‘โตโยต้า’ ส่งมอบกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e 12 คัน ทดลองวิ่งสองแถวที่พัทยา - Forbes Thailand

‘โตโยต้า’ ส่งมอบกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e 12 คัน ทดลองวิ่งสองแถวที่พัทยา

FORBES THAILAND / ADMIN
29 Apr 2024 | 12:05 PM
READ 1323

โตโยต้า “เติมเต็มทุกการขับเคลื่อน 
เพื่อเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e ที่ประกอบในไทยเป็นครั้งแรก 
สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวในเมืองพัทยาจำนวน 12 คัน ย้ำพันธกิจบริษัทสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน


    สุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวสาธารณะ 
แก่ เรวัฒน์ เซี่ยงฉิน ประธานกรรมการ สหกรณ์เดินรถพัทยา จำกัด เพื่อเป็นการเติมเต็ม
ระบบนิเวศการเดินทางที่ยั่งยืนในเมืองพัทยา โดยจะมีจำนวนทั้งหมด 12 คัน ภายใต้ “โครงการ
พัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” โดยมีปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา 
ร่วมเป็นประธานในพิธี ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567



    หนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของโตโยต้าคือการ สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ผ่านการจัดการกระบวนการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ควบคู่ไปกับ การเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi Pathway) ที่ว่าด้วยการมุ่งมั่นในการพัฒนาทุกความเป็นไปได้ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเดินทางของผู้คน นำมาสู่การคิดค้นนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ๆ ทั้งการวิจัยพัฒนาระบบขับเคลื่อนต่างๆ 
ที่มีคุณลักษณะแตกต่างกัน รองรับการใช้งานพลังงานได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของผู้คนด้วยยานยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม สามารถใช้งานได้จริง และเหมาะสมกับโครงสร้างพื้นฐานแต่ละพื้นที่



    ทั้งนี้ เพื่อศึกษาในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ตลอดจนการรับรู้ของผู้คน และพฤติกรรมการใช้งาน ภายใต้สภาพแวดล้อมจริงในประเทศไทย โตโยต้าจึงได้เริ่มโครงการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยข้อมูลดังกล่าว ภายใต้ “โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” ณ เมืองพัทยา โดยร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อาทิ องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน ตลอดจนภาครัฐ และผู้ประกอบการในจังหวัดชลบุรี ร่วมจัดสร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ภายใต้แนวทาง Multi Pathway สำหรับให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาได้ทดลองใช้งานในทุกรูปแบบการเดินทาง

    โดยระบบนิเวศดังกล่าวประกอบด้วย การเดินทางระยะสั้น (Last mile) ด้วยรถยนต์โตโยต้า รุ่นซีพลัส พอด (C+Pod) ตามด้วยการเดินทางระยะกลาง (Inter City) ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ตลอดจนการประสานความร่วมมือในการเปิดสถานีไฮโดรเจนแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) รุ่นโตโยต้า มิไร ที่โตโยต้านำมาสาธิตการใช้งานในรูปแบบของ การเดินทางระยะไกล (Long Distance) รับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี

    ในวันนี้ โตโยต้าได้ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบ
รถสองแถวโดยสารประจำทางสาธารณะ (Fixed Route) ในพื้นที่เมืองพัทยา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 - ธันวาคม 2568 โดยจะมีการส่งมอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น 12 คัน ภายใต้โครงการฯ อันจะเป็นประโยชน์
ในการวางรากฐานระบบขนส่งสาธารณะของเมืองพัทยา ให้มีความทันสมัยและปราศจากมลภาวะต่อไป



    ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวและประชาชนในเมืองพัทยาให้ความสนใจใช้บริการรถยนต์พลังงานทางเลือกของโตโยต้าที่ส่งรถเข้าร่วมโครงการฯไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4,500 ครั้ง รวมเป็นระยะทางกว่า 335,000 กิโลเมตร 
อันเป็น ส่วนสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการเดินทางในเมืองพัทยา ซึ่งตั้งเป้าตลอดระยะเวลาโครงการ อยู่ที่ 4,225 ตัน ภายในปี 2568

    สุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในวันนี้ เราได้ เติมเต็มทุกการขับเคลื่อน เพื่อเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ภายใต้แนวทาง Multi Pathway โดยการนำรถกระบะ Hilux Revo-e มาดัดแปลงเป็นรถสองแถว เพื่อให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ทั้งนี้ต้องขอบคุณความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการผลักดันพัทยาให้เป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะของไทย ในด้านการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นส่วนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศ ในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนต่อไป”


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LPP รุกธุรกิจ Sole Agent ประเดิมโครงการแรก SOL Midtown ทาวน์โฮมหรูเพชรเกษม ราคาเริ่ม 12.5 ล้าน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine