“Hopeful” หรือ “เปี่ยมด้วยความหวัง” คือนิยาม Tinder เผยเทรนด์ออกเดทปี 2569 คนโสดเจน Z เลือกความชัดเจน ไม่ทำตัวซับซ้อน มองหาคู่ที่เชื่อในหลักการเดียวกัน ความฉลาดทางอารมณ์คือเสน่ห์ และถ้าไม่ผ่านด่านเพื่อนสนิท ทุกอย่างคือจบ
ย้อนไปในปี 2567 ที่ Tinder เผยผลสำรวจว่าเทรนด์การออกเดทที่มีจุดมุ่งหมายกำลังมาแรงในปีนั้น สู่ปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่คนโสดปรับจังหวะช้าลง และทุกอย่างกลับสู่ความสงบ แต่ในขณะเดียวกันก็เผยตัวตนมากขึ้น และเริ่มสื่อสารว่าตัวเองต้องการอะไร
ล่าสุด Tinder ได้เผยเทรนด์การเดทในปี 2569 ออกมาแล้ว โดยชี้ว่าคนโสดรุ่นใหม่กำลังปรับตัวเรื่องความรักด้วยการละทิ้งความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน และหันมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เทรนด์ออกเดทปี 2569 ‘ชัดเจน-ความคิดเห็น-เพื่อน-ความรู้สึก’
เทรนด์การออกเดทในปี 2569 ที่กำลังจะมาถึงนี้ Tinder ชี้ว่าคนโสดเจน Z กำลังก้าวข้ามปี 2568 พร้อมกับการเปิดใจกว้าง ซื่อสัตย์ และมีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าที่เคย ส่งผลให้ปี 2569 มีแนวโน้มที่จะเป็นปีของความสัมพันธ์ที่ไร้ความคลุมเครือ
คนโสดกำลังนิยามความสัมพันธ์ใหม่ในแบบของตัวเอง จากเดิมที่ความสัมพันธ์เป็นสิ่งบ่งบอกถึงสถานะ แต่ปัจจุบันคือการแสดงออกถึงตัวตนซึ่งเป็นเรื่องใหม่ การออกเดทบน Tinder นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปและสะท้อนผ่านเทรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ
โดยแบ่งได้ 4 ประเภท คือ ความชัดเจน (Clear-Coding), การแสดงความคิดเห็น (Hot-Take Dating), อิทธิพลของเพื่อนสนิท (Friendfluence) และ การแสดงอารมณ์และความรู้สึก (Emotional Vibe Coding) ซึ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างจริงใจ และการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา กลายเป็นคุณสมบัติสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ การเดทจึงไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องของความชัดเจน การเชื่อมต่อกัน และการได้กำหนดเรื่องราวของตัวเอง
“คนเรามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากมายพอแล้ว ดังนั้นการออกเดทไม่ควรเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกกดดัน ปัจจุบัน คนโสดกำลังมองหาความสัมพันธ์สบายๆ ซื่อสัตย์ต่อกัน และสนุกสนาน เลิกคิดมากกับทุกข้อความ และไม่วิเคราะห์คู่เดทเกินความจำเป็น การเดทควรเพิ่มสีสันให้ชีวิต ไม่ใช่ความเครียด ในปี 2569 เราจะเห็นพลังงานนี้เด่นชัดที่คนโสดสื่อสารความต้องการของตัวเองชัดเจน ยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ และให้ความสำคัญกับความจริงใจและการเปิดใจ การมีความพร้อมเปิดใจรับความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่จะทำให้คุณมีความน่าสนใจมากขึ้น” Melissa Hobley ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tinder กล่าว
ไม่ทำตัวซับซ้อน เป็นตัวเองกับคนที่ชอบ
เริ่มกันที่ ความชัดเจน หรือ Clear-Coding เมื่อความสัมพันธ์มาพร้อมกับคำนิยามของความชัดเจน คนโสดรุ่นใหม่จะไม่นั่งเดา หรือทำตัวลึกลับซับซ้อนอีกต่อไป แต่จะให้ความสำคัญกับความชัดเจน กล้าเปิดเผยในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการนัดออกเดทแบบจริงจัง คุยแบบสบายๆ หรือคบกันแบบจริงจังระยะยาว
โดย 64% ของคนโสดระบุว่า ความซื่อสัตย์ทางอารมณ์คือสิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดในการเดทยุคนี้ และ 60% ต้องการการสื่อสารที่แสดงเจตนาชัดเจน ผู้ที่ออกเดทในปัจจุบันจึงเลือกสื่อสารง่ายๆ และพูดตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกัน 73% ยอมรับว่ารู้ตัวว่าชอบใครสักคนเมื่อสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่กับคนนั้น
นอกจากนี้ 76% ยังกล่าวว่าได้ใช้ AI ในการออกแบบการออกเดทของตัวเอง ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ให้ AI แนะนำไอเดียการออกเดท (39%) เลือกรูปที่ดีที่สุด (28%) และช่วยคิดประวัติส่วนตัวหรือแนะนำตัว (28%)
“คนเจน Z ไม่อยากเดาแล้ว อยากให้ทุกอย่างเปิดเผยแบบตรงไปตรงมา ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็บอกกันชัดๆ สื่อสารเจตนาให้ชัดเจน พูดตรงๆ ขอให้ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ความจริงใจตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก และเวลาที่รู้ตัวว่าชอบใคร จะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ การกล้าที่จะพูด การสื่อสารที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคนี้” Melissa Hobley กล่าว

มีจุดยืน มองหาคู่ที่เชื่อในหลักการเดียวกัน
สำหรับการแสดงความคิดเห็น หรือ Hot-Take Dating เมื่อความคิดเห็นเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่าง คนโสดรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการมีจุดยืนในสิ่งที่เชื่อ โดย 37% ของคนโสดระบุว่าการมีค่านิยมร่วมกันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกเดท ส่วนอีก 41% จะไม่ออกเดทกับคนที่มีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่เกือบครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 46% บอกว่ายังพอเปิดใจได้ ซึ่งผู้หญิงจะมีสัดส่วนน้อยกว่าผู้ชาย ที่ 35% ต่อ 60% ตามลำดับ
เรื่องนี้ไม่ใช่การแบ่งแยก แต่เป็นเรื่องของการเป็นตัวของตัวเอง คนโสดมองหาคู่เดทที่เชื่อในหลักการเดียวกัน ตั้งแต่ความเท่าเทียมไปจนถึงความเห็นอกเห็นใจ ส่วนเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้คือ การเหยียดเชื้อชาติ 37%, มุมมองเรื่องครอบครัว 36% และสิทธิของกลุ่มเพศหลากหลาย 32%
ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงสิ่งที่ใครๆ ให้ความสำคัญ นั่นคือ ความใจดี ยังคงครองอันดับหนึ่ง ขณะที่ 54% บอกว่าพฤติกรรมที่รับไม่ได้ที่สุดคือการพูดจาหยาบคายหรือเหวี่ยงใส่พนักงานบริการ
“ความสนใจย่อมมาพร้อมกับความคิดเห็นหรือค่านิยมที่มีร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่การแบ่งแยก แต่เราสามารถแสดงความเห็นของเราได้อย่างตรงไปตรงมากับคนที่เราสนใจ” Melissa Hobley กล่าว
ถ้าไม่ผ่านด่านเพื่อนสนิท ทุกอย่างจบ!
อีกด้านที่ Tinder เผยว่าจะมีอิทธิพลต่อการออกเดทเป็นอย่างมาก นั่นคือ เพื่อนสนิท หรือ Friendfluence และคู่แมตช์ตัวจริงแห่งปี 2569 อาจเป็นกรุ๊ปแชทของเพื่อน
โดย 42% ของคนโสดเจน Z บอกว่าเพื่อนมีอิทธิพลต่อการออกเดท และ 37% วางแผนที่จะออกเดทแบบกลุ่มหรือแบบเป็นคู่ในปีหน้า เพื่อนจึงกลายเป็นเหมือนผู้ช่วยด้านอารมณ์ของการเดทยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น 34% บอกว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนทำให้พวกเขามีหวังกับความสัมพันธ์ในอนาคต
ในปี 2569 ที่จะถึงนี้ ถ้าคู่ Match ไม่ผ่านด่านกรุ๊ปแชท ทุกอย่างจบทันที โดยเกือบ 85% ของผู้ใช้ฟีเจอร์ Double Date (ให้ผู้ใช้งานจับคู่กับเพื่อนสนิทและร่วมกันหาคู่) อายุต่ำกว่า 30 ปี และผู้ใช้หลักๆ เป็นผู้หญิง พร้อมทั้งมีโอกาสที่จะ Like และ Match กับโปรไฟล์คู่มากกว่าโปรไฟล์เดี่ยวถึงเกือบ 3 เท่า และผู้ใช้ฟีเจอร์ Double Date มีการส่งข้อความมากขึ้นเฉลี่ย 25% เมื่อเทียบกับแชทเดี่ยวตัวต่อตัว
“อิทธิพลจากเพื่อนสนิทมีความสำคัญ เพราะเพื่อนจะเป็นคนที่เห็น Red flag ก่อนที่เราจะเห็น และจะให้คำแนะนำกับเราในเรื่องความสัมพันธ์ได้ด้วย” Melissa Hobley กล่าว
ความพร้อมทางอารมณ์คือเสน่ห์
Tinder เผยว่า การแสดงอารมณ์และความรู้สึก หรือ Emotional Vibe Coding) นั้น ความพร้อมทางอารมณ์คือเสน่ห์ และคนโสดไม่ปิดกั้นทางอารมณ์อีกต่อไป คนโสดที่กำลังมองหาคนรู้ใจในปี 2569 จะต้องบาลานซ์ระหว่างการพูดคุยและความรู้สึก โดยแสดงให้เห็นว่าต้องการเคมีที่มีความหมายแต่ไม่ซับซ้อนเกินไป จากผลสำรวจ 56% ให้ความสำคัญกับบทสนทนาที่จริงใจมากที่สุด, 45% ต้องการความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นหลังจากโดนปฏิเสธ
สำหรับเดทแรกควรมีบรรยากาศสนุกๆ ไม่กดดัน เช่น การเดินเล่นหรือการดื่มกาแฟ เพราะคนโสดมองหาความสัมพันธ์ที่เข้ากับจังหวะชีวิตตัวเอง โดย 35% ยังมองหาคนรักที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์แบบชิลๆ หรือคนที่ทำให้เกิดความรู้สึกสบายๆ ไม่ดราม่า และให้พลังงานดีๆ
“สิ่งที่คนมองหาคือความพร้อม ความฉลาด และความซื่อตรงทางอารมณ์” Melissa Hobley กล่าว
‘Hopeful’ นิยามการเดทปี 2569
จากทั้งหมดของเทรนด์การเดทนั้น Tinder ได้ให้นิยามคำที่เหมาะสำหรับการเดทในปี 2569 มากที่สุด คือ Hopeful หรือ เปี่ยมไปด้วยความหวัง เพราะความหวังเป็นสิ่งที่กำลังมาแรง และคนโสดก็ไม่กลัวที่จะแสดงออกมา
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า บางคนไม่กลัวที่จะรู้สึกผิดหวัง โดย 28% บอกว่าชอบความรู้สึกที่ได้แอบชอบ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้ไปต่อ สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าคนรุ่นใหม่ยังคงใช้การเดทเพื่อเขียนเรื่องราวในชีวิตให้กับตัวเอง หรือที่เรีียกว่า Dating for the plot
“Hopeful หรือ เปี่ยมไปด้วยความหวัง จากการสำรวจ เจน Z มองว่าคำนี้เป็นคำที่มีความงดงามมาก และเมื่อเทียบกับสถานการณ์รอบๆ ตัว การมีความหวังและพลังงานบวกจึงเป็นสิ่งสำคัญ” Melissa Hobley กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : รักแท้เกิดจาก Match ครั้งเดียวได้! Tinder x Aurora Diamond ส่งแคมเปญแจกเพชรกะรัตครึ่งล้าน สนับสนุนความรักที่เริ่มต้นผ่านโลกออนไลน์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

