<h2>หลังจากปีนี้ Kerry Express ประกาศปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SFTH รวมถึงและตั้งเป้าหมายจะรีแบรนด์ครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ KEX แต่ช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวว่าปลดพนักงานออกจำนวนมาก&nbsp;และมีการลดจำนวนรถขนส่งลง รวมถึงจะมีการปรับโครงสร้างภายใน​</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หากย้อนดูงบการเงินใน 9 เดือนแรก ปี 2567 ของ บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX พบว่า ผลการดำเนินงานยังขาดทุนสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัทที่ราว 3,286.5 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นราว 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สาเหตุจากรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 7,718.2 ล้านบาท ลดลง 14% เพราะ ปริมาณการจัดส่งพัสดุที่ลดลงโดยเฉพาะจากแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ต้นทุนขายและให้บริการ งวด 9 เดือนแรกปี 67 อยู่ที่ 9,479.0 ล้านบาท ลดลง 15%YoY ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น) อยู่ที่ 1,187.2 ล้านบาท ลดลง 6%YoY มาจากการบริหารจัดการที่ดีขึ้นทำให้ภาพรวมผลขาดทุนก่อนภาษีเงินได้อยู่ที่ 2,969.8 ล้านบาท ถือว่าดีขึ้น 13%YoY<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/wSu12Mmyfxurs5q4M384.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="wSu12Mmyfxurs5q4M384.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด 2 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ทาง KEX ได้ออกมาชี้แจงถึงกระแสข่าวต่างๆ ว่า บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงข้อกังวลและข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ KEXจึงขอชี้แจง ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. KEX ยังคงมุ่งปรับแบรนด์ภายใต้ชื่อ "KEX" โดยได้รับการสนับสนุนจาก SF Express มาเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน และใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการนำเสนอการบริการที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และมีนวัตกรรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. การมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง กลยุทธ์ในปี 2567-2568 จะกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจและลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยมุ่งเน้นการดึงดูดลูกค้ากลุ่มกลางถึงสูงทั้งในรูปแบบ C2C และ B2B โดยมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การบริการที่โดดเด่น พร้อมพัฒนาและปรับปรุงการบริการของเราอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. KEX กำลังปรับปรุงการจัดสรรทรัพยากรภายในเครือข่าย เพื่อลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผ่านการทบทวนและปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจรวมถึงการเปิด ปิด ย้ายที่ตั้ง หรือรวมศูนย์กระจายสินค้า (DCs) และร้านค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. KEX ไม่มีแผนการถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ หยุดดำเนินกิจการ และไม่มีความจำเป็นที่จะขายกิจการ โดยคงไว้ซึ่งบริการเดิม เช่น การอัปเดตสถานะการติดตามพัสดุและการตรวจสอบพัสดุ ในบางพื้นที่หรือบางสถานที่ จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นและต้องสามารถรักษามาตรฐานการให้บริการตามที่กำหนดได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ การเพิ่มทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จำนวน 5,600 ล้านบาทในครั้งล่าสุดนั้น ยังถือเป็นการตอกย้ำถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม SF Express เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และยกระดับความสามารถในการทำกำไรระยะยาว พร้อมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5. KEX ยังคงเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ SF Group ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรายังคงมุ่งมั่นในการขยายการดำเนินงานในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อสามารถมอบบริการที่มีคุณภาพได้อย่างยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;6. ทีมทรัพยากรมนุษย์ (HR) มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนพนักงานทุกท่านโดยยึดมั่นในกฎหมายแรงงานไทย อ้างอิง: KEX, SET, ภาพ: KEX เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/bar-b-q-plaza-partnered-vitaday-vitamin-water-cabbage-taste" alt="จึ้งมาก! น้ำดื่มผสมวิตามิน กลิ่นกะหล่ำปลี ผลงานบาร์บีคิวพลาซ่า x วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่วงการอาหาร"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/inter-express-second-half-2024-support-chilled-frozen-business-logistic-transportation-system" alt="Inter Express เผยแผนครึ่งหลังปี 67 พร้อมหนุนธุรกิจสินค้าแช่เย็น-แช่แข็ง ผ่านระบบโลจิสติกส์ขนส่งครบวงจร">Inter Express เผยแผนครึ่งหลังปี 67 พร้อมหนุนธุรกิจสินค้าแช่เย็น-แช่แข็ง ผ่านระบบโลจิสติกส์ขนส่งครบวงจร</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

KEX ชี้แจงไร้เแผนถอนหุ้นออกจากตลาดฯ หลังมีกระแสข่าว ‘ปรับโครงสร้าง-ลดพนักงาน’

<h2>เคอรี่ฯ ผนึกกำลัง เบทาโกร ยกระดับบริการขนส่งเย็นครบวงจร 'KERRY COOL' ด้วย 4 โซลูชัน แบบ One Stop Service ตอบโจทย์ผู้ประกอบการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX&nbsp;และ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG&nbsp;เดินหน้าสร้างการเติบโตให้ธุรกิจด้วยการยกระดับแพลตฟอร์มใหม่ 'เคอรี่ คูล'&nbsp;บริการขนส่งเย็นแบบครบวงจร ผ่านการเปิดตัวที่งาน “THAIFEX-ANUGA ASIA 2024” งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดของเอเชีย ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. - 1 มิ.ย. 2567 โดยมีนายวราวุธ นาถประดิษฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และนายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม เบทาโกร&nbsp; ให้เกียรติร่วมต้อนรับผู้เข้าชมงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ 'เคอรี่ คูล' ได้ยกระดับการให้บริการจัดส่งพัสดุแบบแช่เย็น แช่แข็ง ตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มด้วย 4 โซลูชันขนส่งเย็นแบบครบวงจร ได้แก่1. ส่งพัสดุด่วนแบบแช่เย็น แช่แข็ง : บริการขนส่งพัสดุควบคุมอุณหภูมิแบบแช่เย็น และแช่แข็ง โดยเข้ารับในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมให้บริการส่งถึงที่หมายปลายทางทั่วประเทศ2. ขนส่งเหมาคันและไม่เต็มคัน : บริการที่เข้ารับและจัดส่งตั้งแต่ผู้ผลิตจนถึงลูกค้าปลายทาง ในรูปแบบการขนส่งควบคุมอุณหภูมิแบบเหมาคันและไม่เต็มคัน3. คลังสินค้าและกระจายสินค้า : บริการจัดเก็บรักษา แพ็คสินค้าและกระจายสินค้าที่อำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจ รวมถึงระบบการจัดการและการบริการลูกค้าสัมพันธ์4. ส่งพัสดุต่างประเทศ : บริการส่งสินค้าไปต่างประเทศด้วยพาร์ทเนอร์ขนส่งชั้นนำอย่าง SF Express ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในจีนและเอเชีย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/cUaVMyajstG4ftcY4JFv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cUaVMyajstG4ftcY4JFv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยทั้ง 4 บริการนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการส่งสินค้าได้จากต้นทาง 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าพร้อมส่งถึงปลายทางครอบคลุมทั่วประเทศ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้โดยทำการจองรถเข้ารับพัสดุผ่านทางแอปพลิเคชันเคอรี่ แอพพลิเคชั่น Line รวมถึงเว็บไซต์ โดยบริการของเคอรี่ คูล ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสดแช่เย็น ไปจนถึงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์แช่แข็งต่างๆ รองรับความต้องการของทั้งลูกค้า จับกลุ่มลูกค้าทั้ง&nbsp; B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมในการขนส่งกับ เคอรี่ คูล ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแปรรูป ประมาณ 45% ตามมาด้วย เครื่องดื่ม 15% อาหารสัตว์เลี้ยงและอื่นๆ&nbsp; ด้วยบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบแช่เย็น (Chilled)&nbsp; อุณหภูมิ 0-8 องศาเซลเซียส และแบบแช่แข็ง (Frozen) อุณหภูมิต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วราวุธ นาถประดิษฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรสมีเป้าหมายต้องการยกระดับมาตรฐานการให้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทย ด้วยจุดแข็งที่เรามุ่งเน้นการให้บริการแบบ One stop service ในรูปแบบ Cold Express Delivery Platform ภายใต้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ความสะอาดและรักษาคุณภาพของสินค้า รวมถึงการนำเทคโนโลยีและศักยภาพต่าง ๆ ของเคอรี่ เอ็กซ์เพรสมาปรับใช้สำหรับการให้บริการ เคอรี่ คูล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรามั่นใจว่าจะสามารถให้บริการแก่คนไทยครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่ง ด้านสุขอนามัย ความเป็นมิตรต่อลูกค้า และการบริการที่ครอบคลุมทั่วไทย ในราคาที่คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งการผนึกกำลังกับเบทาโกร เชื่อว่าจะทำให้เราสามารถส่งมอบพัสดุมีคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการระดับแนวหน้าและเป็นสากลให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น” วราวุธ กล่าวทิ้งท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/saha-group-partners-fast-beauty-from-japan" alt="‘ฟาสต์ บิวตี้’ ร้านทำผมจากญี่ปุ่นบุกไทย ร่วมจับมือ ‘เครือสหพัฒน์’ เปิดร้านทำสีผม ‘fufu’ 100 สาขา">‘ฟาสต์ บิวตี้’ ร้านทำผมจากญี่ปุ่นบุกไทย ร่วมจับมือ ‘เครือสหพัฒน์’ เปิดร้านทำสีผม ‘fufu’ 100 สาขา</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เคอรี่ฯ ผนึกกำลัง เบทาโกร ยกระดับ 'KERRY COOL' บริการขนส่งเย็นแบบครบวงจร

