กลุ่มเดอะมอลล์ ร่วมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เดินหน้ายุทธศาสตร์วัฒนธรรมสู่การค้า เปิดตัวพันธมิตรธุรกิจในจีน SCPG Group นำร่องส่งออกสินค้าวัฒนธรรมไทยสู่ตลาดจีน ก่อนต่อยอดสู่การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า และขยายพันธมิตรการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ในนามผู้บริหารศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม-เอ็มควอเทียร์-เอ็มสเฟียร์, สยามพารากอน และบางกอกมอลล์ ในอนาคต กล่าวว่า “เดอะมอลล์ กรุ๊ป ขอถือวาระสำคัญนี้ ร่วมแสดงพลังแห่งมิตรภาพและไมตรีจิตระหว่าง 2 ประเทศ ผ่านความร่วมมือทางธุรกิจครั้งสำคัญกับบริษัท SCPG Group ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของจีน ขยายความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
“เดอะมอลล์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะไม่เพียงส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่สายตานานาชาติ แต่ยังเปิดโอกาสเชิงธุรกิจให้กับกลุ่ม SMEs และผู้ประกอบการไทย ได้ขยายตลาดและสร้างความเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคจีนอย่างแท้จริง”
โดยความร่วมมือจะเกิดขึ้นในมิติของความร่วมมือในการแลกเปลี่ยน ‘วัฒนธรรม’ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการของไทย ด้วยความสัมพันธ์ไทย-จีนในระดับเวทีโลก โดยกลุ่มเดอะมอลล์จะเป็นสื่อกลางส่งเสริมกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศ, ความร่วมมือในการจัดแคมเปญหรือกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นคู่ค้าของกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG ตลอดจนความร่วมมือในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจร่วมกัน ได้แก่ การบริหาร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสและขยายฐานลูกค้าร่วมกันในอนาคตผ่านการเชื่อมโยงกับผู้ค้าปลีกรายใหม่

นอกจากนี้ สำหรับการส่งเสริมกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งแรกในระหว่างวันที่ 18 - 27 กรกฎาคม นี้ ในงาน “Super-V SCPG Hua Hua Festival” ทาง SCPG ได้นำสินค้าของผู้ประกอบการไทยจากงาน Kud-Thai Market ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อีเวนต์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต โดยกลุ่มเดอะมอลล์ เข้าจัดแสดงในงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gourmet Thai X Butterbear ในกลุ่มเมนูทองม้วน, ทองแผ่น, ข้าวแต๋น, กระบอกซุป เป็นต้น, ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง มะม่วงอบแห้ง ตลอดจนสินค้ากลุ่ม Grocery Non-Food เช่น เสื้อ-กางเกงช้าง, พัดสาน รวมถึงสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ที่มีความโดดเด่น สะท้อนถึงอัตลักษณ์ไทย
สำหรับ SCPG Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 ปัจจุบันมีศูนย์การค้าในความดูแลประมาณ 220 แห่ง ครอบคลุม 54 เมืองทั่วประเทศจีน พื้นที่รวมมากกว่า 15 ล้านตารางเมตร และมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารมากกว่า 120,000 ล้านหยวน พร้อมพันธมิตรแบรนด์มากกว่า 20,000 ราย ทำให้ SCPG ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการดำเนินงานและบริหารศูนย์การค้าของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อันดับ 2 ของประเทศจีน พร้อมฐานสมาชิกในระบบการค้ากว่า 45 ล้านคน

ศุภลักษณ์ กล่าวอีกว่า “เราอยากช่วย SMEs ที่เป็นฐานใหญ่ของประเทศ ฝั่ง SCPG ก็มีพาร์ทเนอร์ที่เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย เป็นโอกาสของไทย”
เธอยังบอกอีกว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้จะมีความร่วมมือในหลายๆ ด้าน ทั้งแลกเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาลงทุน เช่น การดึงแบรนด์ต่างๆ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ SCPG ให้ขยายการลงทุนมาไทย และส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ขยายตลาดไปจีน
“เราเอาสินค้าไทยไปขายให้เขา คนจีนชอบผลไม้ อาหารไทย คนไทยก็ชอบอาหารจีน ก็จะแลกกันได้ คนจีนชอบงานคราฟต์ ก็เอางานคราฟต์เชียงใหม่ไปจีนได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการแสดง วัฒนธรรม แฟชั่น เพชร เฟอร์นิเจอร์ เฮลธ์และเวลเนส สมุนไพรของทั้งไทยและจีนที่แลกเปลี่ยนกันได้ เราจะเป็นเทรดเดอร์”
ศุกลักษณ์ กล่าวอีกว่า “ต้นปีที่ผ่านมา คนจีนเข้าไทยง่ายขึ้นด้วยนโยบายฟรีวีซ่า แต่จำนวนนักท่องเที่ยวกลับลดลงเพราะความกังวลเรื่องความปลอดภัย ถ้าจะให้คนจีนมาเที่ยวไทยเยอะๆ เราต้องเอาวัฒนธรรมของเขาเข้ามาด้วย ขณะที่การค้าขายกำลังยากขึ้น ซึ่งคนจีนจะลงทุนที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเราอยากให้เขาลงทุนที่เรา ซึ่งมองว่าเขาต้องพึ่งพาพันธมิตรท้องถิ่นในการลงทุน เนื่องจากเขาไม่ถนัดภาษา ส่วนเราก็เป็นเทรดเดอร์”
“ส่วนเขาจะมาลงทุนมากน้อยแค่ไหน กี่รายนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เรา ต้องมั่นคง ประเทศไทยต้องจบเรื่องการเมืองให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นคนไม่กล้ามาลงทุน นโยบายเรื่องภาษีก็ยังไม่จบ เราต้องพึ่งจีนจริงๆ และจีนก็ต้องพึ่งเรา”
Yao Haibo ประธานกรรมการบริหาร บริษัท SCPG Group กล่าวว่า การประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญของกลุ่มบริษัท SCPG และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะสะท้อนถึงพลังแห่งมิตรภาพและการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และค้าปลีกให้ก้าวสู่ระดับสากล ผ่านการผสานวัฒนธรรม นวัตกรรม และการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่
“นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันใหม่ให้กับตลาดผู้บริโภคจีน เป็นการเปิดประตูการค้าให้แบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์ได้เข้าสู่ตลาดจีนอย่างมั่นคง พร้อมทั้งเป็นต้นแบบของ ‘กลยุทธ์การบริโภครูปแบบใหม่ + กลยุทธ์สู่สากล’ ในขณะเดียวกันยังช่วยผลักดันแบรนด์จีนออกสู่เวทีโลก โดย SCPG คาดว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่ที่ผสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันผลักดันวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
Yao กล่าวอีกว่า “เรามีการเรียนเชิญหลายแบรนด์มาคุยกับเดอะมอลล์ ทั้งแบรนด์ที่ทำคาราโอเกะ แบรนด์ขนมดั้งเดิมแนวๆ ขนมเปี๊ยะ จิวเวลรี่และแฟชั่น โดยเรามีพาร์ทเนอร์มากกว่า 20,000 ราย ซึ่งมีจำนวนราว 1 ใน 3 ที่สนใจมาลงทุนในไทย ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม”
ด้าน ศุภลักษณ์ กล่าวอีกว่า จุดใหญ่คือต้องทำให้ไทยเป็นฮับของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ทั้ง 10 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ช็อปปิ้ง, ท่องเที่ยว, เฟสติวัล, วัฒนธรรม, ไมซ์, เฮลธ์และเวลเนส, แฟชั่น, Sustainability และ Artificial Attraction เช่น สวนสนุก อควาเรียม
“อุตสาหกรรมที่เราเคยทำได้ดี เริ่มไม่ดีอย่างเก่า ทั้งการส่งออกรถยนต์ เกษตร ไปจนถึงท่องเที่ยว ดังนั้นเราต้องมองหาอุตสาหกรรมที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น เช่น งานศิลปะ และการที่จะปั้นไทยเป็นฮับของเอเชีย ต้องอาศัยกำลังและความร่วมมือทั้งรัฐและเอกชน ต้องเป็นปลาฉลาด ปลาไว เพราะปลาใหญ่ก็จมน้ำตายได้ เราต้องคิดนอกกรอบ เพราะคิดแค่ในเรากรอบแพ้แน่”
งานแถลงข่าวความร่วมมือครั้งสำคัญ จัดขึ้นโดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติแสดงวิสัยทัศน์ และแสดงความยินดีกับ 2 กลุ่มผู้นำธุรกิจ

ภาพ: กลุ่มเดอะมอลล์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘สุทธิสาร จิราธิวัฒน์’ เปิดแผน CRC ทุ่มงบ 3 ปี 4.5-4.7 หมื่นล้าน ขยายตลาดไทย-เวียดนามเต็มสปีด
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine