<h2>แม้รถยนต์ไฟฟ้าอาจทำให้หลายคนประหยัดค่าพลังงานลงได้ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือต้องเคลมซ่อมกลับเจอปัญหามากมาย ทั้งศูนย์ซ่อมไม่เพียงพอ อะไหล่มาช้า และหลายชิ้นราคาสูงกว่าสันดาปหลายเท่าตัว แน่นอนว่าธุรกิจประกันวินาศภัยที่เป็นส่วนหนึ่งของการ ‘ซ่อม’ ย่อมเจอปัญหาไปพร้อมกับผู้ขับขี่ รวมถึงเผชิญกับการขาดทุนมากขึ้นด้วย</h2> ธุรกิจรับประกันรถไฟฟ้ายังขาดทุน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เริ่มกันที่ 'อมร ทองธิว' กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เล่าถึง การรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปัจจุบันแม้จำนวนกรมธรรม์จะเติบโตขึ้นโดยเพิ่มขึ้นเป็น 66,000 กรมธรรม์ในปี 2567 และมีเบี้ยประกันรวมกว่า 1,500 ล้านบาท รวมถึงราคาเบี้ยประกันรถ EV จะสูงกว่ากลุ่มรถยนต์สันดาป แต่พอร์ตประกันรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ นั้นยังขาดทุนอยู่เพราะอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายดำเนินงานทั้งหมด (Combined Ratio) สูงเกินกว่า 100% แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเกิดเคลมขึ้น เช่น ค่าซ่อม ค่าแรง ค่าอะไหล่ จะกลายเป็นอัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ซึ่งต้องยอมรับว่าประกันรถ EV นั้นมี Loss Ratio สูงกว่ารถยนต์สันดาปถึง 50% แต่ปัจจุบันบริษัทฯ มีการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยรถ EV สูงกว่ารถสันดาปที่ 15% จึงไม่สอดคล้องกัน และทำให้ทั้งพอร์ตรถ EV ยังขาดทุนสูง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/tHXfZLKp2ijAbiDKhJss.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="tHXfZLKp2ijAbiDKhJss.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,405"></figure></div> จ่อเพิ่มเบี้ยรถ EV ‘เฉพาะบางแบรนด์-บางรุ่น’ ให้สอดคล้องกับความเสี่ยง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อมร เล่าต่อว่า แม้ต้นทุนและเคลมจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ ยังคงจะเปิดขายประกันภัยรถ EV ตามความต้องการของตลาด แต่ปีนี้อาจต้องพิจารณาที่จะปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้นอาจมากกว่า 15% ในปัจจุบัน ซึ่งจะเพิ่มเบี้ยเฉพาะบางแบรนด์รถยนต์และบางรุ่น ขึ้นอยู่กับฐานข้อมูลและการเจรจากับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ผลิต, ผู้จัดจำหน่าย ฯลฯ เพื่อพูดคุยว่าจะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในการซ่อมได้มากน้อยเพียงใด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การปรับ (เพิ่ม) เบี้ยต้องรอดูหลังการพูดคุยกับพันธมิตรที่มีอยู่หลายสิบแบรนด์ โดยทั้งค่าซ่อม ค่าแรง ค่าอะไหล่ที่เกิดขึ้นจะสะท้อนไปที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันในตลาดยังไม่นิ่ง ดังนั้นการจะปรับเบี้ยต้องรอดูความชัดเจน และการปรับขึ้นเบี้ยขึ้นอยู่กับแบรนด์ รุ่น อีกด้วย” อมร กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ปี 2568 ยังคาดว่าเบี้ยประกันภัยรถ EV จะไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ ยังคงรับประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพราะมีพอร์ตรถยนต์ขนาดใหญ่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี นอกจากนี้จะหันมาขยายอู่ซ่อม EV ให้มากขึ้น จากปัจจุบันจำนวนศูนย์ซ่อม EV กับผู้จำหน่าย/ผู้ผลิตมีอยู่ 300 แห่ง ส่วน อู่ในโครงการวิริยะมีอยู่ 30 แห่ง คาดว่าในปี 68 จะเปิดเพิ่มขึ้นสุ่ 100 แห่ง โดยจะทยอยเปิดเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพในการซ่อมได้มาตรฐานความปลอดภัย แต่แม้จะมีอู่ซ่อม EV มากขึ้น แต่อาจไม่สามารถลด Loss ratio ได้มากนักเพราะยังมีเรื่องค่าอะไหล่อีก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/jfemnCAgGZtb8xgjhGhF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jfemnCAgGZtb8xgjhGhF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,404"></figure></div> ปี 68 เตรียมออกประกัน EV 2+ ตั้งเป้าเบี้ยโต 3.7%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันวิริยะประกันภัยยังมีความโดดเด่นด้านประกันภัยรถยนต์ (motor) สะท้อนจากการมีส่วนแบ่งตลาดที่ 22.6% เป็นอันดับ 1 ของตลาดฯ โดยปี 2568 นี้จะเร่งพัฒนาประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ (กรณีซ่อมอู่) โดยจะเพิ่มความคุ้มครองภัยน้ำท่วม รวมถึงประกันรถไฟฟ้า 2+ ซ่อมห้าง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันจะเร่งขยายประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-motor) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุ จะมีทั้งแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) และแบบร่วมจ่าย (Copayment) รวมถึงประกันภัยการเดินทาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2568 นี้ตั้งเป้าหมายมีเบี้ยประกันภัยรับตรงอยู่ที่ 42,569 ล้านบาท เติบโต 3.7% ขึ้นไป แบ่งเป็น ประกันภัยรถยนต์ 37,591 ล้านบาท เติบโต 3.3% และ Non-motor 4,978 ล้านบาท เติบโต 11% ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้การขยายสู่ Non-motor จะช่วยสร้างสมดุลให้ธุรกิจมากขึ้น และยังออกแคมเปญโฆษณา ภายใต้แนวคิด “ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า : ด้วยบริการที่เป็นเลิศครอบคลุมครบวงจร” เพื่อสร้างการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น ภาพ: วิริยะประกันภัย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/chai-sophonpanich-prepares-for-2-heirs-to-inherit-bki" alt="ชัย โสภณพนิช เตรียมพร้อมให้ 2 ทายาท ‘ชวาล-ลสา โสภณพนิช’ สืบทอดธุรกิจ สานต่อความสำเร็จ ‘กรุงเทพประกันภัย’">ชัย โสภณพนิช เตรียมพร้อมให้ 2 ทายาท ‘ชวาล-ลสา โสภณพนิช’ สืบทอดธุรกิจ สานต่อความสำเร็จ ‘กรุงเทพประกันภัย’</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

กรณีศึกษาประกันรถไฟฟ้าขาดทุน! วิริยะฯ เล็งขึ้นเบี้ยในปี 68 แต่ไม่หยุดรับประกันรถ EV

<h2>แม้หน้าที่การงานด้านธุรกิจจะบีบรัด อมร ทองธิว ผู้บริหารหนุ่มทายาทรุ่น 3 “วิริยะพันธุ์” แต่เพราะตระหนักถึงคุณค่าของเนื้อหาในนิตยสารสารคดีและต้องการแบ่งปันไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงเป็นที่มาของ Sarakadee Lite บนแพลตฟอร์มออนไลน์</h2>
เมื่อครั้งที่ยังเป็นนักศึกษา อมร ทองธิว มีงานอดิเรกและความสนใจที่หลากหลาย เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือและท่องเที่ยว เพราะเห็นว่าทั้งสองกิจกรรมนี้ช่วยเปิดโลกและเปิดมุมมอง ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยอ่านทั้งแนววรรณกรรมและวิชาการ อ่านได้ทั้งเรื่องหนักๆ อย่างประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ส่วนวรรณกรรมเป็นแนวอมตะและนิยายกำลังภายใน และชื่นชอบผลงานของโกวเล้งเป็นพิเศษ

ส่วนดนตรีจะชื่นชอบแนวคลาสสิก หากมีโอกาสมักเข้าชมและฟังการแสดง Symphony Orchestra รวมทั้งแนวอัลเทอร์เนทีฟ เช่น วง Modern Dog, Scrubb และ Linkin Park

เมื่อถามถึงงานอดิเรกในเรื่องเหล่านี้ เจ้าตัวตอบพร้อมกลั้วหัวเราะน้อยๆ ว่า “เยอะไปไหมครับ” และว่า หลังจากมาทำงานประจำก็ไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมข้างต้น บวกกับต้องแบ่งเวลาให้กับลูกๆ วัย 1 และ 3 ขวบ หนังสือที่ยังอ่านอยู่บ้างจะเป็นแนวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เพื่อนำความรู้มาเสริมในการทำงาน

นอกจากตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ของวิริยะประกันภัยแล้ว อมรยังเป็นบรรณาธิการอำนวยการนิตยสารสารคดี และผู้ริเริ่มก่อตั้งเว็บไซต์ Sarakadee Lite ที่เพิ่งมีอายุครบ 1 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ บจ. วิริยะธุรกิจ

<img class="alignnone wp-image-43390 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/นิตยสาร-สารคดี-02.jpg" alt="Forbes Thailand" width="720" height="480" />

ผู้บริหารหนุ่มบอกว่า ได้เข้ามาดูแลธุรกิจนิตยสารเต็มตัวประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุที่มาเปิดเว็บไซต์สารคดีไลท์ เพราะมองว่าคนรุ่นใหม่ยังสนใจคอนเทนต์ความรู้ต่างๆ เพียงแต่อาจต้องปรับแพลตฟอร์มเพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนอ่าน ส่วนนิตยสารก็ยังผลิตเนื้อหาเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ผู้อ่านที่ชอบอ่านในรูปแบบนิตยสาร มีเวลาละเลียดอ่านบทความพลิกดูรูปภาพ ซึ่งแต่ละเรื่องมีความยาว 5-10 หน้า

&nbsp;
<ul>
 	<li>ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วย Sarakadee Lite</li>
</ul>
“เราเชื่อในว่า content ที่ดี มีความถูกต้องของข้อมูล อย่างไรก็มีคนอยากอ่าน สังเกตได้ว่าคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้อ่านหนังสือที่มีเนื้อหาหนักๆ เช่น ปรัชญา สังคม การเมือง...content ในตลาดมีเดียยังไม่มีคนจับตรงนี้มาก และสารคดีเป็นคนจับเรื่อง knowledge เป็นแบรนด์ที่เข้มแข็ง ถ้าคนรู้จักก็อยู่ในใจแต่การที่ยังไม่กว้างมากจะมีอะไรเสริมได้ ก็มองว่าต้องไปทางออนไลน์ ตีโจทย์กันว่าแล้วมันจะ positioning อย่างไร สุดท้ายเป็นสารคดีไลท์ เป็น knowledge ทางออนไลน์ นำสารคดีซึ่งเป็นความรู้และทำเป็นนิตยสารมาหลายสิบปีมาเล่าใหม่ให้สั้นและสนุก คอนเซ็ปต์คือ fun knowledge”

หากต้องการข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็ไปตามอ่านต่อในนิตยสาร มีห้องสมุดนิตยสารสารคดีออนไลน์ซึ่งเป็นคลังความรู้ที่นิตยสารทำมาเกือบ 40 ปี ทั้งด้านประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมไทย

Sarakadee Lite นำเสนอบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มาของเนื้อหาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้ฐานจากนิตยสารสารคดีนำมาย่อยใหม่ให้อ่านง่าย เสพง่าย เพื่ออ่านได้สั้นๆ บนโทรศัพท์มือถือเนื้อหาอีกส่วนทีมงานผลิตขึ้นใหม่ในรูปแบบคอนเทนต์ วิดีโอคลิปกลุ่มเป้าหมายคือ นักศึกษา คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงานอายุ 20-35 ปี

“เราตั้งทีมใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีความเข้าใจการนำเสนอทางออนไลน์ว่า เขียนอย่างไรให้สั้นกระชับ แต่ core ยังอยู่ เวลาเขียนต้องมองว่าการจะมีตัวตนในออนไลน์ต้องจับกระแสปัจจุบันให้ได้ว่าตอนนั้นเขาสนใจอะไร โดยเอาความรู้จากนิตยสารสารคดีมาเขียน นอกจากนั้นไปสัมภาษณ์ ทำวิดีโอเพิ่มเพื่อให้สนุกขึ้น ตัว content ที่เขาเขียนตอนแรกก็หวั่นๆ ว่าของเดิมจะได้ไหมปรากฏว่ามันเป็น fact ซึ่งไม่ตายนะ แค่มาถ่ายภาพหรือทำคลิปเพิ่มนิดหน่อยก็ใช้ได้

<img class="alignnone wp-image-43391 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/สารคดีออนไลน์-01.jpg" alt="Forbes Thailand" width="720" height="480" />

ตัวอย่างเช่น เราดูซีรีส์เกาหลี Crash Landing on You ก็เล่าในมุมของเส้น 38 องศาเหนือ ประวัติศาสตร์สงครามบนคาบสมุทรเกาหลีเหนือ หรือไขรหัสประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เป็นกลางทางการเมืองที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มายืนคุยกันได้

“ผ่านมา 1 ปี ตัวยอด like ยอด follow ไปได้...มีคนติดตามอ่าน เรามีหลาย platform ไอจี ทวิตเตอร์ด้วย เด็กก็ตามมาอ่านเนื้อหาความยาว 3-5 นาที เขาก็อ่านกันเมื่อก่อนเคยได้ยินว่าเด็กอ่านหนังสือน้อยไม่จริงนะ ถือว่าเราก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง”

เป้าหมายต่อไปของผู้บริหารหนุ่มคือ การขยายกลุ่มผู้อ่านให้มีการเชื่อมระหว่างกลุ่มผู้อ่านนิตยสารและสารคดีไลท์ให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น พอนิตยสารเล่มใหม่ออกวางแผงก็ให้สารคดีไลท์มารีวิว เนื่องจากผู้อ่านคนละกลุ่มกัน อยากลองดูว่าผู้อ่านในออนไลน์จะสนใจอ่านแบบเป็นเล่มที่มีสาระหนักๆ บ้างหรือไม่

พ้นจากเวลาทำงานคือ การดูแลสุขภาพและครอบครัว อมรออกกำลังกายด้วยการวิ่งที่สวนลุมพินีสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2.5 กิโลเมตรหรือ 1 รอบสวนลุมฯ ในช่วงเย็นหลังเลิกงานส่วนวันหยุดเป็นเวลาของครอบครัว หากมีโปรแกรมเที่ยวก็เน้นกิจกรรมของลูกๆ เช่น พาไปเที่ยวสวนสัตว์

&nbsp;

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:
<ul>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/special-report/%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%b5-djsi-%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2.html">ดัชนี DJSI ยกระดับธุรกิจไทยมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-20-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a8%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88.html">การจัดอันดับ 20 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประจำปี 2021</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/300vXh9">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy lazy-loaded alignnone wp-image-42257" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2.png" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา.png" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา.png 439w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปกกุมภา-228x300.png 228w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

โลกอีกใบของ “อมร ทองธิว” ผู้บริหารหนุ่มทายาทรุ่น 3 “วิริยะพันธุ์”

อมร ทองธิว รุ่น 3 “วิริยะพันธุ์”

อมร ทองธิว ทายาทธุรกิจรุ่น 3 แห่งวิริยะประกันภัย ผู้ถูกวางตัวให้เป็นผู้บริหารหลักแห่งธุรกิจประกันภัยอันดับ 1 ของประเทศ ที่ก่อตั้งธุรกิจยาวนาน 73 ปี ภายใต้แนวคิดหลักในการบริหารข้อมูลด้วยเทคโนโลยีและผสานปรัชญาขององค์กร เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสูงสุด

https://youtu.be/yl73EqZGb_s

&nbsp;

<hr />

รับชมบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจ กดติดตามแชลเนลวิดีโอของเราบนยูทูบได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/user/ForbesThai">Forbes Thailand Magazine</a>

“NEW WAVE VIRIYAH อมร ทองธิว รุ่น 3 “วิริยะพันธุ์” (Video)

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 “NEW WAVE VIRIYAH อมร ทองธิว รุ่น 3 “วิริยะพันธุ์” - 3 กุมภาพันธ์ 2490 เป็นวันเริ่มต้นกิจการ วิริยะประกันภัย จากทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ผ่านมา 73 ปี ธุรกิจเติบโตทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาท ขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศก้าวสู่บริษัทประกันภัยอันดับ 1 ทั้งประกันวินาศภัยและประกันภัยรถยนต์ ต่อเนื่องมานานเกือบ 30 ปี ก้าวสู่ปีที่ 74 แม่ทัพวิริยะประกันภัยกำลังส่งไม้ต่อสู่ทายาทรุ่น 3 “อมร ทองธิว” บุตรชายวัย 37 ปี ผู้ถูกวางตัวไว้ให้เป็นผู้บริหารหลักคนต่อไป

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ เปิดขุมพลังแรงมิดไมล์ - เบื้องหลังความสำเร็จบิ๊กไบค์สัญชาติอิตาเลียนที่สามารถสร้างชื่อ Ducati และยอดขายพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็นตัวแทนจำหน่าย Lamborghini อย่างเป็นทางการ พร้อมสตาร์ทธุรกิจรับความท้าทายใหม่ ผงาดแบรนด์ Koenigsegg อวดโฉมไฮเปอร์คาร์สวีเดนในประเทศไทย

ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน IND ผู้ร่วมพัฒนาสาธารณูปโภค - หากเทียบกับชีวิตคนเรา วัย 37 ปีถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังก่อร่างสร้างตัว แต่สำหรับธุรกิจแล้วการเดินทางมาถึงปีที่ 37 แสดงถึงความมั่นคง แข็งแรง ได้รับการยอมรับจากคู่ค้าและผู้ใช้บริการ และคงไม่น่าแปลกใจหากจะมีเรื่องราวใหม่ๆ ให้บันทึกเพิ่มเติมธุรกิจที่ปรึกษาทางวิศวกรรมแห่งนี้

ณัฐพล ส่งพรประเสริฐ ปั้น 3C ด้วยนวัตกรรม-ความเชื่อมั่น - นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้มีความมุ่งมั่นตั้งแต่เด็กว่า โตมาจะต้องเป็นเภสัชกรเนื่องจากครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับยา หลังจบการศึกษาตามเป้าหมายเขาไปหาประสบการณ์ด้วยการเป็นเภสัชกรโรงงานผลิตยา แต่ก็ทำได้เพียง 4 เดือนต้องกลับมากอบกู้ธุรกิจครอบครัวโดยใช้นวัตกรรมสร้างการเติบโตที่แตกต่าง

ชูเกียรติ รุจนพรพจี สร้าง Ecosystem ให้ SABUY - หลังจากทำงานในแวดวงธนาคารมา 20 ปี และประสบความสำเร็จในสายวิชาชีพ ชูเกียรติ รุจนพรพจี จึงโบกมือลามาเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ 5 ปี พร้อมๆ กับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สู่ความท้าทายใหม่เริ่มต้นอีกครั้งเมื่อเพื่อนสนิทชักชวนให้มาดูธุรกิจตู้เติมเงิน ซึ่งต่อมาเขาได้เข้ามาเป็นผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด

ภายในฉบับพบการจัดอันดับ “HEROES OF PHILANTHROPY เศรษฐีใจบญแห่งเอเชียแปซิฟิก”  รายงานพิเศษ “ดัชนี DJSI ยกระดับธุรกิจไทย มาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก" และร่วมอ่านบทความและเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับกุมภาพันธ์ 2564

<img class="alignnone size-full wp-image-40965" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/FB093-EBOOK-RES150-10.jpg" alt="" width="600" height="788" />

<img class="alignnone size-full wp-image-40966" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/FB093-EBOOK-RES150-12.jpg" alt="" width="600" height="788" />

<img class="alignnone size-full wp-image-40967" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/FB093-EBOOK-RES150-13.jpg" alt="" width="600" height="788" />

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

&nbsp;

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 “NEW WAVE VIRIYAH อมร ทองธิว รุ่น 3 “วิริยะพันธุ์”

<h2 class="p3">ข้างมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่เข้าอันดับใหม่รวม 5 คน อาทิ ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ จากอีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป และนายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ ที่โรงพยาบาลในเครือจุฬารัตน์ของเขาให้บริการรักษาคนไข้ในเขตอุตสาหกรรมของประเทศ</h2>
เรื่อง: Naazneen Karmali เรียบเรียง: คมสัน แกมทอง รายงานเพิ่มเติมโดย: Megha Bahree, Caroline Chen, Sean Kilachand, Suzanne Nam, Phisanu Phromchanya and Anuradha Raghunanthan
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/759f59461f9b6df5d80bb2a965f824f4.png" alt="" />


&nbsp;

อันดับ28
ตระกูลวิริยะพันธุ์
3.034 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจ: ประกันภัย

ครอบครัวเบื้องหลังบริษัท วิริยะประกันภัย บริษัทรับประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในไทย และเชี่ยวชาญในการขายประกันภัยรถยนต์ติดอันดับของเราเป็นครั้งแรก เล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ล่วงลับ ก่อตั้งกลุ่มบริษัทธนบุรีพานิช เมื่อปี 2484 เป็นบริษัทการค้าระหว่างประเทศที่ได้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆอาทิ Mercedes-Benz ภายใต้การบริหารงานของพากเพียร ลูกชายคนโตที่เสียชีวิตแล้วกลุ่มบริษัทได้เริ่มประกอบรถบรรทุก ก่อนหันไปจับธุรกิจประกันภัยในปี 2490 โดยรับประกันวินาศภัยและประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเลต่อมาได้ขยายงานครอบคลุมธุรกิจประกันรถยนต์ หลังการเสียชีวิตของเล็กในปี 2543 มีการแบ่งมรดกแก่ลูกๆ ทั้งหกคน

&nbsp;

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f79f2fbb90d1cdece82ba04d4f34f5d2.png" alt="" />

&nbsp;

อันดับ31
ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์
2.552 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจ: พลาสติก
64 ปี

พี่ชายคนโตจากพี่น้องทั้งหมด 10 คนเริ่มช่วยงานธุรกิจยางของครอบครัวตั้งแต่ในวัยหนุ่ม และก่อร่างสร้างอาณาจักรเครือธุรกิจอีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จนเติบโตสร้างรายได้ปีละกว่า 194 ล้านเหรียญ บริษัทเป็นผู้ผลิตยางสังเคราะห์สำหรับอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์และบรรจุภัณฑ์พลาสติกชั้นนำของประเทศราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และหนุนให้เขาติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของประเทศเป็นครั้งแรก

&nbsp;

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/135402d8973663664a810a16f0157693.png" alt="" />


อันดับ39
กำพล พลัสสินทร์
2.016 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจ: โรงพยาบาล
65 ปี/สมรส/บุตร 2 คน

เริ่มต้นจากโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ตั้งขึ้นใจกลางเขตอุตสาหกรรมทางตะวันออกของกรุงเทพฯ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว นายแพทย์กำพลเดินหน้าพัฒนา บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือ 7 แห่งและคลินิก 7 แห่งและได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ราคาหุ้นของโรงพยาบาลทะยานขึ้น 50% ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้เขาติดอันดับมหาเศรษฐีไทยเป็นครั้งแรก รพ.จุฬารัตน์ยังเป็นบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งกลุ่ม Asia’s Best Under A Billion Companies ตามการจัดอันดับของ Forbes กำพลมุ่งหน้าขยายธุรกิจโดยได้เข้าซื้อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมูลค่า3.3 ล้านเหรียญเมื่อไม่นานมานี้

&nbsp;

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/655e005a80bfffa3ddd8f93bbaab395c.png" alt="" />


&nbsp;

อันดับ46
บัญชา องค์โฆษิต
1.767 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจ: อิเล็กทรอนิกส์
64 ปี/สมรส/บุตร 3 คน

อดีตผู้บริหารบริษัทโฆษณาผู้ก่อตั้งบริษัท เคอีซี อีเลคโทรนิคส์ ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นวงจรพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ติดอันดับของเราเป็นครั้งแรกในปีนี้ บริษัทที่เดิมมีชื่อว่าควงเจริญ อีเลคโทรนิคส์ ซึ่งตั้งตามชื่อพ่อของเขา ประสบภาวะวิกฤตในปี 2540 ก่อนจะฟื้นตัวในเวลาต่อมาปัจจุบันบริหารงานโดยพิธาน ลูกชายซึ่งเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ และรับตำแหน่ง CEO ตั้งแต่ปี 2556 เขาได้ขยายกำลังการผลิตจนส่งผลให้บริษัทมีรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้น บัญชารักการแล่นเรือเป็นชีวิตจิตใจและเพิ่งซื้อเรือยอชท์หรูสัญชาติอิตาเลียน Azimut

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/22fb759836267f3a56fd1bdb9aca1936.png" alt="" />

&nbsp;

อันดับ49
จุน วนวิทย์
1.481 หมื่นล้านบาท
ธุรกิจ: พัดลม
79 ปี/สมรส/บุตร 4 คน

&nbsp;

ผู้ก่อตั้งบริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค เริ่มต้นจากร้านซ่อมพัดลม ก่อนจะได้สัญญาผลิตพัดลมให้กับแบรนด์ญี่ปุ่นหลายราย จากนั้นจึงเริ่มทำการผลิตภายใต้ตราสินค้าของตัวเองฮาตาริผลิตชิ้นส่วนร้อยละ 90 เอง โดยทำยอดขายพัดลมสำหรับใช้ในบ้านและอุตสาหกรรมในประเทศปีละ 8 ล้านเครื่อง จุนยังถือหุ้นส่วนน้อยของโฮมโปร ธุรกิจโฮมเซ็นเตอร์รายใหญ่ซึ่งมีอนันต์ อัศวโภคิน (อันดับที่ 26) บริหารกิจการอยู่

&nbsp;

&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/C0BKxV">คลิ๊กอ่าน "50 อันดับมหาเศรษฐีไทย" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ June 2016</a>
<a href="http://goo.gl/C0BKxV"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/45c118021313fc065b87a4f7e8e1b670.png" alt="" width="240" height="318" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events