<h2>Cloud 11 โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เผยรายละเอียด Creator Village พื้นที่สร้างสรรค์ระดับเกรด A+ ออกแบบเพื่อรองรับวงการ Creative โดยเฉพาะครั้งแรก บนทำเล ‘สุขุมวิทใต้’ ชูสตูดิโอโปรดักชั่นแห่งอนาคต ระบบแอร์แบบ 24/7 และสวนลอยฟ้าใหญ่ที่สุดในไทยโอบรับทุกความคิดสร้างสรรค์ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางที่ตั้งบริษัทในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์ระดับภูมิภาค</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;องศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 กล่าวว่า “Cloud 11 มุ่งมั่นที่จะเป็นฮับชั้นนำของนักสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นศูนย์รวมระบบนิเวศของนักสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) ที่ครบถ้วนและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของครีเอเตอร์ได้รอบด้านมากที่สุด ด้วยแนวคิด Creator-Centric มุ่งเน้นให้ครีเอเตอร์เป็นศูนย์กลาง”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Cloud 11 ได้เข้าไปทำการศึกษาและค้นหาความต้องการของครีเอเตอร์ รวมถึงกลุ่มคนที่ทำงานในวงการสร้างสรรค์โดยเฉพาะ ทำให้เข้าใจว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มองหาเพียงพื้นที่ทำงาน แต่ต้องการพื้นที่ที่มีบรรยากาศกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ มีโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการพบปะเชื่อมโยงไปจนถึงสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันนำมาสู่การออกแบบและพัฒนา Creator Village​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/ywMaM8tbi4hxRcv1UUG6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ywMaM8tbi4hxRcv1UUG6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1024,725" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Creator Village เป็นพื้นที่สร้างสรรค์เกรด A+ ของ Cloud 11 ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตของนักสร้างสรรค์ สามารถรองรับการสร้างระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง ประกอบด้วยพื้นที่โซนทาวเวอร์ 4 อาคาร พื้นที่รวมกว่า 65,000 ตารางเมตร มีการออกแบบและสร้างสรรค์พื้นที่โดยใช้แนวคิด 4E ดังนี้ 1. Emerging District ทำเลเมืองแห่งอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พื้นที่สุขุมวิทใต้ นอกจากจะเป็น New CBD ของกรุงเทพฯ แล้ว ยังเป็นพื้นที่ศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและความบันเทิง สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐในการสร้างย่านสร้างสรรค์และย่านนวัตกรรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการ Cloud 11 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS อุดมสุข และปุณณวิถี ซึ่งในอนาคตจะสามารถเดินเชื่อมต่อมายังโครงการได้ด้วย Skywalk ทั้งยังอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและทางด่วน สามารถเดินทางมายังโครงการ หรือออกจากโครงการไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและ BTS อย่างสะดวกรวดเร็ว​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/6NgVuqaimQgLHiMYUYqT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="6NgVuqaimQgLHiMYUYqT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1320,680" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div>​2. Empowering Facilities ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อวงการสร้างสรรค์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ครบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและส่งเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สตูดิโอ 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือโซนห้องสตูดิโอขนาดเล็ก พร้อมอุปกรณ์รองรับการถ่ายภาพวิดีโอ ไลฟ์สตรีมคุณภาพสูง ห้องอัดเสียง ทำพอดแคสต์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกรูปแบบคือโซนสตูดิโอถ่ายทำขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Advanced Production Studio) อาทิ ระบบชุดจับการเคลื่อนไหว (Motion Capture Studio) ระบบสแกน 3 มิติ (Volumetric Capture Studio) และระบบถ่ายทำแบบเสมือนจริง (Virtual Production Studio) เพื่อรองรับงานคอนเทนต์ในอนาคตที่จะมีความซับซ้อนมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ อาคารยังมีระบบแอร์ที่ยืดหยุ่นเปิดใช้งานได้ 24 ชั่วโมง การออกแบบลิฟต์ส่วนตัวและทางเดินแยกสำหรับศิลปิน ตลอดจนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดย Cloud 11 เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์กลุ่มแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรอง WiredScore ในระดับ Platinum เพื่อก้าวสู่การเป็น Smart Building เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/LvWuBc48YsZrjXAx3sQk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LvWuBc48YsZrjXAx3sQk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="2548,1395" style="width: 720px; height: auto;" data-index="2"></figure></div> 3. Embracing Creativities ส่งเสริมและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รองรับการสร้างระบบนิเวศของนักสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับครีเอเตอร์ซึ่งครอบคลุม 4 วงการหลัก ได้แก่ วงการเกม วงการเพลง วงการหนัง และวงการศิลปะ รวมถึงผู้ที่อยู่ในธุรกิจสร้างสรรค์ในทุกๆ ด้าน ผ่านโซน Academy ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมของสถาบันพัฒนานักสร้างสรรค์ที่จะมีจัดคลาสเสริมทักษะ กิจกรรมเวิร์คช็อป และหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งสนับสนุนการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และการต่อยอดทางธุรกิจของครีเอเตอร์ ด้วยพื้นที่ศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์ใหม่กว่า 71,000 ตารางเมตร เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ที่อยากทำธุรกิจสามารถมีหน้าร้านในการขายสินค้าของตัวเอง และผสานเข้ากับการเกิดขึ้นของเทรนด์ Social Commerce​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/GWqtCjY5TWPCb4jyCbCT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GWqtCjY5TWPCb4jyCbCT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="2549,1391" style="width: 720px; height: auto;" data-index="3"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมีโซน Cloud 11 Hall ซึ่งเป็นฮอลล์ทันสมัยสำหรับการจัดงานคอนเสิร์ต การแข่งขันอีสปอร์ต และโรงละคร Blackbox Theatre เพื่อให้ครีเอเตอร์ได้จัดแสดงผลงาน รวมถึงค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ 4. Exceptional Well-Being Design การออกแบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การออกแบบตามแนวคิด For All Well-being ของ MQDC ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกสรรพสิ่งทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน จึงให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดหรือการออกแบบ Creator Village ให้ทุกชั้นเปิดรับวิวสวนลอยฟ้าบริเวณใจกลางโครงการ และการออกแบบอาคารในรูปแบบแนวราบ (Horizontal Campus) ช่วยเพิ่มโอกาสในการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อาคารยังมีพื้นที่ต่อชั้นขนาดใหญ่ (Large Floor Plate) กว้างถึง 4,500 ตร.ม. ทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงรอบด้าน ประหยัดพลังงาน และยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Creator Village ตั้งเป้ามาตรฐานด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม LEED ระดับ Gold และ ด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคาร WELL ระดับ Gold จากมาตรฐานการออกแบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งเรื่องอากาศ วัสดุ น้ำ การกำจัดขยะของเสีย และการใช้พลังงาน อาทิ แนวทางลดขยะให้เป็นศูนย์ ระบบบำบัดน้ำเสียคุณภาพสูง ระบบอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง เครือข่ายน้ำเย็นที่จะช่วยกระจายความเย็นไปทั่วโครงการ ทั้งยังมีการใช้ระบบกรองอากาศด้วย Filter ชนิด Merv 14 ซึ่งได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล เป็นต้น​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/qK9gGBk8Jk4wZv3XGFjB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,402px" data-align="center" data-file-name="qK9gGBk8Jk4wZv3XGFjB.jpg" data-file-size="0" origin-size="2547,1422" data-origin="1050px,586px" style="width: 720px; height: 402px; transform: rotate(0deg);" data-index="4"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันโครงการ Cloud 11 ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% โดยบริษัทไทย-โอบายาชิ (Thai Obayashi Corporation) และจะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปี 2568 ครบทุกส่วน ทั้ง Creator Village, โซนศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์ใหม่, โรงแรม YOTEL, โซน Academy, โซน Cloud 11 Hall, Cloud 11 Park และโรงแรม Sangsan Bangkok เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของฮับชั้นนำของนักสร้างสรรค์ในเอเชีย ร่วมสนับสนุนการเกิดขึ้นของ Creator Economy และส่งเสริมศักยภาพครีเอเตอร์ในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยไปสู่ระดับแนวหน้าของโลก ภาพ: Cloud 11 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/csr-sustainability/news/finance-and-investment/uob-approved-bangchak-6500-million-baht-for-saf-project" alt="UOB อนุมัติสินเชื่อ 6,500 ล้านบาท หนุนบางจากสร้างหน่วยผลิต SAF โครงการแรกของไทย">UOB อนุมัติสินเชื่อ 6,500 ล้านบาท หนุนบางจากสร้างหน่วยผลิต SAF โครงการแรกของไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Cloud 11 เผยโฉม Creator Village พื้นที่เกรด A+ เพื่อคนทำงาน Creative ตั้งเป้าฮับของนักสร้างสรรค์ใหญ่สุดในเอเชีย

<h2>Cloud 11 โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงการจากธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าเปิดครีเอเตอร์ฮับใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดในปี 2568&nbsp;</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า “ทาง MQDC ในโครงการ Cloud 11 ขอขอบคุณธนาคารกรุงเทพที่ให้การพิจารณา ในการสนับสนุนสินเชื่อระยะยาวให้กับโครงการในครั้งนี้ให้แล้วเสร็จ โดยโครงการจะเป็นเป็นฮับของธุรกิจคอนเทนท์และผู้ประกอบการในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยุคใหม่ (New Creative Economy) และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงและมีส่วนร่วมในศิลปะและงานสร้างสรรค์”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บริษัทได้ดึงพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศร่วมพัฒนาระบบนิเวศสำหรับนักสร้างสรรค์ (Creative Ecosystem) ทั้งในด้านส่วนของพื้นที่สตูดิโอระดับโลก พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล ฮอลล์จัดแสดงสำหรับงานคอนเสิร์ตและอีสปอร์ต รวมถึงโรงเรียนเพื่อพัฒนาทักษะสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันให้ Cloud 11 เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับวงการสร้างสรรค์แห่งใหม่ระดับภูมิภาคที่ครบถ้วนสมบูรณ์” <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/ParA9NK4UnGECBimQJyr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ParA9NK4UnGECBimQJyr.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" origin-size="4630,3084" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"><figcaption><div>สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับรายละเอียดของโครงการ Cloud 11 นั้น เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ตั้งอยู่บนที่ดิน 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS ปุณณวิถี - อุดมสุข มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 254,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยสตูดิโอออกแบบระดับโลก Snohetta สัญชาตินอร์เวย์ และบริษัทสถาปนิกชั้นนำของไทย A49 ประกอบด้วยพื้นที่ ที่ครอบคลุมกับความต้องการของธุรกิจและลูกค้าที่ชื่นชอบความสร้างสรรค์โดยแบ่งตามประโยชน์การใช้สอย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เริ่มจาก Creator Village สำนักงานระดับเกรด A+ สำหรับธุรกิจและนักสร้างสรรค์ เพียบพร้อมด้วยพื้นที่สตูดิโอส่วนกลาง โซน Creative Retail หรือ ศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์ใหม่ กว่า 71,000 ตารางเมตร พร้อมร้านค้ามากกว่า 250 ร้าน มีแนวคิดสนับสนุนร้านค้าของครีเอเตอร์และเป็นเวทีจัดแสดงงานสร้างสรรค์ โดยมีผู้เช่าน่าสนใจอย่าง theCOMMONS Cloud 11 (เดอะคอมมอนส์ คลาวด์ อีเลฟเว่น) และแบรนด์ใหม่จากต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในวงการสร้างสรรค์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Academy ศูนย์การเรียนรู้มุ่งเน้นพัฒนาทักษะและบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ ซึ่งจะประกอบด้วยโรงเรียนและสถาบันจากทั้งในไทยและต่างประเทศ อาทิ โรงเรียนสอนศิลปะการแสดง (Performing Arts School) และโรงเรียนสอนเขียนบท (Scriptwriting Academy) <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/UkXeNYBEMtKuquHkyVVN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UkXeNYBEMtKuquHkyVVN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" origin-size="5000,4102" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Cloud 11 Hall ฮอลล์จัดแสดงรองรับงานอีเวนท์ระดับเวิร์ลคลาส สนับสนุนงานคอนเสิร์ตและการแสดงของศิลปินรุ่นใหม่ (Emerging Artists) และรองรับการแข่งขันอีสปอร์ต​&nbsp; &nbsp; โซน Cloud 11 Park พื้นที่สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร เปิดเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ให้กับชุมชนในย่านเซาท์สุขุมวิท (South Sukhumvit) และเป็นพื้นที่เวทีรองรับการแสดงและงานศิลปะของคนรุ่นใหม่  และยังประกอบด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว Sangsan Bangkok, a Tribute Portfolio Hotel (สร้างสรรค์ แบงค็อก) โรงแรมรูปแบบไลฟ์สไตล์ระดับ 5 ดาว ในเครือ Marriott International รองรับนักธุรกิจ ศิลปิน และนักท่องเที่ยวที่สนใจวงการสร้างสรรค์ จำนวน 252 ห้อง โดยจะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ Tribute Portfolio เป็นแห่งแรกในประเทศไทยของเครือ Marriott International และโรงแรมแห่งอนาคต YOTEL Bangkok (โยเทล แบงค็อก) โรงแรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่ รองรับการเดินทางของนักสร้างสรรค์และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาในประเทศไทย จำนวน 250 ห้อง โดยจะเป็นการเปิดตัวแห่งแรกในประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการ Cloud 11 เป็นหนึ่งในโครงการหลักในแผนการพัฒนา Innovation Clusters ในย่านเซาท์สุขุมวิท (South Sukhumvit) ซึ่งเป็นย่านตลอดแนวถนนสุขุมวิทครอบคลุมพื้นที่อ่อนนุช - ปุณณวิถี - อุดมสุข - บางนา ปัจจุบันโครงการ Cloud 11 ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% โดย บริษัทไทย-โอบายาชิ (Thai Obayashi Corporation) และจะเปิดให้บริการในปี 2568 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/rs-group-invested-in-gift-and-formed-rsxyz" alt="RS Group ประกาศควบรวม GIFT กางปีกรับธุรกิจ Consumer Lifestyle ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ทะลุ 7,000 ล้านบาท">RS Group ประกาศควบรวม GIFT กางปีกรับธุรกิจ Consumer Lifestyle ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ทะลุ 7,000 ล้านบาท</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

BBL อนุมัติสินเชื่อพัฒนา Cloud 11 พร้อมลุยต่อเตรียมเปิดปี 68 ตั้งเป้าครีเอเตอร์ฮับใหญ่สุดในเอเชีย

<h2>บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) องค์กรชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยภาพคอนโดแนวคิดใหม่กับซีรีส์ใหม่ล่าสุด “Whizdom Craftz” ภายใต้แบรนด์ Whizdom ประเดิมโครงการ แรกบนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองบนถนนพระราม 4 ใกล้ MRT สามย่านกับ Whizdom Craftz Samyan (วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน) ด้วยอาคาร 55 ชั้นภายใต้แนวคิด “Craftz Your Future”&nbsp;</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กับการออกแบบที่ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของนิวเจนที่พิถีพิถันกับการเลือกฟังก์ชันและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ได้จริง บนพื้นที่ 2-1-90.5 ไร่ พร้อมจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,316 ตร.ม. และการสร้างพื้นที่สีเขียวกลางเมือง (Green Spot) เพื่อการยกระดับการอยู่อาศัยที่สมดุลเปี่ยมด้วย Well-Being&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งยังตอบโจทย์ชีวิตแบบสมาร์ตด้วย Innovation ล้ำสมัยตามวิชั่นการพัฒนาโครงการของ MQDC คอนโด Whizdom Craftz Samyan เป็นโครงการที่อัดแน่นด้วยศักยภาพในการเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์สุดคราฟท์ของคนรุ่นใหม่ใจกลางเมือง พร้อมเชื่อมต่อทั้งทุกไลฟ์สไตล์ที่ครบครันแห่งการใช้ชีวิต ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ทำให้ล่าสุด Whizdom Craftz Samyan ทุบสถิติกวาดยอดลงทะเบียน Pre-Sale เกินเป้า ถือเป็นโครงการแบรนด์ Whizdom ที่มาแรงและน่าจับตาที่สุดตอนนี้ ล่าสุดประกาศเตรียมเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างและเปิดจองพรีเซลล์พร้อมกันครั้งแรก 7-8 ตุลาคม นี้ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/coch2mdtBfnZ9zL8tZfe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="coch2mdtBfnZ9zL8tZfe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1600,1205"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71351" alt="เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งยนตกรรมพลังงานไฟฟ้าบุกตลาด 2 รุ่น พร้อมพลิกโฉมธุรกิจผ่านโมเดล “Retail of the Future” ในปี 2024">เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งยนตกรรมพลังงานไฟฟ้าบุกตลาด 2 รุ่น พร้อมพลิกโฉมธุรกิจผ่านโมเดล “Retail of the Future” ในปี 2024</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;

MQDC เผยโฉม “Whizdom Craftz Samyan” รุกตลาดนิวเจนใจกลางสามย่าน 

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC&nbsp;หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ผู้พัฒนาโครงการ "ดิ แอสเพน ทรี" ที่อยู่อาศัยสำหรับคนวัย 50+ ที่มาพร้อมแนวคิดการดูแลตลอดชีวิตหรือ Lifetime Care ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 398 ไร่ของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนถนนบางนาตราด ก.ม.7 โครงการเมืองที่มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี และมีความสุข เดินหน้าทุกมิติ พร้อมๆ กับการตอกย้ำความมั่นใจในการส่งมอบที่อยู่และบริการ ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตในวัย 50+ ได้อย่างมีความสุข ตามไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองต้องการ โดยปราศจากความกังวล <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/atWQHBscQKJMyxcccYBf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="atWQHBscQKJMyxcccYBf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1639,1092"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการโครงการ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวว่า “การพัฒนาโครงการ The Aspen Tree ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวคิดใหม่ เพื่อคนวัย 50+ มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย มีความสุขตามไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองต้องการ โดยปราศจากความกังวลในเรื่องต่างๆ นั่นคือที่มาของการมอบบริการและการดูแลที่ครบวงจร ภายใต้แนวคิดดูแลตลอดชีวิตหรือ Lifetime Care ซึ่งโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ได้จับมือเป็นพันธมิตร ทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงวัยระดับโลก เป็น Global Expert อย่างแท้จริง ซึ่งเรามั่นใจว่า Baycrest คือ One of the global leader ทางด้านนี้ และที่สำคัญมีวิสัยทัศน์ และการทำงานที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับ ดิ แอสเพน ทรี ทำให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่าการใช้ชีวิตที่นี่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มาตรฐานระดับโลก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวอย่างของการดูแลตลอดชีวิต สำหรับคนวัย 50+ อาทิ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่มุ่งเน้นความปลอดภัยในทุกรายละเอียด บริการอาหารเช้า ตามหลักโภชนาการที่เหมาะสมทุกวัน บริการแม่บ้านทำความสะอาดทุกสัปดาห์ บริการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และมากไปกว่านั้น คือการออกแบบกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสมอง สุขภาพกายและใจ ให้ผู้อยู่อาศัยได้เลือกทำ และการออกแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ทั้งครอบครัวของตัวเอง เพื่อน และผู้คนอื่นๆ จากหลากหลายเจเนอเรชั่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของผู้สูงวัย สอดคล้องกับข้อมูลจากการวิจัยที่พบว่า ผู้สูงวัยไม่ว่าจะเป็นในประเทศฝั่งตะวันตกหรือตะวันออกส่วนใหญ่ต้องการสังคม ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สังคมไทยและรวมถึงในเอเชีย มีมุมมองเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่เปลี่ยนไป เมื่อพูดถึงที่อยู่อาศัยสำหรับคนวัยเกษียณ คนเริ่มมองเห็นภาพ Happy Living Place ที่จะส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข สำหรับช่วงวัยที่อิสระและสวยงามได้ ไม่ใช่สถานที่ที่น่าหดหู่อีกต่อไป” เฮ จูน พาร์ค กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.วิลเลี่ยม ไรซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานผู้อำนวยการ เบย์เครส (Baycrest) องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงวัยที่มีประสบการณ์กว่า 100 ปี และได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งเป็นพันธมิตรกับโครงการ The Aspen Tree The Forestias กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของ Baycrest คือการทำให้เกิด Aging Successfully คือให้คนที่ก้าวเข้าสู่ช่วงอายุที่เรียกว่าสูงวัย ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและมีจุดมุ่งหมาย และใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบ แทนที่จะอยู่แบบรอวันเจ็บป่วย หรือรอวันรักษาตัว&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/rMJWQNz9xSgHs5fy7fmX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="rMJWQNz9xSgHs5fy7fmX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="1920,1066"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเหตุผลหลักที่ Baycrest ตัดสินใจร่วมทำงานกับ The Aspen Tree เพราะวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน มุ่งเน้นสร้างสรรค์สิ่งที่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกกับสังคม ส่งเสริมให้สังคมดีขึ้น และส่งผลดีกับโลก สิ่งที่เราคิดเหมือนกันคือ เราไม่ได้ต้องการแค่ดูแลสังคมในประเทศของเราเอง แต่เราอยากทำสิ่งที่จะเป็นต้นแบบให้ที่อื่นๆ ในโลก ได้เห็นว่าที่อยู่อาศัย หรือการใช้ชีวิตของคนสูงวัย สามารถเป็น Happy Living Community ได้ และคนสูงวัยสามารถใช้ชีวิตอย่าง Aging Beautifully ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สิ่งที่ทำให้ The Aspen Tree The Forestias แตกต่างจากโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยที่อื่นๆ คือ แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต ที่ดูแลตั้งแต่วันแรกที่เข้าอยู่ ไม่ใช่รอดูแลเฉพาะแค่ในวันที่เจ็บป่วย การดูแลและกิจกรรมต่างๆ ที่จัดไว้ให้จึงมุ่งเน้นในเชิงป้องกันเป็นสำคัญ นอกจากนั้น การตั้งอยู่ในโครงการ The Forestias ซึ่งเป็นชุมชนของผู้คนจากหลากหลายเจเนอเรชั่น ประกอบไปด้วยหลากหลายโครงการ รวมถึงพื้นที่ไลฟ์สไตล์และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เป็นโมเดลคุณภาพที่น่าสนใจ และสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับที่อื่นๆ ทั่วโลกได้ เนื่องจากการได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจากช่วงวัยอื่นๆ รวมทั้งการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ถือว่ามีความสำคัญมากและส่งผลดีกับผู้สูงวัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/G4ae36Z18o3rtDiyGEPH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="G4ae36Z18o3rtDiyGEPH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="1920,1020"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บทบาทสำคัญอย่างหนึ่งของ Baycrest ที่ The Aspen Tree The Forestias คือการนำเอาประสบการณ์กว่า 100 ปี มาใช้ในการออกแบบกิจกรรมต่างๆ สำหรับลูกบ้าน โดยจะมีการปรับกิจกรรมต่างๆ ให้เข้ากับบริบทสังคมไทย ตลอดจนเข้ากับความชื่นชอบและส่งผลดีต่อสุขภาพของแต่ละคนด้วย นอกจากนั้น Baycrest ยังรับหน้าที่ในการออกแบบหลักสูตรอบรมเจ้าหน้าที่ Care Taker ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลลูกบ้านด้วย” ดร.วิลเลี่ยม ไรซ์แมน กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดิ แอสเพน ทรี ประกอบด้วยที่พักอาศัยจำนวน 290 ยูนิต ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 83 ตารางเมตรไปจนถึง 253 ตารางเมตร ทุกยูนิตถูกออกแบบด้วยความพิถีพิถัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัย สามารถอยู่ในบ้าน สังคม ได้อย่างปลอดภัย ใกล้ชิดธรรมชาติของผืนป่าเดอะ ฟอเรสเทียส์ขนาด 30 ไร่ และใกล้ชิดคนที่รัก โดยล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ออกแพ็กเกจทดลองอยู่แบบ 1 ปี และ 5 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบ The Aspen Tree ด้วยตนเอง ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับโครงการ ได้ที่ Call Center โทร 1265 หรือเว็บไซต์ theaspentree.com &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70595" alt="Subway ธุรกิจแฟรนไชส์พันล้าน กับเบื้องหลังความมั่งคั่งที่่ซ่อนเร้น">Subway ธุรกิจแฟรนไชส์พันล้าน กับเบื้องหลังความมั่งคั่งที่่ซ่อนเร้น</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

"ดิ แอสเพน ทรี" จับมือ "เบย์เครส" ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการดูแลผู้สูงวัย ตอกย้ำแนวคิด Lifetime Care

<h2>MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เปิดตัวโครงการ MQDC Idyllias (ไอดิลเลียส์) โครงการเมตาเวิร์สแห่งแรกเชื่อม โครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC </h2> <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/4kzeDNokJy6AM5vzNEDk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4kzeDNokJy6AM5vzNEDk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="650,432"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) กล่าวว่า แบรนด์เมตาเวิร์ส “MQDC Idyllias” เป็นโครงการเมตาเวิร์สที่พัฒนา โดยบริษัทลูก MQDC Metaverse Corporation Limited&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการเมตาเวิร์สนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมตตาเวิร์ส” (Metta-verse หรือ ‘เมตตา’-เวิร์ส) ซึ่งคำว่า ‘Metta’ พ้องกับคำภาษาไทย “เมตตา” ซึ่งมีความหมายว่าความเอื้ออารี ความกรุณาและความปรารถนาที่จะเห็นผู้อื่นเป็นสุข ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ในการสร้างโลก Idyllias แห่งนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp; “เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสความรู้สึกอันน่าจดจำที่ Idyllias ณ สถานที่แห่งนี้ เราพัฒนาขึ้นเพื่อ ให้สะท้อนความหมายของคำว่า “Idyllic” หรือสถานที่สุขสงบและแสนสวยงามเกิดขึ้นจริงที่นี่โลก เสมือนที่จะเชื่อมเข้ากับโลกแห่งความจริงที่เราตั้งใจพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นที่ก่อเกิดความสุข ความปรารถนาดีต่อกัน และสร้างนวัตกรรมยั่งยืนเพื่อให้โลก “เมตตาเวิร์ส” ของเรา เป็นส่วนหนึ่งที่ ช่วยขจัดปัญหาที่โลกแห่งความจริงกำลังเผชิญอยู่” วิสิษฐ์กล่าว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ทุกๆกิจกรรม ทุกๆประสบการณ์ที่ผู้เข้ามาใช้งานจะได้สัมผัสที่ MQDC Idyllias ล้วนแต่สะท้อนคอนเซ็ปต์ ‘Metta-verse for All Life Visible’ เพื่อให้ทุกชีวิตสามารถดำรงอยู่ ร่วมกันได้อย่างสงบสุข &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิสิษฐ์ กล่าวว่า ความก้าวหน้าครั้งนี้ของ MQDC Idyllias ยังช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงเป้าหมายที่ชัดเจนของ MQDC ในการเดินหน้าสู่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และยังเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลกอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การพัฒนาโครงการเมตาเวิร์สครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความแตกต่างของ MQDC ว่าไม่ได้เป็นเพียงนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แต่เป็นผู้นำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อยกมาตรฐานความเป็นอยู่ของทุกชีวิตและสังคมให้ดีขึ้นในทุกมิติได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การพัฒนาโครงการ MQDC Idyllias จะเป็นการต่อยอดเชิงนวัตกรรมของ MQDC เพื่อนำองค์กรเดินหน้าไปสู่ความเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ด้วยขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย (purpose-driven) มุ่งสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อนำโลกและสังคมไปในทิศทางตามปรัชญา “For All Well-Being” <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/4nRajGhi166EXYqFbwuN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4nRajGhi166EXYqFbwuN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="650,432"></figure></div><div> </div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการโครงการเมตาเวิร์ส MQDC Idyllias กล่าวว่าแบรนด์ Idyllias จะสะท้อนความเป็นโลกเสมือนที่ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อขายโครงการ virtual real estate แต่เป็นโลกเสมือนที่ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์แห่งความสุขจากความเชื่อมโยงกับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC จะเป็นโครงการแรกๆ ที่ได้รับการเชื่อมต่อกับโลกเสมือน MQDC Idyllias&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราตั้งใจให้เกิดความเชื่อมต่ออย่างแนบเนียนระหว่างสองโลกนี้ เพื่อยกระดับการมอบประสบการณ์ให้ดีขึ้นไปอีก สิ่งที่เราพัฒนาแล้วติดข้อจำกัดในโลกแห่งความจริงจะถูกนำไปพัฒนาให้สามารถเกิดขึ้นได้จริงในโลกเสมือน และในทางกลับกัน สิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นบน Idyllias จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าและนำไปใช้ต่อในโลกแห่งความจริง ที่นี่จึงเป็นได้มากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือ สร้างอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงทั่วไป”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะนี้ MQDC Idyllias อยู่ระหว่างการพัฒนา ปรับปรุง การใช้งานเพื่อให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ อีกทั้งยังเน้นการพัฒนาให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกแห่งอนาคตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีกำหนดจะให้บริการได้ภายในปี 2024&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในอนาคต โลก MQDC Idyllias จะเชื่อมต่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล “ทรานสลูเซีย เมตาเวิร์ส (Translucia Metaverse)” ที่ก่อตั้งและดำเนินการโดยบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงและซีรีส์แอนิเมชั่นที่จำหน่ายไปทั่วโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/WYxi4kuuJTJerq9o9dtQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="WYxi4kuuJTJerq9o9dtQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="650,432"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp; ด้าน รามากริชนัน ซี. เอ็น. หัวหน้าด้านการบูรณาการและ Metaverse ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่ง Accenture Song กล่าวว่า แอคเซนเชอร์จะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ MQDC ไปสู่เป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ครั้งใหม่ ที่เข้าถึงได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต การเรียนรู้ และสันทนาการ ให้ผู้คนได้ใช้ในโลกเสมือนและโลกจริงอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/02/HxHvEEAJoh2M1QKEZfCo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HxHvEEAJoh2M1QKEZfCo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3" origin-size="650,432"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนหน้านี้ MQDC ได้ริเริ่มพัฒนาโครงการเกี่ยวกับเมตาเวิร์สมาแล้วตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศความร่วมมือกับเอคเซนเชอร์ (Accenture) บริษัทผู้ให้บริการด้านพัฒนาธุรกิจชั้นนำ ระดับโลก เพื่อพัฒนาโครงการเมตาเวิร์สให้กับ MQDC ซึ่งความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ ที่ทำให้ MQDC เดินหน้าขยายองค์กรไปสู่ธุรกิจใหม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยธุรกิจด้านเมตาเวิร์สนี้จะทำให้ MQDC ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ แต่ยังเป็นผู้สร้างประสบการณ์ใหม่ไร้ขีดจำกัดให้แก่ลูกค้าและ ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตร และผู้ที่สนใจเข้าร่วมในโลกแห่งนวัตกรรมใหม่ที่เชื่อมต่อโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/elijah-wood-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-amc-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%8B%E0%B8%A7" alt="Elijah Wood วิจารณ์โรงภาพยนตร์ AMC จากการปรับราคาตั๋ว">Elijah Wood วิจารณ์โรงภาพยนตร์ AMC จากการปรับราคาตั๋ว</a>​ <hr class="__se__solid">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

เปิดตัว MQDC Idyllias "เมตตาเวิร์ส" (Metta-verse)

<h2>การใช้ชีวิตบนอาคารสูงเป็นเทรนด์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยเมืองที่มีพื้นที่จำกัด และความแออัดที่มาพร้อมเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ คอนโดจึงเป็นทางเลือกน่าสนใจที่ตอบโจทย์เรื่องทำเลและฟังก์ชันได้ลงตัว</h2>
Design for the finest intergeneration living หรือคอนโดที่ออกแบบเพื่อคนทุกเจเนอเรชั่น คือนิยามที่ชัดเจนของโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit คอนโดเทรนด์ใหม่จาก MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์เรื่องการอยู่อาศัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

<img class="alignnone size-full wp-image-35681" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/Mulberry-Grove-Sukhumvit-2.jpg" alt="" width="720" height="480" />

Mulberry Grove คอนโดสูง 37 ชั้น พัฒนาบนพื้นที่ 2 ไร่ครึ่ง ริมถนนสุขุมวิท (ก่อนถึงสุขุมวิท 65) มีจำนวนห้องพัก 287 ยูนิตแห่งนี้ นับเป็นความพร้อมสำหรับการออกแบบเพื่อคนทุกเจเนอเรชั่นอันเป็นคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนของโครงการ เริ่มจากพื้นที่ส่วนกลาง (Mulberry Intergeneration Facility) ซึ่งมีขนาดใหญ่ รวมพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่ มากพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตและผู้พักอาศัย

ภายในห้องพักออกแบบให้มีรายละเอียดสำหรับคนทุกช่วงวัย เช่น Nook Multi-purpose Space พื้นที่อเนกประสงค์ที่ออกแบบสำหรับเป็นพื้นที่ส่วนตัวปรับใช้ได้ตามต้องการ เช่น มุมอ่านหนังสือสำหรับเด็กๆ มุมจิบน้ำชาของคุณแม่ หรือมุมจัดสวนของคุณปู่คุณย่า

Wide Frontage Design ห้องพักทุกห้องเป็นกระจกหน้ากว้างเปิดรับวิวอย่างเต็มที่, ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารเชื่อมต่อกัน สามารถรวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ กว้างพอสำหรับทุกคนในครอบครัว

ส่วนห้องนอน A Spacious Master Bedroom ออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง พื้นที่เพียงพอสำหรับเตียงเสริม และรถเข็นผู้สูงอายุ ส่วนห้องครัว Enclosed Design Kitchen เป็นครัวขนาดใหญ่แบบปิด มีระบบระบายอากาศ 2 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ครัวคุณภาพครบครัน

แต่ละยูนิตออกแบบให้สามารถปรับเชื่อมต่อกันเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการอยู่อาศัย รองรับความต้องการของครอบครัวในทุกรูปแบบ

<img class="alignnone size-full wp-image-35682" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/Mulberry-Grove-Sukhumvit-1.jpg" alt="" width="720" height="480" />

&nbsp;

เรื่อง: ลมุนวรรณ สรรพศาสตร์  ภาพ: Cortina Watch

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/b82f8d5a-a5ed-4274-9861-5d0d5f98d5d8/september-2020">คลิกอ่านฉบับเต็ม “MULBERRY GROVE ดีไซน์เพื่อคนทุกเจนฯ” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-35207 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-780x1024.jpg 780w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/EDIT-COVER-88-SEPTEMBEROK-18-8-63-2-780x1024.jpg 780w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

MULBERRY GROVE ดีไซน์เพื่อคนทุกเจนฯ

<h2 class="p1">RISC ศูนย์วิจัยโดย MQDC เปิดตัวต้นแบบหอฟอกอากาศระดับเมือง “ฟ้าใส” บรรเทาภัยฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค เผยงบวิจัยพัฒนากว่า 10 ล้านบาท</h2>
วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะทางอากาศ PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้หายขาด จึงมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองได้บ้าง RISC จึงพัฒนาและเปิดตัว ต้นแบบหอฟอกอากาศระดับเมือง ภายใต้ชื่อ “ฟ้าใส” ด้วยเทคโนโลยีหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier Tower)
“MQDC มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่าน RISC หรือศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และเมื่อเราอยากเป็นองค์กรหนึ่งในการเข้ามาช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืน งานวิจัยของเราจึงไม่จำกัดการใช้เฉพาะภายในองค์กร แต่คือการเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณชนด้วย การเปิดตัวหอฟอกอากาศครั้งนี้จึงเป็นความตั้งใจให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนด้วย ไม่ใช่แต่เพียงลูกบ้านของ MQDC เท่านั้น ทั้งนี้ เราถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกในไทยที่ดำเนินงานในเรื่องปัญหาคุณภาพอากาศ” วิสิษฐ์ กล่าว


<figure><img class="wp-image-25850 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/risc02.jpg" alt="" width="420" height="560" /><figcaption> ต้นแบบหอฟอกอากศระดับเมืองภายใต้ชื่อ "ฟ้าใส" ติดตั้งที่โครงการ 101 True Digital Park บริเวณหน้าอาคารวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท</figcaption></figure>
ด้าน รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research &amp; Innovation for Sustainability Center หรือ RISC) กล่าวว่า ปัญหา PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนมากมาย ซึ่งเราพยายามเสาะหานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาแก้ไข อย่างไรก็ตาม PM 2.5 ไม่ได้มาจากประเทศไทยอย่างเดียว แต่ยังไม่จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ดังนั้น หอฟอกอากาศนี้คงแก้ปัญหา PM 2.5 ไม่ได้ แต่จะช่วยบรรเทาความรุนแรงในพื้นที่ที่มีปัญหาได้
“เราพัฒนาหอฟอกอากาศตัวนี้เป็นตัวต้นแบบ ซึ่งนอกจากจะสามารถดูแลคนได้ระดับหนึ่งแล้ว ฝุ่นที่เก็บได้เราจะนำมาศึกษาว่า PM 2.5 ที่พบนั้นเป็นฝุ่นที่มาจากภาคการเกษตรหรือภาคส่วนอื่นๆ เพื่อหานโยบายในการแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป”
รศ.ดร.สิงห์ กล่าวอีกว่า สำหรับต้นแบบหอฟอกอากศระดับเมือง “ฟ้าใส” เป็นผลงานการคิดและพัฒนาร่วมกันระหว่าง RISC และบริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด เป็นหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier Tower) สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ติดตั้งที่โครงการ 101 True Digital Park บริเวณหน้าอาคารวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท ตลอดทั้งปี 2563


<figure><img class="size-full wp-image-25851" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/risc03.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> หอฟอกอากาศนี้จะมีหน้าจอบอกระดับคุณภาพอากาศด้วย</figcaption></figure>
สำหรับหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริดนี้ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 3,850 วัตต์ ร่วมกับระบบแบตเตอรี่ จึงช่วยลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก ส่วนหลักการทำงานเริ่มต้นจากการใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ จากนั้นแยกฝุ่นขนาดใหญ่และเล็กด้วยความเร็วลมและการปล่อยละอองน้ำเพื่อดักจับฝุ่น 3 ชั้น ต่อเนื่องด้วยระบบ Jet Venturi Scrubber โดยระบบทั้งหมดใช้น้ำ 50-70 ลิตร จากนั้นน้ำจะถูกฆ่าเชื้อด้วยโอโซนแล้วถูกหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ โดยจะมีการเติมน้ำเข้าไปเสริมในทุก 3-4 วันเพื่อชดเชยน้ำที่ระเหยออกไป
หอฟอกอากาศนี้ยังใช้ระบบอัจฉริยะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ใบพัดให้สอดคล้องกับปริมาณความเข้มข้นความฝุ่นละออง คือ หากมีฝุ่นมากใบพัดก็จะหมุนเร็ว และหมุนช้าลงเมื่อปริมาณฝุ่นน้อยลง ทั้งนี้ รศ.ดร.สิงห์ ประเมินว่าหอฟอกอากาศดังกล่าวสามารถปรับคุณภาพอากาศให้พื้นที่ใกล้เคียงในรัศมี 1 กิโลเมตรให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับกระแสลมด้วย


<figure><img class="size-full wp-image-25852" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/risc04.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> (จากซ้าย) ไกรพิชิต เมืองวงษ์, รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต และ วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์</figcaption></figure>
รศ.ดร.สิงห์ ระบุว่า หอฟอกอากาศนี้ใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนากว่า 10 ล้านบาท ขณะที่เฉพาะตัวหอฟอกอากาศ (ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ประกอบเป็นหอฟอกอากาศ) อยู่ที่ราว 2-3 ล้านบาท ซึ่งหากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ สนใจ ศูนย์วิจัยฯ ก็พร้อมจะให้บริการในราคาที่อาจไม่เห็นกำไร เพื่อสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คน บนความหวังว่าการทดสอบครั้งนี้จะขยายไปสู่การช่วยเหลือชุมชนได้
ขณะที่ ไกรพิชิต เมืองวงษ์ ผู้บริหาร บริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด (NESTECH) และประธานกลุ่มจิตอาสาเพื่อการจัดการภัยพิบัติ (ERIG) กล่าวว่า เนสเทค ประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพัฒนากับ RISC และ MQDC ในการสร้างหอฟอกอากาศต้นแบบนี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ฟ้าใส” จะเป็นต้นแบบของหอฟอกอากาศระดับเมืองที่เป็นกลไกสนับสนุนการแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม
&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/other/%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8.html">เปิดโซลูชั่นแก้ปัญหา ‘มลพิษทางอากาศ’ เมื่อฝุ่นจิ๋วยังไม่หายไปจากเมือง</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

RISC โดย MQDC เปิดตัวต้นแบบหอฟอกอากาศระดับเมือง "ฟ้าใส" สู้วิกฤตฝุ่นจิ๋ว

<h2></h2>
<figure><img class="img-responsive img-effect" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/article/141106105645kWeK.jpg" alt="" width="750" height="552" /><figcaption> เจ้าสัวธนินท์พา "บี" กับ "แตน" ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ร่วมงาน Forbes Global CEO Conference</figcaption></figure>
<h2></h2>
<h2>เพียงแค่เห็นการ์ดแต่งงานขนาด 28x24 ซ.ม. หากกางออกจะยาวถึง 56 ซ.ม. หรือเกือบ 2 ฟุต จัดพิมพ์ด้วยกระดาษแข็งอย่างดี ออกแบบเรียบง่าย พิมพ์ลวดลายทองงดงาม ดูแล้วหรูหราอลังการ ชวนให้มั่นใจได้ว่าจะต้องได้รับกล่าวขวัญเป็นงานแต่งงานแห่งปีแน่นอน</h2>
เมื่อเปิดปกการ์ด เห็นชื่อแรกพิมพ์อยู่บรรทัดบนสุดในฐานะประธานพิธี ปรากฎชื่อ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ควงคู่มากับภริยา “อาจารย์น้อง” นราพร จันทร์โอชา

สำหรับเจ้าสาว "ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์" หรือ "บี" เพียงแค่นามสกุลก็ทราบแล้ว เธอคือทายาทคนสุดท้องในทั้งหมด 5 คนของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ "ซีพี"

ทิพาภรณ์ เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจหญิงผู้ใจบุญ เธอให้สัมภาษณ์กับ Forbes Thailand ฉบับสิงหาคม ปีนี้ ว่า บิดาคือ ธนินท์ ได้มอบหมายให้เธอสานต่อเจตนารมณ์ช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสในไทยเป็นโครงการแรกทันทีที่เรียนจบในปี 2537 การเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าตามโรงเรียนหรือมูลนิธิต่างๆ กลายเป็นวิถีปกติของเธอ และเป็นหัวเรือใหญ่ของมูลนิธิพุทธรักษามากว่า 15 ปีแล้ว

ส่วนในโลกธุรกิจ ทิพาภรณ์ คือผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร สร้างโครงการยักษ์ ICONSIAM ที่เป็นหนึ่งใน talk of the town ของกรุงเทพฯ อยู่ในขณะนี้

ขณะที่ฝ่ายเจ้าบ่าว "ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์" หรือ "แตน" ก็มีโปรไฟล์น่าสนใจไม่แพ้กัน ชื่อนี้อาจไม่คุ้นนัก แต่หากเอ่ยชื่อเดิม "จิรยุทธ ชุษณะโชติ" จะคุ้นหูกว่า ในฐานะผู้ผลิตการ์ตูนอนิเมชั่น Shelldon  ตัวการ์ตูนที่เกิดจากมันสมองของเขาเอง ผลิตโดยทีมงานระดับฮอลลีวู้ด สามารถขายลิขสิทธิ์ให้สถานีโทรทัศน์ทั่วโลกไปแล้วกว่า 100 ประเทศ

ตัวละครของเขาได้แรงบันดาลใจจากเปลือกหอยเชลล์ดอน หรือหอยพระอาทิตย์ โดยการ์ตูนซีรีส์นี้เน้นเนื้อหาให้สนใจในสิ่งแวดล้อม ปกป้องท้องทะเล และลดมลภาวะโลกร้อน

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวได้แก่ ธนินท์ และ คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์  ส่วนผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวได้แก่ ฤทธิ์ ธีระโกเมน และ พรวรินทร์ อริยวรารมย์

เมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าสัวธนินท์ พา ดร. แตน และ บี ไปร่วมงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 14 ที่ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นงานชุมนุมประจำปีของอภิมหาเศรษฐีของทั่วเอเชีย ซึ่งในงานนี้ บี ร่วมพูดกับลูกของมหาเศรษฐีอื่นๆในหัวข้อ Giving: the promise of fresh starts

งานฉลองมงคลสมรสงานใหญ่ส่งท้ายปี 2557 งานนี้ จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ที่ห้องคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลด์เวิลด์ สามารถรับแขกได้ถึง 4,000 คน  โดยในการ์ดเชิญระบุ Dress Code เป็น Formal หรือ Fairy Tale แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเจ้าสัวธนินท์ บอกว่า เป็น theme ใต้น้ำทะเล

&nbsp;

หมายเหตุ: ติดตามอ่าน "ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์: รักเด็กแบบลูกสาวเจ้าสัวซีพี" ได้ที่ <a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=100">http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=100</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events