โรงเรียนการโรงแรมอันดับต้นของโลกอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านสถานการณ์โควิดเมื่อโลกฟื้นตัว สถาบันการโรงแรมได้ลุกขึ้นมาทำการตลาด หวังมีส่วนร่วมพัฒนาบุคลากรด้านท่องเที่ยวรับโอกาสฟื้นตัวรอบใหม่

เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Les Roches สถาบันด้านการโรงแรมชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ นำทีมผู้บริหารเดินทางมาแนะนำหลักสูตรการโรงแรมถึงประเทศไทย เป็นก้าวย่างทางการตลาดที่พร้อมจะฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว Carlos Díez de la Lastra ประธานกรรมการบริหาร สถาบันเลส์ โรชส์ (Les Roches) เดินสายพบกลุ่มมีเดียเพื่อบอกเล่าถึงความพร้อมของสถาบัน ที่จะพัฒนาบุคลากรด้านการโรงแรมป้อนสู่ตลาด หลังประเมินว่าสถานการณ์โควิดคลี่คลาย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างคึกคักแน่นอน

ซีอีโอ สถาบันเลส์ โรชส์ กล่าวว่า ทางสถาบันฯ เปิดสอนมาเป็นเวลาเกือบ 70 ปีแล้ว และปัจจุบันมีเป้าหมายที่จะขยายความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักศึกษาจากประเทศไทย ได้จุดประกายความรู้ความสามารถ และเพิ่มพูนทักษะพร้อมรับธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ขยายฐานผู้เรียนรับธุรกิจฟื้น

เลส์ โรชส์ (LES ROCHES) เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านการบริหารการโรงแรมและธุรกิจการบริการระดับโลก ที่มอบประสบการณ์การเรียนรู้ครบวงจร ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติที่เข้มข้นด้วยการฝึกงานจริงจากพันธมิตรโรงแรมระดับหรูที่มีอยู่ทั่วโลก

สถาบันแห่งนี้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี สาขาการบริหารธุรกิจ การบริหารโรงแรมนานาชาติ (BBA) หลักสูตรปริญญาโท และหลักสูตรผู้บริหาร (Executive Programmes) ในวิทยาเขตในสวิตเซอร์แลนด์และสเปน โดยทุกหลักสูตรมุ่งเน้นการผสมผสานศิลปะในการปฏิบัติ การเรียนรู้จากประสบการณ์และการฝึกงานจริง โดยมีสถานที่จริงให้นักศึกษาฝึกงาน และภายในสถาบันยังมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนด้านการโรงแรม และมีบริการพิเศษอำนวยความสะดวกนักศึกษาในระหว่างการเรียนตลอดหลักสูตร เช่น มีรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ให้นักศึกษาได้ใช้งาน มีร้านอาหาร และโรงแรมจริงให้ฝึกงาน

เลส์ โรชส์ ยังได้การรับรองมาตรฐานระดับสากล เป็น 1 ใน 4 สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นนำของโลกในด้านการบริหารอุตสาหกรรมการโรงแรมและการบริการ โดยสถาบันการจัดอันดับระดับอุดมศึกษาระดับโลก QS World University Rankings ในปี 2566 อีกทั้งยังได้รับการรับรองโดย New England Commission on Higher Education (NECHE)

Carlos เผยว่าปัจจุบันเลส์ โรชส์มีนักศึกษากว่า 2,000 คน จากกว่า 100 สัญชาติ และมี 28% มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนักศึกษาของสถาบันจะมีข้อได้เปรียบ เนื่องจากผู้สำเร็จการศึกษาจะมีประสบการณ์และคุ้นเคยกับการพบปะผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม สามารถปรับตัวได้เร็ว และเข้าใจความต้องการของแขก ลูกค้า และเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี

ผู้สำเร็จการศึกษาจากเลส์ โรชส์จึงมีโอกาสที่ดีในด้านอาชีพการโรงแรม และมีเน็ตเวิร์คกิ้งที่ดี โดยพบว่า 94% ของผู้สำเร็จการศึกษาได้รับการเสนองานเฉลี่ย 5 งานเมื่อสำเร็จการศึกษา และทุกปีจะมีบริษัทจัดหางาน มาสรรหาบุคลากรที่วิทยาเขตถึง 250 ครั้งในแต่ละปี

พันมิตรศิษย์เก่าแข็งแกร่ง

ยิ่งไปกว่านี้เลส์ โรชส์ ยังมีพันธมิตรศิษย์เก่าทั่วโลก ซึ่งติดต่อผ่านสมาชิกสมาคมศิษย์เก่า 16,000 คนจากหลายรุ่น กระจายตัวอยู่ในหลายทวีป โดยศิษย์เก่า 98% เห็นตรงกันว่า สถาบันเลส์ โรชส์ ได้ช่วยเชื่อมโยงกับเครือข่ายเพื่อนร่วมอาชีพที่แข็งแกร่ง และการช่วยเหลือกันในสาขาอาชีพ อีกทั้งยังเปิดประตูสู่โอกาสต่างๆ มากมาย ที่ล้วนมาจากประสบการณ์จริงในการฝึกงานและทำงาน

นอกจากการเรียนการสอนตามปกติแล้ว เลส์ โรชส์ ยังมี Spark Innovation Sphere ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมด้านการโรงแรมและการบริการ ที่เปิดตัวเมื่อปี 2563 เพื่อเป็นสถานที่ในการริเริ่มสร้างสรรค์ สำหรับโครงการสตาร์ทอัพ ประกอบด้วยห้องปฎิบัติการเพื่อคิดค้นและทดลองโซลูชันด้านการโรงแรมแบบใหม่ๆ รวมถึงโปรแกรมกิจกรรมตลอดทั้งปี การประชุมสัมมนา การบรรยายโดยแขกรับเชิญ และโอกาสอื่นๆ เพื่อให้นักศึกษาได้พบปะกับผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากที่สุดในอุตสาหกรรม และสร้างอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่รองรับด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่คาดว่าจะกลับมาคึกคักอย่างมากหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

ผู้บริหารเลส์ โรชส์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ความต้องการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ กำลังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินทางมาเยือนไทยเพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยว และดึงดูดนักเรียนไทยศีกษาต่อด้านการโรงแรม เพื่อลดช่องว่างด้านความต้องการบุคลากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันเลส์ โรชส์ พร้อมจะตอบสนองความต้องการและมีส่วนร่วมในการวางอนาคตให้กับผู้นำของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งมุ่งเน้นให้ความรู้ด้านนวัตกรรมระบบดิจิทัลและแนวทางการเป็นผู้ประกอบการ อันเป็นหัวใจหลักของหลักสูตรการศึกษาของสถาบันฯ ทั้งในวิทยาเขตสวิตเซอร์แลนด์ และวิทยาเขตที่สเปน

วิทยาเขตระดับเวิลด์คลาส

สถาบันเลส์ โรชส์ นำเสนอประสบการณ์การศึกษาระดับนานาชาติใน 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตครองส์-มอนตานา (Crans-Montana) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และวิทยาเขตมาร์เบล์ญ่า (Marbella) ประเทศสเปน วิทยาเขตแต่ละแห่งนี้ มีสภาพแวดล้อมเอื้อต่อคุณภาพแห่งเรียนรู้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผสมผสานกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเปี่ยมด้วยประสบการณ์ชีวิต ซึ่งจะขยายขอบเขตความรู้ของนักศึกษาและช่วยเพิ่มพูนทักษะทางสังคม

วิทยาเขตครองส์-มอนตานา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในครองส์-มอนตานา ใจกลางเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับสกีรีสอร์ตและกอล์ฟรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลกของครองส์-มอนตานา ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรม กีฬา อาหาร และแหล่งช้อปปิ้ง ในช่วงเวลาว่าง นักศึกษาสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีและการปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือออกกำลังกายในวิทยาเขต ที่ศูนย์ฟิตเนส

ส่วนวิทยาเขตมาร์เบล์ญ่า ประเทศสเปน ตั้งอยู่ใน คอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองตากอากาศชายทะเลอันหรูหรา เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของยุโรป สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ระดับโลกช่วยให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์จริง มอบประสบการณ์ชีวิตอันหลากหลายที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ให้แก่นักศึกษาในสภาพแวดล้อมชั้นเลิศเอื้อต่อการเรียนรู้ รวมทั้งนักศึกษายังสามารถทำกิจกรรมสันทนาการและกีฬาอันหลากหลายในยามว่าง

สถาบันเลส์ โรชส์ นำเสนอหลักสูตรการศึกษาที่หลากหลายและทันสมัยโดยมุ่งเน้นไปที่อาชีพ ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หลักสูตรสำหรับผู้บริหาร และ หลักสูตรระยะสั้น โดยหลักสูตรปริญญาตรีสาขาการบริหารธุรกิจ การบริหารโรงแรมนานาชาติ (BBA) แนวทางแบบฉบับสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผสานการเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการ มุ่งเน้นหลักสูตรเชิงทฤษฎีผสานกับภาคปฎิบัติจริง รวมทั้งครอบคลุมการฝึกงานสองครั้ง นักศึกษาจะอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ผู้มากประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม การฝึกงานจะช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้บริบทการทำงานจริง พร้อมเริ่มงานอย่างมืออาชีพได้ทันทีเมื่อสำเร็จการศึกษา

หลักสูตรหลากหลาย

หลักสูตรนี้มาพร้อมความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง 5 สาขา ได้แก่ การเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจบริการและการโรงแรม (Hospitality Entrepreneurs) กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Strategies) การบริหารจัดการผลการประกอบการทางการเงินของโรงแรม (Hotel Financial Performance Management) การพัฒนาและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน (Sustainable Developments and Practices) และการพัฒนาและการบริหารจัดการรีสอร์ต (Resort Development and Management)

สำหรับหลักสูตรปริญญาโท ออกแบบมาสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือผู้ประกอบวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ด้วยรูปแบบการเรียนที่ยืดหยุ่น (เรียนที่วิทยาเขต เรียนทางไกล หรือเรียนแบบผสม) เพื่อให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรมนี้ พร้อมด้วยวิทยากรรับเชิญที่เชี่ยวชาญ ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการไปทัศนศึกษาทางธุรกิจและการฝึกงาน หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เปิดสอน ได้แก่ หลักสูตรปริญญาโทสาขากลยุทธ์การบริการต้อนรับและดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน (Hospitality Strategy and Digital Transformation) หลักสูตรปริญญาโทสาขาการตลาด และการบริหารจัดการสำหรับการท่องเที่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ (Marketing and Management for Luxury Touris) และหลักสูตรปริญญาโทการบริหารธุรกิจ (MBA) สาขาการบริหารจัดการธุรกิจบริการต้อนรับ

นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรผู้บริหาร เป็นหลักสูตรชั้นนำเพื่อคนทำงาน ช่วยเพิ่มพูนความรู้ควบคู่ไปกับโอกาสพบปะกลุ่มและแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมอาชีพนานาชาติที่มีความสามารถระดับสูง ด้วยการเรียนผ่านโมดูลออนไลน์ การเข้าเรียนในชั้นเรียนแบบเข้มข้น เวิร์กช็อปและการดูงานในสถานที่

อีกหลักสูตรที่น่าสนใจคือ หลักสูตรภาคฤดูร้อน เป็นการก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นไปได้ และเปิดประสบการณ์กับ 2 หลักสูตรภาคฤดูร้อน ที่สามารถเลือกเรียนการบริหารและการโรงแรมเบื้องต้น 1-2 สัปดาห์ หรือเข้าร่วมหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษที่ผสมผสานการเรียนรู้กับความสนุกสนาน เปิดสอนทั้งในวิทยาเขตครองส์-มอนตานา และวิทยาเขต มาร์เบล์ญ่า ทุกหลักสูตรเชื่อมโยงการเรียนการสอนและเครือข่ายพันธมิตรศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งของสถาบัน เป็นการสร้างโอกาสและต่อยอดสายงานด้านการโรงแรมด้วยเครือข่ายศิษย์เก่าที่มีอยู่ทั่วโลก และมีการจัดกิจกรรมพบป่ะแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมศิษย์เก่าได้มีการจัดงาน ที่สถาบันเลส์ โรชส์ ในวิทยาเขตมาร์เบล์ญ่า โดยมีสมาชิกเข้าร่วมถึง 200 คน จาก 57 สัญชาติทั่วโลก เพื่อให้ศิษย์เก่าได้สานสัมพันธ์และขยายเครือข่ายโดยศิษย์เก่าได้เข้าร่วมหลักสูตรสำหรับผู้บริหารระยะเวลา 3 วัน มีการปฏิสัมพันธ์กับแขกพิเศษและแขกวีไอพี และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การแข่งขันกอล์ฟชิงถ้วยรางวัลของสถาบันเลส์ โรชส์ ของศิษย์เก่าที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ผู้เข้าร่วมหลักสูตรนี้ล้วนเป็นผู้บริหารของโรงแรม บริษัทท่องเที่ยวขนาดใหญ่และบริษัทลักซ์ชัวรี่ อาทิRami Sayess ประธานฝ่ายปฏิบัติการเอเชียแปซิฟิก โรงแรม Four Seasons Hotels and Resorts และ Carlos Erburu ผู้อำนวยการทั่วไปของ Cluster Thompson & Hyatt Centric Madrid

ทั้งนี้ Carlos Díez de la Lastra เข้ารับตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร ของสถาบันเลส์ โรชส์ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งเน้นส่งเสริมการขยายธุรกิจในต่างประเทศของทางสถาบันฯ เขายังเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 150 ผู้เชี่ยวชาญที่มีอิทธิพลสูงสุดด้านธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวในสเปน และเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่ได้รับการอ้างอิงถึงเสมอในธุรกิจการโรงแรมระดับโลก

อ่านเพิ่มเติม : เอสซีจี ชูสินค้านวัตกรรม กรีนชอยส์ เม็ดพลาสติก-กระเบื้อง ยอดขายโตในอาเซียน ตอบเมกะเทรนด์รักษ์โลก

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine