“จิม ทอมป์สัน” อาณาจักรไลฟ์สไตล์ เสน่ห์ไหมไทยสู่แบรนด์ระดับโลก - Forbes Thailand

“จิม ทอมป์สัน” อาณาจักรไลฟ์สไตล์ เสน่ห์ไหมไทยสู่แบรนด์ระดับโลก

James Harrison Wilson Thompson หรือ Jim Thompson อดีตทหารอเมริกันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ก่อตั้งกิจการผ้าไหมไทย “จิม ทอมป์สัน” เขาหายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2510 ระหว่างท่องเที่ยวที่มาเลเซีย แต่กิจการผ้าไหมของเขาได้รับการสืบสานสร้างตำนานโด่งดังไปทั่วโลก


    กว่า 56 ปีที่ Jim Thompson หายตัวไปธุรกิจผ้าไหมไทยและอาณาจักร “จิม ทอมป์สัน” ยังคงยืนหยัดเป็นแบรนด์ผ้าไหมไทยที่โด่งดังทั่วโลก มาวันนี้กิจการของเขาเป็นมากกว่าผู้ผลิตผ้าไหม สามารถเรียกว่าอาณาจักรไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ เนื่องด้วยจิม ทอมป์สัน วันนี้มีทั้งพิพิทธภัณฑ์ ธุรกิจร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์ผ้าไหมอันเลื่องชื่อ เป็นแบรนด์ไทยที่ก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ มากว่า 64 ปี หากนับจากการก่อตั้งบ้านจิม ทอมป์สันขึ้นเมื่อปี 2502 


อาณาจักรไลฟ์สไตล์

    ปัจจุบันบ้านจิม ทอมป์สัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวมาแวะชม ซึ่งนอกจากเรือนไทยโบราณดั้งเดิมแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งงานศิลปะและโบราณวัตถุต่างๆ ที่เขาสะสมไว้ทั้งภาพจิตรกรรม พระพุทธรูป ถ้วยชามสังคโลก เครื่องเรือนโบราณต่างๆ

    บ้านจิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่เลขที่ 6 ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1 ที่ตั้งอยู่ติดริมคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามกับชุมชนบ้านครัว ซึ่งเป็นชุมชนมุสลิมทอผ้าแห่งล่าสุดในพระนครที่ Jim Thompson ดึงเข้ามาร่วมในกิจการผ้าไหมด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน เป็นเรือนไทยไม้สัก 6 หลัง นำมาประกอบเป็นบ้านหลังใหญ่แบบเรือนหมู่ สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมด และเป็นบ้านที่จิม ทอมป์สันเคยพักอยู่จริงเมื่อครั้งที่เขาเข้ามาอยู่ในไทยหลังปลดประจำการจากกองทหารสหรัฐ

    Jim Thompson เข้ามาอยู่ไทยตั้งแต่ปี 2490 ก่อนจะหายตัวไปในปี 2510


Jim Thompson Restaurant and Wine Bar


    บ้านจิม ทอมป์สันในปัจจุบันยังคงสภาพสวยงาม เครื่องเรือนทุกอย่างจัดวางอย่างเป็นระเบียบ โชว์รูปแบบที่อยู่อาศัยให้ผู้คนได้เยี่ยมชมในฐานะพิพิธภัณฑ์บ้านเรือนไทย มีการจัดแสดงสิ่งของโบราณ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิจิม ทอมป์สัน บริเวณด้านหน้าสุดเป็นพื้นที่รับรองนักท่องเที่ยว ในรูปแบบของร้านอาหาร "Jim Thompson Restaurant and Wine Bar"

    พื้นที่ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ แบบไทย มีเครื่องเรือน สวนไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงของสะสมต่างๆ มีทั้งศิลปวัตถุ เครื่องกระเบื้องเคลือบ ทั้งกระเบื้องจีน มีอายุตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง มาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องลายครามที่ส่งออกในสมัยราชวงศ์หมิง หลายชิ้นได้มาจากอยุธยาเป็นของที่ส่งมาจากเมืองจีนระหว่าง คริสต์ศตวรรษที่ 15- 17 เครื่องเคลือบลพบุรี- เขมร ทำในบริเวณอาณาจักร ลพบุรีในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เครื่องสุโขทัยและสวรรคโลก เครื่องกระเบื้องของไทยที่ผลิตใน คริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 เครื่องเบญจรงค์และเครื่องเคลือบลายน้ำทอง เขียนลายไทย ศิลปะสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18-19

    รวมถึงพระวรกายของพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยทวารวดี "พระแผง" โบราณขนาดใหญ่ ทำมาจากดินเผาประดับด้วยกระจกสี บรรจุพระไว้ถึง 450 องค์ นอกจากนี้ ยังมีภาพจิตรกรรมโบราณจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีเนื้อหาเชิงพุทธศาสนา รวมถึงชุดผ้าพระบฏสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 และข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณที่หาดูได้ยาก มีจัดแสดงไว้ภายในบ้านเรือนไทยแห่งนี้ ซึ่งยังคงแข็งแรงและสวยงามแทบไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะมีอายุกว่า 64 ปีมาแล้ว

    ตำนานบทใหม่ของจิม ทอมป์สัน คือการเปิดตัว "Jim Thompson Heritage Quarter" ให้เป็นอาณาจักรไลฟ์สไตล์โฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องกิน-เที่ยว-ช็อป-ชิล พร้อมวางกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกแบรนด์แรกจากเอเชีย และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญด้านการท่องเที่ยวของไทย

    พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน เป็นเรือนไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก นิทรรศการ Museum About the Man บอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันน่าทึ่งของจิม ทอมป์สัน นิทรรศการ The Evolving World of Jim Thompson Textiles สำรวจการเดินทางของผืนผ้าและความเป็นมาของลวดลายผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ The Iconic Store ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายจากแบรนด์

    นอกจากนี้ยังมีโซนอาหารและเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ ทั้งร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน “The O.S.S. Bar” เป็นบาร์สุดฮิปภายใต้อาณาจักรเรือนไทยโบราณ “The O.S.S. Room” ห้องชายามบ่าย “Jim’s Terrace” เป็นคาเฟ่สไตล์ไทย-ทาปาสริมระเบียงวิวบ้านไทยที่สวยงามและเป็นเอกลักษ์ “Silk Cafe” คาเฟ่สวยในบรรยากาศร่มรื่น รวมถึง “Moonlight Hall” ห้องจัดอีเวนต์อเนกประสงค์ที่ตกแต่งอย่างงดงาม สถานที่ทั้งหมดนี้ยังอยู่ใกล้กับ “Jim Thompson Art Center” พื้นที่จัดแสดงงานศิลป์ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อคนรักศิลปะ


สร้างแบรนด์ไทยระดับโลก

    "การเปิด Jim Thompson Heritage Quarter เต็มรูปแบบนับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากเอเชีย" Frank Cancelloni ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด กล่าวและว่าก้าวย่างนี้สอดรับกับวิสัยทัศน์ "Beyond Silk" หรือการมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ก้าวไกลไปกว่าการเป็นแบรนด์ผ้าไหมไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจสินค้า ผ้าตกแต่งบ้าน ตลอดจนธุรกิจบริการและร้านอาหาร ซึ่งทั้งหมดนับเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้ก่อตั้งแบรนด์ James Harrison Wilson Thompson สถาปนิกจากนิวยอร์กผู้เคยเป็นทหารประจำสำนักงานยุทธศาสตร์ (Office of Strategic Services: OSS หรือ หน่วยงาน CIA ในปัจจุบัน)

    Jim Thompson เป็นผู้หลงใหลศิลปะและผลักดันอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้ก้าวไกลในเวทีระดับโลก จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชาไหมไทย” ประวัติอันยาวนานของเขาถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย ฐานะ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่นำพาแบรนด์ผ้าไหมไทย “จิม ทอมป์สัน” ก้าวไกลไปสู่นานาประเทศ


Frank Cancelloni ซีอีโอแห่งจิม ทอมป์สัน


    ซีอีโอจิม ทอมป์สัน กล่าวว่าพิพิทธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน เป็นเดสติเนชันที่มีความสำคัญในเชิงศิลปวัฒนธรรมที่ตอบโจทย์โลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร เป็นการเชิดชูวัฒนธรรมเข้ากับความทันสมัยและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทิศทางการขยายธุรกิจของจิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งแบรนด์ ที่ให้ความสำคัญกับการนำศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของเอเชียสู่เวทีโลก และพยายามปั้นแบรนด์ไอคอนิกในแบบของ จิม ทอมป์สัน ด้วยการนำเสนอมรดกอันทรงคุณค่าของไทยให้เข้าถึงคนทั่วโลก

    ปัจจุบันจิม ทอมป์สันมีโรงงานผลิตสินค้า 3 แห่งในไทย และยังขยายธุรกิจให้รองรับลูกค้าต่างชาติย่างต่อเนื่อง โดยมีสโตร์ โชว์รูมสินค้าผ้าตกแต่งบ้าน บริษัทตัวแทนจำหน่าย และร้านอาหารอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ที่ประเทศไทย “Jim Thompson Heritage Quarter” โฉมใหม่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรที่คนไทยและชาวต่างชาติมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย

    พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ติดโผ 5 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ โดย TripAdvisor Travelers Choice Award 2022 โดยทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 320,000 คนเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชมความงดงามของพิพิธภัณฑ์มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี

    หนึ่งในกลยุทธ์การปั้นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกของจิม ทอมป์สัน คือการไปร่วมกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจชั้นนำ เช่น Panpuri Wellness, การบินไทย, ศิลปินร่วมสมัย และดีไซเนอร์ชื่อดังของไทย พร้อมเตรียมจับมือกับแบรนด์ระดับโลกเพื่อขยายฐานลูกค้าไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จิม นอกจากนี้จิม ทอมป์สัน ยังได้เปิดสโตร์โฉมใหม่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

    ผ้าไหมคือแกนหลักของแบรนด์ กลุ่มธุรกิจแฟชั่นของจิม ทอมป์สัน มีชื่อเสียงในแง่คุณภาพระดับเวิลด์คลาสและความสวยงามที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก ทั้งเสื้อผ้าแบบ ready-to-wear ตลอดจนเครื่องประดับ และกระเป๋าหลากหลายสไตล์ ผ่านซิกเนเจอร์คอลเล็กชัน คอลเล็กชันประจำฤดูกาล ซีรีส์ Artists-in-Residence หรือคอลเล็กชันเอ็กซ์คลูซีฟต่างๆ

    นอกจากลูกค้าต่างชาติแล้ว ธุรกิจแฟชั่นของจิม ทอมป์สัน ยังเจาะกลุ่มคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สินค้าคุณภาพภายใต้กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยจิม ทอมป์สัน เตรียมพัฒนาเว็บไซต์แยกสำหรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในตลาดสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง เพื่อสร้างยอดขาย และได้จับมือ King Power เพื่อเปิดสโตร์ใหม่ในคิงเพาเวอร์ ภูเก็ตและสนามบินดอนเมือง นอกจากนี้ ยังเตรียมยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งด้วยการเปิดไลฟ์สไตล์สโตร์ที่กว้างขวางแบบ 2 ชั้น ในโครงการใหญ่ One Bangkok

    ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน มีสโตร์ทั้งสิ้น 25 แห่งในประเทศไทย สินค้ายอดนิยมของแบรนด์ ได้แก่ เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า และเครื่องประดับ ทุกไอเท็มสร้างสรรค์ขึ้นจากผ้าไหมและวัสดุคุณภาพสูง ในดีไซน์เฉพาะตัว ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า

    ส่วนธุรกิจร้านอาหาร จิม ทอมป์สัน เดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง นำเสนอรสชาติอาหารไทยต้นตำรับในสไตล์ร่วมสมัยท่ามกลางบรรยากาศตระการตา พร้อมเรื่องราวและบริการระดับเวิลด์คลาส ล่าสุดจิม ทอมป์สัน เตรียมเปิด “Jim’s Terrace” ที่โครงการ One Bangkok และเตรียมขยายสาขา Jim Thompson A Thai Restaurant x The O.S.S. Bar คอนเซ็ปต์ร้านอาหารและบาร์ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มเติม


Jim Thompson Art Center


    ธุรกิจสินค้าผ้าตกแต่งบ้านเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของจิม ทอมป์สัน นำเสนอผ้าตกแต่งคุณภาพสูงและออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ กระบวนการผลิตขั้นสูงตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าทออันประณีต ผ้าที่มีคุณสมบัติเส้นใยพิเศษ ผ้าตกแต่งผนัง ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ และผ้าปักประเภทต่างๆ โดย 35% ของโรงแรมชั้นนำระดับโลกในลิสต์ The World’s 50 Best Hotels เลือกใช้สินค้าผ้าตกแต่งของจิม ทอมป์สัน อาทิ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ, เชอวัล บลังก์ ปารีส, ปาร์ก ไฮแอท ว็องโดม ปารีส, เดอะ ซาวอย ลอนดอน, คาเปลลา สิงคโปร์, ปาร์ก ไฮแอท มิลาน, อามันโซ กรีซ และวันแอนด์โอลี่ แมนดารินา เม็กซิโก

    จิม ทอมป์สัน มีโชว์รูมสินค้าผ้าตกแต่งบ้านในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั้ง กรุงเทพฯ ลอนดอน แอตแลนตา นิวยอร์ก และปารีส

    จิม ทอมป์สัน มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าผ้าตกแต่งกว่า 60 ประเทศ และได้ก่อตั้งบริษัทในเครือที่ต่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ Jim Thompson US ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 และ Jim Thompson UK ก่อตั้งในปี 2558 สำหรับในทวีปอเมริกาเหนือ แบรนด์จิม ทอมป์สันมีโชวรูมทั้งสิ้น 22 แห่ง นอกจากนี้ ในยุโรป มีการจัดจำหน่ายผ้าอยู่ใน 28 ประเทศ จิม ทอมป์สัน กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจผ้าตกแต่งในเอเชียและตะวันออกกลาง

    ส่วนแผนธุรกิจในระยะยาว จิม ทอมป์สัน เตรียมขยายธุรกิจใหม่ เช่น Jim Thompson Hotel ธุรกิจของใช้ในบ้านภายใต้ชื่อ “Maison Jim Thompson” และเตรียมทำมินิซีรีส์นำเสนอประวัติชีวิตของ Jim Thompson ตลอดจนคอนเซ็ปต์สโตร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนตอกย้ำการก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ชั้นนำจากเอเชีย ถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร


​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Jack Ma กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Alibaba

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine