ปริญญาอาจไม่การันตีอนาคต! Gen Z มองการเรียนมหาวิทยาลัยไม่ช่วยเสริมความก้าวหน้าทางอาชีพเท่าที่ควร - Forbes Thailand

ปริญญาอาจไม่การันตีอนาคต! Gen Z มองการเรียนมหาวิทยาลัยไม่ช่วยเสริมความก้าวหน้าทางอาชีพเท่าที่ควร

FORBES THAILAND / ADMIN
25 Jul 2025 | 04:00 PM
READ 3481

เพราะเป็นกลุ่มคนรุ่นที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้ Gen Z เป็นที่จับตามอง หลายองค์กรพยายามปรับตัวทำความเข้าใจ รวมถึงมีงานสำรวจวิจัยเกี่ยวกับพวกเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นชี้ว่า คนทำงาน Gen Z จำนวนมาก มองการเรียนมหาวิทยาลัย “ช่างไม่ตอบโจทย์ชีวิตเอาเสียเลย”


    ชาว Gen Z กำลังพลิกมุมมองความสำเร็จในโลกการทำงานใหม่ โดยรายงาน 2025 Gen Z Career Prospects จาก Resume Genius ซึ่งได้ทำการสำรวจคนทำงานเต็มเวลากลุ่ม Gen Z จำนวน 1,000 คนในสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยมุมมองความคิดและความรู้สึกที่พวกเขามีต่อการศึกษาเพื่อให้ได้ใบปริญญา

    รายงานดังกล่าวเผยว่า 23% ของพนักงาน Gen Z รู้สึกเสียใจที่เลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และ 19% กล่าวว่า วุฒิปริญญาไม่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนอาชีพการงานของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย โดยกว่าครึ่งต้องทำงานเสริมควบคู่ไปกับงานประจำ ทั้งนี้เมื่อลองถามว่า พวกเขาพึงพอใจจะเรียนสูงแค่ไหน มีมากถึง 44% ที่ตอบว่าปริญญาโทหรือสูงกว่า รองลงมาคือปริญญาตรีที่ 40%


สาขาที่เลือกเรียนส่งผลต่ออาชีพการงาน

    ผลสำรวจสะท้อนว่าสาขาที่คุณเลือกเรียนมีผลอย่างมากต่อคุณค่าของปริญญา โดยบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากวิชาสาย STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) และสายสุขภาพ (Healthcare) ได้รับผลประโยชน์จากปริญญาสูงกว่าบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในสายศิลปะและมนุษยศาสตร์อย่างชัดเจน

    Gen Z ที่สำเร็จการศึกษาจากวิชาสาย STEM และสุขภาพจำนวน 73% กล่าวว่า วุฒิปริญญาช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าขึ้นโดยตรง แต่สายธุรกิจ กฎหมาย และเศรษฐศาสตร์ ตัวเลขตกลงมาอยู่ที่ 59% และสำหรับสายศิลปะ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ตัวเลขตกลงมาเหลือเพียง 51% เท่านั้น


ชาย-หญิงมีมุมมองต่อการศึกษาต่างกัน

    หากนำเพศมาพิจารณาประกอบ จะพบว่า คนทำงาน Gen Z เพศหญิงและเพศชายต่างเลือกเรียนในสาขาที่แตกต่างกัน

     • Gen Z เพศหญิงจบการศึกษาสายศิลปะ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์มี 43% ในขณะที่เพศชายมี 33%

     • Gen Z เพศหญิงจบการศึกษาสายธุรกิจ กฎหมาย และเศรษฐศาสตร์มี 32% ในขณะที่เพศชายมี 36%

     • Gen Z เพศหญิงจบการศึกษาสาย STEM และสุขภาพมี 25% ในขณะที่เพศชายมี 21%

    อย่างไรก็ตาม คนทำงาน Gen Z เพศชายรู้สึกเสียใจกับการเลือกเรียนมหาวิทยาลัยมากกว่า โดยตัวเลขอยู่ที่ 28% ส่วนเพศหญิงอยู่ที่ 19% เท่านั้น ในทางกลับกัน คนทำงาน Gen Z เพศหญิง 32% รู้สึกมีความสุขกับเส้นทางการเรียนที่พวกเธอเลือก ส่วนเพศชายอยู่ที่ 26%


