ชาบูชิ แบรนด์ชาบู 20 ปี บอกแม้อยู่มานานไม่จำเป็นต้องแก่ ขอรีเฟรชแบรนด์เจาะ Gen Z ดึง ‘สกาย-นานิ’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ - Forbes Thailand

ชาบูชิ แบรนด์ชาบู 20 ปี บอกแม้อยู่มานานไม่จำเป็นต้องแก่ ขอรีเฟรชแบรนด์เจาะ Gen Z ดึง ‘สกาย-นานิ’ เป็นพรีเซ็นเตอร์

แม้อยู่มานานแต่ไม่จำเป็นต้องแก่! ‘ชาบูชิ’ แบรนด์ชาบู 20 ปี ขอรีเฟรชแบรนด์อีกครั้ง ขอเข้าไปนั่งในใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z เปิดตัวแคมเปญใหม่พร้อมดึง ‘สกาย-นานิ’ เป็นพรีเซ็นเตอร์คู่แรกของแบรนด์ พร้อมยืนยันไม่เข้าไปเล่นในสงครามราคา เพราะแบรนด์โพสิชั่นคนละกลุ่ม ขอโฟกัสความคุ้มค่าและคุณภาพ


    ในแวดวงอาหารประเภทชาบู-สุกี้ หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานก็คือ “ชาบูชิ” ภายใต้เครือโออิชิ ที่อยู่คู่เมืองไทยมา 20 ปีแล้ว เป็นผู้เล่นเบอร์ต้นๆ ก็ว่าได้ที่เสิร์ฟอาหารบนสายพานในไทย มีสาขาครอบคลุมกว่า 190 สาขาทั่วประเทศ และยังสร้างรายได้ในกลุ่มร้านอาหารให้โออิชิ โฮลดิ้ง ในสัดส่วนราว 80%

    แน่นอนว่าความเป็นแบรนด์วัยเก๋า ย่อมเติบโตมากับผู้บริโภคกลุ่มช่วงวัยหนึ่ง แต่เมื่อวันเวลาผันผ่าน การอิงอยู่กับผู้บริโภคช่วงวัยเดิมอาจไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้แบรนด์อยู่ได้ต่อไปอย่างยั่งยืน ทำให้แบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์หรือสร้างแคมเปญใหม่ๆ ไปจนถึง “ยกเครื่องแบรนด์” เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ Younger ขึ้น

    “ชาบูชิอยู่มา 20 ปี แม้เป็นแบรนด์รุ่นพี่ แต่เราอยากเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ด้วย ผู้บริโภคยุคนี้ สุขเร็ว จ่ายเร็ว รีวิวเร็ว ดังนั้น กลยุทธ์ของเราคือ ไม่ใช่ทำธุรกิจแล้วมุ่งผลแต่กำไร ต้องไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภคด้วย โดยเฉพาะ Gen Z ที่ตอนนี้เป็นกลุ่มบริโภคที่ใหญ่ที่สุด มีกำลังซื้อและมีสีสันมากสุด แต่ทำการตลาดยากสุด ตอนนี้มีแคมเปญเยอะแยะไปหมด เราก็มีแคมเปญออกมาด้วย แต่ยังมุ่งเน้นการไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค” ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเริ่มต้นในงานแถลงแคมเปญใหม่ล่าสุดของชาบูชิในวันนี้ (13 มิ.ย. 2568)

    ไพศาลกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักชาบูชิ พวกเขารู้จักชาบูชิตั้งแต่รุ่นพ่อแม่พาไป แต่อาจจะลืมๆ ไปบ้าง ห่างหายไปเพราะมีหลายแบรนด์ที่เข้ามา แต่จากผลสำรวจของบริษัทพบว่าพวกเขายินดีที่จะลองมาใช้บริการ ถ้าชาบูชิมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาสร้างความแตกต่าง

ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)


    และนั่นก็เป็นที่มาของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ คือ การเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่แรกของแบรนด์ ได้แก่ “สกาย” วงศ์รวี นทีธร และ “นานิ” หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ คู่มิตรภาพ(สุดฮอต)แห่งปีในแฮชแท็ก #สกายนานิ ซึ่งเป็นตัวแทนของความสดใส มิตรภาพ และพลังบวก ในแบบที่ผู้บริโภครุ่นใหม่สามารถเชื่อมโยงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    ทั้งยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่รวมความแตกต่างแต่ลงตัว ทั้งชาบู-ชาบู และซูชิ สองรสชาติที่ขาดกันไม่ได้ และช่วยยกระดับแบรนด์ให้ดูเข้าถึงง่ายแต่มีเสน่ห์ เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มแฟนคลับที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์ในโซเชียล


    ศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ชาบูชิเป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องแก่ แต่หมายความว่าเราได้เติบโตไปกับลูกค้า พัฒนาไปกับลูกค้า และจะกลับมาอยู่ในวัยของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการที่จะมีความแตกต่าง

    ภายใต้แคมเปญใหม่ “ชาบูชิ x สกาย – นานิ: ALL YOU CAN กรี๊ด ฟินสุดกรี๊ด ยิ่งอีทยิ่งฟิน” ศสัยบอกว่าเป็นการปรับภาพลักษณ์ของชาบูชิให้ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่เป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มาสร้าง Social Bonding ไม่ใช่ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตารับประทาน ไม่ใช่กินแค่อิ่มและถูก แต่ต้องได้กินของที่มีคุณภาพ มีบริการที่ดี เดินออกจากร้านไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน

    การโฟกัสที่คุณภาพและความคุ้มค่า พร้อมคงจุดยืนแบรนด์โพสิชั่นของตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ผู้บริหารทั้งสองท่านให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ภายใต้สงครามในช่วงนี้ของวงการร้านอาหารประเภทหม้อไฟที่สร้างแคมเปญลดราคาแข่งกันอย่างดุเดือด แต่สำหรับ ‘ชาบูชิ’ กลยุทธ์ลดราคาดูจะไม่ใช่สิ่งที่แบรนด์จะนำมาใช้

    “สงครามราคาคือเกมการตลาด การแข่งขันในเชิงราคาจะไม่ทำให้ธุรกิจยั่งยืน แต่ถ้าทำเป็นแค่ชั่วคราวหรือแคมเปญสั้นๆ นั้นมองว่าสามารถทำได้และไม่มีผลกระทบต่อตลาด เรื่องการทำราคาแข่งกัน เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ แต่สำหรับชาบูชิ แบรนด์โพสิชั่นนิ่งของเราเป็นคนละแบบ เรามีลูกค้าคนละกลุ่มกัน” ไพศาลให้มุมมอง


    ขณะที่ ศสัย กล่าวว่า “เรามองเรื่องความคุ้มค่ามากกว่า ความคุ้มค่าไม่ใช่แค่ราคา ความคุ้มค่าคือสมการ เราต้องได้รับประทานของดี มีความหลากหลาย มีบริการที่ดี แล้วหารด้วยราคา ซึ่งสิ่งที่เราพยายามมองหาคือความคุ้มค่า จึงเป็นที่มาของแคมเปญนี้ เราให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและคุณภาพทุกอย่าง เพราะเราไม่ต้องการให้ลูกค้าได้แค่อิ่ม แต่ต้องได้รับประทานของดี มีความหลากหลาย ดังนั้น ถ้ามองเรื่องความคุ้มค่า เราชนะแน่นอน เราไม่ได้ขึ้นราคา และเราคงไม่เข้าไปสงครามราคาด้วย เราเน้นเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค”


ศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด


    สำหรับราคาของชาบูชิในปัจจุบัน มี 3 ระดับราคาด้วยกัน คือ ราคา 399 บาท 499 บาท และ 599 บาท (ไม่รวม vat)

    การโฟกัสที่คุณภาพและความคุ้มค่า ทำให้ภายใต้แคมเปญดังกล่าวนอกจากมีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์แล้ว ยังคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังร่วมกับเชฟมืออาชีพ พัฒนาเมนูซูชิใหม่หมดด้วยความตั้งใจและพิถีพิถัน เพื่อให้ลูกค้าได้ลองของใหม่ ซึ่งจะได้เห็นเป็นครั้งแรกในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ รวมถึงยังเตรียมสร้างความประทับใจในร้านด้วยกิจกรรมสุ่มแจกของรางวัลบนสายพานอีกด้วย

    ขณะเดียวกัน การรีเฟรชแบรนด์ยังรวมไปถึงการเดินหน้ารีโนเวตร้านให้เฟรชและทันสมัยขึ้น พร้อมมี “ซูชิ มาสเตอร์” ในร้านด้วย โดยเริ่มรีโนเวตแล้วในสาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ซึ่งจะพร้อมให้บริการโฉมใหม่ในสิ้นเดือนนี้

    สำหรับแผนการขยายสาขา ศสัยบอกว่าในปีงบประมาณนี้บริษัทฯ เปิดชาบูชิสาขาใหม่ไปแล้ว 10 กว่าสาขา ส่วนปีงบฯ ถัดไปวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา

ร้านชาบูชิ สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา


    ไพศาล ขยายความว่า “การจะเปิดสาขาแต่ละที่ เราจะดูว่าโลเคชั่นเหมาะกับเราจริงๆ ไหม เมื่อก่อนเราพยายามจะเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด แต่ตอนนี้เราขยายใหญ่แล้ว ทำให้เราต้องระวังมากขึ้น เราต้องเลือกโลเคชั่นที่ตอบโจทย์มากที่สุด เพราะการเปิดไปเรื่อยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์”



ภาพ: ชาบูชิ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สงครามดุ สุกี้เดือด! เมื่อรุ่นเก่าเก๋าเกมอย่าง MK ต้องมาปะทะกับรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างสุกี้ตี๋น้อย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine