FORBES_MAY_ISSUE_2024

<h2>ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างกำลังมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ผลักดันการใช้พลังงานสะอาด หลายที่เริ่มขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ออกมา ล่าสุดกับแพลตฟอร์มเรียกรถอย่าง Grab และ Robinhood ก็เปิดตัวการให้บริการ “เช่ารถ EV” สานต่อแนวคิดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้คนขับมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนพลังงาน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโปรแกรม ‘เช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้า’ ของ Grab เป็นการร่วมมือกันกับ ออโต้ ไดร์ฟ อีวี (Auto Drive EV) ผู้ดำเนินธุรกิจให้เช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้า รุ่น MG EP Plus ปัจจุบันบริษัทฯ มีรถแท็กซี่ไฟฟ้าให้บริการผู้โดยสารกว่า 200 คัน ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และ ภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโปรแกรม ‘เช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้า’ ดังกล่าว มีอัตราค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 820 บาท ซึ่งจะหักจากรายได้ของการให้บริการเรียกรถ Grab ในแต่ละวัน ปัจจุบันได้เริ่มให้บริการแล้วในกรุงเทพฯ และภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ผู้ใช้บริการสามารถเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้าได้ผ่านบริการ GrabTaxi VIP และ JustGrab โดยสามารถเพิ่มโอกาสได้รถ EV เมื่อผู้ใช้บริการเปิดฟีเจอร์เรียกรถพลังงานไฟฟ้า (Grab EV)&nbsp; &nbsp; Grab บอกว่าการพัฒนาโปรแกรมเช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้าในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นของแกร็บในการสนับสนุนการใช้ EV ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ รวมถึงพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่ใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อม ให้สามารถสร้างรายได้จากการให้บริการรับส่งผู้โดยสารด้วยรถแท็กซี่ไฟฟ้า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/tNMZsGbJ8Ner48LPG3XJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="tNMZsGbJ8Ner48LPG3XJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับความร่วมมือของ Grab และออโต้ ไดร์ฟ อีวี ในครั้งนี้ มีระยะเวลา 2 ปี (2567-2568) ในการจัดหารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าส่งมอบรถจำนวน 2,000 คันให้ได้ภายในปี 2568 พร้อมขยายพื้นที่การให้บริการไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/cJ5vLo687CBeq2kExnh3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cJ5vLo687CBeq2kExnh3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนฝั่ง Robinhood เป็นการร่วมมือกันกับ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย เปิดตัวโครงการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าจาก EVme เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่เปิดโอกาสให้คนขับของ Robinhood Ride&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยสามารถเช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้ารุ่น ‘AION ES’ (ไอออน อีเอส) จาก EVme ผ่าน Robinhood EV Platform เพื่อใช้ในการรับส่งผู้โดยสาร มุ่งเน้นช่วยเหลือคนตัวเล็กที่ไม่มีรถยนต์ให้มีอาชีพและรายได้ ช่วยให้คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโครงการดังกล่าวมาพร้อมการดูแล และบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกการขับขี่จาก EVme พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบ Smart Taxi ที่มอบความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ภายใต้เกณฑ์การคัดเลือกคนขับตามมาตรฐานของ Robinhood Ride ทั้งด้านความสามารถในการขับขี่ บุคลิกภาพ และความพร้อมในการให้บริการ รวมถึงได้รับการอบรมการใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยต่างๆ ของยานยนต์ไฟฟ้า จากบริษัท อีวี มี พลัส จำกัด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงบริการที่สุภาพและปลอดภัยซึ่งเป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์ม ​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/motoring/toyota-first-bev-pickup-pattaya" alt="‘โตโยต้า’ ส่งมอบกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e 12 คัน ทดลองวิ่งสองแถวที่พัทยา">‘โตโยต้า’ ส่งมอบกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e 12 คัน ทดลองวิ่งสองแถวที่พัทยา</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Grab และ Robinhood ให้คนขับเช่า EV ได้แล้ว หนุนคนขับแท็กซี่-คนตัวเล็กไม่มีรถ

<h2>&nbsp;Robinhood (โรบินฮู้ด) แอปเพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน ร่วมกับ Rabbit Rewards (แรบบิท รีวอร์ดส) บริษัทในเครือของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เดินหน้าสร้างประสบการณ์ด้านการเดินทางและตอกย้ำจุดยืนบริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ มอบสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้า Robinhood Ride และสมาชิก Rabbit Rewards รับสิทธิ์ง่าย ๆ เพียงโดยสาร Robinhood Ride ค่าโดยสารขั้นต่ำ 100 บาท รับ Rabbit Rewards 250 พอยท์ เพื่อนำไปแลกเที่ยวเดินทาง BTS 1 เที่ยว (มูลค่า 47 บาท) หรือรีวอร์ดสอื่นๆ อีกมากมายผ่านแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2566 - 31 ตุลาคม 2566&nbsp; </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยความร่วมมือครั้งนี้ Robinhood หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยเติมเต็มให้ทุกการเดินทางของลูกค้าคุ้มค่าและเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ที่นิยมใช้บริการรถสาธารณะเพื่อความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมสนับสนุนการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกด้วย โดยมี นางสาวสุชานัน ตันติวัฒนวัลลภ Head of Ride Business บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด พร้อมด้วย นางสาวกมลวรรณ กอไพศาล Program Director และ นางสาวมรกต พิสิษฐ์กุล Business Development Director บริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด ร่วมเปิดตัวแคมเปญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; รายละเอียดแคมเปญ Robinhood Ride x Rabbit Rewards&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลูกค้าผู้ใช้บริการ Robinhood Ride ผ่านแอป Robinhood โดยมีค่าโดยสาร 100 บาทขึ้นไป (ก่อนหักส่วนลด) จะได้รับ SMS Promo code และนำพอยท์ Rabbit Rewards จำนวน 250 พอยท์ เพื่อนำไปแลกเที่ยวเดินทาง BTS 1 เที่ยว หรือรีวอร์ดอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อนำ 250 แรบบิทพอยท์ไปแลกเที่ยวเดินทางรถไฟฟ้า BTS สามารถใช้เดินทางบนรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เฉพาะเส้นทางหลัก สายสีลม-สุขุมวิท (รวม 24 สถานี) รวมถึงสถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ (แต่ไม่รวมสถานีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลม-สุขุมวิท) รวมทั้งหมดสามารถใช้เดินทางฟรีได้ 26 สถานี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คูปองมีอายุ 72 ชั่วโมงหลังการกดเเลก เเละมีอายุ 30 นาทีหลังการกดใช้ ควรกดใช้คูปองหลังจากยื่นบัตรเพื่อเติมเที่ยวเดินทางที่หน้าห้องขายบัตรโดยสาร หากหมดอายุไม่สามารถยกเลิกได้ คูปองเที่ยวเดินทางฟรีด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่สามารถขาย แลกเปลี่ยน โอน หรือถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดหรือโปรโมชันอื่น ๆ ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรุณาแสดงสิทธิ์ก่อนการใช้บริการ โดยกดรับสิทธิ์และแสดงข้อความในโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อหน้าพนักงาน ณ ห้องจำหน่ายตั๋ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สงวนสิทธิ์ 1 โค้ด/สิทธิ์/เดือน จำกัด 3,000 สิทธิ์/เดือน รวม 14,000 สิทธิ์ตลอดรายการ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71215" alt="เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทค จ้างแฮกเกอร์จู่โจมโมเดล AI">เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทค จ้างแฮกเกอร์จู่โจมโมเดล AI</a>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

Robinhood จับมือ Rabbit Rewards ส่งแคมเปญ นั่ง Robinhood Ride แลกเที่ยว BTS ผ่าน Rabbit Rewards

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Robinhood (โรบินฮู้ด) ตอกย้ำพันธกิจในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “แอปเพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน” มุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือคนตัวเล็กควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ประเดิมเปิดตัว “Robinhood Ride” แพลตฟอร์มเรียกรถแบบถูกกฎหมายในไทย ด้วยแนวคิด “บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ” ชูจุดต่าง “ราคาเป็นธรรม-คนขับบริการดีมีมาตรฐาน-เก็บค่าคอมมิชชันน้อยกว่า-เริ่มงานง่ายไม่ต้องเติมเครดิตก่อนรับงาน-ประกันเหตุร้าย-Call Center 24 ชั่วโมง” มีรถยนต์ให้บริการถึง 8 รูปแบบ มุ่งหวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภค ด้วยค่าบริการที่โปรงใส อุ่นใจในทุกการเดินทาง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการสร้างงานสร้างรายได้ที่เป็นธรรมให้กับกลุ่มคนขับ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของ Robinhood แพลตฟอร์ม เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ทั้งฝั่งผู้ประกอบการร้านค้า ลูกค้า และไรเดอร์ ด้วยพันธกิจหลักในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม Robinhood จึงเปรียบเสมือนทางรอดให้กับคนตัวเล็กบนแพลตฟอร์มให้สามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เราเริ่มต้นธุรกิจจากบริการฟู้ดเดลิเวอรี “Robinhood Food” ก่อนขยายขอบเขตการให้บริการสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวด้วย “Robinhood Travel” บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร พร้อมต่อยอดสู่ “Robinhood Mart” บริการสั่งซื้อสินค้า ของสด ของใช้ และ “Robinhood Express” บริการรับ-ส่งพัสดุและเอกสารด่วน และล่าสุดกับบริการ “Robinhood Ride” บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ ที่เราได้นำเอาเสียงสะท้อนจากทั้งฝั่งผู้โดยสารและคนขับมาพัฒนาเป็นบริการใหม่ เพื่อหวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถเติมเต็มและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันที่เน้นความคล่องตัวมากขึ้นของลูกค้ากว่า 3.7 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมาของ Robinhood ได้เพิ่มโอกาสให้ 300,000 ร้านค้า บนแพลตฟอร์ม มีรายได้ 17,200 ล้านบาท พร้อมสร้างรายได้ให้กับไรเดอร์ 30,000 คน ให้มีรายได้กว่า 3,600 ล้านบาท โดยในปี 2566 Robinhood มุ่งมั่นสานต่อการสร้างโอกาสและสนับสนุนคนตัวเล็กภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “แอปเพื่อคนตัวเล็กที่ยั่งยืน” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ได้แก่ ผู้ประกอบการ และไรเดอร์ ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เพื่อการเติบโตร่วมกันในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยวิสัยทัศน์ใหม่นี้จะถูกนำมาใช้เป็นหัวใจหลักในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของ Robinhood สำหรับแผนธุรกิจของ Robinhood ในก้าวถัดไป เรายังคงมุ่งขยายธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของ Robinhood คาดว่าภายในไตรมาส 4 ของปี 2566 นี้จะสามารถเปิดให้บริการ “Robinhood Finance” สินเชื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับกลุ่มร้านค้าและไรเดอร์ และ “Robinhood EV” บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อบริการที่ครอบคลุมและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระยะยาว” กวีวุฒิ กล่าวเสริม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/zPcN2tBMDZQ1EUmYkWB5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="zPcN2tBMDZQ1EUmYkWB5.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1280" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน สุชานัน ตันติวัฒนวัลลภ Head of Ride Business บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า “หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ส่งผลให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง โดยเรามองเห็นโอกาสจากการเติบโตของอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มเรียกรถในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท และคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ในขณะเดียวกันท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรม ผู้โดยสารยังคงมีทางเลือกที่ค่อนข้างจำกัด หลีกเลี่ยงไม่ได้กับราคาค่าโดยสารที่สูง ฝั่งคนขับเองมักประสบปัญหาเรื่องโดนหักค่าคอมมิชชันสูง เมื่อมีปัญหาไม่สามารถติดต่อ Call Center ได้ทันที ด้วยเหตุนี้ Robinhood เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปช่วยแก้ปัญหา จึงได้พัฒนาและเปิดให้บริการ “Robinhood Ride” บริการเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกรมขนส่งทางบก ภายใต้แนวคิด “บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ” มุ่งแก้ไข Pain Point ทั้งในส่วนของผู้โดยสารและคนขับ ด้วยจุดเด่นที่แตกต่าง 6 ด้าน ได้แก่ 1.ราคาเป็นธรรม 2.คนขับบริการดีมีมาตรฐาน 3.เก็บค่าคอมมิชชันน้อยกว่า 4.คนขับเริ่มงานง่ายไม่ต้องเติมเครดิตก่อนรับงาน 5.ประกันเหตุร้ายในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. และ 6.Call Center 24 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถเลือกประเภทรถยนต์ให้บริการถึง 8 รูปแบบ ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เช่น รถแท็กซี่ รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์พรีเมียม รวมถึงรถยนต์ทั่วไปคนขับผู้หญิง ซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มผู้โดยสารผู้หญิงที่ต้องการความอุ่นใจเพิ่มขึ้นในระหว่างเดินทาง หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้บริโภคซึ่งมาพร้อมบริการที่สุภาพที่เป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์ม โดยเฟสแรกจะเริ่มต้นในบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก่อนขยายสู่จังหวัดอื่นที่มีศักยภาพต่อไป”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า Robinhood Ride จะสามารถช่วยเติมเต็มให้ทุกการเดินทางของลูกค้า “คุ้มค่า” และมี “ความหมาย” มากที่สุด โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2566 จะมียอดธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 12,000 ครั้ง และมีรถยนต์พร้อมให้บริการในระบบกว่า 10,000 คัน และขึ้น Top 3 ภายใน 3 ปี เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้งานในช่วงเปิดตัว “Robinhood Ride” มอบส่วนลดพิเศษสูงถึง 50 บาท เมื่อมีค่าโดยสารขั้นต่ำ 100 บาท เพียงกรอกโค้ด CARE ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2566-30 กันยายน 2566” สุชานัน กล่าวทิ้งท้าย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลูกค้า Robinhood Ride สามารถเลือกประเภทรถยนต์ได้ถึง 8 ประเภท ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. Robinhood Taxi รถแท็กซี่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. Robinhood EV Car รถยนต์ไฟฟ้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. Robinhood EV Premium Car รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. Robinhood Car รถยนต์ทั่วไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5. Robinhood Premium Car รถยนต์พรีเมียม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;6. Robinhood Lady รถยนต์ทั่วไปคนขับผู้หญิง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;7. Robinhood Premium Lady รถยนต์พรีเมียมคนขับผู้หญิง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;8. Robinhood SUV รถยนต์ขนาดใหญ่สำหรับผู้มีสัมภาระ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70686" alt="W9 เปิดกลยุทธ์ ผนึกพันธมิตร ขยายตลาด wellness ไทย ตั้งเป้าโต 40%">W9 เปิดกลยุทธ์ ผนึกพันธมิตร ขยายตลาด wellness ไทย ตั้งเป้าโต 40%</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>&nbsp;&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events