ในโอกาสวันดื่มนมโลกเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยว่าคนไทยยังดื่มนมน้อย หากเทียบกับประเทศอื่น พร้อมส่งเสริมให้ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน หลังพบเด็กเตี้ยเพิ่มมากขึ้น 12.9% “ซีพี-เมจิ” ชวนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมเดินหน้าผลักดันสินค้านวัตกรรมที่มีความหลากหลาย คู่ขนานไปกับการเติบโตของตลาด
วันดื่มนมโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปีเวียนมาอีกครั้งในปีนี้ พร้อมกับข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่บอกว่าคนไทยยังดื่มนมน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโลก
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า คนไทยดื่มนมเฉลี่ยเพียง 23.1 ลิตร/คน/ปี หรือดื่มนมเพียงคนละ 2 แก้ว/สัปดาห์ ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยจากทั่วโลกที่ดื่มนม 31.0 ลิตร/คน/ปี หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น ไต้หวันดื่มนม 80.5 ลิตร/คน/ปี ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ 36.0 ลิตร/คน/ปี และฮ่องกง 27.8 ลิตร/คน/ปี ขณะที่เมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก เช่น เดนมาร์ก ซึ่งดื่มนม 52.0 ลิตร/คน/ปี และแคนาดา 56.8 ลิตร/คน/ปี
นอกจากนี้สถานการณ์เด็กไทยเตี้ยพบว่า เด็กอายุ 0-5 ปีเตี้ย ร้อยละ 12.9 เด็กวัยเรียน เตี้ย ร้อยละ 10.8 ส่วนสูงของคนไทยอยู่อันดับ 111 เมื่อเทียบกับ 190 ประเทศทั่วโลก ผู้หญิงไทยมีส่วนสูงเฉลี่ยเพียง 159.4 เซนติเมตร ผู้ชายมีส่วนสูงเฉลี่ยเพียง 171.6 เซนติเมตร
กรมอนามัยส่งเสริมให้ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน การดื่มนมจะช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยเพิ่มความสูงของเด็ก การดื่มนมจะช่วยลดความเสี่ยง มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก รวมทั้งยังป้องกันกระดูกพรุนเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ และควรเลือกดื่มนมจืด
ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ภาครัฐเท่านั้นที่ออกมาส่งเสริมให้คนไทยดื่มนมมากขึ้น แต่ภาคเอกชนอย่าง “ซีพี-เมจิ” ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ที่ ประมาณ 57.8% ก็ออกมาชวนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงเนื่องในวันดื่มนมโลกด้วยเช่นกัน
อภิสิทธิ์ ธีรภาพรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนมพาสเจอไรซ์ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมามีทิศทางการเติบโตทางบวก ทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า คือมีการเติบโตทางมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 12% และมีการเติบโตเชิงปริมาณ อยู่ที่ประมาณ 11.6%
ทั้งนี้ปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดเติบโต มาจากการมีสินค้าที่หลากหลายจากแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น และแนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์นมของผู้บริโภคในประเทศไทยก็มีการเติบโต จากทิศทางดังกล่าวข้างต้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ตลาดนมสดพาสเจอไรซ์ในประเทศไทยจะยังคงเติบโตได้ดี

“อุตสาหกรรมนมในประเทศไทยปีนี้มีทิศทางการเติบโตที่สดใส จากความใส่ใจ และการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่เป็นไปในทิศทางบวก และตัวเลือกของผลิตภัณฑ์ในตลาดที่มีความหลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับงานวิจัยที่จัดทำโดยบริษัท Innova Market Insights ที่ระบุว่า ปัจจุบันผู้บริโภค 58% ทั่วโลกมองปัจจัยด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลักในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการเฉพาะบุคคล ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค”
“สุขภาพ และโภชนาการ คือความสำคัญอันดับแรก ที่ผู้บริโภคมองหาจากการเลือกซื้อสินค้า และในวันดื่มนมโลกปีนี้ ซีพี-เมจิ ในฐานะผู้ผลิตนมสดพาสเจอไรซ์ และโยเกิร์ตเมจิ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะยกระดับตลาดนมสด พาสเจอไรซ์ และขับเคลื่อนการบริโภคของคนไทยไปสู่สังคมแห่งสุขภาพดี ตามเป้าหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นมากกว่า 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายใน ปี 2570 โดยเฉพาะนมโคแท้ 100%”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ซีพี-เมจิ ได้ส่งเสริมให้คนไทยดื่มนมมากขึ้น ผ่านการมองหา Pain Point เพื่อเติมเต็มตลาด ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันนวัตกรรมสินค้าเครื่องดื่มนมให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำ pain point หรือช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม มาวิเคราะห์และวิจัย สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคก้าวข้ามข้อจำกัดของการดื่มนม และมีทางเลือกมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ซีพี-เมจิ ยังทำการวิจัยพัฒนาสินค้าและทำการวิจัยสำรวจความคิดเห็นลูกค้า นอกจากจะสามารถทำความเข้าใจตลาดและผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งแล้ว ยังทำให้แบรนด์สามารถจับทิศทางของตลาดและคาดการณ์ไปข้างหน้าได้ว่าเทรนด์ตลาดและผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างไร เพื่อเตรียมสินค้าที่รองรับเทรนด์ตลาดได้
“บริษัทฯ เดินหน้าโครงการเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ด้านสุขภาพแก่เด็กและเยาวชน เพื่อให้เกิดการบริโภคนม ซึ่งเป็นโภชนาการพื้นฐานที่นำไปสู่สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยมีโครงการนำร่องในจังหวัดสระบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ โครงการ Fit to the Height สำหรับเด็กๆ ระดับชั้นประถมศึกษา มีการส่งเสริมให้ออกกำลังกาย และวัดดัชนีมวลกายต่อเนื่อง รวมทั้งส่งมอบนมให้กับโรงเรียนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา”
กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ของซีพี-เมจิ ออกแบบบนแนวคิด นวัตกรรมเป็นแรงบันดาลใจ หรือ Inspiring Innovation โดยถูกคิดค้นให้มีความสมดุลระหว่าง ‘คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ’ และ ‘รสชาติที่อร่อยและเข้าถึงง่าย’ เพื่อตอบโจทย์การบริโภคในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ซีพี-เมจิ ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและติดตามแนวโน้มตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
“ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีสีสันของอุตสาหกรรมนมในบ้านเรา ผู้บริโภคจะได้เห็นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์นม บนพื้นฐานของการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนการคิด และผลิตสินค้า ซึ่ง ซีพี-เมจิ ได้ทุ่มเทวิจัยและพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับเทรนด์การดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น
“ทุกขั้นตอนการทำงานของ ซีพี-เมจิ จะขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนความสุข รวมถึงประโยชน์ต่อผู้บริโภค เป็นการเพิ่มคุณค่าชีวิตให้กับผู้บริโภคตามเจตนารมณ์ที่เรายึดมั่นตลอดการดำเนินธุรกิจกว่า 3 ทศวรรษ” อภิสิทธิ์ กล่าวสรุป
ภาพ: ซีพี-เมจิ
ออกแบบภาพปก: ธัญวดี นิรุตติศาสตร์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แกะสูตรความปัง YogurBara แบรนด์โยเกิร์ตจากออมม่า JayB กระแสดีตั้งแต่สาขาแรกในไทย หลังร่วมมือกับทีมไทย FireFly
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine