บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ปักหมุดห้าง 'เซ็นทรัล พาร์ค' ในทำเล Super core CBD ให้เป็น Landmark แห่งใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปีละไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน พร้อมนับถอยหลังเตรียมเปิดตัวเฟสแรก 4 ก.ย. 68 นี้
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า ไม่ว่าสถานการณ์การเศรษฐกิจไทยหรือทั่วโลกจะเป็นอย่างไร แต่เซ็นทรัลพัฒนายังคงเดินหน้าบุกเบิกวงการรีเทลพร้อมปักหมุดเปิดตัวห้างสาขาใหม่เพื่อกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจออกไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอด 45 ปีที่ผ่านมา
โดยล่าสุด การเตรียมพร้อมนับถอยหลังเพื่อเปิดตัวห้าง ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เฟสแรกที่จะเกิดในวันที่ 4 ก.ย. นี้ ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการรีเทลไทย พร้อมผลักดันกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครและเมืองน่าอยู่ระดับโลกจากผสานพื้นที่สีเขียวกับวิถีชีวิตคนเมืองไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เช่นเดียวกับ Central Park ในนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ในลอนดอน

ด้วยจุดแข็งและความโดดเด่นในการสร้าง Roof Park ขนาด 7 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองใหญ่ที่สุดในไทย พร้อมจุดเด่นอย่าง Infinity Skyline จุดชมวิวสวนลุมฯ 180 องศา ในแบบพาโนรามาชมความสวยงามของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ, Natural Walk Trail เส้นทางเดินออกกำลังกาย 750 เมตร, Kids Park, Pets Park และ Amphitheatre สำหรับกิจกรรมชุมชน
นอกจากนี้ ยังสร้างสรรค์ Sport & Well-being Lifestyle ด้วยการดึงแบรนด์สินค้าและร้านอาหารดังๆ มารวมไว้ที่นี่เพื่อตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างครบถ้วนหลากหลายมิติ พร้อมตั้งเป้าห้างสาขาใหม่แห่งนี้จะดึงดูดคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคนต่อปี
"ผมมั่นใจว่าห้าง Central แต่ละสาขาในย่านใจกลางเมืองนี้ เราวางคอนเซ็ปต์เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้อย่างแตกต่างกันอย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง เช่น Central World เน้นรูปแบบ Flagship Store มีร้านแบรนด์ดังขนาดใหญ่, Central Park เน้นรูปแบบร้าน Curated ที่มีขนาดเล็กลงแต่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเฉพาะเจาะจง และมีร้านจากหลากหลายแบรนด์มากยิ่งขึ้น และยังช่วยตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพตามเทรนด์ Well Being ที่กำลังนิยมมากอยู่ในปัจจุบัน, ขณะที่ Central ชิดลมจะตอบโจทย์กลุ่ม Elite หรือกลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูงที่อาศัยอยู่ในทำเลบริเวณนั้น และ Central Embassy จะเน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Luxury ที่สัมผัสได้ถึงการออกแบบดีไซน์ให้แตกต่างจากสาขาอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยลดลงจะมีผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่นั้น ดร.ณัฐกิตติ์ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกจากหลายประเทศที่นิยมมาเที่ยวและช้อปปิ้งที่ไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ นักท่องเที่ยวจากอเมริกา, ยุโรป, ประเทศในโซนอาหรับต่อเนื่องไปถึง นักท่องเที่ยวฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและอื่นๆ เป็นต้น จึงไม่มีผลกระทบเท่าไรนัก
สำหรับห้าง 'Central Park' แห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ฝั่งตรงตรงข้ามสวนลุมฯ สามารถเดินทางได้ง่ายและสะดวกด้วยการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS - MRT มีพื้นที่ศูนย์การค้า GBA รวมแล้วกว่า 130,000 ตร.ม.



โดยไฮไลต์เด่นของกิจกรรมในวันที่ 4 ก.ย. 2568 เพื่อทำการเปิดตัวห้างใหม่นี้ จะมีการเปลี่ยนตึก Central Park ให้กลายเป็นนิทรรศการศิลปะกินได้ Edible Exhibition และยังมี Neighborhood Soul - Line up happening ซึ่งเป็นกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปีโดยร่วมมือกับศิลปิน ชุมชน และแบรนด์ต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์ด้าน Wellness Curate Experiences อาทิ Vinyl Cardio เทรนด์ออกกำลังกายรูปแบบใหม่บน Roof Park ผสานเสียงเพลงจากดีเจชั้นนำ, Run Club Exercise คอลแลบกับ Run club ชื่อดัง สร้าง Running Routine ใหม่ทั้งแบบ Vertical และ Horizontal, Swing Rave การออกกำลังกายตอนเช้าพร้อมเพลง Swing และ Coffee Culture: Sunrise Coffee & Tea Rave ปาร์ตี้กาแฟ-ชา บน Roof Park พร้อมวิวพาโนรามา เป็นต้น

ภาพ : Central Park
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'Central Park' เตรียมเผยโฉม 4 ก.ย.นี้! หวังเจาะกลุ่ม Well Being ดึงดูดนักท่องเที่ยว-สายรักสุขภาพ เข้าห้างปีละ 25 ล้านคน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine