'สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า กระทบส่งออกไทย' ซิตี้แบงก์ หั่น GDP ปี 68 จาก 3% เหลือ 2.2% - Forbes Thailand

'สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า กระทบส่งออกไทย' ซิตี้แบงก์ หั่น GDP ปี 68 จาก 3% เหลือ 2.2%

ซิตี้แบงก์ ปรับลด GDP ไทยปี 68 จาก 3.0% เหลือ 2.2% โดยเป็นผลมาจากสงครามการค้า สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าส่งออกของไทย พร้อมคาดการณ์ กนง. จะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในเดือนตุลาคมนี้


    ซิตี้ รีเสิร์ช (Citi Research) โดยธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพี ประเทศไทยในปี 2568 จาก 3.0% เหลือ 2.2% หลังภาคการส่งออกและภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การค้าโลกผันผวน รวมถึงหลายโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (สกท.) อาจล่าช้าจากสถานการณ์ล่าสุด 

    ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังคงอ่อนแรงจากหนี้ครัวเรือนแม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงหลายครัวเรือนที่ต้องซ่อมแซมความเสียหายจากแผ่นดินไหว ทำให้กำลังการใช้จ่ายลดลง ด้านภาคการท่องเที่ยวยังคงมั่นคงด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความเสี่ยงขาลงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ซิตี้คาดว่าธปท. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อีกครั้งในเดือนตุลาคม 2568 เหลือ 1.50% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภายใต้ภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำ


    ทาริก อาเหม็ด ข่าน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการขายและโซลูชันภาคองค์กรประจำประเทศไทยและเวียดนาม ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้ได้ปรับลดคาดการณ์การลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในปี 2566-2567 อาจเกิดการล่าช้า ขณะที่ด้านการบริโภคภาคเอกชนยังคงอ่อนแอจากระดับหนี้ครัวเรือนสูง แม้ภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Digital Wallet และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงต้นปี 2568 ด้านการท่องเที่ยว ซิตี้คาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน และเพิ่มเป็น 43 ล้านคนในปี 2569 แต่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัยในประเทศไทย



    สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐยังคงได้รับการสนับสนุน แต่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ยังมีข้อจำกัด หากรัฐบาลไม่ยกเพดานหนี้ที่ 70% ของจีดีพี จึงคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในปี 2568 จากงบประมาณเหลือจ่ายจากปีก่อนหน้า รวมถึงมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดเล็กเพิ่มเติม และจากการที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซิตี้ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2568 เหลือ 0.6% และอัตราเงินเฟ้อปี 2569 ที่ 1.2% โดยมีความเสี่ยงขาลงจากการลดลงของราคาสินค้าและพลังงาน เช่น ไฟฟ้า ราคาน้ำมัน และสินค้านำเข้าจากประเทศจีน

    อย่างไรก็ตาม ทาง ซิตี้ รีเสิร์ช ยังคาดการณ์ด้วยว่า "ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งในเดือนตุลาคม 2568 เหลือ 1.50% ทำให้นโยบายการเงินผ่อนคลายลงเล็กน้อย และอาจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งช่วงต้นปี 2569 แต่แนวโน้มที่ธปท. จะใช้ค่าเงินบาทที่อ่อนลงเป็นกลไกดูดซับแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอกอาจเผชิญความท้าทาย จากการที่ไทยยังไม่สามารถนำดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาใช้หมุนเวียนภายในประเทศได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยอาจถูกจับตามองจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่ามีพฤติกรรมบิดเบือนค่าเงิน" ทาริก กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ : ซิตี้แบงก์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ภาคเอกชน กกร. หั่นเป้า GDP ไทยปี 68 เหลือ 2.0-2.2% เสี่ยงต่ำสุด 0.7% ถ้าโดนภาษีทรัมป์สูง 36%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine