นนทกร จิตตมานนท์กุล ต่อยอด พี.อี. เทคนิค สร้างแบรนด์อะไหล่รองรับ “EV” - Forbes Thailand

นนทกร จิตตมานนท์กุล ต่อยอด พี.อี. เทคนิค สร้างแบรนด์อะไหล่รองรับ “EV”

นักธุรกิจหนุ่มวัย 29 ปี เป็นทายาทธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์แบรนด์ดังจากจีน สร้างการยอมรับด้วยการพัฒนาระบบและเป็นโซลูชันใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการชิ้นส่วนหรือระบบไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ทั้งรถสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นเทรนด์อะไหล่รถยนต์ที่น่าจับตา


    นนทกร จิตตมานนท์กุล รองกรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.อี. ออโต้เทรด เป็นคนหนุ่มไฟแรงอีกคนของวงการอะไหล่รถยนต์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้า โดยพื้นฐานนั้น พี.อี. ออโต้เทรด จำหน่ายสินค้าในกลุ่มไดชาร์จแบรนด์ดังจากจีนคือ LAUNCH ที่เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมนี แม้นนทกรอายุยังน้อยแต่ทว่ามีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 7 ปีแล้ว “ออกจากรั้วมหาวิทยาลัยก็เดินเข้ามาทำงานที่บริษัทเลย in charge มากว่า 7 ปี

    หลังจบด้านวิศวกรรมอุตสาหการจาก ม. นเรศวร” นนทกรเริ่มต้นบอกเล่าที่มาของเขากับทีมงาน Forbes Thailand เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ใช่เด็กใหม่ แม้อายุเพียง 29 แต่คลุกคลีในธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 7 ปี

    ปัจจุบันนนทกรเป็นผู้ดูแลธุรกิจ พี.อี. ออโต้เทรด ซึ่งเป็นกิจการขนาดกลางสำหรับธุรกิจอะไหล่รถยนต์ มีฐานที่มั่นอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก แต่มีตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วทุกภาค และมีโซลูชันให้ลูกค้าเลือกและเรียนรู้ก่อนใช้งานได้อย่างเปิดกว้าง


เจน 3 ต่อยอดธุรกิจ

    หากนับเจเนอเรชั่นของครอบครัวจิตต-มานนท์กุล นนทกรถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 เนื่องจากคนที่ทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์คนแรกคือคุณปู่ของเขา โดยเริ่มต้นจาก บริษัท พี.อี. เทคนิค จำกัด จากนั้นบิดาเขาสานต่อกิจการและก่อตั้ง พี.อี. ออโต้เทรดขึ้นมา ซึ่งนนทกรได้เข้ามารับช่วงต่อเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    “คุณปู่เป็นคนที่ชอบเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ เปิดโรงงานและพัฒนามาเรื่อยๆ กระทั่งมาเป็น พี.อี. เทคนิค ซึ่งทำมากว่า 30 ปี สินค้าหลักคือ ไดชาร์จและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง” นนทกรบอกว่า เหตุผลที่ปู่ของเขาทำธุรกิจนี้เพราะไม่ค่อยมีใครทำ จึงขยายธุรกิจเพิ่มเรื่อยมาและได้ก่อตั้งกิจการ พี.อี. ออโต้เทรด ขึ้นมาในพื้นที่ติดกัน โดย พี.อี. เทคนิค หรือชื่อเดิม โรงงานลักษ์เอ็นจิเนียริ่ง เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทไดชาร์จ, คัทเอาท์, รีเลย์ ฯลฯ ภายใต้แบรนด์ “REC” และแบรนด์อื่นๆ ในประเทศ


    พี.อี. เทคนิค ก่อตั้งขึ้นใน ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้นำวิวัฒนาการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการผลิต ตลอดจนผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และเรื่องคุณภาพ ทำให้ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพที่ทัดเทียมกับผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศ และในปี 2547 ได้ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 จากสถาบัน TUV Rheinland

    นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ TS16949 ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกทำให้มีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกทั้งด้านคุณภาพและราคา บริษัทมีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเน้นไปที่ตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ต, OES, OEM และกลุ่มลูกค้าประเทศอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา ลาว และยังส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

    สินค้าที่ผลิตและจำหน่าย เช่น alternator, regulator, rectifier, flasher relay และอื่นๆ เช่น battery tester, regulator tester, เกจวัดน้ำมัน, เกจวัดความร้อน, หลอดไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งเป็นกิจการที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทางอุปกรณ์ไฟฟ้ารถยนต์


เปิดอบรมช่างขยายฐาน

    นอกจากกลุ่มลูกค้าผู้ซื้อสินค้าเหล่านี้แล้ว นนทกรบอกว่า เขายังจัดสอนให้กับกลุ่มช่างที่ไม่ได้ซื้ออะไหล่ของ พี.อี. ออโต้เทรด โดยจัดคอร์สสอนฟรีโดยไม่ต้องซื้อของ สามารถสมัครมาอบรมได้เลย

    เหตุผลที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการอัปเกรดช่างให้ตระหนักถึงปัญหาและรู้เท่าทันเทคโนโลยี “ผมสืบทอดสิ่งเหล่านี้มาจากคุณพ่อ ติดตามท่านบ่อยเห็นปัญหาและพบว่าลูกค้ารุ่นคุณพ่อเตรียมปิดกิจการ เราอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนไปต่อได้เพียงแค่ปรับตัว”

    นนทกรเสนอสินค้าและสอนช่างให้มีความรู้และติดตามเทคโนโลยีใหม่ทัน ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับไดชาร์จ ระบบไฟ เพราะมองว่าแค่ขายอย่างเดียวไม่พอ จำเป็นต้องพัฒนาและเรียนรู้ควบคู่กันไป

    “ตอนนี้เราพยายามแชร์เรื่อง EV จะเป็น solution สำหรับคนที่สนใจเพื่อให้รู้แนวทางว่าจะซ่อมอย่างไร เราตั้งใจจะเป็นศูนย์ในการซ่อม EV อะไหล่เรามาจาก Shenzhen ก็จริง แต่สำนักงานใหญ่อยู่ที่เยอรมนี”

    นนทกรอธิบายแผนงานและเป้าหมายในอนาคตของเขา เพราะเชื่อว่าอะไหล่ของ LAUNCH PE สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ ยิ่งเมื่อคนใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เกิดการสึกหรอตามระยะเวลา พี.อี. ออโต้เทรด จะพร้อมให้บริการทั้งอะไหล่และความรู้ในการซ่อมบำรุง

    “รถ EV ใช้ไปนานๆ แบตเสื่อมจะเช็กแบตเตอรี่อย่างไร การรื้อเปลี่ยนแบตค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะรถแบรนด์จีน แต่เราได้สิทธิบัตรเทคโนโลยีจีนมั่นใจว่าทำได้” และไม่เพียง พี.อี. ออโต้เทรด เท่านั้น เขาพยายามจัดอบรมทุกๆ 2 เดือน เพื่อให้ช่างรู้เท่าทันเทคโนโลยี โดยอธิบายว่า งานส่วนใหญ่เป็นการให้บริการถึง 70% ส่วนตัวสินค้าที่จำหน่ายมีเพียง 30% เท่านั้น


สถานีต่อไปซ่อม EV

    นนทกรเล่าว่า เขาเข้ามาอินชาร์จงานได้ 7 ปี ทิศทางธุรกิจปรับเปลี่ยนชัดเจนมีการเปลี่ยนผู้บริหาร เดิมมีคนจีนดูแลในนาม LAUNCH Tech Thailand ปัจจุบันเป็นทีมไทยดูแลทั่วโลก จึงเป็นที่มาของการทำแบรนด์ LAUNCH PE ซึ่งจดทะเบียนการค้าเมื่อปี 2565 แต่จริงๆ ทำงานมาแล้ว 7 ปี เป็นคนเบื้องหลังในองค์กร ปัจจุบันผลักดันมาอยู่ด้านหน้า

    LAUNCH PE เป็นโปรดักต์ที่ควบคุมได้ นนทกรเผยว่า รับมาแล้วก็ดูว่าทำตลาดได้และวาง core value ของแบรนด์ไว้ว่า “ความรู้คู่สินค้า” ทำความรู้เรียนรู้ก่อนค่อยพ่วงโปรดักต์ คือทำความรู้จักให้ถ่องแท้สำหรับสินค้า บริการ เรียนรู้อย่างจริงจังก่อนค่อยเอามาทำตลาด



    “เบื้องต้นเรามีตลาดเก่าในแบรนด์ของ พี.อี. เทคนิค คือ REC เป็นแบรนด์ของเราเองตอบโจทย์สินค้าและบริการมากขึ้น กำลังดูสินค้าใหม่ๆ ที่สอดคล้อง และเปลี่ยน motto จากคงที่และคงทนเป็น Quality and Innovation” เปลี่ยนทิศทางและแนะนำสินค้าการตรวจสอบเช็กได้ถูกต้อง แก้ตรงจุด ให้แนวทางถูกต้อง ทำอย่างไรเพื่อความยั่งยืน ประหยัดต้นทุน แก้ปัญหาตรงจุด

    นนทกรมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะให้บริการรถ EV ได้มากขึ้น และเป็นออโต้โซลูชันให้คนซื้อของอย่างมั่นใจ “เบื้องต้นเราขายอะไหล่ไม่ทำศูนย์รถมาก่อน ทีมงานช่างเทคนิค ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า แต่ซ่อมบำรุงได้ รถ EV maintenance ต่ำ เช็กไม่กี่อย่าง เรื่องเซอร์วิสเราทำได้ แนะนำลูกค้ากลุ่มช่างได้” เขาเผยและว่า ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มเจ้าของรถมาซื้อสินค้าจากบริษัทไปใช้เองด้วย เพิ่มเติมจากปกติขายให้ช่างเป็นหลัก

    “ตอนนี้เราขยายเรื่อยๆ โปรโมททุกช่องทางโซเชียลมีเดีย มีเครือข่าย 2,000 อู่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ภาคกลาง โชว์รูมหลักอยู่ที่พิษณุโลก มีแผนขยายสาขาในกรุงเทพฯ ด้วย” ขณะเดียวกันก็มีโคพาร์ตเนอร์ตัวแทนจำหน่ายย่อย 3 รายที่จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี และนนทบุรี ในปัจจุบัน และอีก 5 ปีคาดว่าจะมีสาขาและตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น

    “มีลูกค้าจากลาวตีรถมาพิษณุโลกเพื่อซื้ออะไหล่กับเรา เพราะที่ลาวรถ EV วิ่งเกลื่อนแต่ไม่มีศูนย์ซ่อม จึงตรงมาหาเราและขอให้เราไปสอนก็มี” นนทกรย้ำและว่า สินค้าและบริการของบริษัทเป็นเทคโนโลยีที่ต้องเรียนรู้ มีความเฉพาะกลุ่ม แต่ก็มีแนวโน้มตามความต้องการใช้งาน ซึ่งยอดขายและผลประกอบการไม่ได้เติบโตหวือหวา

    นนทกรบอกว่า ธุรกิจอะไหล่รถยนต์ของเขาเป็นกิจการระดับกลาง ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็กมาก แม้ยอดขายจะไม่สูงแต่ก็เติบโตต่อเนื่อง ด้วยความเป็นองค์กรระดับกลางเขามองเรื่องการเรียนรู้ และพยายามมองหาแนวทางส่งเสริมจากรัฐบาลที่จะช่วยให้ SME อย่างพวกเขามีความแข็งแรงมากขึ้น


​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ดิษทัต ปันยารชุน ซีอีโอลูกหม้อ ปตท. เสริมแกร่งบริหารต้นทุน “OR”

​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine