<h2>ZORTOUT ประกาศความสำเร็จ 7 ปี รุกตลาดแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร พร้อมจับมือ LINE SHOPPING และ TikTok Shop บุก Social Commerce ปฏิวัติระบบหลังบ้าน จัดการคำสั่งซื้อ</h2>
<img class="wp-image-68863 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/สวภพ-ท้วมแสง-ZORT.jpg" alt="" width="650" height="433" />

สวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORTOUT) แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร (ZORT) เปิดเผยว่าเมื่อปี 2558  ZORT เป็นผู้ให้บริการ Seller Management Platform ที่เป็นผู้ประกอบการไทยกลุ่มแรกๆ  โดยก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์การขายผ่าน Marketplace ภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

โดย ZORT ทำหน้าที่รวบรวมการขายของจากหน้าร้านทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์และออฟไลน์มาไว้ที่เดียว ทั้งระบบจัดการออเดอร์ จัดการสต๊อก จัดการขนส่ง ระบบรับชำระเงิน (Payment Gateway) และ ฟีเจอร์ส่งเสริมการขาย (CRM) ที่พัฒนาจากความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data Analysis) เพื่อต่อยอดพัฒนาการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ZORT ได้สร้างความแตกต่างและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ค้าในโลกออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งในครึ่งปี 2565 มีลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ราย มีการเติบโตถึงร้อยละ 30 จากปลายปี 2564

ทั้งจากลูกค้าระดับองค์กรและผู้ค้ารายย่อย สร้างมูลค่าการเติบโตให้ลูกค้าถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ถึงร้อยละ 30 เสริมศักยภาพให้ SME ไทยเติบโตแข่งขันกับตลาดต่างชาติและตลาดขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์

จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ ZORT ได้คิดค้นเพื่อต่อยอดในการส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ ในปีนี้ ZORT จึงขยายการให้บริการไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มจัดการร้านค้าที่ครบวงจร ในตลาด Social Commerce โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ LINE SHOPPING และ TikTok Shop ในการร่วมสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการ Social Commerce เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับผู้ค้ามากขึ้น

ด้วยการนำระบบของ ZORT มาให้บริการบนช่องทางของ Social Commerce ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการไลฟ์ขายของ หรือ ช่องทางแชท ที่ระบบจะสามารถจัดการกับคำสั่งซื้อ พร้อมเชื่อมต่อกับระบบสต๊อกสินค้า และระบบขนส่ง รวมถึงระบบจัดการชำระเงิน เช่นเดียวกับที่ ZORT ได้ให้บริการผ่านช่องทาง Marketplace การเพิ่มการให้บริการมายังตลาด Social Commerce ช่วยเพิ่มช่องการขายสินค้าและบริการให้ผู้ค้ารายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพราะไม่เพียงแต่จะมีหน้าร้านเพิ่มมากขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงานในการดูแลหน้าร้านที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบ ZORT เป็นตัวช่วยที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าบริหารจัดการการขายได้ด้วยตัวเองโดยที่ใช้พนักงานได้น้อยที่สุด

ทั้งนี้คาดว่าหลังจากที่ ZORT ขยายบริการมายัง LINE SHOPPING และ TikTok Shop จะช่วยให้ยอดขายของผู้ค้าเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 50 เนื่องจากเทรนด์ของ Social Commerce ถือว่ากำลังมาแรง และมีโอกาสขึ้นมาสร้างยอดขายได้เท่าเทียมกับ Marketplace ภายใน 1-2 ปี

จากเทรนด์การเติบโตของตลาด e-Commerce ที่น่าสนใจนี้ จะผลักดันให้ ZORT มีผลงานที่เติบโตสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดย ZORT ตั้งเป้าหมายเติบโต 100 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งปีหลัง 2565 และในปี 2566 ยังคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 100% อย่างต่อเนื่อง
<h2><img class="alignnone size-full wp-image-68865" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/ZORT-X-LINE-X-Tiktok.jpg" alt="" width="650" height="433" /></h2>
วริยา ลีระศิริ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนและพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงการจับมือครั้งนี้ว่า “Social Commerce ยังคงเป็นช่องทางที่คนไทยนิยม เพราะใช้ง่าย น่าเชื่อถือจากการได้พูดคุยกับร้านค้าได้โดยตรง และสามารถสร้างประสบการณ์การซื้อขายแบบ Personalized ซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญที่ถูกจริตกับคนไทย ดังจะเห็นได้ว่าจำนวนร้านค้าโซเชียลบน LINE SHOPPING มีจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีถึง 450,000 ร้าน และ 80% เป็นร้านค้ารายย่อยหรือ SMEs

ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ร้านค้าโซเชียลเหล่านี้สามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซได้อย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ Liberty to Win ของ LINE SHOPPING นอกจากที่ทาง LINE SHOPPING จะมีการพัฒนาเครื่องมือต่างๆเพื่อช่วยให้ร้านค้า SMEs สามารถสร้างยอดขายจากฐานลูกค้าของตัวเองให้เติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว

เรายังมีการจับมือกับ ZORT ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบจัดการออเดอร์และสต็อกแบบครบวงจร ที่มีความเข้าใจและสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ขายสินค้าผ่านหลายแพลตฟอร์มซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเชื่อว่าการจับมือกันครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการที่กำลังต้องการขยายธุรกิจไปอีกขั้น"

<img class="alignnone size-full wp-image-68862" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/กรณิการ์-นิวัติศัยวงศ์-tiktok.jpg" alt="" width="350" height="455" />

กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์  TikTok Shop Lead (TikTok Thailand) กล่าวว่า จากความแข็งแกร่งในแง่ของการเติบโต TikTok มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การผสานคอนเท็นต์ที่มีความเป็นตัวเองและมีความบันเทิง ผนวกรวมกับความเป็นคอมมูนิตี้ที่มีความหลากหลายของแพลตฟอร์ม กับ Commerce เข้าไว้ด้วยกัน

ทำให้ TikTok Shop เป็น the newest e-commerce solution from the leading destination for short-form mobile videos ที่ขยายช่องทางในการขายใหม่ๆ ในรูปแบบใหม่ สร้าง Shoppertainment หรือเทรนด์การตัดสินใจซื้อการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยเนื้อหา ที่ให้ทั้งความบันเทิงและความรู้ จึงเกิดประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่แปลกใหม่และน่าประทับใจ

ผู้บริโภคจะสามารถซื้อขายสินค้าภายในร้านบน TikTok Shop ได้ทันทีผ่านลิงก์บนวิดีโอเหล่านั้น นอกจากจะได้รับความบันเทิงและสามารถทำการซื้อขายไปพร้อมกันได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังสามารถแชร์หรือส่งต่อคอนเท็นต์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/asia/divya-gokulnath-byjus.html">Divya Gokulnath กับเส้นทางการเรียนรู้ Byju’s ยักษ์ใหญ่ด้าน Edtech</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ZORTOUT ประกาศความสำเร็จ 7 ปี รุกตลาดแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร

ในวันที่โลกธุรกิจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ส่งผลให้ทุกธุรกิจต้องปรับทัพขนานใหญ่ เพื่อก้าวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว​

เพื่อให้มั่นใจว่านักธุรกิจแอมเวย์ ไม่ว่าจะอยู่ในรุ่นบุกเบิกหรือเป็นคนรุ่นใหม่ จะสามารถยืนหยัดในโลกธุรกิจที่เติมไปด้วยความท้าทายอย่างแข็งแกร่ง แอมเวย์ประเทศไทย เดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่ความสำเร็จ 70 ปี แอมเวย์โลก ติดปีกความรู้ด้านดิจิทัลให้นักธุรกิจแอมเวย์ สลัดภาพจากนักธุรกิจขายตรง สู่นักธุรกิจที่มีดีเอ็นเอนักสู้ที่เปี่ยมไปด้วยแพสชั่น พร้อมเปลี่ยนความชอบและความหลงใหลให้กลายเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยมีเครื่องมือดิจิทัลเป็นตัวช่วย

คำถาม คือ แอมเวย์ประเทศไทยจะมีกลยุทธ์อย่างไร เพื่อพิชิตจุดหมายที่วางไว้

กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ก่อนหน้านี้แอมเวย์ ประเทศไทยได้ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาช่องทางการซื้อขายผ่านออนไลน์แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภคให้สามารถทำธุรกิจ รวมถึงซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Social Commerce ที่พร้อมปรับเปลี่ยนและพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ และยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อเตรียมกรุยทางสู่ความสำเร็จของ 70 ปี แอมเวย์โลก ในปี 2029

หลังจากปูพรมวางระบบหลังบ้าน ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน รวมไปถึง การพัฒนาฟังก์ชั่นใน LINE ซึ่งเป็นหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ให้มีฟังก์ชั่นที่เอื้อต่อนักธุรกิจแอมเวย์ ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชั่นเตือนการต่ออายุสถานภาพ เตือนการเปลี่ยนอะไหล่ของสินค้า เช็กข้อมูลธุรกิจขององค์กร เช็กสิทธิพิเศษ ตลอดจนการรับข่าวสารโปรโมชั่นต่างๆ

แอมเวย์ประเทศไทย ไม่รอช้าเผยโฉมอีกหนึ่งไพ่ใบสำคัญ อย่างการพัฒนานักธุรกิจแอมเวย์ ให้สามารถนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ต่อยอดในการทำธุรกิจ ผ่าน 2 เครื่องมือหลักที่มองว่าน่าจะตอบโจทย์

<img class="alignnone size-full wp-image-49770" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/fr.jpg" alt="" width="720" height="411" />

เครื่องมือแรก​ คือ การพัฒนาสินค้าเปิดใจ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงทุกคน​ ตอบโจทย์เทรนด์ที่กำลังมาแรง พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งใส่ใจไปถึงการออกแบบสินค้าให้รับประทานง่ายขึ้น มีรูปลักษณ์ทันสมัย แพ็กเกจจิงดูน่าใช้ ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวย มีความ Instagenic ที่สำคัญมีการสร้างสตอรีให้สินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปทำคอนเทนต์ต่อ

<img class="alignnone size-full wp-image-49766" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/on.jpg" alt="" width="720" height="480" />

ยกตัวอย่าง เช่น n*by Nutrilite ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ นอกจากจะมีการปรับแพ็กเกจจิงให้มีสีสันโดนใจคนรุ่นใหม่ ยังออกแบบให้รับประทานง่ายขึ้น โดยทำในรูปแบบคุกกี้ และวุ้นเจลาติน เป็นต้น

<img class="alignnone size-full wp-image-49765" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/tr.jpg" alt="" width="720" height="480" />

เครื่องมือถัดมา คือ การสร้างคอมมูนิตี้ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับติดตามคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ แถมสนุกไม่ได้เน้นขายสินค้าอย่างเดียว แต่สามารถนำไปต่อยอดความสนใจหรือการทำธุรกิจได้ โดยจะเน้นการสร้าง    คอมมูนิตี้ที่รวมกลุ่มคนที่มีเป้าหมายและความสนใจเดียวกัน ให้มาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้และความสนใจบนโลกออนไลน์ ก่อนจะต่อยอดมาทำกิจกรรมแบบออฟไลน์ได้ในอนาคต ที่สำคัญคอมมูนิตี้ในที่นี้ไม่ได้สงวนไว้เฉพาะนักธุรกิจแอมเวย์เท่านั้น แต่เปิดกว้างให้พวกเขาสามารถชวนเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องที่สนใจ เช่น สุขภาพ ความงาม หรือการอยากมีรายได้เสริม ให้เข้ามาร่วมพูดคุยแชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้อีกด้วย

<img class="alignnone size-full wp-image-49774" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/tw-1.jpg" alt="" width="720" height="411" />

นอกจาก 2 เครื่องมือดังกล่าวแล้ว แอมเวย์ ยังสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์สามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในทุกสถานการณ์ ด้วยการพัฒนาให้ทุกคนก้าวสู่การเป็น Amway Creators ที่สมบูรณ์แบบ และสามารถสร้าง Social Community ของตัวเอง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

การสร้างตัวตนในแบบของแต่ละบุคคล ด้วยการค้นหาจุดเด่นเฉพาะตัว เพื่อนำมาพัฒนาและส่งเสริมให้สอดคล้องกับความถนัด สร้างจุดแข็งที่ไม่ซ้ำใคร

การเรียนรู้แนวคิดการทำคอนเทนต์ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างคอนเทนต์ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจากสายสุขภาพและความงาม เพื่อนำไปต่อยอดนำเสนอผลิตภัณฑ์แอมเวย์ให้มีจุดดึงดูดน่าสนใจ

การรับฟังประสบการณ์การสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ ด้วยการเทรนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสร้าง    คอมมูนิตี้ ทำความรู้จักแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยม รวมถึงเทคนิคการขายสินค้าบนโซเชียลมีเดีย

การสร้างมาตรฐานการสื่อสารดิจิทัลสำหรับสินค้าแต่ละประเภท ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์การใช้ข้อความโฆษณาบนสื่อดิจิทัลและตรวจสอบให้การสื่อสารต่างๆ ถูกต้องทางกฎหมายและจรรยาบรรณ

ทั้งหมดนี้ คือ โอกาสที่แอมเวย์เตรียมไว้ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ ที่ต้องการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่ชอบ เป็นรายได้ที่ยั่งยืน เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=Ily4Pr_8dY4

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events