<h2>ผลพวงจากการบริหารจัดการที่ย่ำแย่จนธุรกิจขาดสภาพคล่องเป็นหนี้ก้อนโตรวมกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ บ.อสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีน "China Evergrande Group" จึงถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก ล่าสุดศาลฮ่องกงมีคำสั่งตัดสินให้ล้มเลิกปิดกิจการ หลังจากบริษัทยื่นล้มละลายต่อศาลในสหรัฐฯ ไปแล้วช่วงปลายปี 2023 </h2> &nbsp; &nbsp; ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง&nbsp;China Evergrande Group ได้ขาดสภาพคล่องทางการเงินและยังผิดนัดชำระหนี้ในปี 2021 มาอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจากทั่วโลกต่างพากันคาดเดาว่าในที่สุดรัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยโอบอุ้มธธุรกิจนี้ไว้หรือไม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เช้าวันนี้ (29 มกราคม 2023) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ก็เป็นอันชัดเจนแล้วว่าผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างไปจากแนวทางที่หลายๆ คนคาดเดาไว้อย่างไร หลังจาก&nbsp;Linda Chan ผู้พิพากษาคดีล้มละลายของศาลสูงในฮ่องกง ซึ่งเป็นประธานผู้ดูแลคดีนี้ ได้มีคำสั่งตัดสินออกมาแล้วว่า&nbsp;China Evergrande Group ที่มีหนี้สินรวมมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญฯ ต้องล้มเลิกปิดกิจการ พร้อมทำการชำระบัญชีด้วยการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด&nbsp; &nbsp; "ฉันคิดว่าการที่บริษัทไม่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วว่าธุรกิจควรจะหยุดการดำเนินกิจการไว้แค่นี้" ผู้พิพากษาหญิงกล่าวหลังจากใช้เวลาไปประมาณ 40 นาที สำหรับการพิจารณาตัดสินคดี &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ ก่อนที่ผลคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างแน่ชัด อัตราการซื้อขายหุ้นของ China Evergrande ก็ปรับลดฮวบดิ่งลงถึง 20% ในทันที หลังจากนั้นการซื้อขายของ Evergrande และบริษัทต่างๆ ในเครือที่จดทะเบียนก็ถูกระงับภายหลังคำตัดสินของศาลได้ประกาศออกมาอย่างเป็นรูปธรรม&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนต่อเนื่องไปถึงสงครามความขัดแย้งของแต่ละประเทศที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน ล้วนส่งผลให้ธุรกิจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่มากที่สุดในรอบ 9 ปี อีกทั้งตลาดหุ้นเองก็ตกต่ำใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีอีกด้วย ผลการพิจารณาตัดสินให้บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนต้องเลิกกิจการแบบเป็นข่าวดังไปทั่วโลกครั้งนี้ ย่อมส่งผลกระทบหรือแรงกระเพื่อมอย่างมากต่อภาพลักษณ์และตลาดเงินของจีน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สังคมจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่ามีการชำระหนี้ให้แก่เหล่าบรรดาเจ้าหนี้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะเป็นไปในรูปแบบใดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ยังส่งผลกระทบระยะยาวต่อการลงทุนในจีนอยู่ดี” Dan Anderson หุ้นส่วนและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างของบริษัทกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer กล่าว นอกจากนี้ เหล่าทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้หลักของ&nbsp;Evergrande&nbsp;ยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนอกห้องพิจารณาคดีด้วยว่า พวกเขาไม่แปลกใจเลยกับผลการตัดสินที่ออกมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่รายเดียวและรายแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯ ในจีนที่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักเช่นนี้ และคงจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจีนจะก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร หลังจากที่มีการทุ่มทุนก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์มากเกินกว่าความต้องการผู้บริโภคจนล้นตลาด อีกทั้งธุรกิจนี้ยังมีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศ ซึ่งหากธุรกิจภาคนี้ล้มทรุดลงไปพร้อมๆ กัน ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องลามไปยังธุรกิจการเงิน การธนาคาร และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วประเทศได้ แปลและเรียบเรียงจากบทความ :&nbsp;<a href="https://www.nytimes.com/2024/01/28/business/china-evergrande.html" alt="Evergrande Will Be Dismantled, a ‘Big Bang’ End to Years of Stumbles">Evergrande Will Be Dismantled, a ‘Big Bang’ End to Years of Stumbles</a> ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/global-world/the-big-return-jack-ma-and-alibaba" alt="Jack Ma กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Alibaba">Jack Ma กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Alibaba</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

จุดจบของ "Evergrande" บ.อสังหาฯยักษ์ใหญ่ของจีน หลังศาลฮ่องกงตัดสินสั่งปิดกิจการ

<h2>Buy Hold Sell: ซื้อ ถือ หรือขาย จาก 3 กูรู ผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านรถบรรทุกรุ่นโบราณ, ไวน์ชั้นเลิศ และอสังหาริมทรัพย์ทำเลทอง</h2>
&nbsp;
<h2>Trucks</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-50317" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-002A-Ken_Gross.jpg" alt="" width="300" height="414" />

Ken Gross

นักเขียน ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ และอดีตผู้อำนวยการ Petersen Automotive Museum

&nbsp;

– ซื้อ –

<img class="alignnone wp-image-50321" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-044-truck-buy-1965_Jp_Gladiator.jpg" alt="" width="300" height="321" />

1962-69, Jeep Gladiator J3000

4x4 Gladiator ในยุคแรกๆ เป็นทรงตรง ทนทาน แล่นบดพื้นหินได้อย่างแข็งแกร่ง ลืม J-Series ยุคที่ 2 (1970-87) ไปได้เลย และมาตามหา Thriftside Longbox รถบรรทุกรุ่นโบราณที่มีกระบะหลังยาวเป็นพิเศษ ด้านข้างเป็นมุมแหลมสนนราคา 20,000 เหรียญสหรัฐฯ

&nbsp;

– ถือ –

<img class="alignnone wp-image-50322" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-045-truck-hold-1946-Dodge-Power-Wagon-Wrecker.jpg" alt="" width="300" height="321" />

1946-68, Dodge Power Wagon

จากรถบรรทุกทหารปรับมาเป็นรุ่นพลเรือนสำหรับใช้วิ่งบนท้องถนน แต่ยังคงความแข็งแรงระดับถอนตอไม้เล่นได้ทั้งวันเสนอราคาอยู่ที่ 50,000-70,000 เหรียญ และมีผู้สนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

&nbsp;

– ขาย –

<img class="alignnone wp-image-50323" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-046-truck-sell-chevrolet-advanced-design-thriftmaster-by-Alamy.jpg" alt="" width="300" height="321" />

1947-55, Chevrolet Advanced Design Thriftmaster

สไตล์เหนือกาลเวลาไม่ช่วยอะไร เพราะรถบรรทุกกลุ่มนี้ยังด้อยเรื่องสมรรถนะ (ยกเว้นจะเปลี่ยนเป็น NAPCO 4x4 ที่หายากและแสนแพง) หากสนิมยังไม่เกาะน่าจะขายได้ที่ 30,000-40,000 เหรียญ

&nbsp;

&nbsp;
<h2>Sparkling Wine</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-50328" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-003A-Victoria_James-1.jpg" alt="" width="300" height="412" />

Victoria James

นักเขียน Sommelier และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องดื่มและหุ้นส่วนที่ Cote ใน Manhattan

&nbsp;

– ซื้อ –

Margaine Spécial Club Blanc de Blancs

ชมรมคนผลิตแชมเปญแห่งนี้ ประกอบไปด้วยผู้ผลิตอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศส ไวน์จาก Villers-Marmery หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีราคา 105 เหรียญ ซื้อไว้เตรียมเปิดฉลองในอีก 20 ปีข้างหน้าก็ยังได้

&nbsp;

– ถือ –

Nyetimber’s 1086 Prestige Cuvée

นี่คือไวน์จากอังกฤษที่เพาะปลูกบนดินที่คล้ายดินสำหรับแชมเปญ และกำลังเป็นคู่แข่งไวน์จากฝรั่งเศส ขณะที่อากาศทางตอนเหนือเริ่มอบอุ่น สำหรับดาวดวงใหม่ขวดนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 250 เหรียญและราคามีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

&nbsp;

– ขาย –

Peter Lauer’s 1992 Réserve Riesling Sekt Nature

แคตนิปสำหรับ Sommelier แท้ๆ หากคุณมีไวน์ชั้นดีจากเยอรมนีขวดนี้เก็บไว้คงเลือกยากเหลือเกินว่าจะดื่มขณะกำลังได้ที่หรือขายในราคา 90 เหรียญดี

&nbsp;

&nbsp;
<h2>Real Estate</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-50330" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/BUY-HOLD-SELL-3-.jpg" alt="" width="300" height="414" />

Bradley Nelson

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Sotheby’s International Realty

&nbsp;

– ซื้อ –

<img class="alignnone size-full wp-image-50331" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-050-real-estate-buy-3c-Roof.jpg" alt="" width="300" height="211" />

New York or London Pieds-à-Terre

โควิด-19 ผลักดันให้ผู้คนอพยพไปนอกเมืองมากขึ้น ส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์มีราคาถูกลงในปีที่ผ่านมา แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวตลาดก็เริ่มกลับมาร้อนแรง อะพาร์ตเมนต์ในโครงการพัฒนาใหม่ๆ เช่น อะพาร์ตเมนต์ราคา 2 ล้านเหรียญใน Dumbo ย่านริมน้ำในเมือง Brooklyn แห่งนี้จัดว่าเป็นสุดยอดตัวเลือกการลงทุนเช่นกัน

&nbsp;

– ถือ –

<img class="alignnone size-full wp-image-50332" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-051-real-estate-hold-Lisbon-Portugal-SIR.jpg" alt="" width="300" height="199" />

ทำเลเด็ดในโปรตุเกส 

Lisbon และ Porto คือ Nashville และ Austin แห่งยุโรปดีๆ นั่นเอง Google เปิดตัวร้านค้าใน Lisbon ไปแล้ว และคาดว่าบริษัทอื่นๆ จะตามมา บรรดาผู้ซื้อจากฝั่งเทคโนโลยีจะเป็นแรงขับเคลื่อนมูลค่าอสังหาริมทรัพย์

&nbsp;

– ขาย –

<img class="alignnone size-full wp-image-50333" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/cut-052-real-estate-sell-vaca-condo.jpg" alt="" width="300" height="200" />

คอนโดมิเนียมตากอากาศสำหรับครอบครัว

นโยบายทำงานที่บ้านทำให้บ้านพักตากอากาศยังคงขายได้ตลอดทั้งปี เตรียมบอกลาบ้านพักร้อนที่ไม่ได้ใช้งานมานานได้เลย เพราะหากโชคดีคุณอาจจะมีอะไรคล้ายๆ กับคอนโดมิเนียมปี 2002 ที่ Naples แห่งนี้ เสนอราคาที่ 9.5 ล้านเหรียญ

&nbsp;

เรื่อง: BUY, HOLD, SELL โดย: CHRISTIAN KREZNAR เรียบเรียง: รัน-รัน
ภาพ: CHRIS LYONS, SHAH: SAM KERR

อ่านเพิ่มเติม:
<ul id="crumbs">
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/america/jay-adair-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96-copart.html">JAY ADAIR มหาเศรษฐีป่าช้ารถ “COPART”</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/airasia-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%b2-super-app-%e0%b8%8a%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%a2%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%97%e0%b8%9a%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81.html">AIRASIA พัฒนา SUPER APP ชดเชยผลกระทบจากธุรกิจการบิน</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/leaderboard/global-leaderboard/buy-hold-sell-%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b2.html">BUY HOLD SELL: ซื้อ ถือ หรือ ขาย จากกูรูด้านของสะสมสุดคลาสสิก</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/2Tv7p0e">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-47783 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n-229x300.jpg 229w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

Buy Hold Sell: ซื้อ ถือ หรือ ขาย กับการลงทุนใน “สินค้า Luxury” แบบฉบับกูรู

<h2>เปิดกลยุทธ์ "สิงห์ เอสเตท" สู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด</h2>
ขยายธุรกิจเพิ่ม เสริมแกร่งธุรกิจหลัก 

วิกฤตโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และอนาคตที่ไม่อาจคาดเดา​ ธุรกิจที่จะสามารถยืนหยัดและเติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากนี้ อาจไม่ใช่ธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุด แต่เป็นธุรกิจที่มีกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์​

<figure><img class="wp-image-42230 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/3-Singha-Complex-01.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Singha Complex</figcaption></figure>

เมื่อโจทย์ในการดำเนินธุรกิจเปลี่ยน บมจ. สิงห์ เอสเตท (S) บริษัทผู้พัฒนาและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย จึงต้องวางแผนเชิงกลยุทธ์ให้พร้อมรับกับโลกธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

&nbsp;

เดิมเกมรุก สร้าง Synergy ให้ธุรกิจ 

หนึ่งในหมากตัวสำคัญของสิงห์ เอสเตท จากนี้ คือ การขยายธุรกิจหลักจากเดิมที่โฟกัสใน 3 ส่วน

ประกอบด้วย​ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ธุรกิจโครงการที่พักอาศัย และธุรกิจรีสอร์ตและโรงแรม ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 96% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ไปสู่ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า และธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง ที่จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งสิงห์ เอสเตท เชื่อมั่นว่า กลุ่มธุรกิจที่ 4 จะเข้ามาเติมเต็ม​และ  ต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นแกนหลักมาแต่เดิม จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ และยังเป็นการเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ อีกด้วย

<figure><img class="wp-image-42231 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/4-The-ESSE-Sukhumvit-36-01.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> The ESSE Sukhumvit 36</figcaption></figure>

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการ บมจ. สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นของสิงห์ เอสเตท ในฐานะบริษัทของครอบครัวที่บริหารจัดการสินทรัพย์และดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล มาสู่การเป็นบริษัทมหาชน ที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ มีสินทรัพย์อยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย  กระจายอยู่ในหลายภูมิภาค ปีนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสิงห์ เอสเตทในการ​เข้าสู่เฟสต่อไปของการพัฒนาธุรกิจใหม่

"​เราเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นทางธุรกิจของสิงห์ เอสเตท ในขณะเดียวกัน เรายังเดินหน้ามองหาโอกาสที่จะสร้างการเติบโตใหม่ๆ ในระดับโลก ไปพร้อมกันด้วย”

&nbsp;

วางโรดแมปเติบโตแบบก้าวกระโดด​​​

ขณะที่นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท เสริมว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ขึ้น 3 เท่าตัว ให้กลายเป็นประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมกับสร้างธุรกิจให้มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น จาก 65,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ไปเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสินทรัพย์ 80,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าเพิ่มอัตราผลกำไรในการทำธุรกิจด้วย

กุญแจสำคัญที่่จะพาสิงห์ เอสเตทไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ คือ การพัฒนาโครงการขนาดยักษ์หลากหลายโครงการในประเทศไทย และการเดินหน้าบูรณาการธุรกิจต่างๆ ของสิงห์ เอสเตท ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยผนึกกำลังธุรกิจโรงแรม ธุรกิจที่พักอาศัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม เข้ากับธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า และธุรกิจให้บริการด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ ที่จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน    ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจให้กับสิงห์ เอสเตท ได้อย่างมหาศาล และเพิ่มความสามารถในการ  คว้าโอกาสทางธุรกิจใหญ่ๆ ที่กำลังจะมีเข้ามา

<figure><img class="wp-image-42228 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/นางฐิติมา-รุ่งขวัญศิริโรจน์-02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท</figcaption></figure>

"การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งยืนยันการตัดสินใจที่ถูกต้องของบริษัทฯ ในการวางโครงสร้างธุรกิจเป็น 4 กลุ่มธุรกิจที่เชื่อมโยงกัน เพื่อจะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ได้อย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยากจะคาดเดา ทั้งในประเทศและทั่วโลก"

โดยเหตุผลที่สิงห์ เอสเตท มองว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินหน้ากลุ่มธุรกิจที่ 4 เพราะ ประเมินจากความแข็งแกร่งทางการเงินของสิงห์ เอสเตท​ จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ อยู่ที่ 0.96 เท่า ประกอบกับการมีเครดิตดี สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อีก 25,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการเดินหน้า 4 กลุ่มธุรกิจของสิงห์ เอสเตท ยังทำให้บริษัทมีจุดโดดเด่นที่แตกต่าง ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องได้มากกว่า

นอกจากนี้ ยังช่วยให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น จากการเติมเต็มซึ่งกันและกันของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และการบูรณาการธุรกิจ ที่สำคัญ ยังช่วยให้ธุรกิจมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น จากการที่ธุรกิจในเครือมีวงจรทางธุรกิจที่แตกต่างกัน มีรูปแบบความเสี่ยงไม่เหมือนกัน และเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ

<figure><img class="wp-image-42229 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/5-Hardrock-Hotel-Maldives-01.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Hardrock Hotel Maldives</figcaption></figure>

ทั้งนี้ นางฐิติมา ยังเสริมด้วยว่า ขณะนี้ สิงห์ เอสเตท กำลังศึกษาแนวคิดและวิธีใหม่ๆ ระดับโลก นำมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์ (Resilient Business) โดยสิงห์ เอสเตท มีเป้าหมายที่จะแสวงหาความร่วมมือทั้งภายในประเทศและระดับโลก เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญที่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งความสามารถในการแข่งขัน และช่วยขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกรวม 140,000 ตารางเมตร สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ประมาณ 15% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2563 นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีโรงแรมและรีสอร์ต 39 แห่ง ใน 5 ประเทศ ซึ่งมีห้องพักรวมกัน 4,647 ห้อง  สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ประมาณ 24% ของรายได้ทั้งหมด และมีโครงการที่พักอาศัย 23 โครงการ ประกอบด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบ และคอนโดมิเนียม เช่น แบรนด์สันติบุรี The ESSE และแบรนด์อื่นๆ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ประมาณ 57% ของรายได้ทั้งหมด

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events