จับกระแสเซลฟี่ - Forbes Thailand

จับกระแสเซลฟี่

FORBES THAILAND / ADMIN
08 Sep 2016 | 11:23 AM
READ 14507

Meitu ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในใจสาวๆ วัยรุ่นชาวจีน และอีกไม่นานจะถึงเวลาที่เจ้าของบริษัทวัยกลางคนยิ้มรับความสำเร็จ

เคล็ดลับการถ่ายรูปเซลฟี่ให้ออกมาสวยเป๊ะ สำหรับสาวๆ ชาวจีนพวกเธอรู้กันดีว่า แค่ต้องถือสมาร์ทโฟนทำมุมสูง 45 องศาพอดิบพอดี เพื่อให้รูปออกมาดูดีที่สุด หรือหากยื่นคางออกมาอีกหน่อยให้เห็นแนวขากรรไกรชัดเจนขึ้น จะช่วยให้หน้าดูเรียวลง ทั้งยังซ่อนคางสองชั้นได้ และที่สำคัญที่สุด คือ การใช้ MeituPic ในการปรับแต่งผิวให้ดูขาวเนียนเจิดจรัส Meitu ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 โดย Cai Wensheng ผู้ประกอบการที่สั่งสมประสบการณ์มาจากหลากหลายธุรกิจ ก่อนจะบริหารบริษัทจนขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดแอพพลิเคชั่นปรับแต่งภาพเซลฟี่ในประเทศจีน ส่วนหนึ่งที่แอพฯ แต่งรูปได้รับความนิยมอย่างมหาศาล เนื่องจากกระแสความคลั่งไคล้ผิวขาวเรียบเนียน และตากลมโต โดยในหมู่สาวๆ ชาวจีนเริ่มฉีดโบทอกซ์ หรือเดินทางไปเกาหลีใต้ เพื่อทำศัลยกรรมเสริมความงามผิวพรรณ ตั้งแต่วัย 20 กว่า ในกลุ่มคนหนุ่มสาวยุคใหม่ Meitu ได้รับการขนานนามว่า zipai shenqi หรือ “เครื่องมือขั้นเทพสำหรับรูปเซลฟี่” ความนิยมที่เกิดขึ้นนี้ แม้แต่เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ของจีนยังไม่สามารถเทียบได้ จากข้อมูลของ Meitu เปิดเผยว่า แอพพลิเคชั่นของบริษัทมียอดผู้ใช้งานประจำ 360 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งผู้ใช้เหล่านี้ปรับแต่งรูปภาพเฉลี่ยเดือนละประมาณ 3.9 พันล้านรูป โดย MeituPic เป็นแอพฯ ในหมวดรูปภาพและวิดีโอยอดนิยมที่มีจำนวนดาวน์โหลดมากที่สุดบน App Store ระบบ iOS ของจีนนับตั้งแต่ปี 2013 ตามรายงาน “โปรแกรมรวมสถิติและวิเคราะห์ข้อมูล” ของ App Annie โดยตัวเลขทางการเงินล่าสุด Meitu มีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 3.7 พันล้านเหรียญ ทำให้ Cai กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งนักลงทุนที่ได้ร่วมลงทุนก่อนหน้านี้มีทั้งผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Foxconn, IDG Capital Partners และ Tiger Management โดยบริษัทอาจประกาศเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงปลายปีนี้ Cai ไม่กังวลกับการแข่งขันในธุรกิจเท่าไหร่นัก ทุกนาทีต้องมีผู้ใช้งานต้องการแต่งเสริมเติมสวย โดยวันนี้เขาดังขวัญใจชาวจีนรุ่นใหม่อย่าง Angelababy มาเป็นพรีเซนเตอร์จะช่วยผลักดันธุรกิจอีกแรงหนึ่ง “ผมไม่แน่ใจว่ามีคนอื่นคาดคิดว่าเซลฟี่จะกลายเป็นธุรกิจที่มาแรง” Jeffrey Towson ศาสตราจารย์ด้านการลงทุนจาก Guanghua School of Management มหาวิทยาลัย Peking University กล่าว “พวกเขามาได้ถูกที่ ถูกเวลา” แม้ Meitu จะได้รับความนิยม และดึงดูดผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการแต่งรูปแต่ Meitu ยังไม่มีแผนทำเงินจากธุรกิจที่ชัดเจน Cai หลีกเลี่ยงการขายพื้นที่โฆษณาบนแอพฯ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานเกิดประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจทำให้ Meitu มีรายได้ส่วนใหญ่จากการขายสมาร์ทโฟนที่ออกแบบเพื่อเอาใจคอเซลฟี่โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ซึ่งผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด Nicole Peng นักวิเคราะห์จาก Canalys ประเมินว่าสมาร์ทโฟนของบริษัทที่มีราคาเริ่มต้นจำนวน 2,199 หยวน (325 เหรียญ) มียอดจัดขายประมาณ 200,000 เครื่องต่อปีนับจากปี 2013 เทียบกับ Xiaomi ของจีนที่มียอดขาย 70 ล้านเครื่องเมื่อปีที่ผ่านมา Cai กล่าวว่า Meitu ไม่ได้เร่งผลิตสมาร์ทโฟนอย่างเต็มกำลัง แม้จะมี Foxconn เป็นคู่สัญญารับจ้างผลิตโทรศัพท์ที่สามารถขายหมดอย่างรวดเร็วทุกล็อต หากแต่ Cai ต้องการมุ่งความสนใจไปที่แอพพลิเคชั่นมากกว่านักลงทุนกล่าวว่าแม้ธุรกิจยังไม่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่ฐานกลุ่มลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ที่มีจำนวนมหาศาลของ Meitu เพียงพอที่จะให้ผลคุ้มค่าต่อการลงทุนตามที่ประเมินไว้ ในปีนี้ Cai จะขยายกิจการไปสู่ธุรกิจซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์และเกมออนไลน์ รวมถึงเป้าหมายเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยหวังว่าลูกค้าในเอเชียและประเทศอื่นๆ จะชื่นชอบแอพพลิเคชั่นที่มีจุดเด่นเฉพาะ เช่น BeautyPlus ที่สามารถปรับแต่งสีผิวในรูปภาพแบบอัตโนมัติภายในคลิกเดียว ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าลงทุนมูลค่า 5 ล้านเหรียญใน Migme บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาโปรแกรมด้านสื่อสังคมออนไลน์ที่ให้บริการในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยเสริมลูกเล่นการปรับแต่งภาพให้กับ Meitu นอกจากนั้น Meitu ยังต้องการขยายธุรกิจไปยังสหรัฐฯ โดยเปิดตัว AirBrush แอพพลิเคชั่นสำหรับปรับแต่งรูปในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่ท้าทายกว่าในประเทศบ้านเกิด เมื่อ Meitu พยายามสร้างแพลตฟอร์มการแบ่งปันวีดีโอชื่อ Meipai เพื่อให้ผู้ใช้งานจำนวนมากแบ่งเวลาใช้งานสินค้าอื่นๆ ของบริษัท เช่น แอพฯกล้องถ่ายรูป Selfiecity และ Pomelo สำหรับถ่ายรูปเซลฟี่ ขณะที่แอพ Meipai สามารถเชื่อมโยงผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บซื้อขายออนไลน์ของ Meitu ในอนาคต ทำให้ Cai ต้องหาทางแย่งชิงตลาดจาก Tencent บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ครองพื้นที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน รวมถึงต้องรับมือการแข่งขันจาก Miaopai ซึ่งมี Weibo เป็นหนึ่งในนักลงทุน แต่ Meipai ก็ยังมีฐานผู้ใช้งานประมาณ 170 ล้านราย   เรื่อง: YUE WANG เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา
คลิ๊กอ่าน "จับกระแสเซลฟี่" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ AUGUST 2016 ในรูปแบบ e-Magazine