<h2>KERRY EXPRESS ประกาศเตรียมยุติการใช้แบรนด์ ‘KERRY’ อย่างเป็นทางการ และจะหันมาใช้ชื่อ ‘KEX’ ชื่อย่อหุ้นแทน นับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2568 โดยหลังจากทำการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบริษัท S.F. Holdings Co., Ltd. แทน KLNTH บริษัทมีแผนปรับปรุงฟื้นฟูกิจการหลังจากขาดทุนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี คิดเป็นมูลค่าราวกว่า 7 พันล้านบาท </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คิน เฮ็ง เน็ง หรือ อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ได้ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เรื่อง การแจ้งแผนการปรับเปลี่ยนเครื่องหมายการค้า (Rebranding) จากเดิมที่ใช้แบรนด์ KERRy เปลี่ยนไปสู่แบรนด์“KEX” และการได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิจาก Kuok Registrations Limited&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยใจความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ได้ประกาศไว้ ณ วันที่ 26 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ว่า ณ ปัจจุบัน บริษัท S.F. Holdings Co., Ltd. ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KLNTH ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดิมสิ้นสุดสถานะดังกล่าวของบริษัทฯ ลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางบริษัท มีการเจรจากับ Kuok Registrations Limited (KRL) เพื่อขยายสิทธิในการใช้ชื่อ “Kerry” อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ และยังได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาการใช้แบรนด์ Kerry ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ซึ่งมีผลให้ Kerry Express ต้องยุติการใช้แบรนด์ Kerry นับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท และ SF กำลังดำเนินการร่วมกัน Rebrand เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าของบริษัทไปสู่แบรนด์ ‘KEX’ พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อปรับปรุงฟื้นฟูการเติบโตของธุรกิจให้ดีขึ้น หลังจากที่ผ่านมาผลประกอบการของธุรกิจต้องประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องถึง 3 ปี คิดเป็นมูลค่าราวๆ กว่า 7,000 ล้านบาท&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Ejr7J3D43mtafMvc3YwD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Ejr7J3D43mtafMvc3YwD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/d6oGSnffFThdYXr8w3NW.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="d6oGSnffFThdYXr8w3NW.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/UqxPk171aXAnuFKPxDxL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UqxPk171aXAnuFKPxDxL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> ​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://forbesthailand.com/newsit/kerry-q-1-2024-revenue" alt="Kerry ไตรมาส 1 ขาดทุน 1,188 ล้าน รุกเปิดโมเดลใหม่ ชวนคนเป็นเจ้าของร้าน ลงทุนเริ่ม 3,900 บาท">Kerry ไตรมาส 1 ขาดทุน 1,188 ล้าน รุกเปิดโมเดลใหม่ ชวนคนเป็นเจ้าของร้าน ลงทุนเริ่ม 3,900 บาท</a><a href="https://forbesthailand.com/newsother/emotional-marketing-kerry-%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%a8%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%82%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%87" alt="'Emotional Marketing' Kerry เดินเกมสู้ศึกขนส่งพัสดุยุคดิจิทัล">'Emotional Marketing' Kerry เดินเกมสู้ศึกขนส่งพัสดุยุคดิจิทัล</a>ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

KERRY ประกาศรีแบรนด์เป็น ‘KEX’ หลัง ก.พ. ปี 68 พร้อมเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่จาก KLNTH เป็น SF

<h2>‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ ไตรมาส 1/67 รายได้เพิ่มแต่ขาดทุน 1,188.3 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 50%YoY สาเหตุหลักมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One-off Adjustment) ของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี และการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวร ลูกค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลดลง ล่าสุดเปิดตัวโมเดลธุรกิจ ชวนคนมาเป็นพาร์ทเนอร์เจ้าของร้าน ลงทุนเริ่มต้นเพียง 3,900 บาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567 โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ อยู่ที่ 2,559.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้เมื่อเทียบรายไตรมาส มีสาเหตุจากความพยายามการเพิ่มผู้ใช้บริการรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงการใช้กลยุทธ์แบ่งส่วนระดับตลาด โดยออกแคมเปญพิเศษระหว่างไตรมาส 1/2567 ในขณะที่การลดลงของรายได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเครือข่ายของการดำเนินงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สัดส่วนรายได้จากผู้ใช้บริการประเภท C2C เพิ่มขึ้นจาก 41% ในไตรมาส 1/2566 เป็น 46% ในไตรมาส 1/2567 จากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการที่ให้ผลตอบแทนสูง และหาลูกค้ารายใหม่เพื่อชดเชยปริมาณการจัดส่งจากลูกค้าที่มาจากแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สัดส่วนรายได้จากลูกค้า SKA ลดลงจาก 47% ในไตรมาส 1/2566 เป็น 40% ในไตรมาส 1/2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เคอรี่ฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัทที่ 1,188.3 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 1/2567 ขาดทุนเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One-off Adjustment) ของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี และการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการนี้จะทำให้บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัที่ 968.2 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท KEX มุ่งเน้นการแบ่งส่วนระดับตลาดเพื่อขยายสู่กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ระดับกลางถึงสูง และจัดอันดับเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการรายย่อย บริษัทจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการเพิ่มยอดขายในกลุ่มผู้ใช้บริการรายย่อย ลูกค้าองค์กร และผู้ส่งสินค้าระหว่างประเทศ และพยายามลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เท่าที่จะทำได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในส่วนของการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน บริษัทคาดว่าการจัดปรับปรุงโครงสร้างเครือข่ายการดำเนินงาน การลงทุนในการติดตั้งระบบคัดแยกอัตโนมัติ และระบบดิจิทัล การอัปเกรดเทคโนโลยีแพลตฟอร์มและระบบของเราจะเริ่มแสดงให้เห็นผลลัพธ์ในปีนี้ เปิดตัวโมเดลพาร์ทเนอร์เจ้าของร้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด เคอรี่ฯ ได้เปิดโมเดลธุรกิจ เปิดรับสมัครเจ้าของร้านเคอรี่ พาร์ทเนอร์ ทั่วประเทศ ชวนคนไทยมาเป็นเจ้าของร้านส่งพัสดุ ชูจุดเด่นเปิดให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านได้ง่ายๆ ด้วยแพ็คเกจการลงทุนที่มีให้เลือกหลากหลาย ใช้เงินลงทุนน้อย พร้อมรับผลตอบแทนสูงสุดถึง 20%* (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เคอรี่ฯ ระบุว่าในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตของลูกค้าในกลุ่ม Non-E Commerce ให้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะยังคงรักษาสัดส่วนการเติบโตในกลุ่มลูกค้า E Commerce ให้อยู่ในระดับคงที่ รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนเพื่อปรับใช้ในแนวทางบริหารงานแบบใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จึงมุ่งมั่นพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการขนส่งสินค้า รวมไปถึงการเพิ่มจุดให้บริการโดยจะมีการประเมินอย่างละเอียดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของของลูกค้า ทั้งทำเลที่ตั้งที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และจำนวนจุดให้บริการที่คำนึงถึงความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัย และจำนวนลูกค้าที่เข้ารับบริการในแต่ละพื้นที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ด้วยบริการที่เป็นมืออาชีพและมีมาตรฐาน มีพนักงานที่คอยดูแลพัสดุตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง มีทีมงานหลังบ้าน และ call center ที่คอยให้ความช่วยเหลือ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของร้านเคอรี่ พาร์ทเนอร์ นั้น เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ได้จัดทำแพ็คเกจการลงทุนให้เลือกอย่างหลากหลาย ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.เจ้าของกิจการอยากหารายได้เสริมจ่ายเพียง 3,900 บาท - แพ็คเกจเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่มีร้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และอยากต่อยอดรายได้เสริมง่ายๆ ควบคู่กันไป โดยแพ็คเกจนี้จะได้รับชุดป้ายประชาสัมพันธ์แบนเนอร์ด้านนอกร้าน, ป้าย J-Flag ส่งเคอรี่ที่นี่, ผ้าปูโต๊ะ และป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมเปิดร้านได้ทันที&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.ร้านเล็กลงทุนเบาๆ 8,900 บาท - เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่และอยากเริ่มเปิดร้านเล็กๆ ที่ดูแลง่ายโดยแพ็คเกจนี้จะได้รับ ป้ายไวนิล, สื่อภายในร้าน และป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมด้วยของแถมต่างๆ ทั้ง Seal Bag, เทป OPP, ที่ตัดเทป OPP และตลับเมตร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3.ชุดพื้นฐานพร้อมเปิดร้าน 39,900 บาท - แพ็คเกจร้านไซซ์กลางสุดคุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ 10-35 ตารางเมตร และตั้งอยู่ทำเลโดดเด่นใจกลางเมือง โดยแพ็คเกจนี้จะมีอุปกรณ์ให้ครบ ได้รับทั้งอุปกรณ์ภายในร้าน อุปกรณ์ป้ายประชาสัมพันธ์ อาทิ ป้ายไวนิล สื่อภายในร้าน ป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส พร้อมของแถมแบบจัดเต็ม ทั้ง Seal Bag, กระดาษพิมพ์ใบเสร็จ, กระดาษพิมพ์ฉลาก, เทป OPP, ที่ตัดเทป และตลับเมตร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4.ร้านใหญ่รองรับลูกค้าชุดใหญ่ 79,900 บาท - แพ็คเกจสำหรับการเปิดร้านไซส์ใหญ่ขนาดพื้นที่ 25-50 ตารางเมตร ที่พร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมอุปกรณ์ชุดใหญ่จัดเต็มทั้ง ป้ายไวนิล, สื่อภายในร้าน, ป้ายโลโก้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, อุปกรณ์ไอที และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ อาทิ เคาน์เตอร์ โต๊ะแพ็ก พร้อมของแถมสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กล่องพัสดุทุกขนาด, กล่องผลไม้ทุกขนาด, Seal Bag ทุกขนาด, เทป OPP, ที่ตัดเทป OPP, พร้อมของแถมอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 20 รายการ ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/thailand-post-challenge-2024" alt="เปิดใจ MD ไปรษณีย์ไทย อีคอมเมิร์ซส่งเอง-บังคับร้านเลือก “นี่คือเกมที่ไม่ยุติธรรม”">เปิดใจ MD ไปรษณีย์ไทย อีคอมเมิร์ซส่งเอง-บังคับร้านเลือก “นี่คือเกมที่ไม่ยุติธรรม”</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Kerry ไตรมาส 1 ขาดทุน 1,188 ล้าน รุกเปิดโมเดลใหม่ ชวนคนเป็นเจ้าของร้าน ลงทุนเริ่ม 3,900 บาท

<h2>ยักษ์ใหญ่ด้านขนส่งพัสดุรุกปรับภาพแบรนด์ให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย และกลยุทธ์การสื่อสารผ่านแคมเปญการตลาด "Keep Calm and Kerry On" ในเกมการตลาด Emotional Marketing พร้อมแข่งขันชิงส่วนแบ่งตลาด 6.6 หมื่นล้านบาทและเทรนด์ซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ยุค New Normal</h2>
Alex Ng กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท  เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สร้างกระแสให้กับวงการ ด้วยกลยุทธการสื่อสารการตลาด "Emotional Marketing" การเปิดตัวกล่องพัสดุ Kerry ดีไซน์ใหม่ล่าสุดสีสันสดใสสะดุดตากระตุ้นให้ภาคธุรกิจการขนส่งพัสดุมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น พร้อมฉีกภาพลักษณ์แบรนด์ขนส่งที่น่าเบื่อให้มีความทันสมัยเข้าถึงง่าย และนำเทรนด์การสื่อสารด้วยแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเพื่อสร้างการจดจำในทุกทัชพอยท์

“เราได้มีการเปิดตัวกล่องพัสดุดีไซน์ใหม่เพื่อสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดการขนส่ง และปลุกกระแสให้ภาพรวมของตลาดมีความสดใสมากยิ่งขึ้น เรามีความยินดีที่จะเป็นผู้นำในการสร้างสีสันให้กับวงการด้วยการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ดูเข้าถึงง่ายมากขึ้น”

นอกจากนั้น ที่ผ่านมาบริษัทยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงการบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้มากที่สุดในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดขนส่งพัสดุในประเทศไทยโดยหัวใจสำคัญอยู่ที่การรักษาและพัฒนาระบบการจัดการและมาตรฐานบริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการบริการจัดการการจัดส่ง ติดตาม และกระจายสินค้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าของเรา

“ที่สำคัญในปีนี้เป็นปีที่ 14 แล้วที่ Kerry ยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทยมา เราจึงมีการสื่อสารเพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Kerry ให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย และมีความสร้างสรรค์มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยในยุคดิจิทัลมากขึ้น ไม่นานมานี้เราได้ออกแคมเปญ Keep Calm and Kerry On ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของ Kerry ที่เน้นการสื่อสารเพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เน้นการสื่อสารด้วยการสร้างอารมณ์ ความรู้สึก เพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น” Alex กล่าวถึงก้าวแรกของบริษัทที่ฉีกภาพลักษณ์ของแบรนด์ขนส่งพัสดุที่เข้าถึงยากให้มีความสนุกสนานมากขึ้น

<img class="alignnone wp-image-33026 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/kerry-express-05.jpg" alt="Emotional Marketing" width="600" height="749" />

สำหรับตลาดการขนส่งพัสดุในประเทศไทยจากข้อมูลล่าสุดของอีไอซีได้มีการประเมินการเติบโตของธุรกิจขนส่งพัสดุในปี 2563 ว่าจะมีมูลค่าถึง 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค New Normal ที่มีความคุ้นเคยกับการซื้อขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ขณะเดียวกันการเติบโตดังกล่าวยังส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจมีความรุนแรงกว่าเดิม ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก และผู้เล่นรายเดินจำเป็นต้องปรับปรุงบริการของตนเองเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์มองว่า การแข่งขันในตลาดเป็นเรื่องที่ดีเพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่จะได้ประโยชน์จากการแข่งขันในธุรกิจ คือผู้บริโภคที่มีโอกาสได้เข้าถึงบริการที่ดียิ่งขึ้น

ด้าน สีตลา ชาญวิเศษ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานสื่อสารการตลาด บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดการขนส่งพัสดุ ซึ่งการสร้าง “Brand Love” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาฐานผู้บริโภคเดิม และขยายช่องทางไปยังผู้บริโภคหน้าใหม่ให้มากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งมั่นสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างการจดจำในสายตาของ ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจขนส่งพัสดุให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น

