<h2>ธนจิรา ย้ำวิสัยทัศน์สนับสนุนศิลปะ ชุมชน และวัฒนธรรม เข้าร่วมงาน Awakening in Bangkok 2024 พร้อมฉลอง 60 ปี ดอก Unikko จาก Marimekko ฉายภาพลายพิมพ์บานสะพรั่งบน Museum Siam</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ตอกย้ำวิสัยทัศน์ขององค์กรในการสนับสนุนศิลปะ ชุมชน และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนในงาน Awakening in Bangkok 2024 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษครบรอบ 60 ปีของลายพิมพ์ดอก Unikko (อูนิกโกะ) อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Marimekko โดยการฉายภาพบนอาคาร Museum Siam พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ถือเป็นการผสมผสานศิลปะระดับสากลเข้ากับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำพันธกิจของธนจิราในการก้าวสู่กลุ่มบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำในระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/7oja1s3teCdtf2Wztc1S.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="7oja1s3teCdtf2Wztc1S.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนจิรามุ่งมั่นส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม เพราะบริษัทฯ มั่นใจว่าศิลปะคือพลังที่เชื่อมโยงผู้คนจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย และจุดประกายแรงบันดาลใจใหม่ๆ แนวคิดนี้สะท้อนผ่านแบรนด์ Marimekko และลายพิมพ์ดอก Unikko อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของความงามแบบเรียบง่าย และวิถีชีวิตที่โดดเด่นร่วมสมัยในปีนี้​&nbsp; &nbsp; “เราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Awakening in Bangkok 2024 ทางมารีเมกโกะจึงร่วมกับ Alternative Reality Studio นำเสนอลายพิมพ์ดอก Unikko ในรูปแบบดิจิทัล ฉายบนผิวอาคาร Museum Siam ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศไทย เช่นเดียวกับการฉายลายพิมพ์ดอก Unikko บนแลนด์มาร์กสำคัญในหลายประเทศทั่วโลก” ธนพงษ์เผย <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/zz3VfyAGbzL5CXf5uKjf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="zz3VfyAGbzL5CXf5uKjf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเข้าร่วมงานนี้สะท้อนพันธกิจของธนจิราในการสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม โดนธนพงษ์เชื่อว่างานในปีนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสศิลปะในมิติใหม่ๆ ผสานกับบรรยากาศอันทรงคุณค่าของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรมของไทย&nbsp; &nbsp;&nbsp;พงศ์สิริ เหตระกูล ผู้อำนวยการเทศกาล Awakening Bangkok กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับธนจิราในปีนี้ โดยเฉพาะการนำลายดอก Unikko มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะดิจิทัลฉายลงบนอาคารประวัติศาสตร์ของมิวเซียมสยาม สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสีสันและบรรยากาศให้กับงาน แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะที่อยู่เหนือกาลเวลาจากหลากหลายวัฒนธรรม เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ช่วยเปิดมิติใหม่ในการรับชมศิลปะของผู้เข้าชมอย่างแท้จริง” <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/jAvPHbr9mp6he2kfqB5c.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jAvPHbr9mp6he2kfqB5c.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="2"><figcaption><div>พงศ์สิริ เหตระกูล และธนพงษ์ จิราพาณิชกุล</div></figcaption></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งาน Awakening in Bangkok 2024 ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลศิลปะที่มีเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ผู้สนใจสามารถร่วมชมลายพิมพ์ดอก Unikko ที่ถูกออกแบบจากดีไซเนอร์และนักออกแบบสิ่งทออย่าง Maija Isola ที่ในปีนี้อายุครบ 60 ปี ที่มีเบื้องหลังความสดใส และสร้างแรงบันดาลใจในการ ‘bring joy to your everyday life’ ผ่านภาพดอกไม้ที่ผลิบานสู่ลายพิมพ์ที่โดดเด่นบนสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของแบรนด์มาอย่างยาวนาน รวมถึงผลงานศิลปะอื่นๆ ได้ ณ Museum Siam และจุดจัดแสดงอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 8-17 พฤศจิกายนนี้ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/patek-philippe-cubitas-collection" alt="ยลโฉมเรือนจริง Patek Philippe คอลเลกชันใหม่ ‘Cubitus Collection’ หรูหราสไตล์สปอร์ตสง่างาม">ยลโฉมเรือนจริง Patek Philippe คอลเลกชันใหม่ ‘Cubitus Collection’ หรูหราสไตล์สปอร์ตสง่างาม</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ดอกอูนิกโกะบานสะพรั่ง! ฉลองครบรอบ 60 ปีบน Musem Siam ในงานเทศกาล Awakening in Bangkok 2024

<h2>ธนจิราฯ หรือ TAN ส่งสัญญาณบวกทางธุรกิจ หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เล็งเปิด Marimekko ที่ 2 ในสิงคโปร์ และ Bread Street Kitchen &amp; Bar สาขาไอคอนสยาม บนพื้นที่กว่า 600 ตร.ม. รับดีมานด์นักท่องเที่ยวช่วงปลายปี มั่นใจผลการดำเนินงานเติบโตทะลุ 20% ตามเป้า</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ลักชัวรีระดับโลก เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/2567 กลุ่มบริษัทฯ จะมีอัตรากำไรสุทธิที่ชะลอตัวลง โดยหลักมาจากการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องจากการลงทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้าง New S-Curve รอบใหม่ให้กลุ่มบริษัทฯ มุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับภูมิภาค ตอกย้ำพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยมีความมั่นใจว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ที่ 20% ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยสะท้อนจากผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 2567 ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ราว 7% ซึ่งมากกว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ติดลบ 1% จากการเข้าสู่สภาวะกำลังซื้อถดถอย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ การขยายการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาจะส่งผลให้อัตราเร่งของรายได้เติบโตดีขึ้น เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายสาขาของแบรนด์ในพอร์ตฟอลิโอทั้งในและต่างประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ HARNN ในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศจีน อาทิ Douyin และ RED เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งมียอดวิวของแบรนด์ไปแล้วกว่า 44 ล้านครั้ง คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายจากการขายได้ในช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้เพิ่มแบรนด์ใหม่ในกลุ่มแฟชั่นอย่าง GANNI และ UNITED ARROWS ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย รวมทั้งการขยายไปยังธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food &amp; Beverage) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีอัตราการทำกำไรที่ดี ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/2567 และคาดว่าจะช่วยเติมเต็มการเป็น ‘Truly Integrated Lifestyle Company’ ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในช่วงครึ่งหลังปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีแผนจะขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิด Marimekko แบรนด์ไลฟ์สไตล์จากประเทศฟินแลนด์ ที่มีชื่อเสียงในด้านลวดลายและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ในทำเลใจกลางเมืองประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ Marimekko อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยถือเป็นสาขาที่ 2 ในประเทศสิงคโปร์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/Ndk37rGzC4RZB3CpFTez.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Ndk37rGzC4RZB3CpFTez.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,479"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดร้านอาหาร Bread Street Kitchen &amp; Bar ศูนย์การค้าไอคอนสยาม บนพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ภายในไตรมาส 4/2567 นับเป็นแห่งที่ 2 ต่อจากร้านอาหารแห่งแรกที่ Bread Street Kitchen &amp; Bar - The Emsphere ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาแห่งที่ 2 ในทำเลที่มีศักยภาพสูงจะช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/Eo9KA82uGSvU1xP8m5eF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Eo9KA82uGSvU1xP8m5eF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,276"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TAN กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตจากปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อที่ฟื้นตัว แต่ก็ยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และความผันผวนทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ และสินค้าแบรนด์เนม คาดว่าจะยังคงเติบโตได้ดี กลุ่มบริษัทฯ วางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสจากการฟื้นตัวของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การสื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิผลเพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีให้แก่ลูกค้า และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แม้ว่าครึ่งปีแรกจะเผชิญความท้าทาย แต่ TAN ยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อสร้าง New S-Curve ให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และการเดินหน้าขยายตลาดในประเทศจีน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กลุ่มบริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” ธนพงษ์ กล่าว เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/inthanin-coffee-drives-non-drink-sales" alt="ไม่ได้ขายแค่กาแฟแล้ว! ‘อินทนิล’ จะขายอาหารด้วย มีตั้งแต่หมูปิ้ง โจ๊ก จนถึงข้าวเหนียวมะม่วง">ไม่ได้ขายแค่กาแฟแล้ว! ‘อินทนิล’ จะขายอาหารด้วย มีตั้งแต่หมูปิ้ง โจ๊ก จนถึงข้าวเหนียวมะม่วง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

TAN เล็งเปิด Marimekko สาขา 2 ในสิงคโปร์ และเปิด Bread Street Kitchen & Bar ที่ไอคอนสยาม มั่นใจปีนี้รายได้โต 20% ตามเป้า

<h2>ในหลายๆ ครั้ง ดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นเพียงช่องทางขายสินค้าช่องทางหนึ่งเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดิจิทัลแพลตฟอร์มคือช่องทางสำคัญในการเพิ่มอัตราการขายสินค้าของธุรกิจ (Conversion rate) และสร้างประสบการณ์การให้บริการสุดพิเศษที่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าซ้ำอีก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Marimekko แบรนด์ไลฟ์สไตล์จากฟินแลนด์ ซึ่งโด่งดังจากการออกแบบลวดลายและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์บนสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่เปลี่ยนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เป็นมากกว่าช่องทางจำหน่ายสินค้า กลายเป็นการสร้างประสบการณ์แบบรู้ใจเข้าถึงลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจง (Personalization) จนสามารถเพิ่มอัตราการขายสินค้าขึ้นสองหลักหลังเปิดตัวแพลตฟอร์มเพียง 3 ชั่วโมง Marimekko Decision Factory ไม่ได้แค่ทำความรู้จักแต่เรียนรู้จนรู้ใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Decision Factory คือกลไกเบื้องหลังความสำเร็จของ Marimekko ซึ่งเป็นระบบ Personalization สำหรับแนะนำสินค้าตามความชอบของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยี AI แบบ Reinforcement Learning ที่ปรับการแสดงผลสินค้าของ Marimekko บนเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ชุดข้อมูล (data) ในอดีตหรือทักษะความเชี่ยวชาญด้านวิทยาการข้อมูลขั้นสูงในการปรับใช้กับดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมดของธุรกิจ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึก (Insights) ใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้จริงๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แน่นอนว่าการสร้างระบบ Personalization มีความท้าทายไม่น้อย Marimekko จึงได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง Thoughtworks เพื่อให้ช่วยออกแบบระบบ Personalization ที่สามารถปรับใช้ได้กับทั้งดิจิทัลแพลตฟอร์มของบริษัท และเสริมให้กำไรของบริษัทเติบโตแข็งแกร่งผ่านการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/qcZUuaVCkJkQwCpCkMs9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qcZUuaVCkJkQwCpCkMs9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="900,506"></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย Thoughtworks ไม่เพียงออกแบบระบบที่เข้าใจและเติมเต็มความต้องการของลูกค้า แต่ยังสร้างระบบที่ปรับขยายแพลตฟอร์มได้โดยลดการใช้ AI Solution ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการระบบลงได้ โดย Decision Factory คือระบบ Personalization ที่ใช้เวลาออกแบบและสร้างขึ้นภายใน 2 เดือน สูตรการสร้างประสบการณ์แบบรู้ใจลูกค้าจริงๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยทั่วไปแล้ว การทำ Personalization สำหรับนำเสนอสินค้าบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.การแนะนำสินค้าผ่านอาร์ตเวิร์กที่เด่นสะดุดตาบนเว็บไซต์หน้าแรก ส่วนลดและโปรโมชันต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.การแนะนำสินค้าจำนวนมากพร้อมกัน โดยอาจจัดเป็นกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน หรือสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกันไว้ด้วยกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในการสร้างประสบการณ์แบบรู้ใจลูกค้าจริงๆ การแนะนำสินค้าแบบทั่วไปยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ระบบ Personalization ส่วนใหญ่มักใช้ชุดข้อมูลที่ผ่านมาในการคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคต ดังนั้น การพัฒนาระบบ Decision Factory ที่สร้างประสบการณ์แบบรู้ใจลูกค้าจึงผสมผสานระหว่างการคาดการณ์ทางเลือกต่างๆ ในการตัดสินใจของลูกค้าเข้ากับเทคโนโลยีการเรียนรู้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับแต่งการแสดงผลหลายส่วนให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ส่วนต่างๆ บนหน้า Homepage &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-อาร์ตเวิร์ก &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-หน้ารายการสินค้า &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ส่วนลดและโปรโมชัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าแต่ละชิ้น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-รูปภาพสินค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยิ่งไปกว่านั้น ระบบ Decision Factory ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่การตัดสินใจของลูกค้าอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้นๆ ระบบจึงสามารถดึงข้อมูลต่างๆ มาแสดงผลได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน และตามช่วงเวลาเฉพาะ ในการสร้างระบบที่เรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง Thoughtworks ได้พัฒนาระบบให้สามารถย่อยข้อมูลจากดิจิทัลแพลตฟอร์มแบบเรียลไทม์ และกระตุ้นกระบวนการเรียนรู้จากข้อมูลใหม่ๆ ที่ไหลเข้ามาในแพลตฟอร์ม ให้เกิดขึ้นทุกๆ 10 นาที เพื่อสร้างโมเดลที่สามารถคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้ตามพฤติกรรมและความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/Q1rQ92ScXqqTQk3VgkNr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Q1rQ92ScXqqTQk3VgkNr.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="900,601"></figure></div> ​แค่ข้อมูลในอดีตยังไม่พอ ถ้าอยากรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังการเปิดตัวแพลตฟอร์มเพียงไม่กี่ชั่วโมง อัตราการขายที่เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดคือสิ่งยืนยันความสำเร็จของ Marimekko ในการทำ Personalization ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า โดยระบบ Decision Factory ช่วยให้ Marimekko เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการต่างๆ ของลูกค้า และปรับให้การทำ Personalization ตรงใจลูกค้าจริงๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์และแนะนำสินค้าเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ การวางแผนกระตุ้นการขายสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไปจนถึงว่าลูกค้ากลุ่มไหนที่ให้การตอบรับไลน์สินค้าใหม่ๆ มากที่สุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น ในบางกรณี ให้ส่วนลดพิเศษสามารถกระตุ้นการขายได้ ขณะที่ในบางสถานการณ์ การเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ทั้งหมดกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากกว่า เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ระบบ Personalization ซึ่งเรียนรู้ได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ นับเป็นแต้มต่อของ Marimekko ให้สามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเปลี่ยนตามปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ พฤติกรรมลูกค้า หรือคู่แข่ง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือช่วยแบรนด์สร้างประสบการณ์ที่รู้ใจลูกค้าได้แบบคนพิเศษไม่ว่าเวลาใดก็ตาม เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/marketingnews/jaspal-home-and-lifestyle" alt="JASPAL เผยโฉมแฟล็กชิปสโตร์ใหม่ มีโซน &quot;ของแต่งบ้าน&quot; เป็นครั้งแรก">JASPAL เผยโฉมแฟล็กชิปสโตร์ใหม่ มีโซน "ของแต่งบ้าน" เป็นครั้งแรก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events