เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแบรนด์สินค้านวัตกรรมในระดับโลกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Coway กิจการที่มีมูลค่าตลาดกว่า 7.41 ล้านล้านวอน มียอดขายเครื่องกรองน้ำเป็นอันดับ 1 ในหลายประเทศ ตั้งแต่เกาหลี มาเลเซีย รวมถึงไทย แล้วทำไม Coway ถึงประสบความสำเร็จ Forbes Thailand ชวนติดตามในบทความนี้ไปด้วยกัน
หากพูดถึงเกาหลีใต้ นอกจากจะเป็นดินแห่งความบันเทิงและวัฒนธรรม K-Pop อีกหนึ่งสิ่งที่เกาหลีใต้มีชื่อเสียงในระดับโลกด้วยเช่นกันก็คือเรื่อง ‘เทคโนโลยี’ ปัจจุบันมีแบรนด์นวัตกรรมจากเกาหลีที่สร้างการเติบโตไปทั่วโลก ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน รถยนต์ และถ้าจะพูดถึงโปรดักต์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพจากเกาหลีแล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Coway ที่มีเครื่องกรองน้ำเป็นพระเอกอย่างแน่นอน
Coway เริ่มต้นกิจการในเกาหลีตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันอายุ 36 ปีแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กิจการขยายสู่บริษัทที่มีมูลค่าตลาดกว่า 7.41 ล้านล้านวอน ยอดขายปี 2024 ทะลุ 4.31 ล้านล้านวอน มีผู้บริโภคเป็นสมาชิก Coway แล้วกว่า 10.21 ล้านบัญชีใน 50 ประเทศทั่วโลก และที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่เปิดกิจการมา Coway ยังไม่เคยขาดทุนแม้แต่ปีเดียว

ว่าแต่ว่า ... ทำไม Coway ถึงมาไกลได้ขนาดนี้?
Forbes Thailand มีโอกาสเยือนเกาหลีกับ Coway ได้สัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังแนวคิด วิธีการทำงาน และพูดคุยกับผู้บริหาร ซึ่งคำตอบแรกที่พบว่าเป็นคีย์สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตก็คือ โมเดล Subscription นั่นเอง
ย้อนไปในช่วงแรกที่ก่อตั้งบริษัท Coway ยังไม่มีโมเดล Subscription การขายเครื่องกรองน้ำของ Coway ใช้วิธีขายยกเครื่องแบบที่ลูกค้าจ่ายเพียงครั้งเดียว เป็นแบบจ่ายแล้วจบ ลูกค้าต้องดูแลต่อด้วยตัวเอง
แต่เมื่อเกิดวิกฤต IMF ในเกาหลีใต้ในช่วงปี 1997 เครื่องกรองน้ำกลายเป็นสินค้าราคาแพง เฉลี่ยเครื่องละ 30,000-40,000 บาท ทำให้ขายได้ยาก นั่นทำให้บริษัทหาวิธีขายใหม่นั่นคือการ Subscription ที่ทำให้ลูกค้าจ่ายต่อเดือนได้ในราคาประหยัด พร้อมเสริมด้วยบริการ CODY ซึ่งการดูแลลูกค้าจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัทนั่นเอง
Coway บอกว่าจริงๆ แล้วจะทำเพียงแค่โมเดล Subscription ก็ได้ แต่เป้าหมายของบริษัทคืออยากทำให้ลูกค้ามีน้ำดื่มที่สะอาด จึงรวมเซอร์วิสไว้ในโมเดลนี้ด้วย ปรากฏว่าโมเดลนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี Coway จึงเดินหน้าพัฒนาการผู้เชี่ยวชาญ การบริการ และการดูแลลูกค้า จนสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Coway ไม่เคยติดลบเลย

ความสำเร็จของโมเดล Subscription ทำให้ Coway นำโมเดลนี้ไปใช้ในประเทศต่างๆ ที่ขยายตลาดไปด้วย และแน่นอนว่าสร้างการเติบโตในประเทศเหล่านั้นได้เช่นกัน ปัจจุบัน Coway มีรายได้จากตลาดต่างประเทศคิดเป็น 36% โดยมี ‘มาเลเซีย’ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด
ขณะที่ในประเทศไทย แม้ทำตลาดมานานแล้ว แต่เพิ่งนำโมเดล Subscription มาให้บริการตั้งแต่ปี 2020 แต่เรียกได้ว่าตั้งแต่นำโมเดลนี้มาใช้ ยอดขายในไทยก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดปีละ 25-50% ในปี 2024 เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 25% และไตรมาสแรกของปี 2025 ก็เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 50% เรียกว่ากำลังจะเติบโตแบบเดียวกับมาเลเซียก็ว่าได้

นอกจากโมเดลการขายและการดูแลลูกค้าแล้ว ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ นั่นคือการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าของ Coway ที่มีศูนย์ R&D Center ในการพัฒนาทุกๆ สินค้าของตัวเองด้วย
ศูนย์วิจัยของบริษัทมีชื่อว่า Coway Research and Development Center ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 บนพื้นที่กว่า 4,165 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ในมหาวิทยาลัยโซล ซึ่งบริเวณนี้มีศูนย์วิจัยของบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วย เช่น Samsung

โดย Coway ร่วมกับมหาวิทยาลัยโซลในการวิจัยและพัฒนา ที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของทีมนักวิจัยประมาณ 300 คน ครอบคลุมงานวิจัยตั้งแต่เทคโนโลยีเบื้องต้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนถึงการทดสอบคุณภาพที่เข้มงวด โดยเฉพาะนักวิจัยด้านคุณภาพน้ำกว่า 50 คน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญน้ำด้านต่างๆ จากทั่วโลก ทั้ง Water Sommelier ที่ผ่านการรับรองจาก KISA และ K-water กว่า 40 คน และ CWS Specialist จากสมาคมคุณภาพน้ำสหรัฐอเมริกา (WQA) ถึง 20 คน พร้อมนักวิจัยด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ 43 คน ทำให้ COWAY R&D Center แห่งนี้เป็นหนึ่งในองค์กรวิจัยด้านน้ำที่มีจำนวนผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองมากที่สุดของโลก

หนึ่งในไฮไลต์ของ Coway R&D Center คือ Water Taste Evaluation & Research Lab ก่อตั้งในปี 2019 เพื่อวิจัยน้ำสะอาดและรสชาติที่ดีที่สุด ห้องวิจัยนี้ศึกษารสชาติน้ำจากองค์ประกอบทางเคมี สภาพแวดล้อม และปัจจัยต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แม่นยำและเที่ยงตรงที่สุด

ความมุ่งมั่นด้านการวิจัยนี้ทำให้โคเวย์ถือครองทรัพย์สินทางปัญญามากกว่า 5,779 รายการ ผลิตภัณฑ์ Coway ผ่านการรับรองมาตรฐาน WQA และ NSF เพื่อมอบความมั่นใจด้านคุณภาพน้ำและความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคทั่วโลก
การพัฒนานวัตกรรมของ Coway นั้นอยู่ภายใต้แนวคิด User-Centric Design เน้นความสะดวก ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ และดีไซน์สวยเข้ากับบ้านยุคใหม่ โดยเครื่องกรองน้ำผ่านการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำกว่า 2,700 แหล่ง จาก 41 ประเทศ เพื่อพัฒนาไส้กรองที่เหมาะสม
ส่วนเครื่องฟอกอากาศทดสอบในสภาพจริง (IAQ Field Test) ใช้ระบบกรอง HEPA ดักจับ PM2.5, PM10 รวมถึงขนสัตว์และสารก่อภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดยังเปิดตัวเก้าอี้นวดไฟฟ้า 3D ปรับตามสรีระเพื่อความผ่อนคลายครบทุกจุด

นอกจากนี้ ที่นี่ยังแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของ Coway ที่ควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด ใช้ไนโตรเจนและระบบสุญญากาศแทนน้ำเพื่อลดการทดสอบที่สิ้นเปลือง และเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อลดขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน
ซอ จางวอน กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ Coway กล่าวว่า พันธกิจของ Coway ไม่ได้หยุดอยู่แค่การส่งมอบน้ำที่สะอาดและปลอดภัย 100% ให้กับทุกครัวเรือน แต่คือการสร้างสังคมที่คนไทยทุกคนสามารถดื่มน้ำด้วยความมั่นใจได้ น้ำที่ดีย่อมนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีขึ้น และสุขภาพที่ดีย่อมนำมาซึ่งประเทศไทยที่แข็งแกร่งขึ้น นี่คือเหตุผลที่ Coway มีอยู่ และนี่คืออนาคตที่เรามุ่งไป
คิ รยง ชอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โคเวย์ ประเทศไทย กล่าวว่า “โคเวย์เชื่อว่าสุขภาวะที่ดีควรเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ในทุกวัน เราต้องการให้ทุกบ้านเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้อย่างครบทุกมิติ ทั้งจากการดื่มน้ำสะอาดที่ดีต่อสุขภาพ อากาศบริสุทธิ์ดีต่อการหายใจ และการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน เพราะสุขภาวะที่ดีจะนำไปสู่ความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน
“สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่โคเวย์ยึดถือในการพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการระดับพรีเมียม ที่ไม่เพียงช่วยดูแลสุขภาพ แต่ยังมอบความสะดวกสบาย และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนอย่างแท้จริง ภายใต้การดำเนินงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน”

ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ เก้าอี้นวด และอื่นๆ กำลังกลายเป็นสินค้ายอดนิยมในครัวเรือน ซึ่งสะท้อนเทรนด์การดูแลสุขภาพที่เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้ตลาดกลุ่มนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย โคเวย์จึงเดินหน้าขยายตลาดด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจรที่ครอบคลุมตั้งแต่การดื่มน้ำสะอาด การหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ ไปจนถึงการผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงาน
ซึ่งข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพโลกในปี 2568 โดยสถาบันด้านสุขภาพสากล (Global Wellness Institute) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสุขภาพทั่วโลกจะมีมูลค่าพุ่งทะลุ 230 ล้านล้านบาท โดยอัตราการเติบโตสูงถึง 8.69% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้
“โคเวย์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง และในอนาคตอันใกล้นี้ โคเวย์ ประเทศไทย ยังมีแผนการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่รักสุขภาพ ให้ได้สัมผัสคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ผ่านประสบการณ์ด้านสุขภาพระดับพรีเมียมจากโคเวย์” คิ รยง ชอย กล่าวปิดท้าย

ภาพ: Coway
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ไม่ต้องซื้อขาดก็นวดที่บ้านได้! ‘โคเวย์’ เปิดตัวเก้าอี้นวดระบบ Subscription จ่ายแค่ 1,000 กว่าบาทต่อเดือน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine