CPN ทุ่ม 1,200 ล้าน ปรับโฉมครั้งใหญ่ ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ ในรอบ 30 ปีคาดปี 69 ทราฟิกพุ่งขึ้นจากวันละ 38,000 คน เป็นวันละ 42,000 คน
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า การมีศูนย์การค้าฯ 2 แห่งในเชียงใหม่ คือเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัล เชียงใหม่ เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่มาช่วยเติมเต็มทั้งสองฝั่ง Old City และ New City เพื่อให้เกิด Cross Spending Power และสนับสนุนการเติบโตของเมืองในทุกมิติ
"เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต อยู่คู่เชียงใหม่มา 30 ปี ตั้งอยู่พื้นที่ทางทิศใต้ใกล้ตัวเมือง รวมทั้งย่านธุรกิจ, โรงพยาบาล, โครงการที่พักอาศัยกว่า 150 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีมานาน, สถาบันการศึกษา และเดินทางเพียง 3 นาที จากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ อีกทั้ง ยังใกล้พื้นที่อำเภอหางดง และสารภี ซึ่งเป็นชุมชนงานคราฟต์ มีความเป็น Local Touch เมื่อ Landscape เมืองเปลี่ยน มีการขยายตัวออกไปต่อเนื่อง จากศูนย์กลางสู่พื้นที่รอบนอก ทำให้ Catchment ของเมืองโตขึ้น ทั้งด้านรายได้ และไลฟ์สไตล์ การทรานส์ฟอร์มเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จึงเป็นการยกระดับสู่การเป็นแลนด์มาร์กมิกซ์ยูสแห่งใหม่ของเมือง ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากทราฟฟิกกว่า 13 ล้านคนต่อปี เฉลี่ย 38,000 คน/วัน ในปี 2568 ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 42,000 คน/วัน ในปี 2569 ส่วนเซ็นทรัล เชียงใหม่ จะทำหน้าที่รองรับการขยายตัวของเมืองในฝั่งเหนือ” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

ทั้งนี้ การปรับโฉมครั้งใหญ่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Reimagining Lanna’ บนพื้นที่โครงการกว่า 130 ไร่ ขณะที่ใช้พื้นที่ไปแล้วประมาณ 30% ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์การค้าฯ ขนาดพื้นที่ (GBA) 173,000 ตร.ม. ที่รวมแบรนด์ลิสต์ชั้นนำและครบครันกว่า 350 แบรนด์, Convention Hall ขนาด 2,800 ตร.ม., Tourist Hub บริการ Shuttle Bus รับ-ส่งสนามบิน, Multi-Generation Space, GO Wholesale แห่งแรกของภาคเหนือ รวมถึงแผนขยายโรงแรมและที่อยู่อาศัยในอนาคต รองรับไลฟ์สไตล์ทั้งคนเมืองและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้านั้น ผู้บริหารเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต บอกว่าตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 70% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30% โดย 5 อันดับแรก คือ นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา, จีน, ฮ่องกง, เกาหลี และสิงคโปร์ ตามลำดับ

ยกระดับศักยภาพ “เชียงใหม่” สู่เมืองระดับโลกรองรับนักท่องเที่ยวมหาศาล
‘เชียงใหม่’ ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคเหนือ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ และมีประชากรกว่า 1.8 ล้านคนใน Catchment Area จากข้อมูลสำนักงานคลังเชียงใหม่ (เดือน มี.ค. 68) พบว่า มี GPP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด) 265,000 บาท และ GPP Per Capita (ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว) 150,000 บาท สูงเป็นอันดับที่ 3 ของภาคเหนือ และเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก
โดยในปี 2568 Travel + Leisure ได้จัดอันดับให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ สะสมเกือบ 10 ล้านคน (ม.ค.- ต.ค. 68) สร้างเงินสะพัดกว่า 87,000ล้านบาท โดยประเทศที่นิยมมาเที่ยวเชียงใหม่ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, เกาหลี, ไต้หวัน,สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย

‘เชียงใหม่’ กำลังก้าวสู่ ‘A New Growth Cycle’ - เติบโตทุกมิติ
ปี 2569 สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ มีแผนขยายอาคารผู้โดยสาร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกว่า16 ล้านคน และจะทำการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2576 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 20-25 ล้านคนจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ข้อมูลยังพบว่า เชียงใหม่เป็นที่นิยมของกลุ่ม Digital Nomad ติดอันดับ 3 ของโลก จำนวนกว่า 30,000 คน/ปี, มีกลุ่ม Expat มาทำงานในเชียงใหม่ กว่า 90,000 คน และยังเป็น Most Preferred กลุ่ม Retiree Expats กว่า 3,500 คน กระจายตัวอยู่ในโซนเมืองชั้นในและชั้นกลาง อาทิ อำเภอหางดง, อำเภอแม่ริม และอำเภอสันทราย และยังมีจำนวนโรงเรียนนานาชาติ มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกด้วย

‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ ตอบโจทย์ดีมานด์ใหม่ของเมือง ยกระดับสู่การเป็น ‘The City’s New Signature Landmark’
1. ดีไซน์ใหม่คอนเซ็ปต์ ‘Reimagining Lanna’ : ถ่ายทอดความภาคภูมิใจให้คนท้องถิ่น และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน ตั้งแต่การออกแบบภายในและภายนอก รวมถึงโซนไฮไลต์ อย่าง ‘กาดหลวง’ (Indoor Local Market) ขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้นกว่า 3 เท่า ประกอบด้วยแหล่งรวมอาหารมิชลิน อาทิ โกยีข้าวมันไก่, คั่วไก่นิมมาน, ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม, ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน, Local Food, ของฝากBest of North และ Northern Village รวมงานคราฟต์ กว่า 100 ร้านค้า มุ่งดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ปักหมุดเป็น Must-Visit Tourist Destination ใหญ่สุดในเชียงใหม่



2. รวม 350 แบรนด์ดัง ทั้ง Global และ Local: ครอบคลุม Fashion & Lifestyle, Food, Specialty, Beauty, IT และ Bank & Financialตอบโจทย์คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว อาทิ
• ครั้งแรกในภาคเหนือ: MUJI Flagship Store ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ, CHAGEE แบรนด์ชาจีนระดับพรีเมียม, HarborLand สนามเด็กเล่นในร่มที่ได้มาตรฐานระดับโลก
• ร้านอาหารแบรนด์ดังและร้านมิชลิน: Sushiroร้านซูชิสายพานจากญี่ปุ่น , ฉันทรส ร้านอาหารไทย ในเครือแบรนด์เอกฉันท์ร้านดังระดับมิชลิน และในปี 2569 เตรียมเปิด เสน่ห์ไทยคูซีน ร้านอาหารฮาลาลมิชลินยอดฮิตของเมืองเชียงใหม่
• แบรนด์สุดฮิต: Bear House, Boost Juice, Gaga, Koi The’, MIXUE, Naisnow และ Potato Corner
• แบรนด์ Fashion & Sport: Uniqlo, แบรนด์ Sport ระดับโลกบนพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างAdidas, Nike, PUMA และแบรนด์อื่นๆ Charles & Keith, Crocs, Gentlewoman, Skechers, Pomelo, รวมถึงแบรนด์ในโซน Showcase อย่าง Mitr และ With.it
• Beauty Brand: BEAUTRIUM และ JUNG SAEM MOOL เป็นต้น
• แบรนด์สำหรับ Tourists: Hug Thai, Hug Craft และ Good Goods
• ผนึกกำลังธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, Tops Food Hall, Supersports โฉมใหม่, Power Buy และ B2S

3. A Year-Round, All-Weather Tourism Destination - ชูอัตลักษณ์เชียงใหม่สู่เวทีโลก ผ่านเทศกาลตลอดปี สร้าง New Experience ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรม-อีเวนต์ เชื่อมเชียงใหม่สู่เวทีระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว อาทิ Thai Local Pride Christmas Tree ต้นคริสต์มาสจักสานร่วมสมัยที่สืบสานหัตถศิลป์ล้านนา สูงกว่า 15 เมตร ร่วมสร้างสรรค์โดย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และ VASSANA แบรนด์จักสานไม้ไผ่ท้องถิ่นชื่อดัง, เทศกาลสงกรานต์คู่เมืองเชียงใหม่ อย่าง “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” และเทศกาลดนตรี Water War และ Chiang Mai Flora Festival สวนดอกไม้และพฤกษานานาพันธุ์ พร้อมประติมากรรม แสง สี เสียง และไฟประดับนับล้านดวง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังรวมถึง Convention Hall ขนาดใหญ่ 2,800 ตร.ม. ที่พร้อมจัดงานใหญ่ของเมือง อาทิ Money Expo, Motor Expo, งานหนังสือเชียงใหม่บุ๊คแฟร์, งานคอนเสิร์ต และงานประกวดต่างๆ ทำให้เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ตเป็น Lifestyle Hub ที่ดึงทราฟฟิกเข้ามาทั้งในจังหวัดต่อเนื่องตลอดปี
ภาพ : CPN
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : รสชาติ สุขภาพ ความยั่งยืน Gen Z และ Millennials ดันตลาดกาแฟพร้อมดื่มในเอเชียแปซิฟิกโตแรง คาดมูลค่าแตะ 6.5 แสนล้านบาท ในปี 2573
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

