<h2>ไทยพาณิชย์ โชว์ความสำเร็จในการนำบัญชีหุ้นกู้ EASY-D มาเปิดให้เหล่านักลงทุนรายย่อยได้ซื้อขายผ่านช่องทางดิจิทัลบนแอป SCB EASY ส่งผลให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกบนช่องทางดังกล่าวโตมากถึง 7 เท่า พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายหุ้นกู้ผ่านแอปมากกว่า 50% </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยศวีร์ สุทธิกุลพานิช Head of Primary Markets Distribution Division, สายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;เผยว่า หลังจากที่ปี 2023 ธนาคารได้เปิดตัว 'บัญชีหุ้นกู้ EASY-D บริการรับฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบ' เป็นครั้งแรกบนแอป SCB EASY ให้ลูกค้าสามารถฝากหุ้นกู้บนช่องทางดิจิทัลแบบไร้ใบ (Scripless) ได้ โดยนำความต้องการของลูกค้าเป็นโจทย์หลักในการพัฒนาฟีเจอร์การลงทุนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนปัจจุบันสามารถให้บริการจองซื้อและรับฝากหุ้นกู้ตลาดแรกทั้งสำหรับหุ้นกู้ทั่วไปและหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ รวมถึงบริการซื้อขายหุ้นกู้ทั่วไปในตลาดรองบนบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ผ่านแอป SCB EASY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งยังเป็นธนาคารแรกที่ให้บริการรับฝากใบหุ้นกู้ที่ลูกค้าถือครองอยู่ และรับโอนหุ้นกู้จากที่อื่นเพื่อฝากรวมในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ทำให้ลูกค้ามี Consolidated debenture portfolio รวมพอร์ตการลงทุนหุ้นกู้ในที่เดียว โดยได้รับการตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยอย่างดีเกินกว่าที่คาดไว้ สะท้อนจากจำนวนลูกค้าที่ลงทะเบียนเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D&nbsp; เติบโตมากกว่า 50% ต่อปี และสัดส่วนลูกค้าจองซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY และถือหุ้นกู้ในรูปแบบใบหุ้นกู้ลดลงจาก 86% ในปี 2022 เหลืออยู่ประมาณ 40% ในปัจจุบัน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2 ปี โดยลูกค้าดังกล่าวเปลี่ยนมาฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D กว่า 50%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บัญชีหุ้นกู้ EASY-D คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการพัฒนาฟีเจอร์ที่เข้าถึงและเข้าใจลูกค้า และสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมนักลงทุนรายย่อยจากเดิมที่ลูกค้าทำธุรกรรมจองซื้อหุ้นกู้ที่สาขาและถือหุ้นกู้ในรูปแบบกระดาษ&nbsp;ทำให้ยอดการจองซื้อหุ้นกู้ในตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY เติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 7 เท่า ในปี 2023 เมื่อเทียบกับก่อนมีบริการนี้ และอีกกว่าครึ่งของลูกค้าที่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เดิมยังไม่เคยมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนกับธนาคาร แสดงให้เห็นว่าบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ช่วยให้ธนาคารตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าในอีกมิติ และสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น Wealth Bank และยังสนับสนุนเป้าหมายการปฏิบัติงานของธนาคารเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2030 จากการสร้างเทรนด์ใหม่ในการลงทุนหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งช่วยลดธุรกรรมที่ใช้กระดาษที่สาขา ทำให้ธนาคารลดการใช้กระดาษมากกว่า 1,000,000 แผ่น หรือเทียบเท่าต้นไม้กว่า 200 ต้น ตั้งแต่บัญชีหุ้นกู้ EASY-D เปิดใช้บริการ” ยศวีร์ กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/AMimM1nnQ2bo2HqZUVN2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AMimM1nnQ2bo2HqZUVN2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีแผนพัฒนาฟีเจอร์ของบัญชีหุ้นกู้ EASY-D อย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนรายย่อยเพื่อนำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าด้วยเครื่องมือดิจิทัล โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายหุ้นกู้ในตลาดแรกผ่านแอป SCB EASY มากกว่า 50% เพื่อเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนรายได้ดิจิทัลของธนาคาร รวมทั้งเดินไปบนเส้นทาง Digital Bank with Human Touch และธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจองซื้อหุ้นกู้ในตลาดแรก ที่กำลังจะเปิดจองซื้อเร็วๆ นี้ บนแอป SCB EASY ได้แก่&nbsp;หุ้นกู้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) รวมถึงหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) นักลงทุนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการจองซื้อได้จากสื่อต่างๆ ของธนาคารต่อไป​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/yhA6p1WhAFALtrDFdApG.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yhA6p1WhAFALtrDFdApG.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/bbl-q-3-2024" alt="แบงก์กรุงเทพเผย 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 34,807 ล้านบาท โต 6.2%YoY ผลรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังโต"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/bay-q-3-oct-2024" alt="กรุงศรีเผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 23,424 ล้านบาท ลดลง 7% เหตุตั้งสำรองรับความเสี่ยงหนี้"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/kbank-q-3-oct-2024" alt="ธ. กสิกรไทย เปิดงบ 9 เดือนแรกปี 2567 กำไรสุทธิพุ่ง 38,104 ล้าน ขยายตัว 15.41%YoY"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/people/fabulous-40s-and-50s/prapol-thanachotipan-tman" alt="ประพล ฐานะโชติพันธ์ TMAN สกัดยาชิงธงแบรนด์โลก"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/bay-bbl-ktb-oct-2024" alt="3 แบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.12 - 0.25% ต่อปี ธ.กรุงเทพเริ่มก่อน 24 ต.ค. กรุงศรี-กรุงไทยเริ่ม 1 พ.ย. 67 พร้อมกัน!">3 แบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.12 - 0.25% ต่อปี ธ.กรุงเทพเริ่มก่อน 24 ต.ค. กรุงศรี-กรุงไทยเริ่ม 1 พ.ย. 67 พร้อมกัน!</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไทยพาณิชย์ ปลื้มหุ้นกู้ EASY-D กระแสดีเกินคาด  ยอดจองซื้อผ่านแอปในตลาดแรกโตกว่า 7 เท่า

<h2>ไทยพาณิชย์จับจังหวะเทรนด์การซื้อขายตราสารหนี้ภาคเอกชนในตลาดรองฉายแววเด่น เพราะมีสภาพคล่องสูง เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามเป้าหมายของผู้ลงทุน เปิดตัวบริการใหม่ ‘ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D’ คัดสรรหุ้นกู้คุณภาพดี (Investment Grade) ให้ผู้ลงทุนรายย่อยช้อปหุ้นกู้มากมาย บน SCB EASY</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน นักลงทุนรายย่อยเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นกู้ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาล โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ผู้ลงทุนรายย่อยเป็นผู้ถือหุ้นกู้เอกชนในสัดส่วนสูงที่สุดที่ประมาณ 39% ของตลาด ด้วยมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 626,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดบริการบัญชีหุ้นกู้ EASY-D โดยผู้ลงทุนสามารถรวมหุ้นกู้ทั้งในรูปแบบใบหุ้นกู้และไร้ใบ และรับโอนหุ้นกู้จากที่อื่นมาฝากในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ไว้ในที่เดียว โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในการลงทุนผ่าน SCB EASY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางด้านซื้อ-ขาย หุ้นกู้ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ธนาคารจึงได้เปิดตัวบริการ ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อยเปลี่ยนเงินออมมาเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยคัดสรรหุ้นกู้คุณภาพดี (Investment grade) ให้แก่ลูกค้า และเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ อีกทั้งตอบรับผู้ลงทุนรายย่อยที่ให้ความสนใจซื้อขายหุ้นกู้เอกชนในตลาดรองมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตลอดเวลา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ลงทุนที่มีความต้องการหุ้นกู้ แต่ในเวลานั้นยังไม่มีเสนอขายในตลาดแรก สามารถเข้าถึงหุ้นกู้ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งธนาคารคาดหวังว่าบริการซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D จะมีส่วนในการขยายจำนวนลูกค้าผู้ลงทุนรายย่อยใน SCB EASY ให้เติบโตต่อเนื่อง และสนับสนุนรายได้ดิจิทัลรวมของธนาคารตามเป้าหมายที่วางไว้ 25% ในปี 2568&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลูกค้าที่ต้องการซื้อขายหุ้นกู้ตลาดรองที่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D สามารถทำรายการได้ทันทีผ่านทาง SCB EASY และสำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D สามารถลงทะเบียนเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ทาง SCB EASY จากนั้นทำรายการซื้อขายได้ทันทีเช่นเดียวกัน โดยซื้อ-ขายได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากที่ลูกค้าทำรายการซื้อหรือขายด้วยตัวเองบน SCB EASY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ระบบจะตัดเงินจากบัญชีที่ลูกค้าเลือกเพื่อชำระค่าซื้อ หรือโอนเงินค่าขายเข้าบัญชีลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับอัพเดตหุ้นกู้ และได้รับแจ้งเตือนทางอีเมล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักลงทุนในยุคดิจิทัล และสอดคล้องกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ดิจิทัลแบงก์อันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://forbesthailand.com/news/motoring/mg-ev-battery-lifetime-warranty" alt="MG เพิ่มรับประกันแบตเตอรี่รถอีวี ‘ตลอดอายุการใช้งาน’ ไม่จำกัดระยะทางเจ้าแรกของไทย">MG เพิ่มรับประกันแบตเตอรี่รถอีวี ‘ตลอดอายุการใช้งาน’ ไม่จำกัดระยะทางเจ้าแรกของไทย</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

SCB เปิดบริการใหม่ ‘ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D’ หวังขยายฐานลูกค้าผู้ลงทุนรายย่อย

<h2>ไทยพาณิชย์ เปิดกลยุทธ์ AI-First Bank ใช้ AI ทุกส่วนของแบงก์ ตั้งเป้าปี 2568 สัดส่วนรายได้ช่องทางดิจิทัลขึ้นสู่ 25% ชู AI อนุมัติสินเชื่อทั้ง 100% คาดช่วยลดหนี้เสีย เจาะกลุ่มอาชีพอิสระ แม่ค้า พร้อมขยายฐานลูกค้า Wealth ด้วย 2 ฟีเจอร์จาก AI ‘My Alert’ และ ‘AI Advisory Chatbot’ แนะนำการลงทุนรายบุคคล ย้ำแม้มี AI แต่พนักงานยังเป็นส่วนสำคัญเพราะการปฏิสัมพันธ์ถือเป็น Privilage ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยมองว่าผู้มีรายได้น้อยยังเหนื่อย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจธนาคารเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนของธนาคารฯ ที่มีลูกค้า 17.8 ล้านราย พบว่ากว่า 84% เป็นผู้ใช้งาน SCB EASY อีกทั้งธุรกรรม รวมถึงการขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องดิจิทัลยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 นี้รายได้ดิจิทัลอยู่ที่ 9.9% จากเป้าหมายสิ้นปีที่ตั้งไว้ 13% และปี 2568 ที่ระดับ 25% แต่ในภาพรวมสินเชื่อจะยังเติบโตแบบสมดุล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หากรายได้ดิจิทัลมีสัดส่วนมากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ต้นทุนลดลง แต่ยังมองว่าธุรกิจธนาคารจะไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดเหมือนช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา เพราะมีทั้งคู่แข่งทางตรงและทางอ้อมมาก ดังนั้นธนาคารควรต้องวาง Segment ลูกค้าที่มีอย่างชัดเจน และบริการต้นทุนให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้&nbsp; &nbsp; ในปีนี้ทางธนาคารยังตั้งเป้าหมายเป็น AI-First Bank ภายใต้โมเดล Better Brain ที่จะ0นำข้อมูลมาปรับใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาพัฒนาเพื่อวางรากฐานบริการ พัฒณาผลิตภัณฑ์โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันมีการปรับใช้ AI จนเกิด 3 นวัตกรรมใหม่ ได้แก่&nbsp; &nbsp; &nbsp;- AI อนุมัติสินเชื่อรายย่อย 100% รวมถึงสินเชื่อเคหะ (สินเชื่อบ้าน) สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SSME) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทราบผลอนุมัติเร็วกว่าเดิม เช่น สินเชื่อ Up เงินทันใจ เป็นสินเชื่อ SSME ผ่าน SCB Easy ที่สามารถรู้ผลอนุมัติเร็วสุดใน 10 นาที และเริ่มมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 67 ที่ผ่านมา หากเป็นลูกค้าเดิมของธนาคารไม่ต้องยื่นเอกสารรายได้เพิ่มเติม แต่จะใช้ข้อมูลการเดินบัญชีและอื่นๆ (มักจะมากกว่า 6 เดือน)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ เชื่อว่าการใช้ AI มาช่วยพิจารณาสินเชื่อจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่อาจมีความเสี่ยงสูง เช่น อาชีพอิสระ แม่ค้า นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะสามารถลดอัตราการเกิดหนี้เสียได้ด้วย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะลดได้มากน้อยเพียงใด ขณะเดียวกันจะยังเป็นการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และค่อยเป็นค่อยไป&nbsp; &nbsp; - บริการ My Alert จะแนะนำและแจ้งเตือนการลงทุนแบบเฉพาะบุคคล แบบ Real time ตลอด 24 ชม. เช่น เมื่อลูกค้าซื้อกองทุนแล้ว หากตลาดมีเหตุการณ์ใด หรือมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งเตือนพร้อมแนะนำการซื้อขายที่เหมาะสม&nbsp; &nbsp; - AI Advisory Chatbot แชตบอตให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน ซึ่งเป็น AI ที่พัฒนาจากภายในองค์กรไทมยพาณิชย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ บริการ My Alert และ AI Advisory Chatbot เป็นส่วนหนึ่งที่พัฒนาเพื่อตอบแผนงานเรื่องการสร้างความมั่งคั่ง Wealth Managment ในกลุ่มลูกค้าระดับกลางล่าง ให้พัฒนาสู่การเป็น Digital wealth ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ส่วนที่มิใช่ดอกเบี้ยของธนาคาร ปัจุจบัน ณ สิ้นไตรมาส 1/67 มีสัดส่วนที่ 27%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ว่าจะมีการพัฒนา AI มากขึ้น แต่เชื่อว่า ‘คน’ หรือพนักงานยังเป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะคนไทยยังสบายใจเมื่อมีพนักงานคอยให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น ต่อไปการมีปฎิสัมพันธ์คือ Privilege (สิทธิพิเศษ) ที่ลูกค้าแต่ละ Segment ยังคงมีความต้องการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับแผนงานหลักของธนาคารที่ต้องการเป็นธนาคารหลักของลูกค้า และสร้างการเข้าถึงสินเชื่อให้มากขึ้น ภายใต้การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายว่าปี 2568 จะให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนรวม 150,000 ล้านบาท (ณ สิ้นไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 86,000 ล้านบาท)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ความท้าทายในระยะต่อไป ปัจจัยภายนอกมีทั้งเศรษฐกิจโลกเหมือนจะชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจยในประเทศ ทั้งครัวเรือน และธูรกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึง (K-Shaped) ไทยมีศักยภาพต่ำลงจาก Productivity ที่ลดลง และสังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันแม้จะผ่านพ้นการระบาด COVID-19 มาระยะหนึ่ง แต่ลูกค้าที่เข้ามายังเห็นความเสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน และมองว่าเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนักจะเริ่มส่งผลกระทบต่อกลุ่มรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้น (ครอบครัวที่มีรายได้ 60,000 บาท/เดือน) เห็นได้จากผลกระทบในหนี้รถและหนี้บ้านที่เพิ่มขึ้น เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/travel/aot-31-mar-2024" alt="AOT กำไรล้น! ไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5,972.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209.22%YoY รับผลดีมาตรการรัฐ-ฟรีวีซ่าฟื้นตัว"></a><a href="https://forbesthailand.com/finance-and-investment/news/scbx-2024-q-1" alt="SCBX ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 67 ที่ 11,281 ล้านบาท โต 2.6% จากปีก่อน">SCBX ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 67 ที่ 11,281 ล้านบาท โต 2.6% จากปีก่อน</a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/snservicesolution-snss-24-may-2024" alt="ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ! อาจกระทบธุรกิจบริการ Outsource ‘เอส เอ็น เซอร์วิส โซลูชั่นฯ’ รับต้นทุนอาจสูงขึ้น แต่คาดว่ารายได้ปี 67 ยังโต 30%"></a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand</a>

ไทยพาณิชย์ ชูกลยุทธ์ AI-First Bank เปิดตัว AI อนุมัติสินเชื่อได้ 100% ช่วยลดหนี้เสีย

<h2>ธนาคารไทยพาณิชย์ มีความห่วงใยสังคมไทยและตระหนักถึงผลกระทบจากภัยทุจริตทางการเงินของมิจฉาชีพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่ตลอดเวลา จึงได้จัดทำโครงการ แก้เกมกลโกง "รู้ตัว! ก่อนเงินหาย" ขึ้นมาเพื่อช่วยให้คนไทย ตื่นตัว รับรู้ เข้าใจ และรู้ทันวิธีป้องกันภัยทุจริตทางการเงิน และภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยตนเอง&nbsp;</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด ผนึกกำลังกับแอปพลิเคชัน “Whoscall” ที่จะช่วยระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักและบล็อกสแปม พัฒนาโดย Gogolook ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (Trust-Tech) ในการสร้างเครือข่ายและระบบการต่อต้านการฉ้อโกงของโลก ครั้งแรกกับการแจกโค้ด Whoscall พรีเมียมฟรี 1 ล้านโค้ด นาน 6 เดือน มูลค่ารวมกว่า 354 ล้านบาท สำหรับลูกค้า SCB EASY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพียงกดรับโค้ด Whoscall พรีเมียม ผ่านเมนู EASY BONUS บนแอปพลิเคชัน SCB EASY ได้ง่ายๆ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2566 - 3 มกราคม 2567 (จำกัด 1 คน/สิทธิ/ตลอดระยะเวลาแคมเปญ) โดยความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยยกระดับความปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยของมิจฉาชีพได้อย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมให้แก่ลูกค้าของธนาคารมากยิ่งขึ้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/jC1isTei95orYxjmGE2f.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="jC1isTei95orYxjmGE2f.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1280" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทั้งการลงทุนพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้านข้อมูล (data) และแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาธนาคารได้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางป้องกันภัยทางการเงิน ควบคู่กับการยกระดับความปลอดภัยของระบบตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมทั้งมีการสื่อสารไปยังลูกค้าเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง และเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยทางการเงินที่อาจสร้างความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินโดยรวม ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับแอปพลิเคชัน “Whoscall” แอประบุหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักและบล็อกสแปม เปิดตัวแคมเปญ แก้เกมกลโกง "รู้ตัว! ก่อนเงินหาย” มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า SCB EASY จำนวน 1 ล้านสิทธิ ให้สามารถใช้บริการ Whoscall พรีเมียม ฟรี 6 เดือน โดยลูกค้าสามารถกดรับโค้ด Whoscall พรีเมียม ผ่านเมนู EASY BONUS บนแอปพลิเคชัน SCB EASY ได้ง่ายๆ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2566 - 3 มกราคม 2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันภัยทุจริตทางการเงินของมิจฉาชีพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในสังคมไทยได้อย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมให้แก่ลูกค้าของธนาคารได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/WtFXsR2GNGxduobEV5SE.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="WtFXsR2GNGxduobEV5SE.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1712,1142" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน แมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Gogolook ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall เปิดเผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการมอบเครื่องมือเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้ผู้ใช้บริการธนาคารผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ได้รู้ทันถึงสายมิจฉาชีพ เพื่อความปลอดภัยจากการถูกหลอกลวง และการถูกฉ้อโกงทางออนไลน์ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ความร่วมมือระหว่างแอปพลิเคชัน Whoscall และธนาคารไทยพาณิชย์ จะช่วยยกระดับความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของธนาคารได้เป็นอย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยการนำเสนอบริการ Whoscall จะช่วยให้การสื่อสารของลูกค้าธนาคารปลอดภัยด้วยฟีเจอร์หลัก ระบุเบอร์โทรไม่รู้จักและสแกนความเสี่ยงลิงก์ เพิ่มความสะดวกสบายด้วย 4 ฟีเจอร์เพิ่มเติมจาก Whoscall พรีเมียม ได้แก่ 1.บล็อกสายสแปมอัตโนมัติ 2.อัปเดตฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์อัตโนมัติ 3.ผู้ช่วย SMS อัจฉริยะ และ 4.ไม่มีโฆษณามากวนใจ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการรับโค้ด Whoscall พรีเมียม บนแอป SCB EASY&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB EASY จาก App Store หรือ Google Play Store&nbsp; &nbsp; &nbsp; 2. สมัครแอปพลิเคชัน SCB EASY และเปิดบัญชี&nbsp; &nbsp; &nbsp; 3. เข้าแอปพลิเคชัน SCB EASY กดเมนู EASY BONUS สิทธิพิเศษอีซี่โบนัส เพื่อกดรับโค้ด Whoscall พรีเมียม&nbsp; &nbsp; &nbsp; 4. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whoscall จาก App Store หรือ Google Play Store และทำการลงทะเบียนผู้ใช้&nbsp; &nbsp; &nbsp; 5. นำโค้ด Whoscall พรีเมียมที่ได้รับ ไปแลกใช้ฟรีที่เว็บไซต์ https://redeem.whoscall.com &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71137" alt="เกาะในสเปนติดป้ายสุดสร้างสรรค์ แก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง">เกาะในสเปนติดป้ายสุดสร้างสรรค์ แก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

SCB แจก Whoscall พรีเมียม จำนวน 1 ล้านโค้ด ฟรี 6 เดือน ยกระดับการป้องกันภัยทุจริตทางการเงิน

<h2>ธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าเข้าถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้ายุค 4.0 ยกเครื่องดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน รองรับการขยายตัวของพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในอนาคต ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า</h2>
“การเปิดตัว SCB EASY โฉมใหม่ พร้อมด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ในครั้งนี้ เป็นบทเริ่มต้นของธนาคารไทยพาณิชย์ ในการเดินหน้าสู่การเป็นดิจิทัลไลฟ์สไตล์แบงก์กิ้งอย่างเต็มรูปแบบ ที่สำคัญคือเป็นการสร้างมาตรฐานในการให้บริการทางการเงินที่ช่วยยกระดับภาพรวมของผู้ให้บริการ รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการเงินธนาคารของประเทศให้ทันต่อการแข่งขันในโลกยุคดิจิทัลที่คู่แข่งขันในตลาดไม่ใช่ธนาคารด้วยกันเองอีกต่อไป และยังช่วยผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสดตามแผน National e-Payment ด้วยไลฟ์สไตล์แบงก์กิ้งแอพพลิเคชั่นที่รวดเร็ว ปลอดภัย เสถียร รองรับการขยายตัวในอนาคต” อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวและเสริม

“การลงทุนครั้งใหญ่นี้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะดิจิทัลแพลตฟอร์ม ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ตามยุทธศาสตร์สำคัญของไทยพาณิชย์ในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อมุ่งสู่การเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” (The Most Admired Bank) ในที่สุด”

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/6cecc850da19ce3db6bee80ce3ac382b.jpg" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> (จากซ้าย) ธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ Chief Marketing Officer และ ธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking</figcaption></figure>

ด้าน ธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับสมาร์ทโฟน และมองว่าการเข้าไปทำธุรกรรมในธนาคารเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ การเข้าใจความต้องการที่หลากหลายและพฤติกรรมอันซับซ้อน รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า กลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นหัวใจของการทำธุรกิจธนาคารในยุคปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี เราจึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ‘SCB EASY’ เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่พร้อมเป็นทุกอย่างเพื่อผู้ใช้งานยุคดิจิทัล”

“เราตั้งเป้าดันยอดผู้ใช้งานเป็น 8 ล้านคนภายในสิ้นปี 2561 จากปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 4 ล้านคน และเทื่อเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจำนวนธุรกรรมการเงินที่ผ่าน SCB EASY แตะระดับสูงสุดมากกว่า 1 ล้านรายการต่อชั่วโมง สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ซึ่งสะท้อนว่าโมบายแบงก์กิ้ง SCB EASY ได้รับความนิยมจากลูกค้าผู้ใช้บริการ” ธนา เธียรอัจฉริยะ กล่าว

จากการเปิดเผยของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปีพ.ศ. 2559 คนไทยทำธุรกรรมทั้งการโอนเงินและชำระเงินค่าบริการต่าง ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มเป็น 20.8 ล้านบัญชี จาก 13.92 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2558 โดยในไม่ช้าธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือจะกลายเป็นธุรกรรมหลักของธนาคารต่างๆ

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f0a3aad6518193ca35cd0f78e3edbaed.jpg" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> SCB EASY กับระบบหลังบ้านที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีที่สุด</figcaption></figure>

ทั้งนี้ไทยพาณิชย์ยังสร้างความมั่นใจในการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นให้กับลูกค้า ด้วยการคุ้มครองความเสียหายวงเงินสูงสุด 1 แสนบาท ครอบคลุม 4 กรณี ได้แก่ กรณีโทรศัพท์หาย/ถูกขโมย, ถูกขโมยเอกสารสำคัญส่วนตัว/บัตร, ระบบมือถือถูกเจาะ/แฮก และกรณีถูกไวรัส/โปรแกรมขโมยข้อมูล ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการธนาคารอีกด้วย

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events