การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2023

<h2>แม้ว่าดัชนี Taiex จะปรับตัวลงกว่าร้อยละ 3 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากการระบาดของ “โอไมครอน” ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่ขัดขวางกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค ทว่าการส่งออกเทคโนโลยีอย่างแข็งแกร่งและการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ได้กระตุ้นเศรษฐกิจของไต้หวันให้เติบโตสูงสุดในรอบทศวรรษที่ร้อยละ 6.3 </h2>
ในทำนองเดียวกัน ความมั่งคั่งของเหล่า 50 มหาเศรษฐีก็ได้ปรับตัวสูงขึ้น ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมอยู่ที่ 1.58 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 1.49 แสนล้านเหรียญในปีก่อน 

ปีนี้ Zhang Congyuan เจ้าสัวธุรกิจรองเท้า Huali Industrial Group ยังคงรั้งตำแหน่งสูงสุดของทำเนียบ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่ลดลงร้อยละ 12 อยู่ที่ 1.21 หมื่นล้านเหรียญ เนื่องจากธุรกิจซึ่งตั้งอยู่ในมณฑล Guangdong ต้องเผชิญกับข้อท้าทายด้านโลจิสติกส์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 

หลังจากที่ Cathay Financial Holding ของพวกเขารายงานรายได้สุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.9 พันล้านเหรียญในปี 2021 สองพี่น้อง Tsai Hong-tu และ Cheng-ta ก็ได้ก้าวขึ้นมาครองอันดับ 2 ของทำเนียบด้วยทรัพย์สินสุทธิ 1.05 หมื่นล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 14 จากปีก่อนหน้า

เช่นเดียวกับสองเจ้าพ่อการเงินอย่างพี่น้อง Daniel และ Richard Tsai จาก Fubon Financial Holding ที่ครองอันดับ 3 ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 9.6 พันล้านเหรียญ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร

ในขณะเดียวกันราคาสารเคมีที่พุ่งสูงขึ้นได้ช่วยเพิ่มความมั่งคั่งให้กับ Lin Shu-hong ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทปิโตรเคมี Chang Chun Group กว่า 2.1 พันล้านเหรียญเป็น 6.9 พันล้านเหรียญ และสองพี่น้อง Tseng Cheng และ Sing-ai ทายาทของ Tseng Shin-yi ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนหนึ่งของ Chang Chun ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ส่งผลให้พวกเขามีทรัพย์สินเพิ่ม 1.65 พันล้านเหรียญเป็น 4.3 พันล้านเหรียญ 

ท่ามกลางกระแสการเติบโตของการขนส่งทางเรือทั่วโลก ส่งผลให้พี่น้องตระกูล Chang ได้แก่ Kuo-Hua, Kuo-Ming และ Kuo-Cheng (บุตรชายของ Chang Yung Fa ผู้ก่อตั้ง Evergreen Marine) มีรายชื่อปรากฎในทำเนียบมหาเศรษฐีไต้หวันอีกครั้งหนึ่งในอันดับที่ 11 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5.3 พันล้านเหรียญ 

ปิดท้ายด้วยหุ้น Kinglai Hygienic Materials บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนสแตนเลสที่ใช้ในกระบวนการผลิต เช่น เซมิคอนดักเตอร์และวัคซีน ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้ผู้ก่อตั้ง Li Shui-po ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพียงรายเดียวของปีนี้ ครองอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 786 ล้านเหรียญ 

ด้าน Tony Chen และ Scott Lin ผู้ร่วมก่อตั้ง Hon Hai Precision ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเลนส์ของ Apple นับเป็นมหาเศรษฐีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ความมั่งคั่งของ Chen ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 47 เหลือ 850 ล้านเหรียญ ขณะที่ทรัพย์สินของ Lin ลดลงร้อยละ 46 อยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญ 

สำหรับในปีนี้ มี 3 อดีตมหาเศรษฐีที่มีรายชื่อหลุดจากทำเนียบการจัดอันดับ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ เจ้าพ่อร้านอาหาร Ho Kuang-chi หลัง Xiabuxiabu ร้านหม้อไฟในจีนแผ่นดินใหญ่รายงานผลประกอบกาประจำปีที่ขาดทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2014

พบกับ 10 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2022 ซึ่งได้รับการประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 15 เมษายน 2022 

อันดับ 1

<a href="https://www.forbes.com/profile/zhang-congyuan/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=7a354a9040a4">Zhang Congyuan </a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 1.21 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Huali Industrial Group

<img class="alignnone size-full wp-image-62029" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/2.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 2

Tsai Hong-tu และ Cheng-ta 

ทรัพย์สินสุทธิ: 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Cathay Financial Holding

<img class="alignnone size-full wp-image-62030" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/3.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 3 

Daniel และ Richard Tsai 

ทรัพย์สินสุทธิ: 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Fubon Financial

<img class="alignnone size-full wp-image-62031" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/41.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 4 

Tsai Eng-meng

ทรัพย์สินสุทธิ: 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Want Want China

อันดับ 5  

Lin Shu-hong 

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Chang Chun Group

อันดับ 6   

<img class="alignnone size-full wp-image-62032" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/terry.png" alt="" width="300" height="300" />

Terry Gou 

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Hon Hai Precision

<img class="alignnone size-full wp-image-62033" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/Wei-Ing-chou-Ying-chiao-Yin-chun-และ-Yin-heng.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 7   

Wei Ing-chou, Ying-chiao, Yin-chun และ Yin-heng

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Tingyi

<img class="alignnone size-full wp-image-62034" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/Jason-Richard-Chang.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 8 

Jason และ Richard Chang

ทรัพย์สินสุทธิ: 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ASE

<img class="alignnone size-full wp-image-62035" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/Barry-Lam.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 9 

Barry Lam

ทรัพย์สินสุทธิ: 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Quanta Computer

<img class="alignnone size-full wp-image-62036" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/Samuel-Yin.png" alt="" width="300" height="300" />

อันดับ 10 

Samuel Yin

ทรัพย์สินสุทธิ: 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Taiwan's Ruentex Group 

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Taiwan’s 50 Richest 2022: Despite Pandemic Challenges, Collective Wealth Rises To $158 Billion โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม:<a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/global-world/10-อุตสาหกรรม-2022.html"> 10 อุตสาหกรรมที่สร้างความมั่งคั่งให้อภิมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2022</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a style="color: #003300;" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2022

<h2>Pierre Chen ประสบความสำเร็จในฐานะวิศวกรผู้เก่งกาจ นักธุรกิจระดับโลก และนักสะสมงานศิลปะชิ้นเอกของ Francis Bacon, Pablo Picasso และ Peter Doig </h2>
<figure><img class="wp-image-47830" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/main-880.jpg" alt="Pierre Chen" width="720" height="450" /><figcaption> Pierre Chen มหาเศรษฐีเทคโนโลยีไต้หวัน หนึ่งในนักสะสมงานศิลปะชั้นนำของเอเชีย</figcaption></figure>

ล่าสุด เขากำลังขยายอาณาจักรอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้เขามีทรัพย์สินเพิ่มสูงขึ้น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการจัดอันดับทำเนียบมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ของ Forbes ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม และก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของไต้หวัน หลังนำ Yageo เข้าซื้อกิจการ Chilisin Electronics ในไต้หวันที่มูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจตัวเก็บประจุ

นอกจากนี้ ในเดือนเมษายน Yageo ได้เปิดเผยถึงแผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ <a style="color: #008000;" href="https://www.foxconn.com/en-us/">Hon Hai</a> Technology Group ของ Terry Gou มหาเศรษฐีชาวไต้หวัน เพื่อสร้างเซมิคอนดักเตอร์ 

ปัจจุบัน Yageo มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่เกือบ 10 พันล้านเหรียญ ขณะที่ Hon Hai เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านเหรียญ

ขณะที่ <a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/terry-gou-foxconn-ร่วมกับ-yageo-ก่อตั้ง-xsemi.html">XSemi</a> บริษัทแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใน Hsinchu ศูนย์กลางเทคโนโลยีของไต้หวัน ผลิตชิปขายที่ราคาต่ำกว่า 2 เหรียญ “อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา” Young Liu ประธาน Hon Hai Technology Group กล่าวในแถลงการณ์ “ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในส่วนต่างๆ”

ทว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ธุรกิจนั้นมีนอกเหนือจากการผลิตชิป เห็นได้จากเมื่อปีที่แล้วที่ได้มีการผนึกกำลังพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อรวมความสามารถในการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรของทั้ง 2 องค์กร “เราสามารถใช้ประโยชน์จากกันและกันได้”  Chen กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 

โดยทั้ง 2 บริษัทมีความชำนาญด้านการผลิต เทคโนโลยี และการวิจัย อีกทั้ง Yageo มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วโลก และมีบริษัทในเครืออีก 4 แห่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ Kaimei Electronics, Tong Hsing Electronic, Global Testing และ Chilisin Electronics

ไม่นานมานี้ Hon Hai และ Chilisin ของ Chen ได้ย้ายโรงงานการผลิตตามข้อตกลงล่าสุด เพื่อขยายการเข้าถึงไปยังทั่วโลก ขณะที่ความสำเร็จของ Yageo ในการเข้าซื้อกิจการ Kemet ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ มูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนช่วยในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ 

นอกจากนี้ ในปี 2019 Yageo ยังได้เข้าซื้อ Pulse ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ ที่ 740 ล้านเหรียญ และปีที่แล้วได้ลงทุนอีก 10 ล้านเหรียญในบริษัทสตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสำนักงานใหญ่ในลอสแองเจลิสด้วย เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มได้รับความสนใจมากกว่าที่เคย สังเกตจากการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของหุ้น Tesla และการเสนอขายหุ้น IPO ของจีนที่มีมูลค่าสูง เช่น Li Auto และ XPeng ซึ่งทำให้ Chen มองเห็นอนาคตที่สดใสในธุรกิจประเภทนี้

“แน่นอนว่า EV กำลังจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมรถยนต์และยานยนต์รุ่นเก่า แม้ EV และยานยนต์ไร้คนขับจะยังไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่คุณสามารถเห็นแนวคิดใหม่มากมาย เรารู้ว่านี่คือแนวโน้มของตลาดในอุตสาหกรรมนี้” Chen กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้ว “ผมไม่ต้องการให้ EV กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่เติบโตเต็มที่หรือประสบความสำเร็จก่อนที่ Yageo จะเข้าสู่อุตสาหกรรม เราจำเป็นต้องเริ่มจากการเข้าใจรูปแบบและข้อกำหนดต่างๆ เพราะผมไม่ใช่ผู้เล่นในตลาด EV แต่เป็นผู้จัดหาส่วนประกอบและโซลูชันที่สำคัญ” 

<figure><img class="wp-image-47833" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-60dd9f7c9aec46b5815505b7-960x0.jpgfitscale.jpg" alt="Pierre Chen" width="720" height="480" /><figcaption> Terry Gou มหาเศรษฐีชาวไต้หวัน ผู้ก่อตั้ง Hon Hai Technology หรือที่รู้จักในชื่อทางการค้าว่า "Foxconn"</figcaption></figure>

ในทำนองเดียวกัน Hon Hai ก็หันมาให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท ซึ่งล่าสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้ร่วมมือกับ Fisker จากสหรัฐอเมริกาเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยเหตุนี้ ผู้ลงทุนใน Yageo จึงได้รับประโยชน์โดยถ้วยหน้า เมื่อ Chen สามารถสร้างผลกำไรจากการขยายธุรกิจ ดังจะเห็นได้จากยอดขายของ Yageo ในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 เป็น 2.4 พันล้านเหรียญ ขณะที่กำไรสุทธิท่ามกลางการระบาดใหญ่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 เป็น 848 ล้านเหรียญ และคาดว่าปีนี้จะเติบโตได้ดียิ่งขึ้นไปอีก 

โดยในไตรมาสแรกของปี 2021 มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 136 จากปีก่อนหน้าเป็น 465 ล้านเหรียญ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 179 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 113.8 จากช่วงเดียวกัน 

ด้านมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายในไทเปของ Yageo ก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทาง Sino-Pac Investment Service คาดการณ์ว่าจะมีโอกาสในการระดมทุนสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20

ทั้งนี้ Chen ไม่ได้เติบโตมาจากคครอบครัวที่พร้อมสนับสนุนเงินหลายล้านเหรียญให้กับการลงทุนในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์หรือสะสมงานศิลปะ หากแต่เป็นครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมือง Kaohsiung ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการผลิตของไต้หวัน ในยุครุ่งเรืองทางการค้า มีท่าเรือที่คึกคักถึง 10 แห่งของโลก 

โดยอะพาร์ตเมนต์ขนาด 140 ตารางเมตรในวัยเด็กของเขา ซึ่งอัดแน่นด้วยสมาชิกครอบครัวทั้งหมด 8 คน ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของเมืองที่อาคารต่างๆ ในปัจจุบันมีสภาพภายนอกที่เป็นคอนกรีตสีซีดและมีหน้าต่างเป็นรั้ว อยู่ติดกับแม่น้ำเลิฟ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ปนเปื้อนด้วยมลพิษจากอุตสาหกรรมจนไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้

อย่างไรก็ดี Chen ก็ได้มีโอกาสรับแนวคิดเกี่ยวกับการออกแบบและศิลปะโดยคุณยายผู้รักอิสระซึ่งทิ้งสามีที่เจ้าชู้และผู้เป็นแม่ ซึ่งสอนการออกแบบเครื่องนุ่งห่ม “แกลเลอรีก็เหมือนร้านหนังสือสำหรับผม” เพราะทั้งคู่ต่างเปิดห้องให้จินตนาการได้ Chen กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในปี 2015 “เมื่อผมมีเวลาว่าง ผมจะออกไป 2 แห่งนี้ ซึ่งก็คือ ร้านหนังสือและแกลเลอรี่” 

โดยกำไรที่เขาได้รับจาก Yageo ได้มีส่วนช่วยในการขยายรสนิยมในงานสะสม “ผมเริ่มต้นบริษัทจากภายในประเทศ ค่อยๆ กลายเป็นบริษัทระดับภูมิภาค และในที่สุดก็เป็นบริษัทระดับโลก ซึ่งทำให้ผมมีโอกาสมากขึ้นที่จะเชื่อมต่อกับโลกตะวันตก”

ในที่นี้ แม้ Chen จะกล่าวว่าแนวทางในการทำธุรกิจและการสะสมของเขาจะแตกต่างกัน แต่เส้นทางของเขาทั้ง 2 เส้นก็มีความคล้ายคลึงกัน โดย Chen เริ่มต้นจากการผลิตในท้องถิ่นก่อนที่จะขยายความสนใจไปยังต่างประเทศ 

ปัจจุบัน Yageo มีศูนย์การออกแบบและ R&amp;D 15 แห่ง และโรงงานผลิต 42 แห่งทั่วโลก “ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็นมาก ผมชอบสิ่งใหม่และน่าตื่นเต้น” เขากล่าวกับ Forbes ในปี 2015 ถึงการลงทุนที่ล้นหลามเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความหลงใหลของเขาไม่ได้ลดลงเลย

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Man On The Move: Latest Acquisition Underscores Taiwan Tech Billionaire Pierre Chen’s Global Ambitions เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/google-ขาย-ai-มูลค่า-2-5-ล้านเหรียญ-เ.html">Google ขาย AI มูลค่า 2.5 ล้านเหรียญฯ ให้เพนตากอนใช้ในสถานการณ์โควิด-19</a>

Pierre Chen มหาเศรษฐีเทคโนโลยีไต้หวัน หนึ่งในนักสะสมงานศิลปะชั้นนำของเอเชีย

<h2>2 มหาเศรษฐีอิเล็กทรอนิกส์ชาวไต้หวันผนึกกำลังพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ หนึ่งในเทคโนโลยีที่ร้อนแรงที่สุดในโลก ณ ขณะนี้</h2>
<figure><img class="wp-image-45401" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/terry-gou.jpg" alt="Terry Gou" width="720" height="480" /><figcaption> Terry Gou ผู้ก่อตั้ง Foxconn</figcaption></figure>

<a href="https://www.forbes.com/profile/terry-gou/?sh=26c3edce5fbc">Foxconn</a> บริษัทผู้ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลกของ Terry Gou ร่วมทุนกับ Yageo ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อตั้งโดย <a href="https://www.forbes.com/profile/pierre-chen/?sh=23644e47832d">Pierre Chen</a> เพื่อขยายไปสู่ซัพพลายเชนสำหรับเซมิคอนดักเตอร์

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 บริษัทได้ออกแถลงการณ์ร่วมถึงการก่อตั้ง XSemi บริษัทร่วมทุนที่จะช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายขยายธุรกิจไปสู่ชิป ซึ่งใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซิร์ฟเวอร์ และรถยนต์ทุกประเภท โดยบริษัทใหม่แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางเทคโนโลยีของเกาะ Hsinchu และจะทำงานร่วมกับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ กำหนดช่องทางการขาย และการวางแผนกระบวนการและกำลังการผลิต

แถลงการณ์ระบุว่า XSemi จะ “สร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ที่ครบวงจร” และนำเสนอ “ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและวัสดุที่มีเสถียรภาพ”

“ผมไม่เห็นข้อท้าทายมากมายสำหรับความร่วมมือนี้” Brady Wang ผู้ช่วยผู้อำนวยการจากบริษัทวิเคราะห์การตลาด Counterpoint Research ใน Taipei กล่าวพร้อมเสริมว่า “บริษัทใหม่นี้จะช่วยให้ Foxconn แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยบริการครบวงจร และช่วยให้ Yageo สามารถมีฐานลูกค้าที่มั่นคงสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนได้”

ด้าน Neil Mawston ผู้อำนวยจากบริษัทวิจัยการตลาด Strategy มองว่า Foxconn และ Yageo มองเห็นการเติบโตในอนาคตของชิปขนาดเล็กสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์เชื่อมต่อที่สร้างขึ้นเพื่อการดูแลสุขภาพ “EV และ IoT มีโอกาสเติบโตไปอีกใน 1-2 ทศวรรษข้างหน้า และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเริ่มต้นพัฒนาชิปกันแล้ว”

ในที่นี้ จึงกล่าวได้ว่า ข้อตกลงของ Foxconn ในการสร้างยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/ralphjennings/2021/02/26/apple-assembler-foxconn-revs-up-push-into-electric-vehicles-with-fisker-deal/?sh=3db8ed40b449">Fisker Inc. สตาร์ทอัพในสหรัฐฯ</a> เท่ากับเป็นการ “จัดหาเซมิคอนดักเตอร์สำหรับนำมาต่อยอดในกิจการภายในเช่นกัน” Mawston กล่าว 

ทั้ง 2 บริษัทเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เมื่อปีที่แล้ว เพื่อพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ Foxconn โดย Yageo ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในด้านชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยี 5G และบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ “Foxconn เข้าใจดีว่าการผลิตสินค้าอุปโภคและยานยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องมีแหล่งเซมิคอนดักเตอร์ที่เชื่อถือได้” Wang กล่าว

จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว ที่ทำให้ผู้คนต้องทำงานจากบ้านมากขึ้น ได้ส่งผลให้อุปสงค์ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวทั่วโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับคำสั่งซื้อโทรศัพท์ 5G และยานพาหนะไฟฟ้า จนเกิดปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลก ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายใหญ่ประกาศเพิ่มกำลังการผลิต

“อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และคำสั่งซื้อของอุตสาหกรรมจะต้องเผชิญกับการปรับโครงสร้างอย่างจริงจัง” Young Liu ประธาน Foxconn กล่าวในแถลงการณ์ “ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างไม่ต้องสงสัย” 

อย่างไรก็ดี แม้ว่า Mawston กล่าวว่าในที่สุด Foxconn จะสามารถใช้ “ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ด้วยการเข้าสู่อุตสาหกรรมชิ้นส่วน” แต่เขาก็เตือนว่า การไปถึงระดับสูงสุดของความชำนาญในการสร้างเซมิคอนดักเตอร์ที่ซับซ้อนอาจใช้เวลาราว 5-10 ปี

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Foxconn Teams Up With Taiwanese Electronic-Parts Maker Yageo To Expand Into Chips เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/catl-บริษัทแบตเตอรี่สัญชาต.html">CATL บริษัทแบตเตอรี่สัญชาติจีนที่มีมหาเศรษฐีมากกว่า Google และ Facebook</a>

Foxconn ร่วมกับ Yageo ก่อตั้ง XSemi บริษัทพัฒนาชิป

<h2>ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้คร่าชีวิต และส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก แต่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไต้หวันกลับร้อนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการจัดการวิกฤตโรคระบาดได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีเพียง 1,100 รายและเสียชีวิต 12 ราย จากประชากรทั้งหมด 24 ล้านคน </h2>
<figure><img class="wp-image-45036" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/1200px-Hsinchu_factory_of_Chang_Chun_Group-1024x576.jpg" alt="มหาเศรษฐีไต้หวัน" width="720" height="405" /><figcaption> Chang Chun Group กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านปิโตรเคมีและพลาสติก</figcaption></figure>

ไต้หวันมีผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย ด้วยอัตราการเติบโตร้อยละ 3 ในปี 2020 ซึ่งได้รับอานิสงส์มาจากการส่งออกอุปกรณ์เทคโนโลยีและอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี Taiex ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 45 นับตั้งแต่มีการประเมินความมั่งคั่งครั้งล่าสุดเมื่อ 15 เดือนที่แล้ว ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมของมหาเศรษฐีไต้หวันเพิ่มขึ้นราวหนึ่งในสามมาอยู่ที่ 1.49 แสนเหรียญสหรัฐฯ

ในปีนี้ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/zhang-congyuan/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=34347d8940a4">Zhang Congyuan</a> ผู้ก่อตั้ง Huali Industrial Group บริษัทผู้ผลิตรองเท้า ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับแบรนด์ระดับโลก เช่น Nike, Puma, UGG และ Vans ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 เป็นครั้งแรก หลังนำธุรกิจเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.38 หมื่นล้านเหรียญ

ด้านพี่น้อง <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/tsai-hong-tu-cheng-ta/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=4d3e9b8a5614">Hong-tu และ Cheng-ta Tsai</a> จาก Cathay Financial ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 2 ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 9.2 พันล้านเหรียญ ขณะที่อีกหนึ่งคู่พี่น้อง <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/daniel-richard-tsai/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=3e25be516e34">Daniel และ Richard Tsai</a> จากธุรกิจบริการด้านการเงินเช่นกัน ก้าวขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 7.9 พันล้านเหรียญ

สำหรับทำเนียบในปีนี้ มี 36 มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ซึ่งมีแหล่งที่มาทรัพย์สินจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ได้แก่ ประธาน <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/tsai-ming-kai/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=826f610323f9">Tsai Ming-kai</a> และรองประธาน <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/cho-jyh-jer/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=2827a1525834">Cho Jyh-jer</a> บริษัทผู้ผลิตชิป MediaTek ที่มีทรัพย์สินเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 150 มาอยู่ 3.3 พันล้านเหรียญและ 1.56 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความต้องการในชิปสำหรับสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก 

ในทำนองเดียวกัน พี่น้อง <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/jason-richard-chang/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=1b5826bd20a2">Jason และ Richard Chang</a> จาก ASE Technology ผู้ให้บริการทดสอบเซมิคอนดักเตอร์และบริการบรรจุภัณฑ์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดแห่งปีถึง 2.6 พันล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 7.2 พันล้านเหรียญ 

ด้าน <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/morris-chang/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=186907b35fc4">Morris Chang</a> มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 เป็น 2.8 พันล้านเหรียญ เนื่องจาก Taiwan Semiconductor Manufacturing บริษัทผู้ผลิตชิปให้กับ Apple ของเขา ได้รับประโยชน์อย่างมากจาก iPhone 12 ที่คาดการณ์ว่ากำลังจะเปิดตัว ขณะที่ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/bruce-cheng/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=6db94efe4676">Bruce Cheng</a> มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า หลังหุ้นบริษัท Delta Electronics ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนพลังงานให้กับ Tesla ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เฟื่องฟู

ทั้งนี้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ยังนำมาซึ่งประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มพลาสติก เห็นได้จากลูกพี่ลูกน้อง <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/tseng-cheng-sing-ai/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=39d9aceb169f">Tseng Cheng และ Tseng Sing-ai</a> จาก Chang Chun Group กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านปิโตรเคมีและพลาสติก ซึ่งเพิ่งเข้าจดทะเบียนร่วมกันเป็นครั้งแรก ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 17 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกันอยู่ที่ 2.65 พันล้านเหรียญ

ด้าน <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/quintin-wu/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=4b29f9b53002">Quintin Wu</a> จาก USI และ Asia Polymer ผู้ผลิตเม็ดพลาสติก เข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีเป็นครั้งแรกที่อันดับ 47 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 840 ล้านเหรียญ

อย่างไรก็ดี ในจำนวนนี้มี 9 มหาเศรษฐีผู้มีความมั่งคั่งลดลง ได้แก่ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/tony-chen/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=250a6a0d6db1">Tony Chen</a> และ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/scott-lin/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=4feaab0e7bb8">Scott Lin</a> ผู้ร่วมก่อตั้ง Largan Precision ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่หุ้นในบริษัทผู้ผลิตเลนส์ร่วงลง เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei Technologies ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่

เช่นเดียวกับ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/wu-li-gann/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=5e3afb946875">Wu Li-gann</a> ที่มีทรัพย์สินลดลงร้อยละ 27 เนื่องจาก WUS Printed Circuit ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ได้รับความเดือดร้อนจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัวลงในภาพรวม

ขณะที่ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/huang-chung-sheng-1/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=a0b41dc16c72">Huang Chung Sheng</a> จาก Yechiu Metal Recycling กลับเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีในอันดับที่ 49 ด้วยทรัพย์สิน 810 ล้านเหรียญ กลับมีอีก 3 รายที่หลุดจากทำเนียบในปีนี้ไป ได้แก่ Chen Wu-kang จาก Chlitina บริษัทเครื่องสำอาง และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Tsai Tien-tsan และ Lin Chang Su-O 

พบกับ 10 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2021 ซึ่งได้รับการประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2021 โดยในปีนี้ใช้เกณฑ์การจัดอันดับที่ 740 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 590 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-45026 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/1.jpg" alt="มหาเศรษฐีไต้หวัน" width="416" height="416" />

อันดับ 1

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/zhang-congyuan/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=34347d8940a4">Zhang Congyuan และครอบครัว</a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 1.38 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Huali Industrial

<img class="alignnone wp-image-45027 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/2.jpg" alt="มหาเศรษฐีไต้หวัน" width="416" height="416" />

อันดับ 2

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/tsai-hong-tu-cheng-ta/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=4d3e9b8a5614">Tsai Hong-tu และ Cheng-ta </a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 9.2 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Cathay Financial Holding

<img class="alignnone wp-image-45028 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/3.jpg" alt="มหาเศรษฐีไต้หวัน" width="416" height="416" />

อันดับ 3 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/daniel-richard-tsai/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=3e25be516e34">Daniel และ Richard Tsai</a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 7.9 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Fubon Financial

<img class="alignnone wp-image-45029 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/4.jpg" alt="มหาเศรษฐีไต้หวัน" width="416" height="416" />

อันดับ 4 

Wei Ing-chou, Ying-chiao, Yin-chun และ Yin-heng

ทรัพย์สินสุทธิ: 7.8 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Tingyi

<img class="alignnone size-full wp-image-45030" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/5.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 5 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/jason-richard-chang/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=1b5826bd20a2">Jason และ Richard Chang</a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 7.2 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ASE

<img class="alignnone size-full wp-image-45031" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/6.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 6 

Terry Gou

ทรัพย์สินสุทธิ: 7.1 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Hon Hai Precision

<img class="alignnone size-full wp-image-45032" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/7.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 7 

Tsai Eng-meng

ทรัพย์สินสุทธิ: 6.1 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Want Want China

<img class="alignnone size-full wp-image-45033" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/8.jpg" alt="" width="415" height="416" />

อันดับ 8 

<a href="https://www.forbes.com/profile/barry-lam/?list=taiwan-billionaires&amp;sh=7bfe193f4990">Barry Lam</a>

ทรัพย์สินสุทธิ: 5.8 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Quanta Computer

<img class="alignnone size-full wp-image-45034" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/9.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 9

Pierre Chen

ทรัพย์สินสุทธิ: 5 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Yageo

<img class="alignnone size-full wp-image-45026" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/1.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับ 10

Lin Shu-hong 

ทรัพย์สินสุทธิ: 4.8 พันล้านเหรียญ

แหล่งที่มาทรัพย์สิน: Chang Chun Group

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Taiwan’s 50 Richest 2021: Buoyed By An Export Boom, Fortunes Soar Amid The Pandemic โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม:<a href="https://forbesthailand.com/world/asia/มหาเศรษฐีญี่ปุ่น-ประจำป.html"> การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่น ประจำปี 2021</a>

การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2021

<h2>Andre Koo มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดตระกูลหนึ่งในไต้หวัน พวกเขาสั่งสมความมั่งคั่งมาตั้งแต่ศตวรรษก่อน</h2>
&nbsp;

<figure><img class="wp-image-39290 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Koo-Hsien-jung.jpg" alt="" width="416" height="416" /><figcaption> Koo Hsien-jung</figcaption></figure>

เริ่มต้นจาก Koo Hsien-jung ปู่ทวดของ Koo ชาวไต้หวันคนแรกที่กลายมาเป็นสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่นในช่วงที่ไต้หวันตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น Koo ได้รับเอกสิทธิ์ในการผูกขาดสินค้าโภคภัณฑ์จากรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงเกลือ น้ำตาล และฝิ่น เขานำผลกำไรที่ได้มาไปสร้างธุรกิจของกลุ่ม Koo ที่ต่อมาขยายไปยังธุรกิจปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี การผลิต อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และบริการทางการเงิน

&nbsp;

<figure><img class="wp-image-39292 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Koo-Chen-Fu.jpg" alt="" width="416" height="416" /><figcaption> Chiang Kai-shek</figcaption></figure>

ตระกูล Koo ยังเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องหลังจาก Chiang Kai-shek เข้าปกครองไต้หวัน Yue-fu ลูกชายคนโตของ Hsien-jung เสียชีวิตในปี 1936 ทำให้ Chen-fu ลูกชายคนรองขึ้นกุมบังเหียนเมื่อผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเสียชีวิตลงในปีต่อมา Chen-fu สานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ Chiang ขณะที่ภรรยาของเขา Cecilia เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของมาดาม Chiang เขายังมีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบจีน-ไต้หวันให้อบอุ่นขึ้น

&nbsp;

<figure><img class="wp-image-39294 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Jeffrey-Koo-Sr..jpg" alt="" width="416" height="416" /><figcaption> Jeffrey Koo Sr.</figcaption></figure>

ในช่วงทศวรรษที่ 1950 ลูกชายคนเดียวของ Yue-fu คือ Jeffrey Sr. พ่อของ Andre เริ่มไปช่วยงาน Chen-fu ลุงของเขาในการบริหารธุรกิจของกลุ่ม Koo หลังจากสร้างธุรกิจที่ต่อมาได้กลายมาเป็นธนาคาร CTBC ในปี 1966 และ Chailease ในปี 1977 พวกเขาร่วมกันก่อตั้ง KGI Securities ธุรกิจตั้งต้นของ China Development Financial Holding ในปี 1944 Jeffrey Sr. นำเสนอผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตแก่ชาวไต้หวันเป็นครั้งแรกตลอดจนสานต่องานในการส่งเสริมความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบของ Chen-fu ก่อนจะเสียชีวิตในปี 2012

&nbsp;

ภาพ: CHEN-FU: CHERYL SHERIDAN BLACKSTAR PHOTOS/NEWSCOM

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:  <a href="https://forbesthailand.com/world/asia/chailease-holdings-%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1.html">CHAILEASE HOLDING” ธุรกิจลีสซิ่งแถวหลัง ก้าวผงาดขึ้นในเอเชีย</a>

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/c1b10307-7b9f-445d-899f-199dae2440b8/november-2020">คลิกอ่านฉบับเต็มบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-38159 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63-.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63-.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--780x1024.jpg 780w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63-.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63-.jpg 2400w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--768x1008.jpg 768w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/EDIT-COVER-90-NOVEMBER-20-10-63--780x1024.jpg 780w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

ย้อนรอยความมั่งคั่งรุ่งเรืองของคนตระกูล Koo ตระกูลของ Andre Koo มหาเศรษฐีแห่งไต้หวัน

<h2>10 มหาเศรษฐีจากทั่วทุกอุตสาหกรรมของไต้หวันที่ปรากฏอยู่ในบทความนี้ทำให้เราประจักษ์ว่า แม้ไต้หวันจะมีประชากรเพียงแค่ 23 ล้านคนแต่ก็ติดอันดับยักษ์ใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจของโลก จาก GDP ประชากรไต้หวันมีรายได้ต่อหัวคิดเป็น 22,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งมากกว่าประชากรจีนคู่แข่งสำคัญที่อยู่ห่างออกไปแค่เพียงช่องแคบกั้นถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียว</h2>
<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/e7fbee2701ef51d04af97b367e229f4f.jpg" alt="" width="416" height="416" />
1. DANIEL และ RICHARD TSAI อายุ: 61 และ 60 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1 หมื่นล้านเหรียญ
fubon financial
อุตสาหกรรมการเงิน

<img style="width: 416px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/67f5a10738b37fa978b955be0cb13c2c.jpg" alt="" />
2. TERRY GOU อายุ: 66 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 9.5 พันล้านเหรียญ
hon hai precision
ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

<img style="width: 416px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/58edf1010e5a19c7d0b4151f0db8ca95.jpg" alt="" />
3. TSAI HONG-TU และ ครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.2 พันล้านเหรียญ
cathay financial
อุตสาหกรรมการเงิน

<img style="width: 415px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/1d725cda742913219143c3e2e24dafea.jpg" alt="" />
4. TSAI ENG-MENG อายุ: 60 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 6 พันล้านเหรียญ
want want china
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
<img style="width: 416px; height: 415px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/ddc4b40f1209096521e28eb0f00f2f80.jpg" alt="" />
5. LIN YU-LING
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.6 พันล้านเหรียญ
hong tai group
อสังหาริมทรัพย์
อายุ: 80 ปี

<img style="width: 416px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/dd0cc5e9868af519f20518e32cc39570.jpg" alt="" />
6. ตระกูล WANG
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.4 พันล้านเหรียญ
formosa plastics group
อุตสาหกรรมพลาสติก

<img style="width: 415px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/e31d7a17ff05a16e4979fc8560431f51.jpg" alt="" />
7. WEI ING-CHOU และ ครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.3 พันล้านเหรียญ
tingyi
อุตสาหกรรมอาหาร

<img style="width: 415px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/61168ead5ecc8a6823aba42b5d7517dd.jpg" alt="" />
8. BARRY LAM อายุ: 68 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 4.2 พันล้านเหรียญ
Quanta computer
ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

<img style="width: 415px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/0c0cfc1a40d525c1b869820d5a3acb37.jpg" alt="" />
9. JASON และ RICHARD CHANG
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ JASON: 2.9 พันล้านเหรียญ อายุ: 73 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ RICHARD: 1.1 พันล้านเหรียญ อายุ: 70 ปี
Ase
ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

<img style="width: 415px; height: 416px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/7cc0f30c088d5f89fbe8880ad6cf148e.jpg" alt="" />
10. LUO JYE อายุ: 91 ปี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.8 พันล้านเหรียญ
cst
ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์

<hr />

<a href="https://goo.gl/kcoQQx">ติดตามบทความทางด้านธุรกิจได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ ตุลาคม 2560 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://goo.gl/kcoQQx"><img style="width: 250px; height: 328px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/25a9e33fc0feeb3390d34e3f2998eb57.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events