หากได้ลองเลือกเส้นทางใหม่

    การสำรวจของ Resume Genius ยังเปิดพื้นที่ให้ชาว Gen Z ได้ใช้จินตนาการว่าหากย้อนเวลากลับไปเลือกใหม่ได้จะทำอย่างไร ซึ่งคนทำงาน Gen Z จำนวน 22% เลือกจะเปลี่ยนไปเรียนสาขาที่มีโอกาสได้รับค่าตอบแทนสูงกว่านี้ อาทิ เทคโนโลยี การเงิน วิศวกรรมศาสตร์ และสุขภาพ

    อย่างไรก็ตาม 13% เผยว่าหากย้อนกลับไปได้ พวกเขาคงเลือกศึกษาทักษะอาชีพหรือไม่ก็มองหางานที่ไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิปริญญา ในขณะที่ 12% ต้องการเลือกวุฒิปริญญาในวิชาเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ก็วิชาที่พวกเขาหลงใหล

    ประเด็นน่าสนใจข้อหนึ่งคือ คนทำงาน Gen Z จำนวนหนึ่งให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความประหยัดเหนือความโด่งดังของมหาวิทยาลัย โดยพวกเขามองว่า ไม่จำเป็นต้องจบจากสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงก็ได้


งานเสริมก็ต้องทำ แต่สมดุลก็ต้องมี

    ดังเช่นที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าชาว Gen Z จำนวนมากต้องทำงานเสริมควบคู่ไปกับงานประจำเพื่อหารายได้เพิ่ม ยิ่งอายุน้อยลงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มมองหาหรือกำลังทำงานเสริมสูงขึ้นเท่านั้น แม้เปอร์เซ็นต์จะไม่ต่างกันมากนักก็ตาม โดยผู้ที่มีอายุ 18-21 ปี 85% กำลังมองหาหรือไม่ก็ทำงานเสริมอยู่ ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 22-25 ปีอยู่ที่ 84% และผู้ที่มีอายุ 26-28 ปีอยู่ที่ 81%

    จำนวนเพศชายที่มีงานเสริมนั้นสูงกว่าเพศหญิง โดยพวกเขาต้องการฝึกฝนทักษะหรือไม่ก็สั่งสมประสบการณ์ที่จะช่วยส่งเสริมอาชีพการงาน และอีกส่วนต้องการเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาว Gen Z แทบทั้งหมดเห็นตรงกันคือเรื่องของสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) เพราะเมื่อถามถึงสิ่งสำคัญที่สุดในอาชีพการงาน 5 อันดับแรก พบว่า

     • 91% มองหาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

     • 89% มองหาความมั่นคงในอาชีพ

     • 83% มองหาเงินเดือนสูง

     • 80% มองหาการทำงานที่มีความหมาย

     • 70% มองหารการมีเครือข่ายคอนเน็คชั่นการทำงานที่แข็งแกร่ง

    กล่าวโดยสรุป รายงาน 2025 Gen Z Career Prospects ชี้ให้เห็นว่านิยามความสำเร็จในโลกการทำงานของ Gen Z นั้นแตกต่างจากกลุ่มคนรุ่นก่อนหน้า หลายคนไม่ได้มองวุฒิปริญญาเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังให้คุณค่ากับชีวิตและการกระทำสิ่งที่มีความหมายมากพอๆ กับความมั่นคงและรายได้

    ทั้งหมดเป็นโจทย์ให้บรรดานายจ้างนำไปขบคิดเพื่อทำความเข้าใจพนักงาน Gen Z และดึงศักยภาพของคนกลุ่มนี้ออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อขับเคลื่อนตลาดแรงงานสู่ระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต


ที่มา: 2025 Gen Z Career Prospects Report

ภาพ: Luis Villasmil on Unsplash​


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “กลัว AI แย่งงานได้ ไม่ผิด แต่จงเรียนรู้ที่จะใช้มันด้วย” คำแนะนำจาก Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง LinkedIn ถึง Gen Z จบใหม่

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine