'ธุรกิจความงาม' ในไทยแข่งขันเดือด! แบรนด์ต้องทำ CRM สร้างสัมพันธ์ลูกค้าชิงส่วนแบ่งในตลาดกว่า 1.7 แสนล้าน

<h2>ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 สังคมไทยเผชิญกับสารพัดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบทั้งในระดับปัจเจกและส่วนรวม ตั้งแต่ราคาทองคำที่พุ่งทะยาน ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ ไปจนถึงภัยพิบัติที่สร้างความสะเทือนใจทั่วประเทศ ขณะเดียวกันกระแส T-Pop ก็ยังคงแรงไม่หยุด พาเพลงไทยโลดแล่นไกลระดับสากล</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;LINE TODAY ในฐานะแพลตฟอร์มที่มุ่งมั่นเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคมได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นจาก “LINE TODAY POLL” เสียงสะท้อนจากมหาชนออนไลน์กว่า 30,000 คน ชี้ให้เห็นว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องเผชิญกับความผันผวนและเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแนวโน้มการระมัดระวังในการใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราคาทองทะลุ 5 หมื่น คนไทยลังเล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานการณ์ราคาทองคำยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 50,000 บาทต่อบาททองคำ โดยมีปัจจัยมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดระหว่างประเทศในหลายพื้นที่ และการเข้าซื้อของธนาคารกลางประเทศต่างๆ รวมถึงการปรับคาดการณ์ราคาขึ้นโดยสถาบันการเงินใหญ่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางความร้อนแรงของราคาทองคำ ผลสำรวจจาก LINE TODAY POLL พบว่าคนไทยส่วนใหญ่เลือกชะลอการลงทุน โดยอันดับ 1 เลือกโหวตแสดงความเห็นว่า ยังไม่ซื้อตอนนี้ แต่จะซื้อเมื่อราคาถูกลง 32.92% ตามด้วยซื้อเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร 25.84% และไม่ซื้อ เพราะราคาสูงเกินไปอยู่ที่ 25.25% สะท้อนความระมัดระวังของผู้บริโภคไทยในภาวะเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง เงินเฟ้อกดดันลดสิ่งฟุ่มเฟือย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ค่าครองชีพที่พุ่งสวนทางกับรายได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่คนไทยต้องเผชิญทั้งจากแรงกดดันระดับโลก อาทิ ราคาน้ำมันสูงขึ้นจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามยูเครน ไปจนถึงเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าที่ซ้ำเติมต้นทุนการนำเข้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันภายในประเทศเองก็ต้องรับมือกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแรงงาน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นจากภัยแล้งและต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงค่าครองชีพในเมืองใหญ่ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้คนไทยต้องปรับตัว เปลี่ยนพฤติกรรมการเงินอย่างเร่งด่วน เลือกช็อปปิ้งน้อยลง ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นด้วยผลโหวตกว่า 33.62% ตามด้วยอันดับ 2 หาวิธีสร้างรายได้เพิ่ม 15.5% และอันดับ 3 เลือกเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนเลือกซื้อ 15.23% ฝุ่น PM2.5 อยากให้รัฐเร่งแก้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางภัยพิบัติหลากหลายที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ น้ำท่วม เครนถล่ม หรือข้อพิพาทชายแดน คนไทยบน LINE TODAY POLL เลือกโหวตให้ฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาอันดับ 1 ที่อยากให้รัฐบาลเร่งจัดการมากที่สุด ด้วยคะแนนโหวต 30.42% และแม้จะมีความพยายามผลักดันร่างกฎหมายอากาศสะอาด แต่ปัญหาฝุ่นพิษยังคงวนกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในทุกปี โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และภาคเหนือที่เจอมลพิษซ้ำซากในฤดูหนาว ขณะที่น้ำท่วมได้อันดับ 2 ที่ 27.89% และข้อพิพาทชายแดนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 24.74% T-Pop แรงไม่หยุด วง BUS คว้าใจมหาชน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นประเด็นร้อนแรงแล้ว ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาวงการเพลง T-Pop ของไทยก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจับตาทั้งเวทีในประเทศและระดับโลก รวมทั้งยังมีศิลปินรุ่นใหม่หลากหลายสไตล์เกิดขึ้น ดันชื่อเสียงเพลงไทยติดชาร์ตเพลงนานาชาติจนแฟนเพลงชาวไทยเทใจโหวตให้เพลง “Bow Wow” จากวง BUS เป็นเพลงฮิตประจำครึ่งปี 2568 ที่โดนใจมากที่สุด ด้วยคะแนนโหวต 30.68% ตามมาด้วย “จนนิรันดร์ (Forever)” ของ NuNew ที่ 18.67% และอันดับ 3 กับเพลง “กอดอุ่น” จากน้อง Butterbear ที่ 14.26%​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/nzaqXGFT9xvGNR9nEbva.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="nzaqXGFT9xvGNR9nEbva.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากผลโพลทั้ง 4 หัวข้อสะท้อนให้เห็นถึงความคิด มุมมอง และความเคลื่อนไหวของสังคมไทยในมิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งปีแรก 2568 ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ปัญหาโครงสร้าง สภาพแวดล้อม หรือวัฒนธรรม ตอกย้ำบทบาทของ LINE TODAY ในฐานะแพลตฟอร์มคอนเทนต์ข่าวสารที่มุ่งมั่นเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ใช้งานบน LINE ผ่านพื้นที่ออนไลน์ที่เปิดกว้าง พร้อมรับฟังทุกความเห็นและทุกเสียงโหวตอย่างมีคุณภาพ เพื่อร่วมสร้างความเข้าใจ จุดประกายการแลกเปลี่ยน เพื่อขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าอย่างมีทิศทาง และเตรียมติดตาม LINE TODAY POLL OF THE YEAR 2025 จาก LINE TODAY สะท้อนเทรนด์ฮิต กระแสฮอต และมุมมองในด้านการเมือง เศรษฐกิจ กีฬา บันเทิง แห่งปี 2568 ได้ในช่วงสิ้นปีนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ LINE TODAY คือบริการ Content Portal อันดับ 1 ของไทย เริ่มเปิดบริการในปี 2559 โดยสามารถเข้าใช้งานผ่านแท็บ 4 บนแอป LINE ปัจจุบัน LINE TODAY มียอดชมคอนเทนต์มากกว่า 1.4 พันล้านเพจวิว และผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคนต่อเดือน เป็นแหล่งรวมคอนเทนต์หลากหลาย ตั้งแต่ข่าวสาร สาระบันเทิง ไลฟ์สไตล์ กีฬา และคอนเทนต์ยอดนิยมอย่างดูดวงและผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งรูปแบบบทความและวิดีโอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน LINE TODAY มีพาร์ตเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งสำนักข่าวและครีเอเตอร์รวมกว่า 300 ราย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ที่เชื่อถือได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการเติบโตของ LINE TODAY เป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดีถึงกลยุทธ์ในการพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการคอนเทนต์ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี บทความโดย สิริกาญจน์ สมนึก&nbsp;ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ LINE TODAY เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/9-9-2025-campaign-boosts-sales-through-shopee-and-lazada" alt="จัดโปรโดนใจ 'ขาช็อป' ทุกปี! แคมเปญ 9.9 ปี 68 ยอดขายออนไลน์ผ่าน Shopee - Lazada พุ่งกระฉูด!">จัดโปรโดนใจ 'ขาช็อป' ทุกปี! แคมเปญ 9.9 ปี 68 ยอดขายออนไลน์ผ่าน Shopee - Lazada พุ่งกระฉูด!</a>​​<a target="_blank" href="https://www.mebmarket.com/ebook-392521-Forbes-Thailand-September-2025" alt="อ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2568 ในรูปแบบ e-magazine">อ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2568 ในรูปแบบ e-magazine</a>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/XLUJHEVRXGhjFPmfLzpo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="XLUJHEVRXGhjFPmfLzpo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="412,540" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></figure></div>

ครึ่งปีแรกคนไทยระวังใช้จ่าย ห่วงฝุ่นพิษ อิน T-Pop

<h2>LINE ดูดวง เผยเทรนด์คนไทย “ต้องการที่พึ่งทางใจ” บริการขอพร–แก้บน–ทำบุญออนไลน์ ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจคือปี 2568 ขอพรด้านการเงิน มากกว่าการหาคู่และความรัก สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่กดดันและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยเลือกหา “ที่พึ่งทางใจ” และ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” เป็นแรงยึดเหนี่ยวในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการดูดวง ขอพร หรือทำบุญผ่านบริการอย่าง LINE ดูดวง พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เพียงวัฒนธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนานในสังคมไทย แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ที่ทั้งเข้าถึงง่ายและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;LINE ดูดวง เผยอินไซต์ครึ่งปีแรก 2568 พบคนไทยให้ความสำคัญกับการหาที่พึ่งทางใจอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงข้อมูลจาก LINE TODAY ระบุว่า ยอดเข้าชม “แท็บดูดวง” ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นถึง 66.6% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา สะท้อนชัดว่าในช่วงเวลาที่ชีวิตเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยรอบด้าน การแสวงหาที่พึ่งทางใจยังเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นพลังบวกที่ช่วยให้ผู้คนมีความรู้สึกมั่นใจในการก้าวผ่านความท้าทายไปได้ในแต่ละวัน เทรนด์ขอพรปี 68 พลิก! คนไทยขอพรด้านการเงิน มากกว่า การหาคู่และความรัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“พระพิฆเนศ” กลายเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมขอพรอย่างมากในปี 2568 ด้วยความเชื่อในเรื่องความมั่นใจหรือโอกาสที่เกี่ยวกับโชคลาภและความมั่งคั่ง โดย LINE ดูดวง มีบริการให้เลือกขอพรจากพระพิฆเนศได้ถึง 6 สถานที่ทั่วไทยและต่างประเทศ เช่น พระพิฆเนศปางมหาเศรษฐี วัดดั๊กดูเศรษฐ์ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในช่วง “วันวินายักจตุรถี” สะท้อนถึงแนวโน้มการขอพรด้านการเงินที่มาแรงในปีนี้ ขณะที่ปี 2567 ที่ผ่านมา พระแม่ลักษมีซึ่งเด่นด้านการขอพรเรื่องความรักได้รับความนิยมสูงสุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าเทรนด์การขอพรของผู้คนกำลังเคลื่อนไปตามสภาพเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะในช่วงที่ความไม่มั่นคงทางรายได้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น ดาวราหูย้ายดวง คนแห่ขอพร “พระราหู” ยอดพุ่งกว่า 5.5 เท่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับปรากฏการณ์ “ดาวราหูย้ายราศี” LINE ดูดวง พบว่ามีผู้ใช้งานเลือกขอพรพระราหูเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ศาลพระพิฆเนศ อาเขต จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ยอดการขอพรพระราหูในเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนของปี 2567 ถึงกว่า 5.5 เท่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สะท้อนความเชื่อที่ว่า “ราหูย้ายไม่ใช่เรื่องร้ายเสมอไป” แต่สามารถเพิ่มความมั่นใจในเรื่องดวงชะตาและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวครั้งสำคัญ เป็นการตอกย้ำว่าผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องการขอพรเกี่ยวกับโชคลาภมากขึ้นในช่วงปีนี้ ยอดพุ่งทุกเทศกาล! คนไทยแห่ทำบุญออนไลน์ บริจาคโลงศพ–ห่มผ้าพระธาตุ ติดโผฮิตสายบุญยุคดิจิทัล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สายบุญยุคใหม่ยังคงนิยมทำบุญออนไลน์ โดยบริการยอดฮิตอันดับหนึ่งบน LINE ดูดวง คือ “บริจาคโลงศพ” รองลงมาคือ “ห่มผ้าพระธาตุ” ที่กำลังมาแรง ด้วยความเชื่อว่าจะได้บุญ เสริมความเป็นสิริมงคล และสร้างความร่มเย็นให้ชีวิต ขณะที่อีกหนึ่งบริการที่มาแรงไม่แพ้กัน คือ “ทำบุญสะเดาะเคราะห์” บริการจาก LINE ดูดวง ที่รวมการตักบาตร ถวายสังฆทาน และบริจาคโลงศพไว้ในคลิกเดียวเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต ทั้งยังสะดวกและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งหลังจากเปิดตัวบริการดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ที่มียอดใช้งานสูงสุด โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริการนี้มียอดใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 121% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มองหาวิธีทำบุญเพื่อคลายเคราะห์หรือเสริมดวง หลวงพ่อทันใจ – พระแม่ลักษมี – ไอ้ไข่ ติดโผสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอีกหนึ่งที่พึ่งทางใจของคนไทย ที่วันนี้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกผ่าน LINE ดูดวง โดยข้อมูลล่าสุดเผยว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยม “ขอพร” มากที่สุด ได้แก่ หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ พระแม่ลักษมี ตึกเกษรวิลเลจ และหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่สถานที่ยอดนิยมในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับการ “แก้บน” บน LINE ดูดวง ที่ให้บริการนำของไปถวายตามที่ได้รักษาสัญญาไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ได้แก่ หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ และหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยบริการแก้บนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทาง LINE ดูดวง จะมียอดใช้บริการแก้บนเพิ่มสูงเป็นพิเศษในช่วงหลังการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (หลังจากวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน) ซึ่ง “หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ” จังหวัดเชียงใหม่ ยังครองอันดับหนึ่งของทั้งสายมูและผู้สนใจผลสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้รับการแก้บนสูงสุดอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของการแสวงหาที่พึ่งทางใจของคนไทย แม้ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต แต่ขณะเดียวกันผู้คนก็ถูกรุมล้อมไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม LINE ดูดวงจึงทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงความศรัทธาและที่พึ่งทางใจให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยบริการครบวงจรทั้งการดูดวง ขอพร ทำบุญ และแก้บน ที่เข้าถึงง่ายทุกที่ทุกเวลา ภาพ: LINE เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/muketing-hit-in-thailand" alt="ตั้งแต่เครื่องนอน จนถึงยาสีฟัน แบรนด์ไทยโหนกระแส ‘มูเตลู’ สร้างสีสันตลาด-เข้าถึงลูกค้า">ตั้งแต่เครื่องนอน จนถึงยาสีฟัน แบรนด์ไทยโหนกระแส ‘มูเตลู’ สร้างสีสันตลาด-เข้าถึงลูกค้า</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เศรษฐกิจแบบนี้ ขอมีที่พึ่งทางใจ! คนไทยขอพร-แก้บน-ทำบุญออนไลน์พุ่ง ปี 68 ขอเรื่องการเงินมากกว่าความรัก สะท้อนปัญหาปากท้อง

<h2>LINE ประเทศไทย แต่งตั้ง “นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร” นั่ง CEO คนใหม่ พร้อมตั้ง “พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา” นั่งที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร LINE Plus และ LINE ประเทศไทย </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด แต่งตั้ง นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) คนใหม่ ขณะที่พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา จะดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร LINE Plus และ LINE ประเทศไทย (Executive Advisor to LINE Plus and LINE Thailand)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การปรับทัพผู้บริหารในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวางโครงสร้างการบริหารที่แข็งแกร่ง เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและความสำเร็จในระยะยาว โดยมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร” ในฐานะ ซีอีโอคนใหม่ของ LINE ประเทศไทย จะมุ่งพาธุรกิจในประเทศไปสู่การเติบโตขั้นต่อไป รวมถึงการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ ให้แก่อีโคซิสเต็มของ LINE ทั้งในเชิงผู้ใช้ ธุรกิจ และพันธมิตร ภายใต้พันธกิจใหม่ของบริษัทอย่าง Create an amazing life platform that brings WOW! to our users ด้วยวิสัยทัศน์และความเข้าใจในธุรกิจแพลตฟอร์มผ่านการบริหารจัดการงานในหลายภาคส่วนอย่างลึกซึ้ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นรสิทธิ์ เริ่มทำงานที่ LINE ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณา ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ (Chief Commercial Officer) และรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) ก่อนหน้านี้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/iqiQkCPBhv1nCVDGXrDr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="iqiQkCPBhv1nCVDGXrDr.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ “พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา” จะดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร LINE Plus และ LINE ประเทศไทย ด้วยประสบการณ์การเป็นซีอีโอของ LINE ประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2562 พร้อมแนะนำความเชี่ยวชาญเชิงกลยุทธ์แก่คณะผู้บริหารของบริษัทฯ ในไทยและผู้บริหารของ LINE Plus ซึ่งครอบคลุมถึงด้านรัฐกิจสัมพันธ์ โดยพิเชษฐ เริ่มทำงานที่ LINE ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2559 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารก่อนหน้านี้ ภาพ: LINE ประเทศไทย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/other/news/it/microsoft-promotes-3-organizations-using-ai-innovation-to-become-frontier-firms" alt="ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรชั้นนำในไทย พร้อมไขรหัส 3 ข้อ กับการใช้นวัตกรรม AI ก้าวสู่ 'Frontier Firm'">ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรชั้นนำในไทย พร้อมไขรหัส 3 ข้อ กับการใช้นวัตกรรม AI ก้าวสู่ 'Frontier Firm'</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

LINE ประเทศไทย แต่งตั้ง “นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร” นั่ง CEO คนใหม่

<h2>กลยุทธ์การตลาดที่ใช้คาแรคเตอร์ที่จับต้องได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ ถือเป็นกลยุทธ์สุดคลาสสิกที่ใช้กันมาทุกยุคทุกสมัย เพราะด้วยอานุภาพความน่ารักที่เกินต้านของเหล่าคาแรคเตอร์ซึ่งเป็นภาษาสากลของคนทุกเพศทุกวัย ที่ไม่เพียงช่วยดึงดูดความสนใจเมื่อได้พบเจอ แต่ยังช่วยสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ แบรนด์จะประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์นี้มากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจผู้บริโภคและนำไปต่อยอดได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด ที่ถือเป็นปรากฎการณ์เขย่าโลกการตลาดไทย ต้องยกนิ้วให้ “Butterbear” แบรนด์ขนมหวานสัญชาติไทย ในเครือ Coffee Beans by Dao ที่เรียกว่า “ทำถึง” สามารถส่ง “น้องเนย” ให้เป็นที่รักของผู้บริโภคจำนวนมากได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยความน่ารักสดใสและสกิลการเต้นที่มีเอกลักษณ์โดนใจเหล่ามัมหมี พ่อหมี ทั้งในและต่างประเทศ จนสามารถสร้างฐานแฟนด้อมเป็นของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ เข้าตำรา fandom marketing กลายเป็นอีเวนต์ห้างแตกทุกครั้งที่น้องเนยปรากฏตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่สำคัญน้องเนยยังสามารถแจ้งเกิดในฐานะไอดอลสาวอายุสามขวบดาวรุ่งที่มีผู้ติดตามบนโซเซียลมีเดียหลักแสน ด้วยการขยันทำคอนเทนต์ สร้างเอนเกจเมนต์กับแฟนๆ ในช่องทางต่างๆ อยู่เสมอ ถึงขั้นถูกเชิญไปร่วมงานกับสินค้า แบรนด์แฟชั่นระดับโลก และร่วมในแคมเปญโปรโมทการท่องเที่ยวไทยอีกด้วย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/Ca6MoAcTidNto3iyK9ub.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Ca6MoAcTidNto3iyK9ub.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,720"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โจทย์สำคัญของแบรนด์ Butterbear ที่จะช่วยต่อยอดความสำเร็จในขั้นต่อไป คือ การขยายและรักษาฐานแฟนคลับให้แข็งแกร่ง และมีความผูกพันที่แนบแน่นกับน้องเนย ซึ่ง LINE ได้เข้ามามีบทบาทในการสร้าง “ด้อมน้องเนย” ให้เป็นคอมมิวนิตี้ที่เต็มไปด้วยสีสัน พร้อมเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้เหล่ามัมหมี พ่อหมี สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับคอมมิวนิตี้และคอนเทนต์ของน้องเนยได้เแบบเต็มอิ่มครบทุกมิติ คนเข้าด้อมคึกคักวันละหมื่น แหล่งอินไซต์เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนคลับด้วย LINE OpenChat&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากที่ทุกคนจะเห็นน้องเนยที่โชว์ตัวด้วยเพลงในกระแสต่างๆ ได้อย่างฉับไว จะสังเกตได้ว่า น้องเนย มักปรากฏตัวในชุด ท่าทาง และเรื่องราว ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทางไหนก็ถูกใจชาวด้อมไปเสียหมด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสร้างคอมมิวนิตี้ผ่าน LINE OpenChat ที่เปรียบเสมือนการเปิดบ้านของน้องเนยเพื่อพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเหล่ามัมหมี พ่อหมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์เรื่องราวประทับใจ ความชอบ ความต้องการต่างๆ ไปจนถึงการพูดคุยให้กำลังใจ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ทีมงานได้รับฟัง และตอบสนองความต้องการของชาวด้อมเพื่อสร้างความผูกพันที่เหนียวแน่นระหว่างกันได้เป็นอย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพียงในเดือนแรกที่มีการเปิดห้อง ‘ด้อมน้องเนย’ ก็มีมัมหมี พ่อหมีเข้ามาเป็นสมาชิกมากกว่า 30,000 คน อีกทั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังมีห้อง OpenChat ผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 10,000 คน ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังเป็นห้อง OpenChat ห้องแรกที่ได้รับ Official Badge จาก LINE OpenChat ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าด้อมนี้เป็นคอมมิวนิตี้หลัก ที่มีกลุ่มแอดมินตัวแทนจากแฟนคลับ และทีมงาน Butterbear เป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/scE7YAUxFJ4QgBrHgHBT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="scE7YAUxFJ4QgBrHgHBT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,480"></figure></div> ให้ “น้องเนย” อยู่ในทุกช่วงเวลาของคน ด้วย LINE STICKERS และ LINE MELODY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับคนที่รักและชื่นชอบน้องเนย การมีส่วนร่วมกับน้องที่ง่ายที่สุดคือการใช้ LINE STICKERS ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้น้องเนยเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ด้วยการทำให้น้องเนยอยู่ในทุกเรื่องราวการแชทของผู้ใช้งาน LINE&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยปัจจุบันน้องเนยได้ออกสติกเกอร์หลากหลายเวอร์ชัน แม้หลายคนอาจจะยังไม่ได้เข้าด้อมน้องเนย แต่ก็สามารถโดนน้องเนย “ตก” ได้ไม่ยาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังต่อยอดส่งเพลงประจำตัว “น่ารักมั้ยไม่รู้” เข้าสู่ LINE MELODY ให้เหล่าแฟนๆ ได้ดาวน์โหลดเพื่อตั้งเป็นเสียงรอสายและเสียงเรียกเข้าสำหรับ LINE Call ที่มียอดดาวน์โหลดเร็วและแรงที่สุด จนทำให้เพลงนี้ได้รับรางวัล BLACK MELODY ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่ศิลปินผู้ได้รับรางวัลเป็นหมีน้อยสุดน่ารัก ตก “มัมหมี พ่อหมี” ได้เพิ่ม ด้วยคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟบน LINE VOOM และ LINE TODAY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับคนไทยมากขึ้นไปอีกขั้น น้องเนยยังได้ใช้ LINE VOOM เป็นอีกหนึ่งช่องทางในเผยแพร่คอนเทนต์ไปยังแฟนๆ ทำให้น้องเนยสามารถขยายฐานแฟนคลับ เข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ โดยนอกจากมัมหมีวัยทำงาน และวัย 50+ ที่เป็นแฟนเหนียวแน่นของน้องเนยแล้ว กลุ่มพ่อหมีวัยทำงาน อายุ 30-34 ยังชอบที่จะกดดูคลิป "น้องเนยเต้น" โดยไม่กดข้ามคลิปสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติของคลิปอื่นๆ ใน LINE VOOM ถึงกว่า 50%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่จำนวนยอดคนเล่นเพลง “น่ารักมั้ยไม่รู้” บน LINE VOOM ในแต่ละวันสูงกว่าเพลงที่โปรโมตในช่วงเดียวกันถึง 3 เท่า และคลิปเอ็กซ์คลูซีฟน่ารักๆ รวมถึงมีม (Meme) ที่ช่วยฮีลใจใครหลายคนอย่าง "คนที่ทำให้มัมหมีเสียใจ น้องกินเข้าไปแล้วนะ” ก็ถูกนำไปแชร์ต่ออย่างล้นหลาม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ คอนเทนต์น้องเนยบนรายการ POPCORNER ของ LINE TODAY ยังได้รับยอดคนกดหัวใจสูงถึง 100,000 ครั้ง ภายใน 7 นาทีแรก และมีการส่งข้อความแชทมากที่สุดของรายการ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยกลยุทธ์ Fandom Marketing ที่เข้มข้นผ่านการจับมือกับ LINE แพลตฟอร์มที่ครองใจคนไทย ทำให้น้องเนยแห่ง Butterbear สามารถกุมหัวใจเหล่ามัมหมีและพ่อหมี ไปพร้อมๆ กับการตอบโจทย์แบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม แฟนๆ จึงเห็นน้องเนยมีอะไรใหม่มาให้เซอร์ไพรส์เรียกรอยยิ้ม และยัง “ทำถึง” และ “ได้ใจ” แฟนๆ ได้ตลอดเวลา ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก&nbsp;<a target="_blank" href="https://www.facebook.com/profile.php?id=100093270674072" alt="Butterbear.th">Butterbear.th</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/tat-new-campaign-butterbear-apo" alt="ททท. ดึง ‘น้องหมีเนย-อาโป’ ร่วมแคมเปญใหม่ หวังดึงคนไทย-ต่างชาติเที่ยวไทยแบบ Cute Cute">ททท. ดึง ‘น้องหมีเนย-อาโป’ ร่วมแคมเปญใหม่ หวังดึงคนไทย-ต่างชาติเที่ยวไทยแบบ Cute Cute</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ปรากฏการณ์ ‘ด้อมน้องเนย’ LINE OpenChat เปิดตัวเดือนเดียว มีมัมหมี-พ่อหมีเป็นสมาชิกกว่า 30,000 คน

<h2>ปี 2023 มีเรื่องราวและความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในแง่ของกระแสสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ บางอย่างดำเนินต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า บางอย่างเกิดขึ้นเป็นเทรนด์ใหม่ LINE ประเทศไทยเลยขอสรุป 12 เทรนด์ฮิตชีวิตดิจิทัลประจำปี 2023 มาให้แบบครบจบในที่เดียว พบ “เอไอ - หมูกรอบ – พระแม่ลักษมี - เลือกตั้ง” ครองความนิยมสูงสุดในหมู่คนไทยผ่านบริการต่างๆ บนแอป LINE</h2> 1.คนไทยใกล้ชิดและเข้าถึง AI มากขึ้นกว่าเคย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เห็นได้จากกระแสบนโลกโซเชียลในเรื่องของการใช้ AI ช่วยทำงานในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกันกับ LINE ที่เข็นฟีเจอร์บน Profile Studio ใช้ AI ในการสร้างสรรค์รูปภาพโปรไฟล์หลากหลายสไตล์ ทั้ง AI วัยทีน, AI เบบี้, AI พอร์ตเทรต, AI เซลฟี่ และ AI คริสต์มาส ออกมาใหม่อย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ LINE OpenChat ก็ปล่อยฟีเจอร์ Message Summary ใช้ AI ช่วยสรุปข้อความในห้องโอเพนแชทที่ช่วยให้ตามเรื่องราวในกลุ่มทัน และมีแนวโน้มว่า AI จะมีบทบาทในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตดิจิทัลมากยิ่งขึ้น 2.เลือดกรุ๊ปบี - เพลงเคป๊อบ เขย่าวงการเสียงรอสาย – เรียกเข้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เลือดกรุ๊ปบี (B Blood Type) โดย CHRRISSA, ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง (ดอกไม้ฤดูหนาว) โดย เรนิษรา, ดาวหางฮัลเลย์ โดย fellow fellow และ วาสนาผู้ใด – Parkmelody ขึ้นแท่นเพลงฮิตไวรัลตลอดปี 2023 คว้ารางวัล BLACK MELODY ที่สุดแห่งเพลงฮิตรอสาย - เรียกเข้าบน LINE MELODY ทั้งยังเป็นปีที่ค่ายเพลงอินเตอร์พาเหรดขนเพลงให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้ง SM True, Universal Music (Thailand), Sony Music Thailand และ YG PLUS INC. 3.“เลือกตั้ง 66” ตื่นตัวทุกหัวระแหง คนรุ่นใหม่สนใจการเมืองพุ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เห็นได้จากช่วงเลือกตั้ง 66 ที่ผ่านมา จากสถิติบน LINE TODAY ที่เกาะติดสถานการณ์เลือกตั้งจากพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตชั้นนำ พบคนแห่ดูไลฟ์ดีเบตดุเดือด ดันยอดไลฟ์พุ่งสูงถึง 57% สูงขึ้นกว่า 27 เท่า จากช่วงก่อนเลือกตั้ง ขณะที่ยอดเพจวิวจากคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้นถึง 67% โดยเฉพาะในช่วง 13-14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเลือกตั้ง ก็พายอดวิวแตะนิวไฮพุ่งสูงเกิน 100 ล้าน&nbsp; &nbsp; นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนกลุ่มผู้ใช้ต่ำกว่าอายุ 20 ปี เพิ่มขึ้น 63% บริโภคคอนเทนต์ประเภทดังกล่าวมากขึ้นเฉลี่ย 67% เป็นนัยยะของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการเมืองจริงจังมากขึ้น 4.สินค้า ไอดอล - อาร์ตทอย ทำช็อปปิ้งออนไลน์คึก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สินค้าขายดีทำวงการช็อปออนไลน์คึกคักในปีที่ผ่านมา ที่น่าจับตามองเห็นจะเป็นหมวดไลฟ์สไตล์ในกลุ่มสินค้าและร้านค้าจากเหล่าศิลปินคนดังทั้งไทยและเทศ ทั้ง K-Pop, T-Pop และนักแสดงไอดอลคู่จิ้นมากมาย รวมถึงบัตรคอนเสิร์ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ประเภทสินค้าที่ถูกค้นหามาแรงที่สุดตกเป็นของสินค้าในหมวด “อาร์ตทอย” และร้านค้าสายแฟนด้อมที่มากขึ้นชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น crybaby, rubsarb, velence, ninetytwo, หรือ anwyll เรียกได้ว่า LINE SHOPPING กลายเป็นอีกแหล่งช็อปของสินค้าที่เน้นฐานแฟนไปโดยปริยาย 5.หมูกรอบ – หม่าล่า ขึ้นแท่นจานโปรดใหม่คนไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฟาก LINE MAN ตัวจริงทุกเรื่องกินของคนไทย ก็พบว่าเมนูเดลิเวอรีที่เพิ่มขึ้นสูงสุดตลอดปีที่ผ่านมา ได้แก่ หมูกรอบคั่วพริกเกลือ, หม่าล่า, กะเพราหมูกรอบ, สารพัดเมนูใบเหลียง และกากหมู ขณะที่ “ส้มตำ” ก็ยังคงรั้งตำแหน่งเมนูที่มียอดสั่งสูงสุดบนแพลตฟอร์มติด 2 ปีซ้อน ทะลุ 18 ล้านจาน สูงกว่าปีที่แล้ว 2.6 เท่า! 6.คนเก็บเงินเพื่อลูกมากที่สุด ครองฟินเทคบน LINE&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;LINE BK พบผู้ใช้ออมเงินดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดเพื่อ 3 จุดประสงค์ อย่าง เก็บเงินเพื่อลูก, เก็บเงินเพื่อความมั่งคั่ง และเก็บเงินเพื่อการท่องเที่ยว ขณะที่ด้านบริการให้กู้เงิน พบว่าผู้ใช้กู้ไปเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว, เป็นวงเงินสำรองยามฉุกเฉิน และ เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือกระแสเงินสดสำรองในธุรกิจตามลำดับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ Rabbit LINE Pay ก็ฝากบอกว่าได้เปลี่ยนชื่อบริการใหม่เป็น “LINE Pay” แล้ว ภายใต้การดูแลใหม่ LINE MAN Wongnai และ LINE ประเทศไทย พร้อมเชื่อมบริการเข้ากับระบบนิเวศ LINE ขยายการเชื่อมต่อร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Wongnai และบริการอื่นๆ 7.I Told “พระแม่ลักษมี” About You กันรัวๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หนึ่งในเทพที่ได้รับการกล่าวถึงในหมู่คนไทยมากที่สุดในปีนี้ เห็นจะเป็น “พระแม่ลักษมี” เห็นได้จากวันที่ผู้ใช้งานบริการ LINE ดูดวง เข้ามาขอพรออนไลน์มากที่สุดคือวัน วาราลักษมี วรัทตัม ซึ่งเป็นวันมงคลในการขอพรพระแม่ลักษมี เทวีแห่งความงดงาม มั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์ทั้งเรื่องการงาน การเงิน หรือความรัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่บริการเพื่อการบริจาคนั้นพบว่าโครงการที่ได้รับยอดระดมทุนบริจาคมากที่สุดของปีนี้คือ โครงการสร้างห้องความดันลบ ARI โรงพยาบาลเด็ก และ โครงการช่วยสุนัข-แมวแก่และพิการ 8.คนเหงา - นางงาม ด้อมคึกคักไม่ขาดตอน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;LINE OpenChat ก็ยังคงตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อสารพัดแฟนด้อมของคนไทย โดยเฉพาะสายนางงาม ที่ยังเติบโตไม่แผ่ว เพราะในปี 2023 มีการรวบรวมว่ามีผู้ใช้ในสายนี้รวมกว่า 200,000 คน เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวจากทุกเวทีไม่ขาดตอนกันตลอด 24 ชม. ไม่ใช่แค่ช่วงประกวดเพียงอย่างเดียว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันก็พบว่าห้องโอเพนแชทประเภท “หาเพื่อน พูดคุย สไตล์คนเหงา” ก็มีการใช้ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Live talk ตั้งห้องพูดคุยด้วยเสียงเฉลี่ยถึง 1,200 ครั้งต่อเดือน 9.ลูกทุ่ง - บ้านเกิด แนวคอนเทนต์ที่ไม่ควรมองข้าม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เห็นได้จากเป็นแนวคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมไม่เคยแผ่วบน LINE VOOM แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น โดยเพลงลูกทุ่ง เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมเฉลี่ยจากผู้ใช้ทั่วประเทศสูงสุดจากทุกเพศ ทุกวัย สอดคล้องกับแคมเปญ “ใครไม่เกิด บ้านเกิด” ที่ปลุกความภูมิใจของดีท้องถิ่นทั่วไทย ที่สามารถคว้ารางวัล รางวัล Best Apps &amp; Platforms Influencer Campaign จากเวที Thailand Influencer Awards 2023 ที่ผ่านมาได้ 10.หลากอารมณ์กับเรื่องงาน พูดตรงๆ ไม่ได้ ก็ส่งสติกเกอร์เอา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน LINE STICKERS ก็ออกมาเผยเทรนด์สติกเกอร์มาแรง พบสติกเกอร์แนวโหมดทำงานนั้นฮิตติดใจชาวออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ วัยทำงานทุกคน เพราะช่วยสื่อสารข้อความและอารมณ์แทนการพิมพ์ข้อความตรงๆ ได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นสติกเกอร์แนวจิกกัดขำขัน ที่เปิดโอกาสให้คนเราเลี่ยงที่จะพูดสิ่งนั้นตรงๆ ได้อย่างมีอารมณ์ขัน ยิ่งเมื่อปล่อย LINE STICKERS PREMIUM ระบบสมาชิกให้ใช้สติกเกอร์ไม่อั้นได้แล้วด้วย ก็ยิ่งกระตุ้นให้การพูดด้วยสติกเกอร์สนุกยิ่งขึ้นไปอีก 11.เว็บตูนต่อคิวรอทำเป็นหนัง – ซีรีส์ อีกเพียบ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท็อป 5 สำหรับ LINE WEBTOON ยอดนิยมสูงสุดได้แก่ Lookism, ชาตินี้น้องขอเป็นราชินี, ช่วยเปลี่ยนฉันที, การศึกษาที่แท้จริง และ การแต่งงานครั้งใหม่ของจักรพรรดินี โดยในปีนี้มีเว็บตูนทั้งหมด 28 เรื่องได้ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมชัน ภาพยนตร์ ซีรีส์ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเรื่อง Doona ที่ถูกนำไปทำเป็นซีรี ส์บน Netflix และ อนิเมชัน บน BiliBili ในจีนอีกด้วย 12.LINE GAME ยอดนิยมแห่งปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เกม Lets Get Rich ขึ้นแท่นเกมยอดนิยมแห่งปี และมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกมากที่สุด แถมแผนที่โลกถูกเล่นเฉลี่ยต่อวันกว่า 3 แสนครั้ง มากกว่าจำนวนเที่ยวบินทั่วโลกรวมกันโดยเฉลี่ย ถึง 3 เท่า!

สรุป “12 เทรนด์ฮิตชีวิตดิจิทัล 2023” โดย LINE ประเทศไทย “เอไอ-หมูกรอบ-พระแม่ลักษมี-เลือกตั้ง” ครองที่สุดแห่งปี

<h2>ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ความสนใจใช้แพลตฟอร์ม LINE ทำธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่เว้นกระทั่งแบรนด์สินค้าหรู ธุรกิจกลุ่มนี้เมื่อก่อนนิยมมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ลูกค้าในรูปแบบออฟไลน์เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการหันมาทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จำนวนการเปิด LINE Official Account (LINE OA) ของแบรนด์สินค้าหรูระดับโลกในไทยเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อเร็วๆ นี้ LINE ประเทศไทยจึงจัดงานสัมมนาพิเศษ LUXURY Day 2023 ชวนผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการตลาดและแบรนด์ลักชูรีมาร่วมแบ่งปันอินไซต์ต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ศุภวดี จึงเจริญสุขยิ่ง ที่ปรึกษาธุรกิจสินค้าหรู LINE ประเทศไทย ได้เผยว่า LINE เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลยอดนิยม ที่เข้าถึงคนไทยกว่า 54 ล้านคนในปัจจุบัน และสามารถเข้าถึงคนไทยทุกช่วงวัย โดยเฉพาะวัยทำงานผู้มีกำลังซื้อในตลาดสินค้าหรู&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากตัวเลขล่าสุด พบว่ามีจำนวน LINE OA ของแบรนด์สินค้าหรูเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 20% พร้อมจำนวนผู้ใช้งานติดตาม LINE OA ของกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 40% โดยกว่า 70% เป็นผู้หญิง ในกลุ่มช่วงอายุระหว่าง 30-39 ปีเป็นหลัก ตามด้วยกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป และกลุ่มอายุ 40-49 ปี ตามลำดับ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/ANd8RKw4HKSYfhjchJGY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ANd8RKw4HKSYfhjchJGY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="1920,1080" style="width: 100%;" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม การใช้งานบน LINE ของแบรนด์สินค้าหรูในประเทศไทย ยังอยู่ในรูปแบบที่จำกัดหากเทียบกับธุรกิจกลุ่มอื่นๆ จึงยังมีโอกาสอีกมาก สำหรับแบรนด์สินค้าหรูที่จะใช้งาน LINE อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือและฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของ LINE ในเรื่องการเก็บข้อมูลลูกค้า และดำเนินกลยุทธ์ Personalization หรือการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวแก่ลูกค้าแต่ละคน LINE ผู้ช่วยแบรนด์หรู สู่ Personalized Marketing&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;จุดเด่นของ LINE ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสื่อสารเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นช่องทางการขายสินค้าและบริการในรูปแบบต่างๆ รวมถึงเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ของลูกค้ามาวิเคราะห์ทำความรู้จักผ่านเครื่องมือ LINE OA, ทำโฆษณาผ่าน LINE Ads, บริหารจัดการข้อมูล MyCustomer และ Business Manager ตลอดจนออกแบบกลยุทธ์ผ่าน LINE API ทำการตลาดแบบ Personalization ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างรู้ใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย 2 ปัจจัยสำคัญในการใช้งาน LINE OA สร้างความสำเร็จสำหรับแบรนด์หรู ได้แก่​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/QQ3QaWecRHVhVJBAAuTv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="QQ3QaWecRHVhVJBAAuTv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="1707,960" style="width: 100%;" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. สร้าง Utility ที่ตอบโจทย์ ตรงตามความคาดหวังของลูกค้า โดยแบรนด์ควรต้องมีการเก็บข้อมูลลูกค้ามาก่อน เพื่อการแยกแยะกลุ่มลูกค้าได้ถูกต้องและชัดเจน โดยแต่ละกลุ่ม ควรได้รับการสื่อสารและบริการบน LINE OA ที่แตกต่างกันไป ผ่านตัวช่วยสำคัญอย่าง LINE Messaging API &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. สร้างการสื่อสารแบบ Personalized ในระดับบุคคล อันประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ เริ่มจาก การวางแผนการใช้ข้อมูล (Planning Data), การเก็บข้อมูล (Collect Data), การแบ่งกลุ่มข้อมูล (Segment Data), การออกแบบการสื่อสารเฉพาะบุคคล (Personalized Communications) และ การนำข้อมูลที่เก็บได้ทั้งหมดไปใช้ประโยชน์สูงสุด (Optimized Communications)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเดินหน้าเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แบรนด์ต้องปรับตัวให้ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์สินค้าหรูที่ต้องอาศัยความใส่ใจในการสร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า ซึ่ง LINE ถือเป็นทางเลือกทรงประสิทธิภาพช่องทางหนึ่ง เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/marketing/news/fsmart-taobin-counter" alt="FSMART เตรียมเปิด “เต่าบิน เคาน์เตอร์” สถานีชาร์จ EV มีขายอาหาร-เครื่องดื่ม">FSMART เตรียมเปิด “เต่าบิน เคาน์เตอร์” สถานีชาร์จ EV มีขายอาหาร-เครื่องดื่ม</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

LINE เผยแบรนด์ลักชูรีปรับตัวยุคดิจิทัล ทำการตลาดผ่าน LINE OA มากขึ้น

<div class="se-component se-video-container __se__float-none" contenteditable="false" style="width: 100%;"><figure style="width: 100%; height: 56.25%; padding-bottom: 56.25%; margin: 0px;"><iframe frameborder="0" allowfullscreen="" src="https://www.youtube.com/embed/fYM_JhQSLBg" data-proportion="true" data-percentage="100%,56.25%" data-size="100%,56.25%" data-align="none" style="width: 100%; height: 100%;" data-index="1" data-file-name="fYM_JhQSLBg" data-file-size="0" data-origin="100%,56.25%"></iframe></figure></div> พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา&nbsp;กับความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่อ Line ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 ในปีนี้เขาตั้งเป้าหนุนธุรกิจผู้ประกอบการ SME ผ่าน Line Shopping พร้อมขยายฐานการรับรู้ให้องค์กรภาครัฐหันมาใช้ Line Official Account แทนการสร้างแอปสื่อสารกับประชาชนผู้ใช้งานบริการต่างๆ ได้อย่างตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น​

พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ความท้าทายของ Line ประเทศไทย ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

<h2>	การประกาศวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ของ LINE ประเทศไทย จากงาน LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความมุ่งมันในการพัฒนาบริการ เพื่อยกระดับชีวิตและการดำเนินธุรกิจของคนไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมุ่งสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” ด้วยโร้ดแมปโซลูชั่นและเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อขยายศักยภาพ เพิ่มความสามารถในการทำธุรกิจให้ผู้ประกอบการ นักการตลาดไทย อันประกอบไปด้วย 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้</h2> พัฒนาเครื่องมือจัดการดาต้า ให้ตอบโจทย์ได้หลากหลาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน LINE มีเครื่องมือหลักในการช่วยแบรนด์จัดการบริหารดาต้า คือ MyCustomer ซึ่งได้พัฒนาสู่บทบาทการเป็น Data Processor ให้กับแบรนด์ได้อย่างเต็มตัว ช่วยให้แบรนด์สามารถบริหารจัดการ 1st Party Data ที่ได้มาอย่างเต็มประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยความสามารถในการควบคุมขอบเขตการจัดการดาต้า ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขระยะเวลาและขอบเขตที่ผู้บริโภคยินยอม ช่วยให้แบรนด์ นักการตลาดไทย สามารถใช้ดาต้าได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล พัฒนาสู่การสื่อสาร การตลาดต่างๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น การทำ Retargeting และ การทำ CRM ที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าอย่างแท้จริง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/YmCzm4WMYP3ds2dWiwUM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="YmCzm4WMYP3ds2dWiwUM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;"></figure></div>​​&nbsp; &nbsp; โดย LINE มีแผนเปิดตัวเครื่องมือ MyCustomer ด้าน CRM โดยเฉพาะ ช่วยให้นักการตลาดไทย สามารถจัดกลุ่มลูกค้าจากข้อมูลอินไซต์ที่ได้ เพื่อออกแบบการสื่อสาร ทำการตลาดด้าน CRM ให้โดนใจ รวมไปถึงการสร้างกลุ่มลูกค้า Lookalike เพื่อนำมาขยายฐานหาลูกค้าใหม่ๆ หรือบรอดแคสต์โปรโมชั่นไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เริ่มออกห่างจากแบรนด์ไป ให้กลับมาสนใจแบรนด์ได้อีกครั้ง โดยฟีเจอร์เบื้องต้นที่จะเพิ่มเข้ามา คือ การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามคะแนนสะสม (Point Management) การแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อสิทธิพิเศษ (Reward Management) และการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามระดับ (Tier Management)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และไม่ใช่สำหรับธุรกิจใหญ่เท่านั้น LINE ยังมีแผนเปิดตัวเครื่องมือ MyCustomer สำหรับกลุ่ม SME ไทย ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย สามารถใช้ดาต้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้ โดยมีกำหนดการเปิดตัวภายในครึ่งปีแรกของปี 2567 เพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาบน LINE ให้แม่นยำ ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(1) Persona Targeting เครื่องมือช่วยเลือกกลุ่มเป้าหมายยิงโฆษณา จากลักษณะและพฤติกรรมเฉพาะของผู้ใช้ ได้แก่ ความสนใจ แนวโน้มการใช้จ่าย และพฤติกรรมผู้ใช้ นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น ผล CTR เพิ่มขึ้นถึง 63% CRV เพิ่มขึ้นถึง 22% CPA ลดลงถึง 35% และ CPC ลดลง 23%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในอนาคต LINE มีแผนพัฒนา Persona Targeting เพื่อให้แบรนด์สามารถระบุลักษณะเฉพาะของกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดและลึกขึ้น อาทิ พฤติกรรมการใช้จ่าย เช่น กำลังซื้อโดยเฉลี่ย วิธีการชำระเงิน พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ เช่น ช้อปบ่อยแค่ไหน ช้อปครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ และกลุ่มสินค้าที่มักช้อปบนออนไลน์ เช่น สินค้าแฟชั่น สุขภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ช่วยให้การยิงโฆษณาบน LINE เป็นไปอย่างแม่นยำ คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/oV88QDU2qY2V9MJueoVN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="75%," data-align="center" data-index="1" data-file-name="oV88QDU2qY2V9MJueoVN.jpg" data-file-size="0" origin-size="1921,2275" data-origin="1050px,1244px" style="width: 100%;" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75,"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(2) การนำ 3rd Party Data เข้ามาเสริมทัพการยิงโฆษณาบน LINE ด้วยความร่วมมือกับ ADA Thailand ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำและครอบคลุมขึ้น โดยได้ผลตอบรับอันน่าพึงพอใจจาก 3 กลุ่มธุรกิจที่ได้ลองใช้งาน ด้วยผล CPA จากกลุ่มธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน ลดลง 51% กลุ่มธุรกิจเทคฯ และการสื่อสาร ลดลง 67% และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ลดลง 56% ตามลำดับ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(3) การนำดาต้าจาก LINE SHOPPING มาเป็นกลุ่มเป้าหมายยิงโฆษณา ปลดล็อคข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยความสามารถใหม่อย่าง Conversion Ad for LINE SHOPPING ช่วยให้แบรนด์ที่ลงโฆษณาผ่าน LINE Ads สามารถติดตามพฤติกรรม อินไซต์เส้นทางการช้อปของลูกค้าบน LINE SHOPPING ได้! เพื่อนำมาจัด จำแนกเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับยิงโฆษณาผ่าน LINE Ads ได้ตรงกลุ่ม ตรงใจ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างระบบการติดตาม การแสดงผลต่างๆ เองให้วุ่นวาย เพราะ LINE ได้สร้างระบบดังกล่าวรองรับไว้ให้แล้ว! เปิดการเชื่อมต่อ API &amp; Plug-in อย่างหลากหลาย ธุรกิจไทยเลือกใช้โซลูชั่นได้ตรงจุด &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ส่วนใหญ่ จะเป็นเครื่องมือสำหรับการใช้งานโดยนักพัฒนาไทย แต่หากแบรนด์และนักการตลาดรู้จักประโยชน์จากการใช้งานเบื้องต้นได้ นับเป็นบันไดสู่ความร่วมมือภายในองค์กรที่ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(1) LINE SHOPPING API เครื่องมือใหม่ที่เพิ่งเปิดให้นักพัฒนาจากแบรนด์และร้านค้า สามารถเชื่อมต่อ API ต่างๆ เพื่อพัฒนาระบบการขายบน LINE SHOPPING ได้ง่าย สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็น API ด้านการจัดการข้อมูลสินค้าอย่าง Product API ด้านการจัดการสต๊อกอย่าง Inventory API เป็นต้น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยปัจจุบัน มีร้านค้าที่ใช้งาน LINE SHOPPING API อยู่ไม่น้อย โดยสามารถสร้างออเดอร์ได้มากถึง 16% และ GMV สูงถึง 22% เมื่อเทียบกับสถิติร้านค้าโดยรวมบน LINE SHOPPING โดย LINE มีแผนพัฒนา LINE SHOPPING API ตัวใหม่ ช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดการการขายบน LINE SHOPPING ได้สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(2) LINE OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นเสริมประสิทธิภาพกลุ่มเครื่องมือ LINE OA Plus อันได้แก่ MyCustomer, MyShop และ MyRestaurant ถือเป็นแหล่งขุมทรัพย์ใหม่ สำหรับภาคธุรกิจ นักการตลาดไทย ในการสรรหา เลือกใช้เครื่องมือจากนักพัฒนาทั่วไป มาเพิ่มศักยภาพเชิงลึกให้การทำธุรกิจบน LINE ได้หลากหลาย ตรงความต้องการ โดยมีแผนเปิดตัวในปีหน้า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/ioVvTsVgTAgZpkSVoCXD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="ioVvTsVgTAgZpkSVoCXD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจาก 3 กลุ่มเครื่องมือข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือการเปิดตัว LON หรือ LINE Official Notification บริการข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE OA โดยอาศัยข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ผู้ใช้ มีจุดเด่นคือสามารถส่งหาคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกับ LINE OA ได้ เพื่ออัปเดตสถานะและแจ้งเตือน อาทิ ยืนยันการชำระเงิน ยืนยันการจอง แจ้งการให้บริการสำเร็จ เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากมีความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าไม่เป็นข้อความปลอมหรือหลอกลวงแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการเพิ่มเพื่อนให้กับ LINE OA ของแบรนด์ได้อีกด้วย&nbsp; &nbsp;&nbsp;เหล่านี้ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับภาคธุรกิจไทย ที่ LINE มุ่งมั่นสร้างสรรค์ พัฒนาขึ้น เพื่อให้ธุรกิจยุคใหม่ สามารถใช้ประโยชน์จากดาต้าและเทคโนโลยีบน LINE เพื่อการเติบโตบนโลกดิจิทัลได้เต็มศักยภาพขึ้นกว่าเดิม อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71397" alt="New Balance เปิดแฟลกชิปสโตร์คอนเซ็ปต์ล้ำแห่งใหม่ในประเทศไทย">New Balance เปิดแฟลกชิปสโตร์คอนเซ็ปต์ล้ำแห่งใหม่ในประเทศไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เจาะลึกโร้ดแมปโซลูชั่นใหม่จาก LINE โอกาสทองของธุรกิจและการตลาดไทยเติบโตได้ด้วยเทคโนโลยี

<h2>ตุ๊กตาสีสันสดใสขนาดเท่าคนจริง Moon, Leonard, Sally, Brown และ Cony ยืนต้อนรับผู้มาเยือนสำนักงาน LINE Thailand บนชั้น 41 ของอาคาร Empire Tower ด้วยรูปลักษณ์ที่ยิ้มแย้ม ท่วงท่าที่เป็นมิตรของ LINE Characters เหล่านั้น ทำให้อดไม่ได้ที่ต้องไปโพสต์ท่าถ่ายรูปด้วย พร้อมส่งภาพไปทาง LINE กลุ่มกองบรรณาธิการ Forbes Thailand</h2>
เราเลือกมานั่ง “ดื่มกาแฟ” พร้อม cupcakes ลาย Brown กับนายใหญ่ของในสำนักงาน LINE Thailand ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความสนุกสนาน เหมาะกับธุรกิจที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวขับเคลื่อน ไม่นานนักเจ้าของบ้านดีกรีปริญญาเอก วัย 39 ปี “รัฐศาสตร์ กรสูต” Country Manager แห่ง LINE ประจำประเทศไทย ก็มาพบเราในห้องประชุมกระจกใสที่ชื่อห้อง Cony

สำหรับหลายคนแล้วจะคุ้นเคยเขาในชื่อ “เปปเปอร์ ยูเอชที” ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงในปี 2537 ในนามบอยแบนด์ “ยูเอชที” เขาจบรัฐศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนคว้าปริญญาโทด้านวิศวกรรมซอฟแวร์จาก Depaul University สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้ามาเป็นผู้บริหาร LINE Thailand เขาอยู่ที่ Sanook.com เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ในตำแหน่ง Vice President - Head of Portal and Business Development

&nbsp;

เพิ่ม “รสชาติ” ให้ LINE กับ “Dr. Pepper” รัฐศาสตร์ กรสูต

<div>
	4 กุมภาพันธ์ 2558 - ในวันนี้ คงยากที่จะบอกว่า LINE เป็นเพียง app ส่งข้อความ หลังเปิดตัว &ldquo;ซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์&rdquo; ในประเทศไทยเป็นตลาดแรก แม้แต่ Forbes.com ยังต้องสนใจกับทิศทางการเติบโตของโปรแกรม chat ยอดนิยมฝั่งเอเชีย 
	&nbsp;</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	หลังประสบความสำเร็จจากการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเล่มเกม สนทนา และส่งสติ๊กเกอร์ ในวันนี้ LINE เริ่มรุกสู่บริการใหม่ จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคแบบส่งตรงถึงบ้าน โดยเริ่มต้นในประเทศไทยเป็นที่แรก หลังจากปีที่ผ่านมา คู่แข่งสำคัญอย่าง WeChat ก้าวสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบริการจัดส่งอาหารไปก่อนแล้ว</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	จากโปรแกรม chat เล็กๆ ที่ไว้ใช้เฉพาะสื่อสารพูดคุย มาวันนี้กลับพัฒนาตัวเอง แตกกิ่งก้านกลายเป็นแพลตฟอร์มรองรับผู้ใช้งานหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะใช้ติดต่อสื่อสาร เล่นเกม ซื้อของ ไปจนถึงเรียกรถแท็กซี่</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	การขยายฐานบริการให้กว้างขวางก็เพื่อหาช่องทางสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น เนื่องจากรายได้หลักอย่างการขายโฆษณาทาง mobile ads นั้น ถูกยึดครองโดยเครือข่ายสังคมออนไลน์เช่น Facebook ไปเสียแล้ว และอาจดูไม่ดีนักสำหรับโปรแกรมส่งข้อความ เพราะไม่มีผู้ใช้งานคนใดอยากเห็นแบนเนอร์โผล่ขึ้นมา ขณะกำลังพิมพ์ข้อความส่งหาเพื่อนๆ เป็นแน่ &nbsp;อย่างไรก็ดี LINE ยังทำรายได้ในปี 2013 ถึง 338 ล้านเหรียญ จากการขายเกมและสติ๊กเกอร์ดิจิทัล</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	ก้าวต่อไปของ app สนทนายอดนิยม ที่มีผู้ใช้งานตกเดือนละ 181 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอยู่ในญี่ปุ่นและทวีปเอเชีย ก็คือการลงสนามธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เช่นเดียวกับคู่แข่ง WeChat</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	บริการร้านชำออนไลน์ &ldquo;ถูกชัวร์ชัวร์&rdquo; (Cheap Sure Sure) ของ LINE เริ่มเปิดเป็นทางการแล้ว 4 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะเน้นสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำดื่ม กาแฟ และบะหมี่สำเร็จรูป ในราคาที่มีส่วนลดและบริการส่งฟรี เริ่มเปิดบริการเฉพาะประเทศไทย ซึ่งมีผู้ใช้งานเป็นประจำถึง 33 ล้านรายเป็นที่แรก โดยยังไม่ได้เปิดเผยแผนการว่าจะขยายไปยังตลาดอื่นๆ เช่นญี่ปุ่นหรือไม่</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและสั่งอาหารออนไลน์ได้กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญใน app ที่มีคนใช้งานเป็นจำนวนมากไปแล้ว เช่น WeChat ในประเทศจีน ซึ่งมีผู้ใช้งานตกเดือนละ 467 ล้านราย และความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพันธมิตรที่เข้มแข็งด้วย ในเดือนมีนาคม 2014 &nbsp;Tencent บริษัทแม่ของ WeChat เข้าซื้อหุ้น 15% ใน JD ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซอันดับสองของจีน รองจาก Alibaba โดยให้ JD เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายเฉพาะบนแพลตฟอร์ม WeChat &nbsp;ต่อมาในเดือนธันวาคมก็เริ่มเปิดบริการสั่งอาหารออนไลน์ ด้วยความร่วมมือกับ Foodpanda&nbsp;</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	ล่าสุด KakaoTalk ซึ่งมีผู้ใช้งาน 50 ล้านรายในเกาหลีใต้และบางประเทศในอาเซียน ก็ยอมรับเช่นกันว่ากำลังมีแผนการเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่มี Coupang หรือ &ldquo;Amazon ของเกาหลีใต้&rdquo; เป็นเจ้าตลาด จะเห็นได้ว่าโปรแกรม chat แต่ละรายอาศัยความได้เปรียบจากฐานผู้ใช้งานที่มีเป็นหลักล้าน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่แต่อย่างใด&nbsp;</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	สำหรับ LINE Thailand เคยทดลองลงตลาดอีคอมเมิร์ซมากว่าหนึ่งปีแล้ว โดยร่วมเป็นพันธมิตร <a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=261">aCommerce ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในอาเซียน</a> ให้ทำหน้าที่ดูแลจัดหา จัดเก็บ และส่งสินค้า &nbsp;จากรายงานของ aCommerce มีสินค้าถึง 8 รายการที่ประสบความสำเร็จ ขายได้หมดในช่วงเวลาไม่นาน มีทั้งเครื่องสำอาง Maybelline และเคสโทรศัพท์ iPhone ของ LINE เอง (ขายหมดใน 25 นาที) มีผู้สั่งซื้อประมาณ 5.5 ล้านราย ในช่วงอายุ 25-34 ปี</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	&ldquo;ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดของเรา และพร้อมที่จะออกไปสู่ระดับภูมิภาคต่อไป&rdquo; Sedong Nam ผู้บริหาร LINE ย้ำ 
	 
	 
	 
	เรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="http://www.forbes.com/sites/parmyolson/2015/02/03/chat-apps-line-delivery-service-ecommerce/?utm_campaign=Forbes&amp;utm_source=TWITTER&amp;utm_medium=social&amp;utm_channel=Technology&amp;linkId=12117198">Chat Apps Battle To Bring Groceries To Your Door</a>&nbsp;โดย Parmy Olson 
	<hr />
	
		 
		ภาพประกอบ: LINE Thailand Page
</div>
<div>
	ข่าวอื่นๆ 
	<ul>
		<li>
			<a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=261">พอล ศรีวรกุล: ปั้น Startups อาเซียนด้วย VC</a></li>
		<li>
			<a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=305">LINE Thailand เตรียมหานายใหม่ หลัง Pepper ย้ายเข้าภาครัฐ</a></li>
	</ul>
</div>
<div>
	 
	&nbsp;</div>

เขย่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ใหญ่เกินกว่าจะ chat

<div>
	LINE Thailand เตรียมหาผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ หลัง "รัฐศาสตร์ กรสูต" หรือ "เปปเปอร์" ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยยื่นใบลาออก มีผลกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อย้ายไปทำงานภาครัฐต้นเดือนมีนาคม รับผิดชอบดูแลด้านเศรษฐกิจดิจิทัล รวมระยะเวลาทำงานกับ LINE Thailand เพียง 8 เดือนเท่านั้น 
	&nbsp;</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	&ldquo;ผู้ใหญ่ของกระทรวง ICT มาชวนไปช่วยงาน ใช้เวลาคิดอยู่นาน จึงตัดสินใจออกมา&rdquo; แหล่งข่าวใน LINE Thailand กล่าวกับ Forbes Thailand 
	 
	ล่าสุด&nbsp;วารดี วสวานนท์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ LINE Thailand กล่าวกับ Forbes Thailand ว่า การลาออกของรัฐศาสตร์มีผลตั้งแต่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ ตามนโยบายของเราที่อยากได้เป็นคนไทย</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	รัฐศาสตร์ เป็นนักร้อง นักแสดง และนายแบบชาวไทย โด่งดังจากเป็นหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ "ยูเอชที" เมื่อปี พ.ศ. 2537 พร้อมกับเป็นนักแสดงสังกัดเอ็กแซ็กท์ เครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Technology เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขาวิชา Computer Business, และหลักสูตรบริหารธุรกิจภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อีกทั้งเคยเป็นผู้อำนวยการเว็บไซต์ sanook.com</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	<a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=265">Dine with the Boss&nbsp;ประจำ&nbsp;Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2558</a> ได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐศาสตร์ ในฐานะผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยของ LINE Thailand ณ สำนักงานชั้น 41 อาคาร Empire Tower ที่เต็มไปด้วยตัวการ์ตูน LINE Characters คอยต้อนรับผู้มาเยือน</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	&ldquo;LINE เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการ localization มาก เขาตั้งใจที่จะให้ธุรกิจของ LINE ดูแลจัดการโดยคนไทย โดยคน local ที่เข้าใจตลาด เข้าใจ user insights นี่คงเป็นสิ่งแรกที่เขามองเห็นในตัวของผม&rdquo; รัฐศาสตร์ให้เหตุผลที่เขาได้รับคัดเลือกเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย ที่เป็นคนไทยคนแรก ตั้งแต่กรกฎาคมปี 2557</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	หลังตัดสินใจออกจาก LINE Thailand เพื่อเข้าทำงานภาครัฐ อีกงานหนึ่งที่รัฐศาสตร์ทำควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2558 แล้ว คือผู้ประกาศข่าวประจำช่อง GMM Channel (GMM25)&nbsp;หนึ่งในสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลของเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร่วมกับคนดังอื่นๆ เช่น นาวิน เยาวพลกุล, วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล, นาเดีย โสณกุล, ศิรนุช โรจนเสถียร, วนิษา เรซ เป็นต้น 
	 
	 
	<div>
		<hr />
		
			อ่านประกอบ: <a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=265">เพิ่ม &ldquo;รสชาติ&rdquo; ให้ LINE กับ &ldquo;Dr. Pepper&rdquo; รัฐศาสตร์ กรสูต</a> 
			 
			&nbsp;
	</div>
</div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events