Francis Davidson ยอมรับว่าเป็นเรื่องง่ายที่หากใครเข้าไปดูเว็บไซต์ Sonder แล้วจะคิดว่าสตาร์ทอัพการบริการ (hospitality startup) รายนี้กำลังพยายามโคลนความสำเร็จของ ธุรกิจให้เช่าที่พัก อย่าง Airbnb

โดย Sonder ดำเนิน ธุรกิจให้เช่าที่พัก ในห้องรูปแบบอะพาร์ตเมนต์ที่บางห้องมาพร้อมห้องครัว ทั้งยังมีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมการจัดการอย่างมืออาชีพด้วยการให้ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่แก่ผู้เข้าพัก และมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกผ่านการตอบข้อความตลอด 24 ชั่วโมง

แต่สำหรับผู้ก่อตั้งและซีอีโอของสตาร์ทอัพรายนี้แล้ว นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อสิ่งที่เขาต้องการจะเป็นคือ The next Hilton

“ความหวังของผมคือเราจะสามารถสร้างแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นสัญลักษณ์ของการบริการอันโดดเด่น” Davidson ในวัย 26 กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้เงินจากการระดมทุน 210 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังอยู่ในกระบวนการที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายจะลงทุนเพิ่มอีก 15 ล้านเหรียญ ทำให้การระดมทุนในรอบซีรีส์ D ของเขาสามารถระดมทุนได้ถึง 225 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

การระดมทุนรอบใหม่นี้ยังส่งผลให้มูลค่าของบริษัทขึ้นมาอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญ กลายเป็นยูนิคอร์นหรือบริษัทที่มีมูลค่าเกินพันล้านเหรียญรายล่าสุดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

วิสัยทัศน์ของ Davidson เริ่มต้นด้วยการนำเสนอห้องพักสไตล์อะพาร์ตเมนต์แต่ให้บริการสอดคล้องไปกับรูปแบบการบริการของโรงแรม รองรับทั้งกลุ่มครอบครัว, กลุ่มเพื่อน หรือคนที่ต้องเดินทางมาทำธุรกิจก็สามารถจองที่พักบนเว็บไซต์ได้

Francis Davidson ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ (ภาพจาก Sonder)

Davidson ระบุว่า 1 ใน 3 ของผู้เข้าพักของเขาเป็นกลุ่มคนเดินทางมาทำธุรกิจ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการเป็น ธุรกิจให้เช่าที่พัก แบรนด์ที่โดดเด่นและมีขนาดใหญ่ที่สุดหากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Lyric ที่มี Airbnb เป็นผู้สนับสนุน หรือ Domino, StayAlfred และที่อื่นๆ

การระดมทุนรอบนี้ยังทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นจากการลงทุนของ VC อย่างบริษัท WestCap ซึ่งมีอดีตผู้อำนวยการสายการเงินของ Airbnb อย่าง Laurence Tosi เป็นเจ้าของ รวมถึงการลงทุนจาก VC อื่นๆ เช่น Valor Equity, Tao Capital Partners, บริษัทของ Nicholas Pritzker รวมถึง Fidelity และ ARod Corp.

โดย Tosi เคยเห็นช่วงเวลาที่ Airbnb ต้องดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับการเผชิญปัญหาเรื่องซัพพลาย และต้องการห้องพักมากขึ้น

“หนึ่งในห้องที่ได้รับความนิยมใน Airbnb มากที่สุดคือโดมเห็ด และน่าเสียดายที่ไม่ว่าประสบความสำเร็จเพียงใด เรากลับไม่สามารถสร้างรายได้เป็นล้านให้กับเขาได้” Brian Chesky ซีอีโอของ Airbnb กล่าวกับ Forbes ในฉบับเดือนตุลาคมปีก่อน

เมื่อ Tosi ได้พบกับ Davidson เขาพบว่าผู้บริหารของ Airbnb และ Sonder มีคุณสมบัติเหมือนกันหลายประการ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในการสร้างธุรกิจของตนเอง “นี่คือคนหนึ่งที่ดร็อปเรียนจากมหาวิทยาลัยดีๆ เพราะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ” Tosi กล่าว

ลูกเล่นใหม่ Airbnb ยูนิคอร์นตัวเก่าพลิกโฉมวงการที่พัก

ในปี 2012 Davidson เริ่มให้เช่าอะพาร์ตเมนต์แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Toronto โดยใช้ห้องว่างของเพื่อนร่วมชั้นใน McGill University และในปี 2014 Davidson และ Lucas Pellan ผู้ร่วมก่อตั้ง (ซึ่งทั้งคู่เคยติดอันดับ Forbes 30 Under 30 2018) สามารถทำรายได้ได้ถึง 1 ล้านเหรียญ โดย Davidson คาดว่าภายในสิ้นปี 2019 บริษัทจะสามารถทำรายได้ได้ถึง 400 ล้านเหรียญ

ธุรกิจของเขายังเริ่มย้ายจากการให้เช่าอะพาร์ตเมนต์ที่มีอยู่แล้วมาเป็นการทำงานอย่างใกล้ชิดกับดีเวล็อปเปอร์ เพื่อสร้างยูนิตที่พร้อมสำหรับ Sonder บริษัทยังเซ็นสัญญาเช่ากับดีเวล็อปเปอร์ในระยะเวลาราว 3-5 ปี และเข้าไปตกแต่งห้องเพิ่มเติม เช่น ติดตั้งเครื่องตรวจจับเสียงรบกวน เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากห้องอื่น

เมื่อไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทได้เซ็นสัญญากับห้องพักกว่า 3,000 ยูนิต เพิ่มจากช่วงเดียวของปีก่อนที่เซ็นสัญญาไป 350 ยูนิต โดย Davidson กล่าวว่า ปัจจุบันบริการของเขามีที่พักให้บริการประมาณ 8,500 ยูนิตใน 20 เมืองทั่วโลก และมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 86%

“ปัจจุบันห้องพักใหม่ๆ เราสามารถคืนทุนได้ภายใน 12 เดือน ซึ่งลดลงจากช่วงต้นปี 2018 ที่ใช้เวลาคืนทุนราว 30 เดือน” Davidson กล่าวให้นักลงทุนเห็นถึงสัญญาณที่ดีของธุรกิจ

ยิ่งโตยิ่งเจอความท้าทาย

ไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนที่เข้าพักกับ Sonder จะมีความสุข

Dana Lerner ได้จองที่พักให้กับลูกสาวและเพื่อนๆ ระหว่างทริปเยือนกรุง Rome โดยจองผ่านเว็บเอเจนซี่ที่ชื่อว่า PlumGuide แต่เธอต้องพบปัญหาคือ อีเมล์ทั้งหมดที่เธอได้รับเป็นการพูดคุยระหว่างคนชื่อ Isaac และ Mary ทั้งๆ ที่เธอจองที่พักของพนักงาน Sonder ชื่อ Tom Knight นอกจากนี้ Sonder ยังไม่ส่งคำแนะนำในการเช็กอินให้ตามที่ได้แจ้งไว้จนเธอต้องติดตามทวงถามด้วยตัวเอง

เมื่อลูกสาวและกลุ่มเพื่อนมาถึงที่พักในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พวกเขากลับต้องพบห้องอันสกปรก กลอนประตูพัง และห้องถัดไปก็กำลังมีการก่อสร้างซึ่งพวกเขาไม่ได้รับแจ้งมาก่อน ในภาพและวิดีโอที่พวกเขาถ่ายมายังแสดงให้เห็นว่าที่พักนั้นมีแมลงตัวเล็กๆ ในตู้ และมีเส้นผมอยู่บนผ้าปูที่นอนและบนเก้าอี้

“มันน่าขยะแขยง และรู้สึกไม่ปลอดภัย” Lerner กล่าว

กลุ่มลูกสาวของเธอจึงย้ายออกจากที่พักดังกล่าว และเข้าพักที่โรงแรมแทน และท้ายที่สุดสตาร์ทอัพรายนี้ก็ได้เสนอคืนเงินให้กับเธอ

“เรามุ่งมั่นที่จะให้ทุกการเข้าพักเป็นช่วงเวลาพิเศษ เราสร้างประสบการณ์อันแสนอันน่าทึ่งที่เชื่อว่าผู้คนจะหลงรัก แต่เมื่อบางสิ่งไม่เป็นไปตามแผน เราก็ต้องทำให้มันถูกต้อง ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราจะลงทุนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นต่อไป” โฆษกของ Sonder กล่าว

นอกเหนือจากความท้าทายเรื่องคุณภาพ บริษัทยังต้องขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจสไตล์ Airbnb ในบางโซน

ตัวอย่างคือในเมือง New York ที่มีกฎหมายการเช่าระยะสั้นที่เข้มงวดสำหรับอะพาร์ตเมนต์ที่ถูกกำหนดว่ามีการให้บริการเหมือนโรงแรม หรือใน San Francisco การให้เช่าแบบรายเดือนต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของเมืองด้วย

ขณะที่ในเมือง Minneapolis ดูเหมือนจะโชคร้ายที่สุด เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับการปราบปรามจากเจ้าหน้าที่ หลังดีเวล็อปเปอร์รายหนึ่งให้เช่าที่พักบน Sonder จำนวน 94 ยูนิต จากอาคารขนาด 122 ยูนิตของเขา ส่งผลให้เพื่อนบ้านและสมาชิกสภาเมืองคอมเพลนว่า เหตุใดพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาคารถึงอยู่บน Sonder ซึ่งบริษัทได้จบเรื่องนี้ด้วยการเปลี่ยนแผนงานของตน

ความท้าทายของ Davidson ยังรวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นจากคู่แข่งที่ขยายการเติบโต อย่าง Lyric ที่เพิ่งระดมทุนได้ 185 ล้านเหรียญ และกล่าวกับ Forbes เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า บริษัทมีแผนขยายการให้บริการอีก 2,500 ยูนิตใน 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ Davidson กำลังพยายามอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำในตลาดที่มีคู่แข่งมากมายหลายขนาด

“ช่วงที่การแข่งขันไม่สูงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเติบโต เพราะเมื่อการแข่งขันรุนแรงเกินไป มันจะสร้างความเจ็บปวด ดังนั้น เรามองว่าหากมันไม่เกิดขึ้นจะดีกว่า” Davidson กล่าว

ที่มา

แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine