<h2>PROUD โชว์ผลงาน หลังเข้าซื้อโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) พิสูจน์ความสำเร็จ ปิดดีลยอดขายต่างชาติ (Foreign Quota) Big Lot จำนวน 500 ล้านบาท ดันยอดขายโครงการทะลุ 90% จ่อคิวปิดการขายภายในไตรมาส 1 ปี 2567 เร่งจัดโปรแรง “ดีงามพระราม 9” ราคาเริ่มต้น 3.61 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 600,000 บาท กระตุ้นยอดขาย พร้อมเดินหน้าทำการตลาดและการขายต่างประเทศสำหรับโครงการ ROMM Convent (รมย์ คอนแวนต์) และ VEHHA Hua Hin (เวหา หัวหิน) เล็งกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ไต้หวัน รัสเซีย สิงค์โปร์ ฮ่องกง และอื่นๆ สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด </h2> <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/tU4kvEbeWb6tedLh4JWc.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="tU4kvEbeWb6tedLh4JWc.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1920,1279"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าซื้อโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) คอนโดมิเนียม High Rise ขนาดใหญ่ บนทำเลคุณภาพย่าน CBD (Central Business District) ติดถนนพระราม 9 ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯ ปิดดีลโควตาซื้อต่างชาติ (Foreign Quota) แบบ Big Lot จำนวน 95 ยูนิต ให้กับ Jadeite Investment Management Limited เป็นจำนวนเงินกว่า 500 ล้านบาท ส่งผลให้ปิดยอดโควต้าซื้อต่างชาติเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงโควต้าลูกค้าชาวไทย ปัจจุบันโครงการฯ เหลือขายประมาณ 9.29% หรือเพียง 134 ยูนิต &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับความสำเร็จด้านยอดขายจากตลาดต่างชาติของโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) มาจากการเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ที่มีมาตรฐานสากล ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติได้ตรงจุด ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก บนทำเลศักยภาพที่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเชื่อมั่นลงทุน และสามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในตลาดต่างประเทศได้ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ได้มีการลงนามในเอกสารสัญญาร่วมกับ Jadeite Investment Management Limited เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ จะได้รับเงินมัดจำล่วงหน้า 30% ของมูลค่ารวมของห้องที่ขาย ซึ่งทำให้ผลตอบแทนการลงทุนบริษัทดีขึ้น มีเงินสำรองมากยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ผลักดันให้โครงการมี Backlog สูงขึ้นพร้อมที่จะรับรู้รายได้ภายในปี 2568 &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าต่อยอดทำตลาดและการขายในต่างประเทศ สำหรับโครงการอื่นๆ ของ พราว เรียลเอสเตท ได้แก่ ROMM Convent (รมย์ คอนแวนต์), VEHHA Hua Hin (เวหา หัวหิน) โดยมีแผนเตรียมไปโรดโชว์ สร้างความเชื่อมั่น เจาะกลุ่มลูกค้าประเทศที่มีศักยภาพ อาทิ ประเทศไต้หวัน รัสเซีย สิงค์โปร์ ฮ่องกง และอื่นๆ ช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/SXMXZi4nVcKy7qcGdq3K.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="SXMXZi4nVcKy7qcGdq3K.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="1616,1500"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โครงการ NUE District R9 คอนโดมิเนียม High Rise ขนาดใหญ่ บนทำเลคุณภาพย่าน CBD (Central Business District) ติดถนนพระราม 9 ใกล้กับ MRT พระราม 9 ที่ครบครันด้วยพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันทั้ง Indoor และ Outdoor บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ “ดีงามพระราม 9” ราคาเริ่มต้น 3.61 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 600,000 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71274" alt="เอสพี กรุ๊ป เปิดตัวชุดโซลูชันพลังงานยั่งยืนสำหรับอาคารอัจฉริยะ ที่งาน Nova BUILD Expo 2023">เอสพี กรุ๊ป เปิดตัวชุดโซลูชันพลังงานยั่งยืนสำหรับอาคารอัจฉริยะ ที่งาน Nova BUILD Expo 2023</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

PROUD โชว์ฟอร์มแกร่ง ปิดดีลโควต้าต่างชาติ Big Lot 500 ล้านบาท ดันยอดขายโครงการ NUE District R9 ทะลุ 90%

<h2 class="p1">หลังจากพัฒนาโครงการ “พาร์ค 24”  และขายให้ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ไปเมื่อสองปีก่อน (2560) หลายคนอาจสงสัยว่า “พราว เรียล เอสเตท” จะก้าวเดินในธุรกิจอสังหาฯต่อไปหรือไม่อย่างไร เมื่อขายโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ไปแล้ว แต่คำตอบเริ่มชัดขึ้นจากความเคลื่อนไหวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา</h2>
ตามที่บริษัท โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FOCUS เพิ่มทุนจำนวน 451.39 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นละ 1.44 บาท/หุ้น ให้แก่นายพสุ ลิปตพัลลภ และนางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ ในกลุ่มบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด เพื่อระดมทุนส่วนหนึ่งใช้รองรับการเข้าซื้อที่ดิน 2 แปลงในหัวหินของกลุ่มพราว และ "วานา นาวา" มูลค่ารวม 1,325 ล้านบาท
โดยการซื้อที่ดินเปล่า 2 แปลง จากบริษัท พราว รีสอร์ท หัวหิน จำกัด เนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 48.8 ตารางวา และบริษัท วานา นาวา จำกัด เนื้อที่ 5 ไร่ 1 งาน 9.5 ตารางวา รวมเนื้อที่ทั้งหมด 12 ไร่ 3 งาน 58.3 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค.) บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ได้เปิดแถลงข่าวแผนดำเนินธุรกิจหลังจากสองพี่น้องตระกูล “ลิปตพัลลภ” เข้าซื้อหุ้นในบริษัทโฟกัสฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD โดย พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร PROUD กล่าวว่า บริษัทฯจะบุกตลาดอสังหาฯ ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “MORE THAN JUST LIVING หรือ ชีวิตที่มากกว่า” โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาที่ดินในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างหัวหิน 2 โครงการ โครงการแรกเป็นที่ดินริมทะเล ในซอยหัวหิน 71 และโครงการที่สอง ติดรีสอร์ทสวนน้ำ วานา นาวา ป้อนกลุ่มไฮเอนด์-ลักชัวรี่


<figure><img class=" wp-image-7924" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/thumbnail__KOR3704.jpg" alt="" width="786" height="524" /><figcaption> (จากซ้าย) พสุ ลิปตพัลลภ และ พราวพุธ ลิปตพัลลภ</figcaption></figure>
โดยนอกจากแผนพัฒนา 2 โครงการใหม่ที่หัวหินแล้ว PROUD ยังเตรียมแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “MORE THAN JUST LIVING ในพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งกรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายภายใน 5 ปี (2562-2566) จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท
“จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในหัวหิน และภูเก็ต ทำให้เราเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่มาจากการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนไทยที่ต้องการบ้านพักผ่อนหลังที่สอง หรือตลาดนักท่องเที่ยว ทั้งกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีกำลังซื้อสูง หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบเอเซีย โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยมมิลเลเนียล จึงทำให้ที่ผ่านมาตลาดนี้ หรือ Resort homes มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวพราวพุธ กล่าว

<ul>
 	<li>คลิกอ่าน <a href="https://forbesthailand.com/news/property/%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%91%E0%B8%B2-2.html">แสนสิริประเดิมเมืองใหม่ 300 ไร่ “กรุงเทพกรีฑา” เปิดโครงการบ้านหรูหลังละ 14-36 ล้าน</a></li>
</ul>
นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ที่สำรวจมูลค่าโอนห้องชุดรวมของหัวเมืองหลักๆ อย่าง เชียงใหม่  สมุย กระบี่ ภูเก็ต พัทยา และหัวหิน พบว่ามีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 29% ระหว่างปี 2558-61 เทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศที่ปีละ 20% และในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมถึง  51,656 ล้านบาท โดยมีดีมานด์มาจากทั้งในและต่างประเทศ ทางบริษัทฯจึงมีแนวคิดที่จะทำอสังหาฯแนวใหม่ โดยผสมผสานประสบการณ์การพักผ่อนและการให้บริการระดับโรงแรม เข้ากับการดีไซน์ของที่พักอาศัย ซึ่งยังคงต้องมีความคุ้มค่าในแง่ของการลงทุน ออกมาในรูปแบบลิฟวิ่ง โซลูชั่น คอนเซปต์ “MORE THAN JUST LIVING” โดยเน้นทำเลทอง พื้นที่ส่วนกลาง และการให้บริการระดับโรงแรม ซึ่งมีการออกแบบเชิงรีสอร์ท และการทำการตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ผู้พักมีความสะดวกสบายมากขึ้น


<figure><img class=" wp-image-7921" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/S__1892361.jpg" alt="" width="777" height="582" /><figcaption> พราวพุธ ลิปตพัลลภ</figcaption></figure>
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารพราว เรียล เอสเตท ยังไม่ระบุรายละเอียดโครงการที่อยู่อาศัยทั้ง 2 แปลงที่หัวหิน โดยกล่าวว่าอยู่ในระหว่างการออกแบบในรายละเอียด โดยเบื้องต้นกำหนดลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าในระดับบนทั้งพรีเมี่ยมและลักชัวรี่ โดยในตลาดเมืองรีสอร์ท ราคาจะเริ่มที่ 1 แสนบาท/ตารางเมตร และสามารถขึ้นไปถึง  3 แสนบาท/ตารางเมตร และหากเป็นตลาดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ราคาจะอยู่ระหว่าง 1.5-3.5 แสนบาท/ตารางเมตร ราคาต่อห้องสามารถเริ่มที่ 4 ล้านบาท โดยเน้นขนาดห้องที่ใช้ได้จริง และมีฟังก์ชั่นที่คุ้มค่าแก่การลงทุน
ด้าน พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร PROUD กล่าวถึงภาพรวมหัวหินศูนย์กลางการท่องเที่ยวว่า จากยุทธศาสตร์การลงทุนภาครัฐที่พัฒนาสู่หัวหิน มั่นใจว่าภายใน 5 ปีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหัวหิน เมื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยภาครัฐเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเสร็จ ซึ่งรวมไปถึงการผลักดันโครงการท่องเที่ยวย่าน “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” และการพัฒนาระบบคมนาคมครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง อาทิ โครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพO-หัวหิน, โครงการมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ และโครงการปรับปรุงและขยายสนามบินหัวหิน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการบินระหว่างประเทศรายวัน


<figure><img class="wp-image-7923 " src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/S__18178217.jpg" alt="" width="787" height="524" /><figcaption> พสุ ลิปตพัลลภ</figcaption></figure>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events