ foodpanda ในการเติบโตไปพร้อมกับระบบนิเวศอันประกอบไปด้วยไรเดอร์ ร้านค้า และลูกค้า ใน 11 ตลาดทั่วเอเชีย foodpanda จะขยายโครงการเพื่อสังคมต่อไปในปี 2022 และในอนาคต ผ่านการส่งเสริมชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมดิจิทัล
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/ohouse-korean-lifestyle-superapp.html">oHouse สุดยอดแอปพลิเคชันด้านไลฟ์สไตล์แห่งเกาหลี</a>


<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events