นักธุรกิจสาว “รีน่า อุดมคุณธรรม” เธอมีประสบการณ์ในหลายธุรกิจ มีโรงแรมหลายแห่ง และล่าสุดเพิ่งขยายธุรกิจใหม่ “น้ำแร่ 6ty” จากแหล่งน้ำพุร้อนเชียงดาวที่มีแร่ธาตุสูงทัดเทียมน้ำแร่แบรนด์ดังจากยุโรป
จากคุณภาพของน้ำแร่ที่มีความเป็นธรรมชาติด้วยแร่ธาตุถึง 16 ชนิด ถือเป็นน้ำแร่คุณภาพสูงเทียบได้กับน้ำแร่แบรนด์ดังจากฝรั่งเศส ทำให้ “6ty Sixty Degrees” สร้างการรับรู้สู่ตลาดได้ค่อนข้างเร็ว ผนวกกับรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่สดใสดึงดูดตลาดคนรุ่นใหม่ให้ลิ้มลอง ทำให้ 6ty เป็นที่รู้จักภายในเวลาไม่นาน
รีน่า-วรีภรณ์ อุดมคุณธรรม บุตรสาวคนโตของ มานิต อุดมคุณธรรม นักการตลาดชื่อดัง เล่าว่า เธอจดทะเบียนก่อตั้ง บริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 2563 ช่วงต่อเนื่องสถานการณ์โควิด โดยตัดสินใจลงทุนธุรกิจน้ำแร่หลังได้แหล่งน้ำพุร้อนที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และตรวจพบว่า เป็นน้ำแร่คุณภาพสูง ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ
“จริงๆ ไปหาที่ดินทำโรงแรมแต่ได้พบแหล่งน้ำพุร้อน ตอนนั้นใจคิดเลยว่าจะทำรีสอร์ตที่มีออนเซนโดยใช้น้ำพุร้อนแห่งนี้ ไม่ได้คิดเรื่องน้ำแร่เลย” เธอเล่าจุดเริ่มต้นธุรกิจซึ่งไม่เคยอยู่ในความคิดคำนึงมาก่อน เพราะไอเดียแรกที่คิดไว้คือ รีสอร์ตออนเซน แต่เมื่อได้ส่งน้ำจากแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ไปตรวจคุณภาพที่สถาบันตรวจสอบคุณภาพน้ำในต่างประเทศคือ สถาบัน SGS ที่ออสเตรเลีย, Intertek ที่อังกฤษ, และ ALZ ที่สวิตเซอร์แลนด์ พบว่า น้ำจากแหล่งนี้มีคุณภาพดี และมีแร่ธาตุจากธรรมชาติมากถึง 16 ชนิด ดีพอๆ และมากกว่าน้ำแร่หลายแบรนด์ที่ขายในท้องตลาด ทัดเทียมได้กับน้ำแร่แบรนด์ดังจากฝรั่งเศส
ด้วยเหตุนี้รีน่าจึงตัดสินใจทำธุรกิจน้ำแร่โดยตั้งใจทำอย่างจริงจัง สร้างโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่เชียงดาวเป็นแหล่งผลิตนำแร่จากน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 60 องศา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “6ty Degrees” เธอสร้างโรงงานที่ทันสมัยประกอบด้วยเครื่องจักรสมัยใหม่จากเยอรมัน ภายในโรงงานเป็นระบบออโตเมติกเกือบทั้งหมด บนไลน์ผลิตใช้แรงงานเพียง 5 คนเท่านั้น ตัวโรงงานออกแบบมาอย่างดี เป็นอาคารสีขาวสะอาดตา บรรจุและคัดแยกขวดน้ำแร่ด้วยเครื่องทั้งหมดไม่ผ่านการสัมผัสด้วยมือ
“โรงงานนี้ลงทุนไปกว่า 1 พันล้านบาท หลายคนเห็นยังแซวว่า นี่โรงงานหรือโรงแรมทำไมสวยขนาดนี้” เธอเล่าอย่างเป็นกันเอง สลับบอกเล่าประสบการณ์เรื่องน้ำที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี
รีน่าย้ำว่า เมื่อคิดจะทำน้ำดื่มก็ได้ค้นคว้าข้อมูลจากทุกแห่ง ศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจัง “อะไรที่ไม่รู้มาก่อนเราก็ต้องศึกษา หาข้อมูลเรื่องน้ำอยู่เป็นปีกระทั่งแน่ใจค่อยลงมือทำ” เมื่อทำแล้วพบว่า การตอบรับดีเธอจึงมองตลาดไกลถึงระดับเอเชียสำหรับเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
จากจุดเริ่มต้นของ 6ty บนที่ดินเพื่อสร้างรีสอร์ต รีน่ามองโอกาสใหม่ธุรกิจ “น้ำแร่” คุณภาพสูงจากแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยที่เชียงดาว เธอยอมรับว่าการเข้ามาทำธุรกิจน้ำดื่มนั้นไม่ง่าย เพราะมีแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ มีการแข่งขันสูง น้ำแร่ก็เช่นเดียวกัน แบรนด์น้องใหม่ถ้าไม่ดีจริงคงเกิดได้ยาก แต่เมื่อได้ศึกษาและค้นคว้าจนได้ข้อมูลว่า แหล่งน้ำที่ได้มานั้นเป็นน้ำคุณภาพสูงจริงๆ ทำให้เธอตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างเต็มตัวร่วมสังเวียนตลาดน้ำแร่มูลค่า 5.1 พันล้านบาท (ณ สิ้นปี 2567) โดยไม่ลังเล
สื่อโซเชียลผ่านลูกค้าตัวจริง
ยุคนี้ทำอะไรก็ต้องศึกษาและสำคัญไปกว่านั้นคือ ต้อง “สื่อสาร” รีน่าเลือกช่องทางสื่อสารแบรนด์ 6ty ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะใน IG (6tydegreesofficial) เธอเริ่มเตรียมข้อมูลเรื่องการสื่อสารด้วยการให้คนไปเฝ้าหน้าร้านเซเว่น คอยถามลูกค้าที่มาซื้อน้ำแร่ 6ty ว่า ทำไมถึงซื้อยี่ห้อนี้ และดื่มแล้วรู้สึกอย่างไร เพื่อเก็บข้อมูลทางการตลาดมาวิเคราะห์
ยิ่งไปกว่านั้นรีน่าสังเกตจากลูกค้าที่เข้ามาซื้อน้ำแร่ ดูพฤติกรรมเป็นรายกรณีจึงได้ข้อมูลว่า มีร้านกาแฟแห่งหนึ่งซื้อน้ำแร่ 6ty ขวดใหญ่เป็นประจำ ด้วยความสงสัยจึงให้คนไปสอบถามก็ได้ความว่า เขาซื้อไปเป็นน้ำเพื่อชงกาแฟ และอีกรายซื้อไปเป็นน้ำหุงข้าว เธอตามติดลูกค้าเหล่านี้ และขอทำคลิปเผยแพร่เหตุผลที่เลือกน้ำแร่ 6ty เพราะอะไร และใช้คลิปเหล่านี้เป็นสื่อในการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน IG
ในจำนวนนี้มีคนดังระดับบริหารหลายคนที่ตอบคำถามเรื่องการเลือกซื้อน้ำแร่ของเธอ เพราะชอบในรสชาติ จึงนำไปเป็นส่วนประกอบอาหาร หุงข้าว และอื่นๆ ทำให้รีน่ามีสื่อการตลาดที่ทรงคุณภาพจากลูกค้าจริง บอกเล่าประสบการณ์จริงผ่านสื่อสังคมสมัยใหม่ที่ให้อรรถรสทั้งภาพและเสียง เป็นเครื่องมือการตลาดยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี รีน่าทยอยปล่อยคลิปเหล่านี้ออกสู่สาธารณะเรื่อยๆ สร้างความชื่อมั่น ศรัทธา และเชิญชวนให้คนใหม่ๆ อยากลองดื่มน้ำแร่ 6ty ขยายวงกว้างขึ้น
การบอกเล่าแบบปากต่อปากผ่านสื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นสื่อประชาสัมพันธ์อย่างดี ทำให้คนรู้จักแบรนด์น้ำแร่ 6ty มากขึ้น “เราไม่ได้จ้างพรีเซนเตอร์ แต่ใช้วิธีติดตามลูกค้าตัวจริงและขอให้เขาพูดผ่านสื่อว่า ทำไมเลือกเรา ซึ่งเป็นสื่อที่ใช้ได้ดีทีเดียว รีวิวจริงจากผู้บริโภคจริงและเป็นคนที่น่าเชื่อถือ” เธอเล่าอย่างอารมณ์ดีพร้อมกล่าวขอบคุณลูกค้าเหล่านี้ที่ให้ความร่วมมือรีวิวด้วยประสบการณ์จริง
ความน่าสนใจอีกอย่างของการสร้างแบรนด์ 6ty คือ การเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งในส่วนนี้รูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์ โลโก้ และแพ็กเกจจิ้งน่าจะมีส่วนไม่น้อย เพราะน้ำแร่น้องใหม่แบรนด์นี้ใช้สีสันที่สดใส ตัดเฉดกันออกมาค่อนข้างเด่นในโทนสีบานเย็นและสีฟ้า ให้ความรู้สึกสดชื่น สดใส ด้วยดีไซน์สมัยใหม่ที่ดูสนุกสนานมีชีวิตชีวา ดูสดใหม่ และน่าสัมผัส
“น้ำแร่ไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยบอกแหล่งที่มา แต่ของเราบอกชัดเจนมาจากดอยหลวงเชียงดาว พื้นที่ซึ่งมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ นี่เป็นอีกหนึ่งความจริงใจที่สื่อสารออกไป” รีน่ายกตัวอย่างการสื่อสารง่ายๆ ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง
การรับรองมาตรฐานคุณภาพน้ำจากผลตรวจของสถาบันตรวจสอบคุณภาพน้ำระดับสากล ถือเป็นการรับรองมาตรฐานได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่แค่การรับรองมาตรฐาน แต่ 6ty ยังมีรางวัลระดับสากล เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพน้ำได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ตัวอย่าง เช่น รางวัล Crystal Taste Award 2025 จาก International Taste Institute ประเทศเบลเยียม รางวัล Most Beneficial Mineral Water และ The Most Future Brand โดย Trends award และในการผลิตยังมีมาตรฐาน GMP, HACCP, ISO 22000 และได้การรับรอง HALAL
ส่วนแร่ธาตุ 16 ชนิดที่อยู่ในน้ำแร่ 6ty ได้แก่ Silica, Zinc, Calcium, Phosphorus, Manganese, Iron, Magnesium, Lithium, Bicarbonate, Sulfur, Sodium, Potassium, Fluoride, Iodine, Strontium, และ Boron

เป้าผู้นำน้ำแร่แห่งเอเชีย
ความมุ่งหวังของนักธุรกิจสาวยังมองไปข้างหน้า เป้าหมายระยะกลางของเธอคือ แจ้งเกิดในตลาดน้ำแร่ฐานะผู้นำระดับเอเชียของน้ำแร่ธรรมชาติคุณภาพสูงจากแหล่งน้ำในประเทศไทย ภายใน 3-5 ปี แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้นรีน่ามองโอกาสอีกช่องทางคือ การสร้างโปรดักต์ที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน ด้วยการทำน้ำแร่ 6ty ในขวดแก้ว เพื่อนำไปใช้กับโรงแรมทุกแห่งของเธอ และยังสอดแทรกความเป็นไทยผ่านลวดลายบนขวดแก้วด้วยลายอักขระไทยที่สวยงามและลงตัว ยกระดับสู่การเป็นนำแร่พรีเมียมแบรนด์ที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนไปพร้อมกัน
“อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นไทย soft power อย่างหนึ่งก็ได้ เป็นสิ่งที่อยากทำและได้ลงมือทำไปแล้ว จะพร้อมเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ และเริ่มวางในโรงแรมต่างๆ” รีน่ากล่าวสรุปด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่สนุกสนานกระตือรือร้น แสดงถึงความเชื่อมั่นกับโอกาสที่มองเห็นในระยะอันใกล้
นอกจากสื่อสารตรงจากผู้ใช้จริง 6ty ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวิ่ง ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มนักวิ่งโดยตรง และการขายเข้าร้านอาหารภัตตาคารหรือ HORECA และนอกจากนี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังได้ไปออกบูธงานไทยเฟ็กซ์ 2025 ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมีกลุ่มร้านอาหาร และผู้เดินชมงานเข้ามาแสดงความสนใจอย่างมาก รวมทั้งลูกค้าต่างชาติ ถือเป็นอีกช่องทางการเปิดตัวที่ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี
นอกจากกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจสู่ภัตตาคารแล้ว อีกเป้าหมายการตลาดที่น่าสนใจของ 6ty คือ ฐานผู้บริโภคกลุ่มเด็ก เพราะการได้ดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุสูงช่วยเรื่องสุขภาพเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น 6ty จึงมีไอเดียผลิตน้ำสำหรับเด็กคือ น้ำแร่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้วและดีต่อเด็กมากๆ เธอจึงใช้กลิ่นเข้ามาเสริม เช่น กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ กลิ่นผลไม้ต่างๆ เมื่อใส่กลิ่นเสริมทำเด็กดื่มแล้วรู้สึกว่าหวาน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เติมน้ำตาลหรือสารความหวานใดๆ เลย เป็นความรู้สึกหวานจากการรับรู้ของสมอง ทำให้เด็กดื่มง่าย
เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์มากขึ้นรีน่าได้เพิ่มฟังก์ชันแร่ธาติที่ดีสำหรับสายตาเด็ก เพราะเด็กเล่นคอมพิวเตอร์เยอะ อยู่กับหน้าจอนานเธอจึงใส่วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และโกจิเบอร์รี่ ให้ส่วนผสมที่ดีและช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งในตลาดน้ำแร่ยังไม่มีใครทำ
ภายในเวลา 50 นาที รีน่าบอกเล่าความเป็นมาและเป้าหมายของ 6ty ได้ภาพชัดเจนระดับหนึ่ง ฝันไกลที่อยากจะเป็นผู้นำน้ำแร่ในภูมิภาคนี้จะเป็นไปได้เพียงใดต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายตัวเองด้วยคุณภาพ และการทำตลาดแบบสมัยใหม่ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมกับกิจกรรมออนไซต์ที่เจาะตรงกลุ่มเป้าหมายจะพาแบรนด์น้ำแร่คนไทยไปได้ไกลเพียงใดต้องติดตาม
ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์, 6ty
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เทรนด์ 'สุขภาพเชิงป้องกันมาแรง' Gen Z มั่นใจในการหาข้อมูลให้ดีก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมมากสุด 47%
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine