<h2>Kantar เผย Functional Drink หรือผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ความงาม และสุขภาพจิตที่ดี มีการเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าเศรษฐกิจของประเทศแล้ว</h2>
แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะ Work from Home กันมากขึ้นและออกไปข้างนอกน้อยลงจากข้อจำกัดด้านการระบาดของไวรัสและการล็อกดาวน์ แต่ข้อมูลการจับจ่ายของ Kantar, Worldpanel Division ในช่วงเดือนมิถุนายน 2021 แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 78 ของการบริโภค Functional Drink ยังคงที่เกิดขึ้นนอกบ้าน (Out-of-Home Consumption) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020

โดยสาเหตุหลักของการเติบโตหลักในตลาด Functional Drink คือมีผู้ซื้อที่เพิ่มขึ้นและความถี่ในการซื้อที่สูงขึ้น มากกว่าร้อยละ 75 ของประชากร ในเขตเมืองของประเทศไทย ที่มีอายุระหว่าง 15-49 ปี ซื้อ Functional Drink เพื่อการบริโภคนอกบ้านอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ในขณะที่ความถี่ในการซื้อเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 15 ครั้งต่อปี

<img class="alignnone size-full wp-image-57179" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/kantar_0101.jpg" alt="" width="450" height="183" />

Vitamin Drink คือผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง

หากเราดูข้อมูลให้ละเอียดยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์หลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ Functional Drink คือ “เครื่องดื่มวิตามิน” เช่นแบรนด์อย่าง C-Vitt และ Woody C+ Lock ผลิตภัณฑ์ Vitamin Drink ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่ายอดขายมากกว่า 36% ในตลาด Functional Drink แต่กว่าครึ่งของประชากรในเขตเมืองซื้อสินค้านี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อการบริโภคนอกบ้านแม้ในช่วงที่มีการระบาด

ในขณะเดียวกัน “Flavoured Water” รวมถึงแบรนด์ต่างๆ เช่น Yanhee และ Vitaday เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาดเครื่องดื่มในขณะนี้ โดยเติบโตมากกว่า 140 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2019 ส่งผลให้ Flavoured Water กลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

<img class="alignnone size-full wp-image-57180" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/kantar_0102.jpg" alt="" width="450" height="213" />

Older Buyers คือผู้ซื้อรายใหญ่

ทุกวันนี้ผู้บริโภคเป็นปัจจัยพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสาเหตุที่แบรนด์ต่างๆ ตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้บริโภคจาก Young Generations เช่น วัยรุ่นหรือนักเรียนให้มากขึ้น จากข้อมูลการจับจ่ายของ Kantar, Worldpanel Division เผยให้เห็นว่านักศึกษามหาวิทยาลัยและ First Jobbers อายุระหว่าง 20-24 ปี เป็นกลุ่มที่มี Penetration ในตลาด Functional Drink สูงสุด โดยมีส่วนร่วมในสินค้าชนิดนี้มากกว่ากลุ่มผู้ซื้ออื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมี Penetration สูง แต่กลุ่ม Older Buyes ที่มีอายุช่วง 30-49 ปี กลับเป็นผู้จับจ่ายหลักในตลาด เนื่องจากยิ่งผู้บริโภคมีอายุมากเท่าไร พวกเขาจะยิ่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงมองหาประโยชน์เพิ่มเติมจากเครื่องดื่ม ผู้ซื้อที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของการจับจ่ายในหมวดหมู่นี้

<img class="alignnone size-full wp-image-57181" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/kantar_0103.jpg" alt="" width="459" height="548" />

Functional Drink ยังเป็นตลาดที่เติบโตได้อีก

Kantar วิเคราะห์ว่าหมวดหมู่นี้ยังอยู่ในช่วง Discovery Stage ผู้บริโภคซื้อ 1 - 3 ครั้ง ทุกๆ 6 เดือน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอยู่ในระยะทดลองบริโภค เมื่อเทียบกับความถี่ในการซื้อในหมวดหมู่อื่นที่พัฒนาแล้ว เช่น น้ำอัดลมและน้ำดื่ม สิ่งนี้บ่งชี้ว่ายังมีช่องว่างและโอกาสการบริโภคสำหรับตลาด Functional Drink

หากผู้บริโภคซื้อมากขึ้น สิ่งนี้จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสำหรับแบรนด์ Functional Drink และตลาดโดยรวม เรายังพบว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Flavoured Water นั้นไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดเท่านั้น แต่ยังเพิ่ม Penetration ให้กับแบรนด์อีกด้วย หากเราเปรียบเทียบ Flavoured Water กับ Vitamin Drink ซึ่งเป็น Developed Segment เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ Flavoured Water ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มีแนวโน้มที่จะดำเนินการอย่างไรในช่วงถัดไป โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

โดยสรุป Functional Drink เป็นหมวดหมู่ที่มีศักยภาพโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตสูง ผู้บริโภคยังคงอยู่ใน Discovery Stage ซึ่งหมายความว่า แบรนด์ต่างๆ ยังมีโอกาสเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้าง "กระแสความนิยม" ในตลาดได้ แบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างการจับจ่ายได้จริง จะเป็นผู้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย และการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขเส้นทางสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/hr/seac-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9B%E0%B8%B5-65-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89.html">SEAC กรุยแผนธุรกิจปี 65 กับเป้าหมายอัพสกิลคนไทย 1 ล้านคนใน 3 ปี</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Kantar เผย Functional Drink ยังมาแรง

Kantar (คันทาร์) บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก เปิดข้อมูลตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทย พบข้อมูลที่น่าสนใจ เพียงแค่ธันวาคม 2020 เดือนเดียวที่ผ่านมา 1 ใน 7 ของผู้บริโภค ซื้อเครื่องดื่ม Water Plus หรือน้ำดื่มผสมวิตามิน ถือเป็นผู้บริโภคจำนวน 2.9 ล้านคน (สำรวจในผู้บริโภคไทยเขตเมือง ช่วงอายุ 15 - 49 ปี)

เครื่องดื่ม Water Plus เริ่มเข้าตลาดตั้งแต่ช่วงธันวาคม 2018 ด้วยการรับรู้และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น้อยมาก ทว่าตลาดเครื่องดื่มกลุ่มนี้โตขึ้นถือว่าเป็นปรากฏการณ์และแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยเปิดกว้างสำหรับสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน นอกจากการตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของการดื่มน้ำที่เพื่อความชุ่มชื้น แต่ยังเพิ่มมูลค่าด้าน “Immune Boosting” การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

อันดับแบรนด์ Water Plus ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุดใน 2020 

คำถามคือ ใครคือผู้ชนะและใครมีช่องว่างให้เติบโตในตลาดนี้? เพื่อวัดความสำเร็จจากรอยเท้าของแบรนด์หรือ Brand Footprint ทำได้จากมาตรวัด CRPs หรือ Consumer Reach Points เอกสิทธิ์เฉพาะจาก Kantar เพื่อบ่งชี้จำนวนธุรกรรมที่ผู้บริโภคได้ทำการซื้อสินค้า และจำนวนครั้งที่แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคเหล่านั้น สะท้อนให้เห็นภาพของการแข่งขันในตลาดและโอกาสที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น

อันดับ 1 Vitaday - อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 22.6 ล้านครั้ง
อันดับ 2 Yanhee Vitamin Water - อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 22.3 ล้านครั้ง
อันดับ 3 B’lue - อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 8.4 ล้านครั้ง
อันดับ 4 PH Plus - อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 5.5 ล้านครั้ง
อันดับ 5 Goodmood - อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 1 ล้านครั้ง

แบรนด์เจ้าตลาด Water Plus อย่าง Vitaday เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2020 หลังจากผ่านไป 8 เดือนครองตำแหน่ง อันดับ 1 ด้วยอัตราการเข้าถึงผู้บริโภคสูงถึง 22.6 ล้านครั้ง สิ่งนี้บ่งชี้ให้เห็นความต้องการของผู้บริโภคในตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้ หลายแบรนด์ได้เริ่มทยอยเปิดตัวตามมาในช่วง 3 - 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภคเกิดความต้องการที่จะทดลองบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้

PH Plus ซึ่งเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2020 มีอัตราการเข้าถึงผู้บริโภคถึง 5.5 ล้านครั้ง ใน 6 เดือน ขณะที่ D.R. Drink - Aquavitz และ Purra Vitamin Water ที่ได้เปิดตัวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 และในเวลาเพียง 3 เดือนก็สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้

นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้บริโภคสนใจผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพียงเท่านั้น แต่ Yanhee Vitamin Water และ B’lue ก็ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกในตลาดนี้ ครองตำแหน่งอันดับ 2 และอันดับ 3 แต่ละแบรนด์มีอัตราการเข้าถึงผู้บริโภคสูงขึ้น 68% และ 87% ตามลำดับจากปีที่แล้ว

<img class="alignnone size-full wp-image-41617" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/Kantar_003.jpg" alt="" width="600" height="367" />

เข้าใจผู้บริโภคแล้ว สำคัญคือเข้าใจว่าใครคือคู่แข่ง

หากเราพิจารณาตลาดเครื่องดื่มที่กว้างขึ้นและตำแหน่งการแข่งขันที่ Water Plus เข้ามาเติมเต็ม จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้บริโภคของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เป็นกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว ผู้บริโภค Water plus มีแนวโน้มที่จะซื้อ Functional Drink เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม และน้ำแร่ เพิ่มขึ้น 1.1 เท่า ซึ่งหมายความว่าเป็นตลาดเครื่องดื่มที่ Water Plus กำลังแข่งขันอยู่ด้วย ความเกี่ยวข้องทางด้านความต้องการของผู้บริโภคนั้นก็อาจสร้างความเสี่ยงในการแข่งขันกับแบรนด์ในตลาด RTD Juice และ RTD Tea ได้ด้วยเช่นกัน

ในขณะที่การให้ความสำคัญด้าน “Proactive Health” ยังคงดำเนินต่อไป คำถามที่สำคัญสำหรับนักการตลาดในการเอาชนะตลาดนี้คือใครคือผู้บริโภคหลักของ Water Plus ที่เราควรกำหนดเป้าหมาย? ส่วนประสมผลิตภัณฑ์ใดที่จะดึงดูดผู้บริโภค? เราจะเข้าถึงพวกเขาเหล่านั้นได้ที่ไหน?

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%99.html">เงินติดล้อโชว์ศักยภาพนับถอยหลังเข้าตลาดฯ</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events