“เศรษฐกิจแย่ไม่มีผล” ปัญญ์ปุริ เผย เฉพาะ Q1 ปี 68 ยอดขายเฉียด 300 ล้าน โตจากปีก่อน 20% คาดในปี 72 ยอดขายแตะ 3,000 ล้าน - Forbes Thailand

“เศรษฐกิจแย่ไม่มีผล” ปัญญ์ปุริ เผย เฉพาะ Q1 ปี 68 ยอดขายเฉียด 300 ล้าน โตจากปีก่อน 20% คาดในปี 72 ยอดขายแตะ 3,000 ล้าน

FORBES THAILAND / ADMIN
11 Jul 2025 | 12:55 PM
READ 524

ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) แบรนด์น้ำหอม และเวลเนส ไลฟ์สไตล์ เผยยอดขายปี 2567 ทุบสถิติอยู่ที่ 1,100 ล้าน ตั้งเป้าปีนี้โตเพิ่มกว่า 10% หลังไตรมาส 1 สร้างยอดขายไปแล้วเกือบ 300 ล้าน พร้อมคาดการณ์ในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2572 ยอดขายจะแตะ 3,000 ล้านบาท และเตรียมขยายเพิ่มอีกกว่า 50 สาขาทั้งในและต่างประเทศ


    วรวิทย์ ศิริพากย์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแบรนด์ปัญญ์ปุริ เผยว่า ปัญญ์ปุริ ก้าวสู่ปีที่ 22 ด้วยความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ภาพรวมในปี 2567 ยอดขายเติบโตกว่า 92% ในสัดส่วนกำไร 177 ล้านบาท สะท้อนถึงการตอบรับเชิงบวกจากตลาด โดยเป็นผลมาจากการให้ความใส่ใจในการออกแบบประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ทั้งการวางคอนเซ็ปต์ และออกแบบร้านให้มีความน่าสนใจ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย พร้อมทั้งการขยายสาขาไปในกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการสนับสนุนจาก โคเซ่ คอเปอเรชั่น (KOSÉ Corporation) บริษัทความงามชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้การขยายตัวทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการขยายสาขาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

    “นอกจากตลาดรีเทลของปัญญ์ปุริที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลาดออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ ก็ได้กระแสตอบรับที่ดี โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ปัญญ์ปุริมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 85% เมื่อเทียบกับปี 2566 สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มฐานลูกค้าของแบรนด์ที่อายุน้อยลง และเปลี่ยนช่องทางการซื้อสินค้า ที่เน้นช่องทางออนไลน์ มากขึ้น”



    ด้านการขยายแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ ปัญญ์ปุริได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 70% ในปี 2566 จากการทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีน และในช่วงปี 2567 มีการเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกในฮ่องกง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัท ในปี 2568 บริษัทฯ ปิดไตรมาสแรกด้วยยอดขาย 297 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ ปี 2567 และกวาดรายได้ครึ่งปีแรกด้วยยอดขาย 521 ล้านบาท เติบโตกว่า 6% และตั้งเป้าปิดปี 2568 ด้วยยอดขายที่โตมากกว่า 10%



    สำหรับการจับมือร่วมมือทางธุรกิจกับ โคเซ่ คอเปอเรชั่น ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งเชิงกลยุทธ์ให้กับบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาดสู่ระดับโกลบอล โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น จีน และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดศักยภาพสูง โดยมีแนวทางในการขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศผ่านการนำเสนอจุดแข็งในฐานะแบรนด์ Niche Fragrance และ Wellness Lifestyle ในตลาดลักส์ชัวรี่ โดยเน้นการสื่อสารผ่านภาพลักษณ์ Storytelling ที่แตกต่าง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของตลาดเฉพาะกลุ่ม 


    นอกจากนี้ การขยายตัวทางธุรกิจในประเทศ ทั้งในส่วนของธุรกิจรีเทล และธุรกิจสปา โดยเน้นกระจาย และเปิดสาขาใหม่ในหลากหลายรูปแบบทั้งร้านแบบ Full Scale และร้าน POP UP ในทำเลศักยภาพสูง (Prime Location) ทั้งในกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ที่สำคัญเพื่อขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง มากกว่า 50 สาขา ภายในปี 2572


    ปัจจุบันสัดส่วนของธุรกิจของปัญญ์ปุริ ประกอบไปด้วย ธุรกิจรีเทล 85% ธุรกิจบริการ 15% โดยธุรกิจ รีเทลมีสัดส่วน ผลิตภัณฑ์น้ำหอม (Fine Fragrances) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า รวมกันกว่า 70% และเครื่องหอมในบ้าน 30% สำหรับธุรกิจบริการสปา และเวลเนสทั้งหมด 4 สถานที่เน้นนำเสนอบริการระดับตลาดลักส์ชัวรี่ได้แก่ ปัญญ์ปุริ เวลเนส เกษร ทาวเวอร์, ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา โรงแรม Park Hyatt Bangkok, ปัญญ์ปุริ เวลเนส ฮาร์เบอร์โรงแรม Andaz Pattya Jomtien Beach และปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา ปีนัง นอกจากนี้ปัญญ์ปุริยังมีการใช้กลยุทธิ์การขยายสาขาในประเทศเน้นการออกแบบตกแต่งร้านที่โดดเด่น และมีจุดเด่นที่แตกต่างในสาขาหลักๆ ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศ และกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว



ภาพ : ปัญญ์ปุริ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อย่าประมาทกำลังซื้อคนโสด! เพราะไม่มีแฟนเลยเปย์ตัวเองฉ่ำ การใช้จ่ายมากถึง 2 ใน 3 ของตลาด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine