<h2>MacKenzie Bezos เป็นนักเขียน เป็นพนักงาน Amazon รุ่นบุกเบิก เป็นเศรษฐีพันล้าน และเป็นคนไม่ค่อยพูด</h2>
MacKenzie Bezos ไม่ใช่คนจู้จี้ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดี เนื่องจากว่าไม่มีเวลาสำหรับคนจุกจิกที่สำนักงานใหญ่ของ Amazon ในช่วงต้นปี 1996 เธอนั่งทำงานร่วมกับพนักงานคนหนึ่งในบริเวณที่จัดสรรไว้เป็นห้องครัวของบริษัทด้วย นับเป็นเวลา 12 ชั่วโมงต่อวันที่บรรดาพนักงานพากันเบียดตัวเข้าออกห้องนี้เพื่อใช้งานไมโครเวฟในระหว่างที่เธอกำกับดูแลงานฝ่ายบัญชีของบริษัท ตอนกลางคืน MacKenzie จะมุ่งหน้าไปที่โกดัง เพื่อจัดสินค้าตามคำสั่งซื้อ เธอ “เป็นกำลังสำคัญ”

Mike Hanlon ผู้เป็นพนักงานลำดับที่ 7 ของ Amazon กล่าว “เธอเป็นบุคคลที่มีความสามารถพิเศษอย่างแท้จริงแบบที่ผมคิดว่า เธอน่าจะใช้ชีวิตแบบหลงทาง หากว่าคุณเป็นภรรยาของเศรษฐีพันล้านเช่นนี้”

ความลึกลับรอบตัว MacKenzie วัย 49 ปี ดูเหมือนจะก่อตัวแบบตั้งใจไม่ให้ใครรับรู้ MacKenzie เลือกใช้ชีวิตส่วนใหญ่ราวกับบุคคลไร้ตัวตน หลังจากยุคบุกเบิกของ Amazon และไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ นับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่การหย่าร้างระหว่างเธอกับ Jeff ผู้เป็นสามีกลายเป็นเรื่องที่เปิดเผยต่อสาธารณชน

<img class="alignnone size-full wp-image-26624" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/MacKenzie-Bezos-03.jpg" alt="" width="600" height="400" />

ทั้งคู่หย่าขาดจากกันเรียบร้อยในเดือนกรกฎาคม MacKenzie ได้รับหุ้น Amazon 25% ซึ่งหุ้นส่วนดังกล่าวปัจจุบันมีมูลค่า 3.61 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมากพอที่จะส่งเธอขึ้นสู่อันดับที่ 15 ในทำเนียบ The Forbes 400 ประจำปีนี้

“เธอสมควรจะได้รับหุ้นของบริษัทครึ่งหนึ่ง ในยุคแรก MacKenzie มีความเป็นหุ้นส่วนของบริษัทมากพอๆ กับ Jeff” Nick Hanauer หนึ่งในนักลงทุนคนแรกๆ ของ Amazon กล่าว

ตามบุคลิกที่เกริ่นไว้ MacKenzie จึงไม่ได้เป็นผู้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง เพื่อทำความรู้จักกับตัวเธอให้มากขึ้น เราได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการพูดคุยกับเพื่อน อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียน และอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอกว่า 100 คน แม้ว่าเราจะสัมภาษณ์ผู้คนมากมาย แต่เราก็ยังได้เพียงภาพอันเลือนรางของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีโลกส่วนตัวสูง หากแต่เป็นบุคคลอัจฉริยะและมีความสามารถเป็นเลิศในทุกช่วงชีวิต โดยไม่มีการโอ้อวดใดๆ

MacKenzie เติบโตขึ้นใน San Francisco เป็นลูกคนกลาง และมีพี่น้องอีก 2 คน เมื่ออายุ 6 ปี เธอเขียนหนังสือความยาว 142 หน้า ซึ่งมีชื่อว่า The Book Worm พ่อแม่ของเธอ ซึ่งเป็นนักวางแผนทางการเงิน ได้ส่งเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำใน Connecticut อย่าง Hotchkiss ซึ่งเธอสำเร็จการศึกษาก่อนเกณฑ์ 1 ปี จากนั้น เธอได้เข้าศึกษาต่อที่ Cambridge และ Princeton วิชาเอกภาษาอังกฤษ โดยมีนักเขียนนวนิยายเจ้าของรางวัลโนเบลอย่าง Tomi Morrison เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาในการทำวิทยานิพนธ์

หลังสำเร็จการศึกษา MacKenzie ได้ทำงานที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์อย่าง D.E. Shaw ที่นี่เองที่เธอได้เริ่มคบหากับ Jeff Bezos ซึ่งลาออกเพื่อไปเริ่มต้นธุรกิจ Amazon ในปี 1994 ในระยะแรก MacKenzie เป็นกำลังสำคัญของบริษัท

“ไม่มีพนักงานคนใดที่มีตำาแหน่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ...เธอได้ลงมือทำงานเกือบทุกอย่างในบริษัท” Tod Nelson พนักงานยุคบุกเบิกอีกคนหนึ่งกล่าว

MacKenzie ลดบทบาทลงในช่วงที่ Amazon เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 1997 เพื่อให้ความสำคัญกับการเขียนนวนิยายของตัวเอง เธอเก็บตัวเงียบจนกระทั่งปี 2005 เมื่อ HarperCollins ได้ตีพิมพ์นวนิยายเล่มแรกของเธอ ซึ่งมีชื่อว่า The Testing of Luther Albright ซึ่ง Morrison ชื่นชมว่า “แปลกใหม่” ต่อด้วย Traps นวนิยายเล่มที่ 2 ในปี 2013 เรื่องราวชีวิตบทใหม่ๆ ของเธอหลังจากนั้น ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างนัก

<img class="alignnone wp-image-26616 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/41psq5HkKpL-199x300.jpg" alt="MacKenzie Bezos " width="199" height="300" />

<img class="alignnone wp-image-26617 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/81os7zjHBZL-195x300.jpg" alt="MacKenzie Bezos " width="195" height="300" />

ในปี 2018 เธอและ Jeff ได้บริจาคเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญ เพื่อต่อสู้กับปัญหาคนเร่ร่อน และให้การสนับสนุนสถานศึกษาสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงที่การหย่าร้างของทั้งคู่ใกล้แล้วเสร็จ เธอได้ลงนามในปฏิญญา Giving Pledge ซึ่งให้คำมั่นว่าจะบริจาคทรัพย์สมบัติอย่างน้อยครึ่งหนึ่งให้กับการกุศล และอย่างที่ตัวเธอเป็นมาโดยตลอด MacKenzie ไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียวถึงแหล่งที่มาของเงินบริจาคหลายพันล้านเหรียญ

&nbsp;

เรื่อง: Noah Kirsch เรียบเรียง: ริศา ภาพ: Elena Seibert
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/global/mackenzie-bezos-%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81.html">อ่านเพิ่มเติม: MacKenzie Bezos ขึ้นแท่นเศรษฐินีอันดับ 3 ของโลก หลังรับหุ้น Amazon 3.5 หมื่นล้าน จากการหย่าร้าง</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<div class="single-content-writer-box">

<a href="https://bit.ly/39j1ZrV">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจและบทความที่น่าสนใจได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับมกราคม 2563 ได้รูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/39j1ZrV"><img class="alignnone wp-image-25422 " src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/FB080-EBOOK-RES150_Page_001-229x300.jpg" alt="" width="301" height="394" /></a>

</div>

MacKenzie Bezos กำลังหลักในการก่อตั้ง Amazon

<h2>MacKenzie Bezos อดีตภรรยามหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอย่าง Jeff Bezos ลงนามโครงการการกุศล บริจาคเงินก้อนโตที่ได้จากการหย่า</h2>
MacKenzie Bezos อดีตภรรยาของมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในโลก<a href="https://forbesthailand.com/forbes_lists/jeff-bezos"> Jeff Bezos </a>คือมหาเศรษฐีคนล่าสุดที่ลงนามในคำมั่นภายใต้โครงการการกุศล Giving Pledge ว่าจะบริจาคเงินให้กับการกุศล โดยคาดว่าเธอจะบริจาคเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของ 3.5 หมื่นล้านเหรียญ ที่เธอได้จากการหย่าร้างกับอดีตสามี

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/global/mackenzie-bezos-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.html">MacKenzie Bezos ขึ้นแท่นเศรษฐินีอันดับ 3 ของโลก หลังรับหุ้น AMAZON 3.5 หมื่นล้าน จากการหย่าร้าง</a></li>
</ul>
โดยเธอเข้ามาเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้บริจาค ร่วมกับมหาเศรษฐีคนอื่นๆ อย่าง Mark Zuckerberg, Richard Branson และ Robert F. Smith ตามคำเชิญชวนของ Bill Gates และ Warren Buffet
ในแถลงการณ์ของ Bezos ซึ่งเผยแพร่โดย Giving Pledge ระบุว่า “จำนวนเงินที่จะบริจาคนี้เหมาะสมแล้ว” 
นอกจาก Bezos แล้วยังมีมหาเศรษฐีรายอื่นที่เข้าร่วมลงนามบริจาคด้วย เช่น มหาเศรษฐีจากกองทุนเฮดจ์ฟันอย่าง David Harding  และ Paul Tudor Jones, ซีอีโอบริษัทคริปโตเคอเรนซี Coinbase อย่าง Brain Armstrong และผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp อย่าง Brian Acton เป็นต้น ทำให้ตอนนี้มีผู้ร่วมลงนามมากกว่า 200 คนแล้ว
โครงการเพื่อการกุศล Giving Pledge นั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2010 โดย Bill Gates และ Warren Buffett ในช่วงเริ่มต้นมีเศรษฐีอเมริกา 40 คน มาลงนามแสดงเจตจำนงว่าจะมอบสินทรัพย์มากกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเองให้กับการกุศล โดยโครงการดังกล่าวถูกอธิบายว่าเป็น “คำเชิญที่เปิดกว้างสำหรับมหาเศรษฐี ... เพื่ออุทิศความมั่งคั่งของพวกเขาให้กับสาธารณประโยชน์”


<figure><img class=" wp-image-8224" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/bezos02.jpg" alt="" width="810" height="607" /><figcaption> Credit Photo : PICTURE ALLIANCE VIA GETTY IMAGES</figcaption></figure>
MacKenzie Bezos จะกลายมาเป็นเศรษฐินีอันดับ 3 ของโลกในปลายปีนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงการหย่าร้างระหว่างเธอกับ Jeff Bezos สามีของเธอและผู้ก่อตั้ง Amazon โดยในข้อตกลงดังกล่าว เธอจะได้รับหุ้น Amazon 4% ซึ่งเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2019 มีมูลค่าถึง 3.5 หมื่นล้านเหรียญ
ขณะที่ปัจจุบัน Amazon เป็นบริษัทที่มีมูลค่าในตลาดถึง 8.97 แสนล้านเหรียญ หุ้น 4% ของเธอ ณ ขณะนี้จึงมีมูลค่าสูงกว่าเดิมคือ 3.59 หมื่นล้านเหรียญ
อดีตภรรยามหาเศรษฐีเบอร์ 1 โลกรายนี้ ยังเป็นนักเขียนนวนิยายที่ประสบความสำเร็จ โดยนักเขียนอย่าง Toni Morrison ระบุว่า “เธอเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ดีที่สุดฉันเคยมี”
MacKenzie พบกับ Jeff Bezos  ขณะที่ทั้งคู่กำลังทำงานที่บริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ D.E. Shaw ใน New York จากนั้นทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1993 และมีข่าวหย่าร้างในปีนี้ ซึ่งเธอยืนยันเรื่องการหย่าบนทวิตเตอร์ของเธอ โดยระบุว่า “รู้สึกขอบคุณที่กระบวนการหย่ากับ Jeff เสร็จสิ้น”
ทั้งนี้ จากเงินก้อนใหญ่ที่ได้จากการหย่าร้าง ทำให้เธอกลายเป็นสตรีที่มั่งคั่งเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก<a href="https://forbesthailand.com/forbes_lists/francoise-bettencourt-meyers"> Francoise Bettencourt Meyers</a> เจ้าของ L’Oréal ที่มีความมั่งคั่ง 5.36 หมื่นล้านเหรียญ และ Alice Walton แห่ง Walmart ที่มีสินทรัพย์ 4.71 หมื่นล้านเหรียญ
&nbsp;

แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator

&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li>
<a href="https://www.forbes.com/sites/daviddawkins/2019/05/28/mackenzie-bezos-will-donate-half-her-fortune-to-giving-pledge/?utm_source=TWITTER&amp;utm_medium=social&amp;utm_term=Dottie%2F#79eb5b0931d8">MacKenzie Bezos Will Donate Half Her Fortune To Charity</a>
</li>
</ul>

MacKenzie Bezos อดีตภรรยามหาเศรษฐีอันดับ 1 โลก ลงนามบริจาคเงินก้อนใหญ่

<h2 class="p1">Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Amazon ประกาศเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2019 ว่า เขาจะโอนหุ้นของบริษัทราว 4% ให้กับ MacKenzie Bezos ภรรยาของเขาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเป็นหนึ่งในข้อตกลงแบ่งสินสมรส หุ้นจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ MacKenzie ขึ้นแท่นเศรษฐินีอันดับ 3 ของโลก</h2>
แปลและเรียบเรียงจาก <a href="https://www.forbes.com/sites/angelauyeung/2019/04/04/mackenzie-bezos-to-receive-more-than-35-billion-of-amazon-stock-will-be-worlds-third-richest-woman/#5cd8e6921001">Jeff Bezos To Give 35$ Billion Of Amazon Stock To MacKenzie In Divorce, Making Her World's Third-Richest Woman</a> ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Forbes.com
อันดับความมั่งคั่งของ MacKenzie นั้นจะตามหลัง Froncoise Bettencourt Meyers แห่ง L’Oreal ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่า 5.29 หมื่นล้านเหรียญ และ Alice Walton แห่ง Walmart ที่มีความมั่งคั่ง 4.5 หมื่นล้านเหรียญ นอกจากนี้ MacKenzie ยังกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับที่ 26 ด้วย ส่วน Jeff นั้นจะยังคงเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกต่อไป ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมมากกว่า 1.1 แสนล้านเหรียญ
แม้ว่ายังอยู่ในขั้นตอนการหย่าร้าง แต่คาดกันว่าข้อตกลงการหย่าและแบ่งสินทรัพย์ครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก หลังจากที่ในอดีตเคยมีการหย่าครั้งมโหฬารของมหาเศรษฐี เช่น Steve และ Elaine Wynn ที่ฝ่ายหญิงได้รับสินทรัพย์จากการหย่า 850 ล้านเหรียญ และคู่ของ Bill และ Susan Gross ซึ่งฝ่ายภรรยาได้รับสินทรัพย์ไป 1.3 พันล้านเหรียญ
อ้างอิงจากข้อความ Twitter ของ MacKenzie เธอกล่าวถึงกระบวนการหย่าครั้งนี้ว่า “รู้สึกยินดีที่ขั้นตอนการยุติการแต่งงานระหว่างฉันกับ Jeff ได้สิ้นสุดลง (ฉัน) มีความยินดีที่จะมอบสินทรัพย์ทั้งหมดของฉันใน Washington Post และ Blue Origin รวมถึงหุ้นที่ถือครองร่วมกัน 75% ใน Amazon และสิทธิการออกเสียง (ในที่ประชุมกรรมการบริษัท) ให้กับเขา เพื่อสนับสนุนเขาในการช่วยเหลือทีมงานของบริษัทอันมหัศจรรย์นี้ต่อไป”
ทั้งคู่ยื่นเรื่องหย่าร้างไปเมื่อวานนี้และคาดว่าจะมีผลอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้ นอกจากการโอนหุ้นต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ในเอกสารยังระบุด้วยว่า Jeff Bezos จะเป็นผู้ควบคุมสิทธิออกเสียงในหุ้นส่วนของ MacKenzie ต่อไป ยกเว้นแต่ว่าเธอได้ขายหุ้นกลับคืนตลาดหุ้นหรือยกหุ้นส่วนนั้นให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร ถ้าหากเธอเลือกโอนหุ้นอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้รับโอนหุ้นจะต้องเซ็นข้อตกลงเดียวกันเพื่อให้ Jeff เป็นผู้มีสิทธิในการออกเสียงแทน


<figure><img class="wp-image-3580 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/063_173376072.jpg" sizes="(max-width: 768px) 100vw, 768px" srcset="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/063_173376072.jpg 768w, http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/063_173376072-300x222.jpg 300w" alt="" width="768" height="569" /><figcaption> MacKenzie และ Jeff Bezos (PHOTO CREDIT: Kevork Djansezian/Getty Images/AFP)</figcaption></figure>

ประเด็นการหย่าร้างของทั้งคู่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากการสมรสอันยาวนานกว่า 25 ปี การแยกทางกันของคู่สามีภรรยา Bezos เป็นที่ฮือฮาอย่างมากหลังหนังสือพิมพ์ National Enquirer ลงภาพการส่งข้อความหากันของ Jeff กับ Lauran Sanchez ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ 

ทำให้ Jeff เลือกเขียนจดหมายเปิดผนึกกล่าวโจมตี American Media Inc. เจ้าของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่าเบื้องหลังข่าวนี้มีการบิดเบือนและแบล็กเมล์ตัวเขา ซึ่งทาง AMI ปฏิเสธข้อกล่าวหา
Jeff ยังจ้างทีมสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาตัวผู้เข้าถึงข้อความส่วนตัวของเขาด้วย โดย Gavin De Becker ที่ปรึกษาของ Jeff กล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียที่เจาะระบบโทรศัพท์มือถือของ Jeff โดยผิดกฎหมาย ซึ่งซาอุดิอาระเบียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้เช่นกัน
&nbsp;
อ่านเพิ่มเติม

<ul class="ul1">
 	<li class="li1"><a href="http://forbesthailand.com/news/it/jeff-bezos-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82.html">Jeff Bezos มหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลก หย่าภรรยา จับตาประเด็นแบ่ง “สินสมรส” มหาศาล</a></li>
 	<li class="li1"><a href="http://forbesthailand.com/news/global/jeff-bezos-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94-2019.html">Jeff Bezos ยังครองตำแหน่ง “เศรษฐที่รวยที่สุดในโลก” ปี 2019 ท่ามกลางการหย่าร้างและประเด็นสินสมรส</a></li>
</ul>

MacKenzie Bezos ขึ้นแท่นเศรษฐินีอันดับ 3 ของโลก หลังรับหุ้น Amazon 3.5 หมื่นล้าน จากการหย่าร้าง

<h2>เมื่อ Amazon เติบโตขึ้น ทรัพย์สินของ Jeff Bezos ก็เพิ่มพูนเช่นกัน โดยรวมแล้วปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีสำหรับหุ้นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซเจ้านี้ ซึ่งทำให้ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Bezos ยังคงรั้งตำแหน่ง เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยมูลค่าทรัพย์สินมหาศาลถึง 1.31 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นล้านเหรียญจากปีก่อน</h2>
แปลและเรียบเรียงจาก <a href="https://www.forbes.com/sites/kerryadolan/2019/03/04/this-is-the-richest-person-in-the-world/#18b514936db6">This Is The Richest Person In The World</a> โดย Kerry A. Dolan ตีพิมพ์ครั้งแรกใน forbes.com

เมื่อปีที่แล้ว Jeff Bezos กลายเป็นเศรษฐีคนแรกที่ขึ้นสู่ตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลกจัดอันดับโดย Forbes ด้วยทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าปีที่ผ่านมาหุ้นของ Amazon จะตกลงจากจุดสูงสุดที่หุ้นละ 2,012 เหรียญในเดือนสิงหาคม แต่ราคาหุ้น Amazon ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าราคาของปีก่อนหน้า

ยังคงเป็นคำถามสำคัญในขณะนี้ว่าเขาจะครองทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลต่อไปได้หรือไม่ ระหว่างที่คดีการหย่าร้างของเขายังรอการตัดสิน ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา Bezos ประกาศผ่านทางบัญชี Twitter ของเขาว่า เขาและภรรยา MacKenzie วางแผนที่จะแยกทางกัน หลังจากครองรักกันมานานถึง 25 ปี Bezos เขียนประกาศด้วยท่าทีเป็นมิตรว่า “เรายังมองเห็นอนาคตที่สดใสร่วมกัน ทั้งในฐานะพ่อแม่ เพื่อน และพันธมิตรร่วมลงทุนและโครงการต่างๆ”
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news/it/jeff-bezos-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82.html">Jeff Bezos มหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลก หย่าภรรยา จับตาประเด็นแบ่ง "สินสมรส" มหาศาล</a></li>
</ul>
แต่ในวันเดียวกันนั้นเอง สื่อ National Enquirer เปิดเผยว่า สำนักข่าวค้นพบว่า Jeff Bezos มีความสัมพันธ์ลับกับอดีตพิธีกรรายการโทรทัศน์ Lauren Sanchez โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายของทั้งสองรวมถึงข้อความจาก Twitter ที่พวกเขาส่งหากัน

Bezos โต้ตอบกลับในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2019 โดยทวีตข้อความลิงก์ไปยังโพสต์ที่ตัวเขาเป็นผู้เขียนบนเว็บไซต์ Medium กล่าวอ้างถึงการกระทำของบรรณาธิการ National Enquirer ว่าเป็นการแบล็กเมล์ข่มขู่และบิดเบือนข้อเท็จจริง

พร้อมเปิดเผยเนื้อหาอีเมล 2 ฉบับที่ส่งจากทางสำนักข่าว ฉบับแรกเป็นข้อความข่มขู่ว่าจะมีการเปิดเผยรูปภาพลับของ Bezos กับ Sanchez อีกฉบับหนึ่งเป็นรายการเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อหนึ่งในนั้นกล่าวถึง “การรายงานข่าวนี้เป็นการตกลงยินยอมทั้งสองฝ่าย และ Bezos พร้อมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีมูลหลักฐานในการตั้งข้อกล่าวหาว่า การรายงานข่าวของ AM เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นทางการเมืองหรือถูกควบคุมโดยอำนาจทางการเมือง”

American Media (AM) ผู้จัดพิมพ์ National Enquirer ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า “American Media เชื่อว่าเราได้กระทำการอย่างถูกกฎหมายในการรายงานข่าวเกี่ยวกับนาย Bezos” แต่เสริมด้วยว่า คณะกรรมการลงความเห็นว่าบริษัทจะมีการสืบสวนเรื่องราวตามข้อกล่าวอ้างของ Bezos อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใดทั้งจากฝั่ง Bezos และ AM เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

<figure><img class="size-full wp-image-3580" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/063_173376072.jpg" alt="" width="768" height="569" /><figcaption> MacKenzie และ Jeff Bezos (PHOTO CREDIT: Kevork Djansezian/Getty Images/AFP)</figcaption></figure>

ข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับ Bezos และการหย่าร้างจุดประเด็นให้เกิดการตั้งคำถามว่าเขาจะยังควบคุมบริษัท Amazon ต่อไปหรือไม่ เขาครอบครองหุ้น 16% ในบริษัทนี้ และอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับทรัพย์สินของเขา เนื่องจากกฎหมายของรัฐ Washington ระบุว่าเมื่อเกิดการหย่าร้าง คู่สมรสจะต้องแบ่งสินสมรสกันคนละครึ่งอย่างเท่าเทียม อันหมายถึง รายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างการแต่งงาน

ยกเว้นแต่ว่า หากมีสัญญาก่อนสมรสหรือสัญญาหลังสมรสที่ตกลงกันไว้ก็อาจเปลี่ยนแปลงวิธีแบ่งสมบัติตามกฎหมายได้ แต่ยังไม่มีรายงานว่าสามีภรรยา Bezos ได้ทำข้อตกลงดังกล่าวไว้หรือไม่ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ต่ำที่จะมีการทำสัญญาก่อนสมรส เนื่องจากทั้งคู่แต่งงานกันก่อนที่ Bezos จะก่อตั้ง Amazon และ MacKenzie ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีคนแรกของบริษัทด้วย

หากว่า MacKenzie Bezos ได้รับสินสมรสครึ่งหนึ่งตามกฎหมาย เธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกทันที อย่างไรก็ตาม จนกว่าเอกสารเกี่ยวกับการแบ่งสินสมรสจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ Forbes จะยังคงรายงานทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของ Jeff ต่อไป

Bezos เป็นหนึ่งในสี่เศรษฐีที่ได้รับตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลกในระยะ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐีรายอื่นนอกจากนี้ ได้แก่ Warren Buffet ซีอีโอของ Berkshire Hathaway เคยขึ้นสู่ตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลก 1 ปี, Carlos Slim Helu เจ้าพ่อโทรคมนาคมจากเม็กซิโก เคยอยู่ในตำแหน่ง 4 ปี และ Bill Gates ที่ครองตำแหน่งยาวนาน 12 ปี ระหว่างปี 2001-2017 ซึ่งถ้าหากว่า Gates ไม่บริจาคทรัพย์สินของเขาแก่มูลนิธิของตนเองไป 3.58 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เขาจะยังคงเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ แม้จะห่างจาก Bezos เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/world/global-world/10-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-2018.html">10 อันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ปี 2018</a></li>
</ul>
ทั้งนี้ วันนี้ (5 มีนาคม 2019) Forbes จะมีการประกาศรายชื่อมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 2019 สามารถเกาะติดความเคลื่อนไหวได้ที่ <a href="http://www.forbesthailand.com">www.forbesthailand.com</a>

&nbsp;

Jeff Bezos ยังครองตำแหน่ง "เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก" ปี 2019 ท่ามกลางการหย่าร้างและประเด็นสินสมรส

<h2 class="p1">Jeff Bezos บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผู้เป็นซีอีโอเเละผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon เตรียมหย่ากับภรรยาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานกว่า 25 ปี โดยทั้งสองจะยังคงเป็นเพื่อนเเละหุ้นส่วนธุรกิจ ขณะที่ประเด็นเรื่องสินสมรสกำลังถูกจับตามอง เนื่องจากมีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์</h2>
โดย Jeff Bezos ซีอีโอเเละผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Amazon วัย 54 ปี เเละ MacKenzie Bezos นักเขียนนวนิยายวัย 48 ปีออกเเถลงการณ์ประกาศเเยกทางกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
“หลังจากใช้เวลาในการค้นหาความรักและทดลองแยกกันอยู่มาสักพัก เราตัดสินใจว่าจะหย่าร้างและจะใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะเพื่อน” Jeff ระบุในทวิตเตอร์ของเขา
“ต่อให้รู้มาก่อนว่าอีก 25 ปีเราทั้งสองจะต้องเลิกกัน เเต่เราก็จะยังเลือกทำทุกอย่างอีกครั้งอยู่ดี...เรามีช่วงชีวิตที่เยี่ยมยอดในฐานะคู่รักเเละจะทำหน้าที่เป็นพ่อเเม่ เป็นเพื่อนเเละเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของกันเเละกันต่อไป” 
สำหรับ Jeff Bezos ปัจจุบันรั้งอันดับ 1 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ<a href="https://www.forbes.com/profile/jeff-bezos/#76c26d331b23"> Forbes </a>ด้วยสินทรัพย์กว่า 1.37 เเสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ทิ้งห้างอันดับสองอย่าง  Bill Gates เจ้าพ่อเทคโนโลยีแห่ง Microsoft ที่ปัจจุบันมีสินทรัพย์ 9.48 หมื่นล้านเหรียญ 
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่เเน่ชัดว่าการหย่าร้างครั้งนี้จะมีผลต่อสินทรัพย์ของเขาเเละหุ้นของ Amazon มากเพียงใด ซึ่งเขาถือหุ้นเกือบ 79 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วน 16 % ของบริษัท โดยหุ้นเหล่านี้เชื่อมโยงทรัพย์สินของเขากว่า 95% นอกจากนี้ Jeff Bezos ยังเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตจรวดอย่าง Blue Origin เเละสื่อชื่อดังอย่าง Washington Post ที่ซื้อกิจการมาในราคา 250 ล้านเหรียญในปี 2013

<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/people/cover-story/jeff-bezos-amazon-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1.html">Jeff Bezos ขับเคลื่อน AMAZON โตแบบไร้ขีดจำกัด</a></li>
</ul>
หากกรณีที่ MacKenzie Bezos ได้รับการเเบ่งทรัพย์สินจากสามีของเธอครึ่งหนึ่ง จะทำให้เธอมีทรัพย์สินถึง 6.8 หมื่นล้านเหรียญเเละอาจจะขึ้นเเท่นเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลก 


<figure><img class=" wp-image-3580" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/063_173376072.jpg" alt="" width="735" height="545" /><figcaption> credit photo:  Kevork Djansezian/AFP</figcaption></figure>

&nbsp;
ทั้งนี้ Jeff เเละ MacKenzie เพิ่งเปิดโครงการการกุศล Day One Fund ร่วมกันเมื่อปี 2018 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวคนไร้บ้านและสร้างโรงเรียนในชุมชนรายได้ต่ำ
อย่างไรก็ตาม Amazon ยังไม่มีการตอบข้อซักถามเกี่ยวกับวิธีการแบ่งสินสมรสที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะหุ้นของบริษัท เเละตอนนี้ยังไม่มีการฟ้องร้องใดๆในศาล
ตลอด 25 ปีที่ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกัน พวกเขามีลูกชายด้วยกัน 3 คน และรับอุปถัมภ์ลูกสาวบุญธรรมอีก 1 คน MacKenzie เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue เมื่อปี 2013 ว่าเธอได้พบกับ Jeff ครั้งเเรกเพราะเขาเป็นคนสัมภาษณ์งานเธอที่นิวยอร์ก
โดยทั้งสองคบหาดูใจกัน 3 เดือนก่อนหมั้นหมายเเละเเต่งงานกันในปี 1993 เเละย้ายมาสร้างครอบครัวที่ Seattle หลังจากนั้นเพียง 1 ปี Jeff ได้ก่อตั้ง Amazon ขึ้นในปี 1994 โดยเริ่มต้นจากธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ จากนั้นขยายกิจการพร้อมกับความช่วยเหลือเเละคำเเนะนำจากภรรยา ก่อนจะประสบความสำเร็จเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์สูงสุดในโลกที่ 7.97 เเสนล้านเหรียญ เเซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Microsoft ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 7.89 เเสนล้านเหรียญ  (ข้อมูลหลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา)
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/noahkirsch/2019/01/09/jeff-bezos-worlds-richest-person-announces-divorce-after-25-years-of-marriage/?utm_source=FBPAGE&amp;utm_medium=social&amp;utm_content=2072010151&amp;utm_campaign=sprinklrForbesMainFB#60127b5817db">Forbes : Jeff Bezos, World’s Richest Person, Announces Divorce After 25 Years Of Marriage</a></li>
 	<li><a href="https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-01-09/jeff-and-mackenzie-bezos-are-getting-a-divorce-after-25-years">Bloomberg : With $137 Billion at Stake, Jeff and MacKenzie Bezos to Divorce</a></li>
 	<li><a href="https://www.bbc.com/news/world-us-canada-46814557">BBC : Amazon boss Jeff Bezos and wife MacKenzie divorce</a></li>
</ul>
&nbsp;

<a href="http://bit.ly/2zv4aIX">อ่านสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ “Jeff Bezos ขับเคลื่อน amazon โตไร้ขีดจำกัด” ได้จากนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2561</a>

<img class="alignnone size-full wp-image-2348" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B8%9B%E0%B8%81-NOV-2018.jpg" sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" srcset="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018.jpg 250w, http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018-229x300.jpg 229w" alt="" width="250" height="328" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events