นอกจากนั้น บริษัทยังการออกแคมเปญการตลาดแบบ Emotional Marketing เพื่อให้เห็นความสำคัญของ Kerry  ในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน ภายใต้แคมเปญ Keep Calm and Kerry On ซึ่งเริ่มสื่อสารออกมาหลังจากช่วงวิกฤต COVID-19 โดยเป็นการสื่อสารในเชิงให้กำลังใจคนไทยทุกคนจับมือก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

“Kerry พร้อมที่จะยืนเคียงข้างและเป็นสื่อกลางในการสร้างความสุขให้กับทุกคน ด้วยการจัดส่งพัสดุให้ถึงมือผู้รับไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรเราก็พร้อมจะยืนเคียงข้างคนไทยเสมอ ซึ่งหลังจากการสื่อสารแคมเปญนี้ออกไปเราพบว่าลูกค้ามองภาพลักษณ์ของเรามีความสนุกสนานและเป็นกันเองมากขึ้น”

สำหรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบกล่องพัสดุของบริษัทจะมุ่งเน้นการออกแบบที่ความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สีสันสดใสสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการใส่ข้อความเชิงสร้างสรรค์ที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Keep Calm and Kerry On ซึ่งกล่องพัสดุดีไซน์ใหม่ของบริษัทนับเป็นสื่อกลางจากแบรนด์ที่สื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าทั้งผู้รับและผู้ส่งเพื่อสร้างความเป็นมิตรและตอกย้ำจุดยืนของ Kerry ในการเป็นแบรนด์ที่พร้อมยืนหยัดอยู่คู่กับคนไทยในทุกสถานการณ์เสมอ

<img class="alignnone wp-image-33025 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/kerry-express-03.jpg" alt="Emotional Marketing" width="600" height="400" />

“ที่ผ่านมายังไม่มีผู้เล่นรายใดในตลาดออกมาทำแคมเปญที่เน้นการสื่อสารเพื่อสร้าง Brand Love ซึ่งจุดนี้ Kerry เห็นว่าเป็นโอกาสของเราในการเริ่มทำแคมเปญเพื่อเน้นการสร้างภาพลักษณ์ในเชิงบวก เรามองว่านอกจากการขายเซอร์วิสที่ดีแล้วเรายังมีกล่องพัสดุที่เป็นผลิตภัณฑ์ของเราอีกอย่างหนึ่งที่ลูกค้าของเราต้องมีการใช้งานในทุก ๆ วัน โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบดีไซน์ของกล่องพัสดุในครั้งนี้จึงเป็นการสร้าง Value ให้กับแบรนด์ของเรา และยังเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาทดลองใช้บริการของเราเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังมีแผนการทำกิจกรรมสื่อสารการตลาดเพื่อสร้าง Brand Love ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างอย่างต่อเนื่อง โดย Emotional Marketing ถือเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทจัดส่งพัสดุที่กล้าสร้างความแตกต่างและฉีกภาพของแบรนด์ให้เข้าถึงผู้บริโภคในยุคใหม่มากขึ้น ทั้งยังสามารถสะท้อนถึงความคิดของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการสื่อสารที่ใส่ใจความรู้สึกของผู้บริโภคมากขึ้นย

“ในครึ่งปีหลังเราจะมีการทำกิจกรรมสื่อสารการตลาด ด้วยกลยุทธ์การตลาดในแบบที่แบรนด์ขนส่งพัสดุอื่นๆไม่กล้าทำมาก่อนอีกมากมาย ซึ่งสุดท้ายแล้วภาพที่สะท้อนกลับมาสู่แบรนด์จะสามารถตอบย้ำความเป็น Everyday Life ของแบรนด์ที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ด้วยการสื่อสารในเชิงสร้างสรรค์ของKerry นั่นเอง” สีตลาปิดท้ายถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการประกาศจุดยืนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/jitta-wealth-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%84.html">Jitta Wealth เปิดตัวกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking – U.S. Tech</a>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

"Emotional Marketing" Kerry เดินเกมสู้ศึกขนส่งพัสดุยุคดิจิทัล

<h2>Rithy Sear ต้องระหกระเหินลี้ภัยยาวนานถึง 4 ปี เขาเดินทางกลับกัมพูชาและเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจที่ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ และผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของประเทศ</h2>
การค้าขายในกัมพูชาอาจไม่ง่ายนัก แต่ Rithy Sear ตื่นเต้นกับความท้าทายนี้ไม่น้อย เมื่อตอนที่เขาชวนว่าที่หุ้นส่วนทางธุรกิจจากต่างประเทศ Sear ต้องรับฟังความวิตกกังวลต่างๆ นานา

ความได้เปรียบในการเจรจาของ Sear คือการเตรียมความพร้อมและความมั่นใจ ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยพบกับนักลงทุนในสำนักงานของตัวเอง ซึ่งเป็นห้องชุดชั่วคราวรกๆ ตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่เมือง Phnom Penh ของ WorldBridge International บริษัทโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนของเขาเอง แต่เขาเลือกใช้ห้องรับรองธุรกิจสุดพิเศษบนชั้น 12 ของโรงแรม Sofitel หน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็น The Bridge โครงการของเขาเองที่จะเป็นศูนย์รวมร้านค้าปลีก อาคารชุด และโรงแรมความสูง 45 ชั้นที่เปล่งประกาย

และจะเป็นที่ตั้งของ Brink’s บริษัทด้านความปลอดภัยระดับโลกตกลงเซ็นสัญญากิจการร่วมค้า ในเดือนกรกฎาคม 2561 Sear มองว่า Brink’s จะสามารถเพิ่มรายได้จากในประเทศได้ถึง 8 เท่าตัวหากมาร่วมงานกับ WorldBridge

นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดประตูสู่โลกภายนอกอีกครั้งในยุค 1990s Sear วัย 48 ปี ได้สร้างธุรกิจจากการเฝ้าสังเกตการณ์ว่าส่วนอื่นๆ ในภูมิภาคทำอะไรกันอยู่ จากนั้นจึงสร้างความสัมพันธ์กับบรรดาผู้เล่นข้ามชาติเขาวางตัวเองเป็นประตูเปิดสู่กัมพูชา คือเป็นหุ้นส่วนในท้องถิ่นที่ “โปร่งใสมือสะอาด” คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติได้เข้ามายังตลาดเกิดใหม่ที่เปิดกว้างแห่งนี้

สิงคโปร์คือแรงบันดาลใจพิเศษของ Sear และ Oxley Holdings ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ก็เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของเขาด้วย

กิจการร่วมค้า Oxley Worldbridge กำลังก่อสร้าง The Bridge อยู่ในเวลานี้และสามารถขายห้องในอาคารชุดได้หมดแล้ว ยิ่งทำให้ Ching Chiat Kwong ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Oxley ถึงกับสัญญาว่าจะเข้าร่วมโครงการอีก 2 แห่งใน Phnom Penh สำหรับโครงการต่อไปคือ The Peak คอมเพล็กซ์มูลค่า 580 ล้านเหรียญสหรัฐฯ The Palms โครงการหรูริมแม่น้ำ มูลค่า 100 ล้านเหรียญ

พื้นฐานของ WorldBridge ยังคงเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่ Sear เปิดตัวขึ้นเพื่อให้บริการขนส่งในยุค1990s จากนั้นจึงขยายสู่การให้บริการนำเข้าและส่งออก ตลอดจนการให้บริการรับช่วงต่องานองค์กร (Outsource) บริษัทแห่งนี้มีพนักงานมากถึง 3,750 คน บางส่วนอยู่ในเวียดนาม ลาว เมียนมา และไทย

Sear บอกด้วยว่าเขาเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดใน WorldBridge และยังถือหุ้น 50% ใน Oxley Worldbridge และอีก 40% ใน Kerry Worldbridge Logistics ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าร่วมกับ Kerry Logistics Network ของฮ่องกง

<img class="alignnone wp-image-4039 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/จากผู้ลี้ภัยสู่มหาเศรษฐีด้วยธุรกิจขนส่ง-03.jpg" alt="อสังหาริมทรัพย์ กัมพูชา" width="638" height="425" />

Sear เขาเกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน-เขมรใน Phnom Penh แม้จะมีกองกำลังฆ่าล้างพลเรือนเชื้อสายจีน แต่ครอบครัวของ Sear รอดชีวิตมาได้ทั้งหมด Sear อาศัยพรสวรรค์ในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศฝึกภาษาอังกฤษจากคนงานของสถานทูตรัสเซียคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายในช่วงที่ประเทศตกอยู่ใต้อำนาจของเวียดนามในเวลานั้น

แต่เมื่อสหรัฐฯ และสหประชาชาติเริ่มส่งความช่วยเหลือเข้ามาในกัมพูชา ทักษะภาษาอังกฤษกลับมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในปี 1988 แม่ของเขาจัดการให้เขาได้ร่วมลงเรือผู้ลี้ภัยเพื่อเดินทางไปออสเตรเลีย เพื่อที่เขาจะได้ช่วยแปลภาษาและขอความช่วยเหลือได้

คืนก่อนออกเดินทาง เรืออีกลำหนึ่งที่บรรทุกผู้ลี้ภัย 300 คนจมลงไม่ไกลจาก Sihanoukville เขาจำได้ว่า ขณะที่เรือประมงลำเล็กของ Sear กำลังเริ่มออกเดินทาง โดยมีลุงของเขาเป็นผู้คัดท้ายเรือ ศพยังคงลอยขึ้นลงตามกระแสคลื่น หลายสัปดาห์ต่อมา เรือของเขาก็จมลงเพราะชนเข้ากับแนวปะการังใกล้ๆ

Sumatra Sear เกาะแผ่นไม้กระดานลอยคอนาน 3-4 ชั่วโมงจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียมาถึงและช่วยผู้ลี้ภัยที่รอดชีวิตมาได้ 171 คน ก่อนนำไปปล่อยไว้ในหมู่บ้านประมงแห่งหนึ่งใน Kalimantan ช่วงเวลา 6 เดือนที่นั่นยังคงตามหลอกหลอน Sear จนถึงทุกวันนี้

ในที่สุดบรรดาผู้ลี้ภัยก็โดนส่งตัวออกไปยังค่ายของสหประชาชาติใน Riau Islands เขารับหน้าที่แปลภาษาให้กับสหประชาชาติเป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะได้รับข้อเสนอให้เดินทางกลับบ้านที่ Phnom Penh

<img class="alignnone size-full wp-image-4040" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/จากผู้ลี้ภัยสู่มหาเศรษฐีด้วยธุรกิจขนส่ง-04.jpg" alt="" width="638" height="430" />

หลังการเลือกตั้งครั้งแรกของกัมพูชาภายใต้องค์การบริหารชั่วคราว (Transitional Authority) เมื่อปี 1992 Sear อาศัยความสัมพันธ์กับสหประชาติจัดบริการขนส่งให้กับบรรดาสถานทูตและหน่วยงานช่วยเหลือต่างๆ เขากับหุ้นส่วนไม่มีรถบรรทุก จึงแบ่งเงิน 200 เหรียญจากค่าบริการที่เรียกเก็บ 800-1,000 เหรียญเพื่อเช่ารถ

เขาใช้ความสัมพันธ์ที่มีสร้างธุรกิจขึ้นมาจนได้การขนส่งอาหารทำให้เขาได้เดินทางมาถึงชายแดนประเทศไทยและได้ทำความรู้จักกับเลขานุการของประธานบริษัท CTI Logistics ของประเทศไทย ที่ได้แนะนำให้เขาได้พบกับหุ้นส่วนในอนาคต นั่นคือ เกล็ดชัย เบญจอาธรศิริกุล แห่ง Kerry Express (Thailand)

กำไรของ Sear ยังคงเติบโต แต่เขาไม่ไว้ใจธนาคารในท้องถิ่น จึงนำรายได้ไปฝากไว้กับที่ดิน เขาเริ่มกว้านซื้อที่ดินตามแนว Russian Federation Boulevard ใน Phnom Penh ที่เชื่อมระหว่างเมืองกับสนามบิน เพราะเห็นว่ามีการพัฒนาเกิดขึ้นในพื้นที่ตรงกลางระหว่างเมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสนามบิน

Sear ใช้ที่ดินมูลค่าสูงที่มีอยู่ใน Phnom Penh กับในอีก 6 จังหวัดดึงดูดหุ้นส่วนชาวต่างชาติเข้ามาร่วมในกิจการร่วมค้า สำหรับ 2 โครงการแรกของ Oxley Worldbridge

แม้ Sear จะมีทั้งสถานะ Best Trader แต่ก็ยังต้องเผชิญอุปสรรคจากระบบราชการ ในปี 2015 บรรดาผู้ประกอบการกัมพูชาต่างวิ่งเข้าหาธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ Worldbridge Commerce ได้เปิดตัวร้านค้าออนไลน์ชื่อ My All In One Mall

Sear หันไปดึงนักศึกษาที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาร่วมงานในบริษัทรับจ้างทำกระบวนการธุรกิจ หรืออย่างลูกชายวัย 21 ปีของเขาก็ดูแลร้านค้าออนไลน์เพื่อขายของที่พ่อนำเข้ามา

Sear ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยกับกระแสการร่วมลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงกับจัดตั้งกองทุนของตัวเองขึ้นมากองหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชื่อว่า Ooctane แม้จะยังไม่ได้ตัดสินใจว่า กองทุนนี้จะเดินไปทางทิศไหนหลังจากจะให้การสนับสนุนแนวคิดต่างๆ ในช่วงเริ่มต้นแล้ว แต่เขาเคยพูดอยู่ว่าต้องการลงทุนด้านฟินเทค

เรื่อง: Danielle Keeton-Olsen เรียบเรียง: ปาริชาติ ชื่นชม

<hr />

<a href="http://bit.ly/2zv4aIX">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มของ "จากผู้ลี้ภัยสู่มหาเศรษฐีด้วยธุรกิจขนส่ง" ได้จากนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2561</a>

<img class="alignnone size-full wp-image-2348" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B8%9B%E0%B8%81-NOV-2018.jpg" sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" srcset="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018.jpg 250w, http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018-229x300.jpg 229w" alt="" width="250" height="328" />

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events