จาก ‘Chalotte’ คาแรกเตอร์ศิลปินไทยสู่ลวดลายบน ‘หมวกกันน็อกเด็ก’ ภายใต้โครงการของวิริยะประกันภัย - Forbes Thailand

จาก ‘Chalotte’ คาแรกเตอร์ศิลปินไทยสู่ลวดลายบน ‘หมวกกันน็อกเด็ก’ ภายใต้โครงการของวิริยะประกันภัย

FORBES THAILAND / ADMIN
28 May 2025 | 10:03 AM
READ 165

วิริยะประกันภัย ร่วมกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ จับมือศิลปินไทย Mackcha เจ้าของคาแรกเตอร์ Chalotte มาร่วมออกแบบหมวกนิรภัยสำหรับเด็ก ภายใต้โครงการ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100%” สู่การเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน ปลูกฝังพฤติกรรมเด็กในการโดยสารรถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย


    อมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนของไทยถือว่าอยู่ระดับสูง กว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในทุกมิติ ในด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ยังมีความร่วมมือกับมูลนิธิเมาไม่ขับ เป็นภาคีเครือข่ายที่ทำงานร่วมกันมายาวนานกว่า 20 ปี

    ตั้งแต่ปี 2563 ได้ร่วมมือกับมูลนิธิเมาไม่ขับเปิดตัวโครงการ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100%” ทั่วประเทศ เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยและวินัยจราจรในกลุ่มเด็กเล็ก รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้แก่กลุ่มผู้ปกครอง ครู เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเด็ก ให้เกิดความตื่นตัวในการสวมหมวกนิรภัยให้กับเด็กเล็กและตนเองทุกครั้งเมื่อเดินทาง”

    ในปี 2568 นี้โครงการดังกล่าวได้คอลแลปส์กับศิลปิน Mackcha - ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ ศิลปินหญิงของไทยที่มีผลงานศิลปะโด่งดังอย่างคาแรกเตอร์ “Chalotte” (ชาล็อต) ซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ผ่านผลงาน “Chalotte และผองเพื่อน” มาออกแบบลวดลายบนหมวกนิรภัยรุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดเพียง 5,000 ใบ


    “ผลงาน Chalotte และผองเพื่อนของ Mackcha ถ่ายทอดความรู้สึกถึงมิตรภาพ และความอบอุ่น ด้วยคาแรกเตอร์ที่น่ารัก มีเสน่ห์เฉพาะตัว จึงสามารถดึงดูดให้คนทุกเพศทุกวัยชื่นชอบ บริษัทฯ จึงเล็งเห็นว่าความเป็นเพื่อนหรือความเป็นมิตรอันใกล้ชิดที่สะท้อนผ่านผลงานต่างๆ ของ Mackcha นี้ สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาสร้างสรรค์ความพิเศษให้กับหมวกนิรภัยสำหรับเด็ก ภายใต้โครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100% รวมถึงขยายผลไปยังงานรณรงค์ความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้ชาล็อตเป็นสื่อกลางระหว่างเด็กเล็กกับการสวมหมวกนิรภัย และคาดหวังว่าน้องๆ ที่ได้รับหมวกนิรภัยรุ่นพิเศษนี้ จะให้ความรู้สึกเหมือนมีเพื่อนร่วมทาง ที่คอยห่วงใย เตือนให้น้องๆ สวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งที่โดยสารรถจักรยานยนต์ร่วมกับผู้ปกครอง” นายอมร กล่าว

    ขณะที่ Mackcha เปิดเผยแรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้ต่างจากโปรเจกต์ที่ผ่านมาเช่นกันเพราะว่ามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเด็กๆ และมีเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เปิดโอกาสที่เราจะได้แบ่งปันการนำงานศิลปะมาใช้เป็นสื่อกลางในการรณรงค์ความปลอดภัยในเด็กเล็ก

    “ชาล็อต" เปรียบเสมือนเพื่อนในจินตนาการที่เข้าใจเราในทุกความรู้สึก ไม่ว่าเราจะดีใจ เสียใจ เศร้าหรือเจอปัญหาอะไรในชีวิตก็ตาม จะมีชาล็อตที่คอยเข้าใจและอยู่ข้างๆ เสมอ ซึ่งที่ผ่านมาภาพที่ทุกคนเห็น ชาล็อตจะเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่กับทะเลมาตลอด เราจึงอยากให้ภาพจำนั้นที่ทุกคนคุ้นเคยเข้าไปอยู่ในสิ่งของที่จะได้ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย อีกทั้งสีของทะเลซึ่งเป็นสีฟ้า สื่อถึงความสบายใจ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยทำให้คนรู้สึกสบายใจที่จะหยิบสิ่งของนั้นขึ้นมาใช้ด้วยเช่นกัน การนำ Chalotte และผองเพื่อน มาร่วมในโครงการรณรงค์ครั้งนี้ จึงรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเด็กๆ ดีใจที่งานศิลปะของเราทำอะไรได้มากกว่าที่เคยทำมา

    อมรกล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำหมวกนิรภัยเด็กที่ออกแบบพิเศษโดย Mackcha ภายใต้โครงการ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100%” นำร่องไปยังเครือข่ายของมูลนิธิเมาไม่ขับ และจะขยายผลไปสู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่กระจายอยู่ทั่วประเทศต่อไป



ภาพ: วิริยะประกันภัย, ออกแบบภาพปกโดย ธัญวดี นิรุติศาสตร์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เมื่อ ‘จีนไม่เที่ยวไทย’ เหมือนเดิม ภาคการท่องเที่ยวต้องปรับตัวแค่ไหน?

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine