'เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล' เปิดตัวห้องบอลรูม 'PLAII' ที่ให้บริการจอ LED แบบ 360 องศา เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ถือเป็นการประกาศศักดาพร้อมยกระดับการจัดงานอีเวนต์เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม MICE และการเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ระดับพรีเมียมแห่งภาคเหนือได้เป็นอย่างดี
หลังจากแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ได้ทุ่มงบรีโนเวทแปลงโฉมอดีตโรงแรม “เลอ เมอริเดียน” ในย่านช้างคลานของ จ.เชียงใหม่ ให้กลายมาเป็น เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล (Chiang Mai Marriott Hotel) โรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว ที่ดูไฉไลดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมากกว่าเดิม พร้อมเปิดให้บริการนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา



ล่าสุดทางโรงแรมยังได้ประกาศเปิดตัว “Plaii Hybrid Meetings & Entertainment Complex” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์การจัดงานและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็น Destination ที่ตอบโจทย์ทุกงานอีเวนต์ระดับอลังการของภาคเหนือ ซึ่งภายในพื้นที่ของ “Plaii Hybrid Meetings & Entertainment Complex” ที่เชื่อมต่อกับโรงแรมแห่งนี้ มีขนาดความสูง 3 ชั้น มีห้องประชุมย่อยพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจำนวน 11 ห้อง, ห้องรับรองพิเศษ (Executive Breakout Suites) และพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่าย (Mingle Space)
โดยไฮไลต์เด่นที่สำคัญ ก็คือ การเปิดตัวห้อง "Plaii Ballroom" (พลายบอลรูม) ที่มีจอมอนิเตอร์ LED สุดตระการตาแบบ 360 องศาแห่งแรกในไทย ที่จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วยระบบเสียงสมจริงรอบทิศทางในขนาดรอบห้อง 84 เมตร ความสูง 6.24 เมตร พืี้นที่ห้องปราศจากเสากลางกว่า 400 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ การประชุมระดับโลก งงานเฉลิมฉลองสุดหรู หรือแม้กระทั่งการจัดงานแต่งงานสุดอลังการ ถือเป็นการยกระดับโรงแรมให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้าน MICE (ไมซ์) หรือ การ Meetings จัดประชุม, Incentives การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล, Conventions (การประชุมวิชาชีพ/นานาชาติ) และ Exhibitions หรือการประชุมสัมมนา ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบบูรณาการที่ล้ำสมัยที่สุดในภาคเหนือได้อย่างแท้จริง




ทั้งนี้ การตั้งชื่อ Complex และห้องบอลรูมว่า ‘Plaii’ (พลาย) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสง่างามและความสำคัญทางวัฒนธรรมของ "ช้างพลาย" มงคลของไทย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิ ความแข็งแกร่ง และความสูงส่ง ที่หยั่งรากลึกในมรดกของล้านนา ซึ่งนอกเหนือจากห้องประชุมสัมมนาและห้องบอลรูมที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว
ภายในคอมเพล็กซ์ยังประกอบด้วย The Wang Bar (เดอะ วัง บาร์), ห้องกอล์ฟซิมูเลเตอร์ส่วนตัว (private golf simulator) แห่งแรกของเชียงใหม่, ห้องคาราโอเกะส่วนตัว และ The Plaii Eatery Café & Bar (เดอะพลาย อีทเทอรี คาเฟ่ แอนด์ บาร์) ผสมผสานธุรกิจ ความบันเทิง และการพบปะทางสังคมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

MR. Rajat Chatterjee ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท เผยว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เพราะถือเป็น 1 ใน 5 เมือง MICE ชั้นนำของไทย เราจึงต้องการผลักดันให้เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้าน MICE ของภาคเหนือและเป็นทีี่ขึ้นชื่อในระดับสากล

"เราเน้นออกแบบดีไซน์ทุกอย่างโดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก และใช้ Innovation เทคโนโลยีของจอ LED ที่มีคุณภาพระดับสูงไม่ร้อนง่าย สร้างความโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่งทั่วไป ซึี่งสิ่งเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์การจัดงานสัมมนาและการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ อย่างครบวงจรได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากตัวเลขของยอดจองใช้ห้องพลายบอลรูมในช่วงแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวน 3-4 ครั้ง/เดือน ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนก็มียอดจองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 10-12 ครั้ง กลุ่มลูกค้า MICE หลักๆ มาจากประเทศเกาหลีใต้, ไต้หวัน, จีน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยจำแนกเป็นธุรกิจหลักๆ ได้แก่ บริษัทยา, ธนาคาร, ยานยนต์ และสถานศึกษา เป็นต้น" MR. Rajat กล่าว

ณ ปัจจุบัน หลังการเปิดตัว Plaii Complex อย่างเป็นทางการ จึงทำให้โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท มีห้องประชุมทั้งจากฝั่งโรงแรมและ complex รวมทั้งหมด 22 ห้อง และพื้นที่จัดงานอเนกประสงค์กว่า 2,800 ตารางเมตร ตอกย้ำตำแหน่งของโรงแรมในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการจัดงานขนาดใหญ่และการประชุมแบบไฮบริด และยังได้กระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากทั้งจากตลาดในประเทศและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก จากกลุ่มลูกค้าประเทศ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และกลุ่มประเทศจีน (Greater China) เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่พักของโรงแรม มีให้บริการห้องพักและห้องสวีทร่วมสมัยจำนวน 383 ห้อง นับตั้งแต่ห้องดีลักซ์ (Deluxe) ไปจนถึงห้องรอยัลสวีท (Royal Suite) โดยแต่ละห้องได้รับการออกแบบให้มอบความรู้สึกสงบและสะดวกสบาย พร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาของดอยสุเทพและภูมิทัศน์เมืองเชียงใหม่


สำหรับบริการด้านอาหารของโรงแรมยังมีร้านอาหารและบาร์ที่นำเสนอความหลากหลายทางวัฒนธรรมให้เลือกถึง 7 แห่ง ได้แก่ ห้องอาหารอิตาเลียนที่ได้รับการแนะนำในมิชลิน ไกด์ (MICHELIN Guide) นำเสนอรสชาติแบบอิตาเลียนดั้งเดิมที่รังสรรค์จากวัตถุดิบนำเข้าที่คัดสรรมาอย่างดีและวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่อย่าง Favola (ฟาโวล่า)


ร้านอาหารจีนอย่าง Han The Chinese Cuisine (ฮั่น เดอะไชนีส ควิซีน) ที่นำเสนอสูตรอาหารเก่าแก่และประเพณีการทำอาหารสุดประณีต ต่อเนื่องไปถึง The Ping Cuisine & Bar (เดอะปิง ควิซีน แอนด์ บาร์) ห้องอาหารที่พร้อมให้บริการตลอดทั้งวันโดยมีรากฐานมาจากความอุดมสมบูรณ์ของผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาลของเชียงใหม่



ขณะที่ Wang’s Bar (วังบาร์) จะเป็นเลานจ์สำหรับการสังสรรค์ในบรรยากาศผ่อนคลายสำหรับค็อกเทลและการสนทนา และ Pool House (พูลเฮาส์) สามารถเชิญชวนแขกมาผ่อนคลายริมสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พร้อมเครื่องดื่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพฤกษศาสตร์และอาหารว่างเบาๆ เป็นต้น





สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลอื่นๆ ของการเข้าพักหรือการจัดงานอีเวนต์ สามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Plaii Hybrid Meetings & Entertainment Complex และ โรงแรมเชียงใหม่แมริออท ได้ที่: Chiang Mai Marriott Hotel
ภาพ : โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล’ สัมผัสกลิ่นอายล้านนา ในความหรูหราระดับ 5 ดาว
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


