บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) จำกัด ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มครบวงจร รุกตลาดน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค เจาะตลาดพรีเมียม พร้อมลงทุนเพิ่ม 600 ล้านในปี 2569 สร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบเฟส 3 และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์เกรดพรีเมียม ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น ISF ในเครือ Nisshin OiliO ต่อยอดสินค้า High-Margin มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 3 หมื่นล้านบาท
พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) กล่าวถึงแผนดำเนินงานปี 2569 ว่า บริษัทปรับโครงสร้างช่องทางจำหน่ายเพื่อขยายฐานลูกค้าต่างประเทศให้เป็นสัดส่วน 50% ของรายได้จากการขายทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเชิงมูลค่าสูง
“ตามแผนการขยายตลาดต่างประเทศ PCE จะร่วมมือกับ The Nisshin OiliO Group, Ltd บริษัทญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครือธุรกิจที่มีเครือข่ายจำหน่ายครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในกลุ่ม Specialty Fat และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ใช้เป็นวัตถุดิบต่อยอด เช่น Cocoa Butter และไขมันสำหรับอุตสาหกรรมเบเกอรี่ ช็อกโกแลต และเวชสำอาง พันธมิตรรายนี้มีจุดแข็งด้านการเป็น B2B Specialty Supplier ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของ PCE เข้าถึงตลาดเชิงอุตสาหกรรมได้รวดเร็วและมีช่องทางการจัดจำหน่ายระดับโลก”
โดยกลางปีที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับ Intercontinental Specialty Fats Sdn. Bhd. (ISF) บริษัทในเครือ The Nisshin OilliO Group, Ltd. จัดตั้ง บจ.นิทไทย สเปเชียลตี้ ออย แอนด์ แฟตส์ ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย PCE ถือหุ้นในสัดส่วน 60% เพื่อขยายตลาดน้ำมันพืช และผลิตภัณฑ์ High Value-Added Product ในอุตสาหกรรมอาหาร
พรพิพัฒน์กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ที่เป็นวัตถุดิบสามารถใช้ประกอบอาหาร เช่น ไขมันสำหรับช็อกโกแลต และประกอบสินค้าอุปโภคบริโภค หรืออุตสาหกรรม Oleochemical เช่น ส่วนผสมในเวชสำอาง สบู่ ยาสระผม ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า CPO ธรรมดา และมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการจำหน่ายสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไป
สำหรับตลาดในประเทศบริษัทตั้งเป้าขยายฐานสู่กลุ่ม B2C โดยเน้นการวางจำหน่ายน้ำมันปาล์มสำหรับประกอบอาหาร “รินทิพย์” ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่าย และมีแผนเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ให้กับแบรนด์และร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในประเทศ เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างฐานลูกค้าปลีกให้มั่นคง
และภายในไตรมาส 2 ของปี 2569 บริษัทจะนำน้ำมันรินทิพย์บรรจุขวดขนาด 1 ลิตร วางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 15,000 สาขา ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากส่วนนี้ประมาณ 200-300 ล้านบาทในช่วงปีแรก และเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 1.2 ล้านขวด เป็น 1.8 ล้านขวดต่อเดือน
“เราพยายาม diversify ตัวเอง สิ่งที่เราทำกับ Nisshin OilliO Group ต่อยอดตัว food มากขึ้น อีกส่วนคือ consumer product มีคุยไว้บ้างแล้ว แต่ต้องอาศัยพาร์ตเนอร์ด้วย”
สำหรับโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เฟส 2 มูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ จะเริ่มให้ผลเชิงพาณิชย์ในปี 2569 ซึ่งจะสนับสนุนปริมาณทะลายปาล์มที่เข้ามาในไตรมาส 2/2569 เมื่อโรงสกัดและโรงกลั่นเฟสถัดไปเดินเครื่องได้เต็มที่
ขณะที่การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต ยังคงเดินหน้าสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เฟส 3 มูลค่าลงทุน 310 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2569 พร้อมกับสร้างโรงกลั่น CPO เพื่อผลิตสินค้า High-Margin เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม และน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2569 เช่นเดียวกัน ทั้งสองโครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น
นอกจากนั้นยังเตรียมต่อยอดไปยังอุตสาหกรรม Oleochemical โดยมีมูลค่าลงทุนในโรงงาน Fatty Acid 50 ล้านบาท เพื่อเจาะตลาด consumer product อาทิ สารลดแรงตึงผิวซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสบู่ ครีมอาบน้ำ วัตถุดิบสำหรับเวชสำอาง
ภาพ: PCE
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เศรษฐกิจซบแต่ขนมยังพุ่ง! SNNP เปิดตัว ‘เจเล่ เยลลี่ โซดา’ มิติใหม่เยลลี่ครั้งแรกในไทย ตั้งเป้าเจาะ Gen Z คาดยอดขาย 150 ล้านปีแรก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine