ศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา NL เติมแต้มต่อโปรก่อสร้าง - Forbes Thailand

ศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา NL เติมแต้มต่อโปรก่อสร้าง

การก่อร่างสร้างตัวของครอบครัวที่ได้รับการวางรากฐานอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่รุ่นบุกเบิกเริ่มต้นหอบเสื่อผืนหมอนใบข้ามน้ำข้ามทะเลจากแดนมังกรมาเปิดร้านขายของชำในประเทศไทย และพยายามส่งเสียให้บุตรทุกคนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี พร้อมเป็นต้นแบบความมุ่งมั่นไขว่คว้าหาโอกาสและทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางให้สามารถก้าวสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จในอนาคต


    “พื้นเพของอากงอาม่ามาจากเมืองจีนไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ท่านมาเปิดร้านขายของชำที่เมืองไทยและส่งเสียให้ลูกชาย 5 คนเรียนจบจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ทุกคน ซึ่งคุณพ่อชอบเล่าให้ฟังว่าสมัยเป็นนักศึกษามักจะติดตามอากงไปซื้อของ โดยยุคนั้นจะมีการประมูลสินค้าในแคมป์ทหารจีไอ คุณพ่อก็ไปประมูลและนำมาขายจนสามารถจับเงินล้านตั้งแต่อายุน้อยๆ”

    ศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ หรือ NL กล่าวถึงการเริ่มต้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไปในปี 2524 โดยบิดาของเขา

    “ซึ่งเป็นความภูมิใจของท่านและทำให้เรียนรู้ว่า ทุกอย่างมีโอกาสเสมอถ้าเราไขว่คว้าและทุ่มเท โดยหลังจากเรียนจบท่านทำธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเลี้ยงขายเนื้อสัตว์ ร้านเบเกอรี่ ทำอุปกรณ์เบเกอรี่ ก่อนจะมีผู้ใหญ่แนะนำให้ลองรับงานของ กทม. ซึ่งคุณพ่อไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้วก็หานายช่างคู่ใจรับงานตั้งแต่ปี 2524 จนมีผลงานเป็น 10 ปี จึงชวนพี่น้องเข้ามาร่วมกันทำและแบ่งหุ้นให้ถึงวันนี้”

    ภูมิสัน โรจน์เลิศจรรยา ซึ่งเป็นบิดาได้ก่อตั้งบริษัทให้บริการงานก่อสร้างสำหรับโครงการขนาดเล็กของหน่วยงานภาครัฐที่มีมูลค่าไม่สูง เช่น งานเขื่อนกั้นน้ำ งานโยธา งานถนน และงานอาคาร จนกระทั่งได้รับงานก่อสร้างโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการแรกที่บริษัทให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารสถานพยาบาลทางการแพทย์ที่อาศัยเทคนิคการก่อสร้างเฉพาะทางในปี 2539 และจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมดำเนินงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมในลักษณะอาคารสูง 21 ชั้นเมื่อปี 2547

    นอกจากนั้น บริษัทยังจัดตั้งสำนักงานสาขาที่จังหวัดนครปฐมสำหรับจัดเก็บและจัดเตรียม อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรประกอบการก่อสร้างในปี 2550 รวมถึงก่อตั้งโรงงานดัดและตัดเหล็กเส้น โกดังเก็บเหล็กเส้น และโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์บางประเภทเพื่อใช้ประกอบงานรับเหมาก่อสร้างของบริษัท

    ทั้งยังจัดตั้ง บริษัท พาร์เซคอน จำกัด ให้บริการด้านแรงงานสนับสนุนการดำเนินงานในโครงการ ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายขอบเขตการให้บริการได้ครอบคลุมการสำรวจ ออกแบบและก่อสร้างงานอาคาร ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง (structure) งานสถาปัตยกรรม (architecture) และงานระบบประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E)

    “บริษัทก่อตั้งปี 2524 ผมเกิดปี 2525 เราเติบโตจากตรงนี้เหมือนหลายคนที่บ้านอยู่ชั้น 2 ออฟฟิศอยู่ชั้นล่าง ปิดเทอมก็ลงมาช่วยรับโทรศัพท์ เดินเอกสาร ทำให้เกิดความผูกพันและซึมซับกับธุรกิจของครอบครัว ซึ่งตอนเด็กๆ เราเรียนไม่เก่ง แต่เล่นบาสเกตบอลจริงจังจน ม.ปลายสามารถเข้าเตรียมอุดมได้จากโควตานักกีฬา” ศรันย์ย้อนรำลึกความหลัง

    “ก่อนจะเจอจุดพลิกผันช่วง ม.6 เกิดอุบัติเหตุข้อเท้าหักทำให้ต้องจบชีวิตนักกีฬาและต้องมาเตรียมสอบเข้าช่วงเทอม 2 แทนที่จะได้โควตาเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นเราจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับความไม่แน่นอน dynamic และสถานการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเราตั้งใจจริงอะไรก็ทำได้”

    แม้ชีวิตจะพลิกผันจากอุบัติเหตุเพียงเสี้ยวนาทีที่ดับฝันการเป็นนักกีฬาในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ศรันย์ยังสามารถใช้ความมุมานะเตรียมสอบจนสามารถเข้าศึกษาในสาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้สำเร็จ

    ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ลองชิมลางการทำธุรกิจตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาและหารายได้หลักล้านในวัยเพียง 19 ปี โดยร่วมกันกับพี่ชายเปิดเกสต์เฮ้าส์ย่านเทเวศร์ให้บริการห้องเช่าจำนวนมากกว่า 20 ห้อง และต่อยอดธุรกิจอาหารเครื่องดื่มสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเข้าพัก จนกระทั่งสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 1 ปี พร้อมเรียนรู้ระบบการทำงาน การวางแผนดำเนินงาน การติดต่อสื่อสาร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการบริหารจัดการต้นทุน ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของครอบครัวได้


โชว์ผลงานพิสูจน์ฝีมือ

    เบื้องหลังพัฒนาการทางธุรกิจสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงเกิดจากทายาทคลื่นลูกใหม่มีส่วนร่วมตัดสินใจและพยายามสร้างความแตกต่างให้เป็นข้อได้เปรียบในการชิงส่วนแบ่งตลาดที่ยังมีช่องว่างสำหรับผู้เล่นที่มีอาวุธพิเศษเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะและประสบการณ์ รวมถึงงานโครงการจำนวนมากช่วยการันตีฝีมือเรียกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 4 ทศวรรษ

    “เราเป็นธุรกิจครอบครัวที่กล้าพูดว่า เราไม่ใช่กงสี เพราะแต่ละ step จนถึงรุ่นของเรามีทางออกหรือทางเลือกให้กับทุกคนโดยส่วนตัวเราไม่เชื่อเรื่องการรับไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น และตั้งปณิธานที่บอกกับผู้ใหญ่เสมอว่า ถ้าผมทำไม่ได้หรือไม่เหมาะสมให้พิจารณาคนอื่นได้เลย เพราะผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทของเรามีจำนวนมาก” ศรันย์อธิบาย

    “พนักงานหลายร้อยคน บางคนอยู่กันมานาน ผมไม่ต้องการว่าจะต้องเป็นผมแต่พาทุกคนไปไม่รอด ซึ่งโจทย์หลักของเราเน้นเรื่องการทำให้ธุรกิจยั่งยืน ส่วนผู้ใหญ่คาดหวังเรื่องการต่อยอด แต่จะเป็นทิศทางไหนก็แล้วแต่การตัดสินใจของเรา”

    สำหรับพอร์ตงานรับเหมาก่อสร้างของบริษัทในปัจจุบันแบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ สถานพยาบาล อาคารสำนักงานและเพื่อการพาณิชย์ อาคารพักอาศัย อาคารพิเศษที่มีความซับซ้อนในการก่อสร้าง และงานก่อสร้างอื่นๆ

    ศรันย์กล่าวถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของบริษัทในการสร้างความแตกต่างและการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเป็นผู้รับเหมารายแรกๆ ของประเทศที่ใช้เทคโนโลยี BIM (Building Information Model) ครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์แบบ ถอดปริมาณวัสดุอย่างละเอียดในขั้นตอนการเสนอราคา การวางแผนและเตรียมงานก่อสร้าง ส่งผลให้บริษัทสามารถลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ทั้งยังให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ

    นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นโอกาสเบนเข็มเส้นทางธุรกิจเข้าร่วมประมูลงานโรงพยาบาลและสถานพยาบาล โดยสามารถคว้างานโครงการขนาดใหญ่จำนวน 2 โครงการมูลค่า 1.45 พันล้านบาท และมูลค่า 1.62 พันล้านบาทในปี 2559 ด้วยความเชื่อมั่นในแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจทางการแพทย์และการสนับสนุนจากภาครัฐผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (medical hub) และส่งเสริมให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness destination)

    “ธุรกิจก่อสร้างอาคารที่ชะลอตัวช่วงโควิด-19 และนโยบายภาครัฐที่เกี่ยวกับ EEC จะทำให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล โดยเฉพาะสถานพยาบาลยังมีอนาคตอีกมาก” ศรันย์กล่าว

    “ซึ่งการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้เราสามารถขยายงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จากเงินทุนหมุนเวียนและการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรเป็นของเราเอง รวมถึงเรามั่นใจในจุดแข็งที่สามารถแข่งขันได้ทั้งผลงาน ประสบการณ์ uniqueness ระบบจัดการภายใน การควบคุมต้นทุน เทคโนโลยีและศักยภาพของทีมงาน รวมทั้ง service center”


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : "ณพน เจนธรรมนุกูล" สัมมากรบุกตลาดซูเปอร์ลักชัวรี ท่ามกลางความท้าทาย

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine พิเศษ! ฉบับนี้แถมฟรี Forbes Life