นายกฯ สิงคโปร์ยอมรับ มีดีล Taylor Swift จริง ชี้ทำเพื่อประเทศ ไม่ได้เอาเปรียบเพื่อนบ้าน - Forbes Thailand

นายกฯ สิงคโปร์ยอมรับ มีดีล Taylor Swift จริง ชี้ทำเพื่อประเทศ ไม่ได้เอาเปรียบเพื่อนบ้าน

CNBC รายงาน Lee Hsien Loong นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เผยว่า ข้อตกลงกับ Taylor Swift ที่มีเงื่อนไขว่านักร้องสาวจะไม่ไปแสดงคอนเสิร์ต The Eras Tour ในประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเรื่องจริง


    “เอเจนซีของเราเจรจาขอให้เธอมาเยือนสิงคโปร์ และกำหนดให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางเดียวของเธอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เขากล่าวขณะแถลงข่าวในงานประชุมระดับภูมิภาคที่ออสเตรเลีย จากรายงานของ Reuters

    คำพูดของ Lee Hsien Loong นับเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกเรื่องการแสดงของ Swift โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Edwin Tong รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของสิงคโปร์ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามในประเด็นนี้ถึงสองครั้ง อีกทั้งยังไม่เปิดเผยมูลค่าดีล แต่บอกเพียงว่าจำนวนเงินนั้น “ไม่ได้สูงอย่างที่คาดเดากัน”

    “ด้วยเหตุผลว่าด้วยการรักษาความลับทางธุรกิจ เราไม่สามารถเปิดเผยมูลค่าหรือเงื่อนไขของข้อตกลงครั้งนี้ได้” เขากล่าว

    สำหรับประเด็นเรื่องข้อตกลงในการคว้าตัวนักร้องสาวชาวอเมริกันให้มาจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์เพียงแห่งเดียวในอาเซียนนั้น ถูกจุดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อนายกรัฐมนตรีไทย เศรษฐา ทวีสิน ออกมาพูดว่าทางสิงคโปร์จ่ายเงินแก่ทีมงานของ Swift เป็นจำนวนราว 2-3 ล้านเหรียญต่อหนึ่งรอบการแสดง


Lee Hsien Loong นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์


ดีลคอนเสิร์ตสะเทือนการทูต

    การจ่ายเงินทำข้อตกลงกับ Swift นั้นอาจสะเทือนถึงการทูตของสิงคโปร์ ด้วยนำมาซึ่งคำวิจารณ์มากมายจากบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากว่าดีลนี้เสมือนเป็นการกีดกันพวกเขาออกจากทัวร์คอนเสิร์ตรายได้สูงสุดที่เคยมีมา

    Joey Salceda หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนบ้านดีๆ เขาทำกัน” พร้อมเสริมว่าข้อตกลงแบบนี้ขัดแย้งกับหลักการทั่วไปของ ASEAN อีกด้วย

    Lee Hsien Loong ออกมาโต้คำพูดดังกล่าวว่า “ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ผมไม่เห็นว่ามันจะไม่เป็นมิตรตรงไหนเลย”

    มีการคาดการณ์ว่า คอนเสิร์ตทั้ง 6 รอบของ Swift จะอัดฉีดเม็ดเงินราว 260-372 ล้านเหรียญเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของสิงคโปร์ โดย 70% ของผู้มาชมการแสดงมาจากต่างประเทศ

    ระหว่างการแสดงในสิงคโปร์ 3 รอบที่ผ่านมา นักร้องสาวมีการขอเสียงจากผู้ชมสองกลุ่ม ได้แก่ คนในประเทศ และคนที่ลงทุนบินมาจากต่างประเทศ ซึ่งเสียงจากคนกลุ่มหลังจะดังกว่าทุกครั้งไป

    อีกทั้ง อัตราค่าใช้จ่ายการเข้าพักโรงแรมในสิงคโปร์โดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นจาก 256 เหรียญเป็น 400 เหรียญในสัปดาห์นี้ อ้างอิงตัวเลขจากบริษัทซอฟต์แวร์ด้านการท่องเที่ยว RateGain พบว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจองที่พักเพิ่มขึ้น 92%, ชาวไทยจองเพิ่มขึ้น 111% และอินโดนีเซียจองเพิ่มขึ้น 189%

    หากมองย้อนไปในอดีต ทัวร์คอนเสิร์ต Reputation Stadium Tour ของ Swift เมื่อปี 2018 จัดขึ้นที่โตเกียวเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในเอเชีย แต่คอนเสิร์ตครั้งถัดๆ มา ได้แก่ Speak Now, Red และ 1989 มีการมาเยือนเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซียด้วย


Taylor Swift กับคอนเสิร์ต Eras Tour คืนแรกในสิงคโปร์


หลักแหลมหรือเห็นแก่ตัว?

    ข้อตกลงของสิงคโปร์จุดประเด็นการโต้เถียงว่า การกระทำเช่นนี้นับเป็นการเจรจาต่อรองอันชาญฉลาดหรือความโลภกันแน่

    “แน่นอนว่าเป็นกลยุทธ์ที่กล้าหาญและหลักแหลมของสิงคโปร์” Selena Oh ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาดที่ทำงานในสิงคโปร์กล่าว

    ตรงข้ามกัน อีกหลายความคิดเห็นมองว่า ตรรกะผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์ ของสิงคโปร์นั้นจะส่งผลร้ายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาค ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากโควิด-19 รวมถึงแฟนๆ ของนักร้องสาวที่ไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเดินทางแสนแพงเพื่อมาเจอเธอตัวเป็นๆ ได้

    บางคนก็เปรียบเทียบกับกรณีที่เมืองต่างๆ แข่งขันกันเพื่อแย่งชิงสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพงานกีฬาสำคัญ เช่น โอลิมปิก ซูเปอร์โบวล์ และฟุตบอลโลก

    “มีใครค้านหรือเปล่าที่ F1 ตัดสินใจไปจัดที่สิงคโปร์? มีใครทำเหมือนกับว่าที่นี่ไม่มีเงินหรือขาดแคลนทรัพยากรอื่นๆ ไหม?” Irene Hoe ที่ปรึกษากองบรรณาธิการที่ทำงานในสิงคโปร์ตั้งคำถาม

    การจัดคอนเสิร์ต ซึ่งก็คือการที่ศิลปินออกเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งเพื่อพบปะแฟนๆ ไม่เคยมีการแข่งขันที่ดุเดือดเท่านี้มาก่อน แต่แนวทางเช่นนี้กำลังเปลี่ยนไป เมื่อกลยุทธ์การท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นประสบการณ์ผลักให้คอนเสิร์ตกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์มหาศาล จากบรรดาแฟนคลับที่ยินดีออกเดินทางข้ามทวีปเพื่อมาดูการแสดงของศิลปินคนโปรด

    นอกเหนือจากนี้ ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Gerald Giam นักการเมืองสิงคโปร์รายหนึ่งได้ถาม Tong ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมในกรณีการต่อรองกับ Swift ให้มาจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์เพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า

    “แล้วได้มีการตระหนักหรือไม่ครับ ว่าเพื่อนบ้านบางประเทศอาจมองว่าการกระทำนี้เป็นเรื่องใจร้าย?”

    Tong ตอบว่า “คุณต้องคำนวณและลงมือทำในสิ่งที่สิงคโปร์และชาวสิงคโปร์จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด”


แปลและเรียบเรียงจาก Debate heats up as Singapore prime minister says exclusive Taylor Swift deal isn’t ‘unfriendly’


​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จาก Coldplay ถึง Taylor Swift สิงคโปร์กำลังใช้คอนเสิร์ตดูดเม็ดเงิน ดันเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine