โน้ตบุ๊ค-โทรศัพท์โอเค แต่พกคอมพ์-เครื่องปรินต์มาคือพอเลย! ‘Starbucks เกาหลี’ ประกาศห้ามลูกค้า นำอุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่เข้าร้าน - Forbes Thailand

โน้ตบุ๊ค-โทรศัพท์โอเค แต่พกคอมพ์-เครื่องปรินต์มาคือพอเลย! ‘Starbucks เกาหลี’ ประกาศห้ามลูกค้า นำอุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่เข้าร้าน

ขอคืนความเป็นร้านกาแฟ! Starbucks เกาหลีใต้ประกาศห้ามนำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่เข้าร้าน หวังคืนพื้นที่ให้ลูกค้าทุกคน


    Starbucks ในเกาหลีใต้กำลังเผชิญปัญหาลูกค้าบางกลุ่มเปลี่ยนร้านกาแฟให้กลายเป็น “ออฟฟิศส่วนตัว” หรือแม้กระทั่ง “ห้องอ่านหนังสือ” จนกระทบต่อการใช้พื้นที่ร่วมกันกับคนอื่น ภาพจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นบางคนติดตั้งแผงกั้นโต๊ะ พกคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมากกว่าหนึ่งเครื่อง และเครื่องพิมพ์ รวมถึงต่อสายไฟหลายเส้นเพื่อใช้อุปกรณ์ต่างๆ

    เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ Starbucks เกาหลีใต้ได้ติดประกาศในสาขาทั่วประเทศ แจ้งให้ลูกค้า “งดนำอุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป เครื่องพิมพ์ สายต่อพ่วง และแผงกั้นโต๊ะ” เข้ามาใช้ในร้าน พร้อมขอความร่วมมือให้นำสิ่งของติดตัวไปด้วยหากต้องออกจากโต๊ะเป็นเวลานาน และเปิดพื้นที่โต๊ะใหญ่ให้ลูกค้าคนอื่นได้ใช้ร่วม

    โฆษกของสตาร์บัคส์เกาหลีใต้กล่าวกับ Business Insider ว่า “Starbucks เกาหลีได้ปรับนโยบายเพื่อให้ลูกค้าทุกคนมีประสบการณ์การใช้ร้านที่น่าพึงพอใจและเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม” พร้อมย้ำว่า “แม้เรายินดีต้อนรับการใช้แล็ปท็อปและอุปกรณ์ส่วนตัวขนาดเล็ก แต่เราขอให้ลูกค้างดนำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ หรือสิ่งของขนาดใหญ่ที่อาจจำกัดที่นั่งและกระทบต่อพื้นที่ส่วนรวม”

    มาตรการนี้ไม่ได้กำหนดเวลาจำกัดการนั่งในร้าน แต่เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญกระแสการทำงานและอ่านหนังสือในร้านกาแฟ หรือที่เรียกว่า “cagongjok” ซึ่งหมายถึงคนที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในร้าน หลังซื้อเครื่องดื่มเพียงแก้วเดียว แนวโน้มดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าล้ำเส้นมารยาทของการใช้พื้นที่ร่วมกัน

    บนโซเชียลมีเดียในเกาหลีใต้ มีผู้ใช้หลายคนแสดงความเห็นสนับสนุนนโยบายใหม่นี้ เช่น “ทำได้ดีมาก ตอนนี้ Starbucks เริ่มแล้ว ร้านกาแฟอื่นก็ควรทำตาม”

    อีกคนกล่าวว่า “คนที่ทำงานในร้านกาแฟจนเกินขอบเขตทำให้ผมเลิกไป Starbucks ไปเลย นี่เป็นมาตรการตอบโต้คนที่ไม่มีมารยาท”

    ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์จากบางส่วน เช่น ความเห็นใน Reddit ที่เขียนว่า “ถ้าคุณไม่มีเงินเช่าออฟฟิศ และ Starbucks โง่พอจะให้คุณเปิดออฟฟิศที่นั่นได้ในราคาเครื่องดื่มกาแฟรสหวานต่ำกว่ามาตรฐาน ก็เอาเลย”

    ไม่ว่ามุมมองจะเป็นเช่นไร การประกาศครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณว่า ร้านกาแฟยักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks กำลังหาทางสร้างสมดุลระหว่างการเป็นพื้นที่พักผ่อนกับการรองรับคนทำงาน แต่ก็ไม่ยอมให้การใช้พื้นที่ของบางคนกระทบประสบการณ์ของคนอื่น



อ้างอิง:

    - Starbucks is asking customers in South Korea to stop bringing monitors, printers, and desk dividers into their stores

    - No printers or PCs, Starbucks Korea tells customers



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘กาแฟไทย’ ยืนหัวแถวโตสวน ศก. คนไทยดื่มทะลุ 340 แก้วต่อคนต่อปี Cafe Amazon ยืนหนึ่งร้านเชนอัตราทำกำไรสูงสุด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine