แม้เศรษฐกิจไทยซบเซาแต่ ‘ขนมขบเคี้ยว’ โตต่อ! ‘ศรีนานาพร’ รับเทรนด์ ขอเขย่าตลาดเยลลี่พร้อมดื่ม เปิดตัว “เจเล่ เยลลี่ โซดา” ครั้งแรกในไทย เจาะกลุ่มวัยรุ่น Gen Z เสริมแกร่งธุรกิจ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 150 ล้านบาท
แม้ภาพรวมที่สะท้อนจากหลายฝ่ายว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยไม่สู้ดีนัก ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และเลือกซื้อเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น แต่ถึงอย่างนั้น ‘ตลาดขนมขบเคี้ยว’ ดูเหมือนจะยังเติบโตได้สวนกระแสเศรษฐกิจ
วิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวที่หลายคนคุ้นชื่อกันดีอย่าง เยลลี่พร้อมดื่มตราเจเล่ ปลาหมึกอบเบนโตะ ขนมโลตัส และเมจิกฟาร์ม เป็นต้น ให้ข้อมูลว่า ในปี 2568 มีมูลค่ากว่า 48,210 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2569 จะเติบโตขึ้น 6% เป็น 51,123 ล้านบาท
โดยกลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มขนมขบเคี้ยวที่ทำจากปลาหมึก เพราะแม้จะผู้เล่นรายใหญ่ไม่มาก แต่ในทางกลับกัน การไม่มีคู่แข่งก็จะไม่เกิดการกระตุ้นตลาด ซึ่งปัจจุบันมีขนมหมึกกรุบเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาด ทำให้เกิดความใหม่ และทำให้ตลาดส่วนนี้เติบโตขึ้น โดยคาดการณ์ว่าปี 2569 จะเติบโตราว 5% ที่ 1,826 ล้านบาท
ขณะที่สัดส่วนของขนมอบกรอบแบบแท่ง (Extruded-Stick cracker) มีมูลค่าราว 16,984 ล้านบาท หรือ 35% ของตลาดทั้งหมด ซึ่งขนมของ SNNP ในประเภทนี้คือแบรนด์โลตัส มีส่วนแบ่งในตลาด 4.4% คิดเป็นมูลค่า 715 ล้านบาท แม้จะมีผู้เล่นรายใหญ่จำนวนมากในตลาดกลุ่มนี้ แต่คาดการณ์ว่าในปี 2569 โลตัสจะเติบโตราว 6% ที่ 758 ล้านบาท
อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ ตลาดเยลลี่พร้อมดื่มของไทย แม้เศรษฐกิจจะซบเซาแต่ ‘ขนมขบเคี้ยว’ โตต่อ! ‘ศรีนานาพร’ รับเทรนด์ ขอเขย่าตลาดเยลลี่พร้อมดื่ม เปิดตัว “เจเล่ เยลลี่ โซดา” ครั้งแรกในไทย เจาะกลุ่มวัยรุ่น Gen Z เสริมแกร่งธุรกิจ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 150 ล้านบาทเพราะยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ผู้บริโภคยังต้องการของใหม่อยู่เสมอ โดยตลาดเยลลี่ของประเทศไทย ในปี 2568 มีมูลค่ากว่า 3,139 ล้านบาท และคาดการณ์ว่า ปี 2569 จะเติบโตราว 4% เป็น 3,296 ล้านบาท
เปิดตัว เจเล่ เยลลี่ โซดา ครั้งแรกในไทย
นอกจากแบรนด์เดิมที่มีในตลาดและเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนทั่วไปแล้ว ล่าสุด SNNP ได้มองเห็นโอกาสในตลาดเยลลี่ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ในชื่อ เจเล่ เยลลี่ โซดา ซึ่งนับเป็นสินค้าประเภทนี้ครั้งแรกในไทย สร้างเซ็กเมนต์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาด และรับกับการเติบโตของตลาดเยลลี่ในไทย
วิโรจน์ กล่าวว่า เจเล่ เยลลี่ โซดา ไม่ใช่แค่เยลลี่อีกรุ่น แต่คือการสร้างหมวดสินค้าใหม่ให้ตลาดไทยรู้จักอย่างจริงจัง โดยผสานความหนึบและความซ่า สองมิติเข้าไว้ในขวดเดียว เพื่อตอบโจทย์วิถีผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งยังเป็นการต่อยอดแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยการผลักดันให้เจเล่กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างเต็มตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีไลน์การผลิตที่ซับซ้อน ซึ่ง SNNP คิดค้นขึ้นมาเอง
เจเล่ เยลลี่ โซดา เปิดตัวมาพร้อม 3 รสชาติยอดฮิต ได้แก่ สตรอเบอร์รีโซดา ส้มโซดา และมิกซ์ฟรุตครีมโซดา ซึ่งทุกขวดอัดแน่นด้วยเนื้อเยลลี่หนึบ ในราคาที่เข้าถึงง่ายเพียง 10 บาท เจาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยรุ่นเจน Z ที่ต้องการความสนุกง่ายๆ และต้องแชร์แล้วดูดี ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เจเล่เยลลี่โซดาถูกออกแบบให้เป็นสินค้าที่สร้างภาพจำบน TikTok หรือ IG
“เจเล่ เยลลี่ โซดา ไม่ได้เป็นแค่การเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่เป็นการเปิดประตูสู่พฤติกรรมบริโภครูปแบบใหม่ของคนเจน Z เมื่อเราเห็นพลังของการสร้างประสบการณ์ที่แชร์ได้ สร้างโมเมนต์ได้ และกระตุ้นการพูดถึงได้แบบทันที นี่คือโอกาสของเจเล่ในการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่สร้างกระแสได้จริงในระดับประเทศ”
ในด้านกลยุทธ์การตลาด SNNP ปักธงชัดเจนว่าจะทำให้ เจเล่ เยลลี่ โซดา กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดสำคัญที่ย้ำว่า เจเล่ ไม่ใช่แบรนด์ที่อยู่นิ่ง แต่พร้อมก้าวนำตลาดเสมอ โดยเฉพาะการขยายฐานผู้บริโภคไปสู่กลุ่มที่ไม่ใช่คนกินเยลลี่แบบเดิม แต่ต้องการประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากสินค้าอื่นในตลาด
“เจเล่ เยลลี่ โซดา จะจำหน่ายผ่านช่องทาง Traditional Trade ก่อนในลำดับแรก จากนั้นจะจำหน่ายตามตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและโรงเรียน 600 แห่งทั่วประเทศ ในไซส์ราคา 10 บาท ช่วงเดือนธันวาคม 2568 และในเดือนเมษายน ปี 2569 จะจำหน่ายไซส์ราคา 15 ในร้านสะดวกซื้อตามลำดับ โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรก 150 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของยอดขายทั้งหมดที่คาดว่าจะอยู่ราว 6 พันล้านบาท” วิโรจน์ กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : จากบริษัทที่จะล้มละลาย Hungry Hub ทะยานแตะร้อยล้าน ปีนี้ขยายต่อสู่มาเลเซีย ตั้งเป้าเป็น OTA ร้านอาหารระดับโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


