The Balvenie Fifty หนึ่งในคอลเลกชั่นที่เก่าแก่ที่สุดของแบรนด์ ที่สะท้อนเรื่องราวแห่งความประณีตและความคราฟต์ของ The Balvenie อย่างแท้จริง กำลังเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 125 ชิ้นทั่วโลกต่อปี <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/vQBAenYT58zLnZkxW4Qi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="vQBAenYT58zLnZkxW4Qi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี กับ The Balvenie Fifty Collectionเดอะ บัลเวนี (The Balvenie) หนึ่งในแบรนด์วิสกี้ระดับโลกจากสกอตแลนด์ กำลังเฉลิมฉลองการเดินทางที่ยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยการเปิดตัว The Balvenie Fifty Collection คอลเลกชั่นสุดพิเศษที่สะท้อนถึงความทุ่มเทในศิลปะการผลิตวิสกี้ที่เปี่ยมด้วยความพิถีพิถันและคุณภาพไร้ที่ติ คอลเลกชั่นนี้ถือเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของแบรนด์ ซึ่งผลิตขึ้นเพียง 125 ขวดต่อรุ่น ในแต่ละปีเท่านั้น การสร้างสรรค์นี้สะท้อนถึงความตั้งใจในการส่งต่อคุณภาพและความใส่ใจในทุกรายละเอียดของวิสกี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแบรนด์นี้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/bYfL9z3GSttd15crojbq.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="bYfL9z3GSttd15crojbq.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/97yMemujc91tC5zfBYgr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="97yMemujc91tC5zfBYgr.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​​​5 ความพิถีพิถันของ The Balvenie: หลักฐานแห่งศิลปะและคุณภาพสิ่งที่ทำให้ The Balvenie แตกต่างจากวิสกี้แบรนด์อื่นๆ คือการมุ่งมั่นที่จะรักษากระบวนการผลิตดั้งเดิมผ่านการใช้ 5 ความพิถีพิถันอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยืนยันถึงความทุ่มเทในคุณภาพและประวัติศาสตร์อันยาวนาน​1. การปลูกข้าวบาร์เลย์: The Balvenie ปลูกข้าวบาร์เลย์เองภายในฟาร์มของแบรนด์ เพื่อควบคุมคุณภาพของส่วนผสมหลักที่ใช้ในการผลิตวิสกี้ ​2. การมอลต์: กระบวนการมอลต์ของ The Balvenie ทำด้วยมือบนมอลต์ฟลอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่ยังคงรักษากระบวนการนี้ไว้ 3. การ Mashing: ด้วยความเชี่ยวชาญในการ Mashing ของ The Balvenie สามารถสร้างรสชาติที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยมิติที่น่าหลงไหล ​4. การกลั่นด้วยหม้อทองแดง: กระบวนการกลั่นด้วยหม้อทองแดงช่วยให้วิสกี้ได้รับคุณภาพที่ดีที่สุดจากการกลั่นทุกครั้ง ​5. การดูแลถังไม้: การเลือกและดูแลถังไม้โอ๊คอย่างพิถีพิถันเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของวิสกี้จาก The Balvenie ​5 หัวใจสำคัญเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่กระบวนการผลิต แต่เป็นศิลปะที่มีความรู้ ความชำนาญ และความรักที่เต็มเปี่ยม ซึ่งถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้วิสกี้แต่ละขวดของ The Balvenie มีคุณค่าและความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/F8GbEwpJSmaNLQJedfY1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="F8GbEwpJSmaNLQJedfY1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ​​ยุคใหม่ของ The Balvenie: เคลซีย์ แม็คเคคนี่ – มอลต์มาสเตอร์คนใหม่ปีนี้ยังเป็นปีที่สำคัญสำหรับ The Balvenie จากการแต่งตั้ง เคลซีย์ แม็คเคคนี่ ในการดำรงตำแหน่ง มอลต์มาสเตอร์ ถือเป็นการต่อยอดจากการทำงานของ เดวิด ซี. สจ๊วร์ต มอลต์มาสเตอร์ผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปี เคลซีย์นำเอาความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เข้ามาร่วมเสริมสร้างประสบการณ์การผลิตวิสกี้ของเดอะ บัลเวนีให้ยิ่งทวีความสมบูรณ์แบบ ด้วยการสานต่อมรดกแห่งคุณภาพและศิลปะการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ การแต่งตั้งเคลซีย์แม็คเคคนี่เป็นมอลต์มาสเตอร์คนใหม่ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำการต่อการส่งต่อความรู้จากรุ่นสู่รุ่น แต่ยังเป็นการประกาศถึงการเติบโตและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์วิสกี้ที่ดีที่สุดในทุกๆ ยุคสมัย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/p2Tp1AuPZ5Ds1xHDYbMv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="p2Tp1AuPZ5Ds1xHDYbMv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> ​​The Balvenie Fifty Collection: ความพิเศษและความหายากThe Balvenie Fifty Collection เป็นการเปิดตัวคอลเลกชั่นวิสกี้ที่หายากที่สุดในโลก โดยผลิตออกมาเพียง 125 ขวดต่อรุ่น สำหรับทั่วโลกในแต่ละปี คอลเลกชั่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งความสำเร็จของแบรนด์ แต่ยังเป็นการรักษามาตรฐานสูงสุดในการผลิตวิสกี้แต่ละขวดที่มีรสชาติลึกซึ้งและสมบูรณ์แบบ การเปิดตัวครั้งแรกของรุ่นแรกจัดขึ้นที่ห้างฮาร์รอดส์ในเดือนสิงหาคม 2024 และคอลเลกชั่นรุ่นถัดไปจะเปิดตัวในปี 2025 และ 2026 ตามลำดับ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/MitHiSgjHJSUdDeBq1oF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="MitHiSgjHJSUdDeBq1oF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/eqi9cAmDscgx3ipb4dBm.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="eqi9cAmDscgx3ipb4dBm.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div> ​โดยงานเปิดตัวสำหรับประเทศไทยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้พาแขกคนพิเศษที่มาร่วมดินเนอร์ย้อนรำลึกถึงเรื่องราวความเป็นมาอันน่าสนใจและน่าหลงใหลของแบรนด์ที่กาลเวลาเป็นผู้รังสรรค์ โดยมี Jyri Pylkkänen มอลต์แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับบริษัท William Grant &amp; Sons ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ อย่างอบอุ่น พร้อมยกระดับช่วงเวลาอันแสนพิเศษนี้ด้วยมื้ออาหารชั้นเลิศรังสรรค์โดย เชฟต้อง จาก Monster by Tong เพื่อเฉลิมฉลองครึ่งศตวรรษแห่งความสำเร็จกับ 5 เหตุการณ์สำคัญของ The Balvenie ได้แก่ ก้าวแรกด้วยโรงกลั่นสเปย์ไซด์ ในปี 1970 ก้าวต่อมาในปี 1980 ที่ได้ค้นพบถังบ่มที่เป็นเอกลักษณ์ จนในปี 1990 ผู้เชี่ยวชาญการผลิตวิสกี้ได้ส่งต่อองค์ความรู้และทักษะด้านหัตถศิลป์จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้แบรนด์ยังคงคุณค่าและคุณภาพที่โดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน และเริ่มการเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ ที่รวมความล้ำลึกของรสชาติและความพิถีพิถันในทุกขวดในปี 2000 จนมาถึงก้าวสุดท้ายกับเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี เพื่อเดินหน้าสู่อนาคตด้วยการเฉลิมฉลองครบรอบครึ่งศตวรรษ กับ The Balvenie Fifty Collection เพื่อเป็นการยกย่องการรักษาคุณภาพและความใส่ใจในรายละเอียดของการกลั่นวิสกี้ที่สืบสานมายาวนาน The Balvenie Fifty First Edition มีเพียงจำนวนจำกัด 125 ขวดทั่วโลก โดยรุ่นที่สองและสามจะเปิดตัวในปี 2025 และ 2026 <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/m5DXEsX47WvwhwHodbJb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="m5DXEsX47WvwhwHodbJb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="7"></figure></div>​ การเดินหน้าสู่อนาคตของ The Balvenieแม้ว่า The Balvenie จะเฉลิมฉลองความสำเร็จในอดีต แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งต่อความยิ่งใหญ่ในอนาคต โดยเคลซีย์ แม็คเคคนี่ มอลต์มาสเตอร์คนใหม่จะยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำแห่งศิลปะและความพิถีพิถัน พร้อมทั้งพัฒนาและสร้างสรรค์วิสกี้ที่ดีที่สุดให้กับผู้คนที่รักในวิสกี้ทั่วโลก และ The Balvenie Fifty Collection ไม่ใช่แค่เพียงวิสกี้ที่ล้ำค่าหายาก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศิลปะการรังสรรค์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และเป็นของสะสมที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสะสมค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Balvenie และคอลเลกชั่นสุดพิเศษของเราได้ที่ <a href="https://thebalvenie.com/" alt="TheBalvenie.com">TheBalvenie.com</a>​​

The Balvenie: ตำนาน 50 ปีแห่งความประณีตและความทุ่มเทอย่างเหนือระดับ

House of Suntory ศาสตร์และศิลป์แห่งผู้บุกเบิกวิสกี้ญี่ปุ่น สู่การบ่มและเบลนด์อย่างดีกำเนิดเป็น Tsukuriwake Series 2024

<h2>ทางใต้ของรัฐ Tennessee ที่ซึ่งวิสกี้เป็นสิ่งที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการเป็นเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจกับการเป็นเครื่องเล่นในสวนสนุก Fawn Weaver ทอดสายตาไปยังโรงกลั่นสุรากึ่งสวนสนุกที่สร้างขึ้นใน Shelbyville เพื่อส่งเสริม Uncle Nearest แบรนด์สุราอายุ 7 ปีของเธอ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่นี่มีทั้งเส้นทางชมประวัติศาสตร์ จุดชิมเครื่องดื่ม 4 แห่ง บาร์ที่ยาวที่สุดในโลก (158 เมตร) สถานที่แสดงดนตรีกลางแจ้ง โรงนาเก่าที่เคยเป็นโรงเลี้ยงม้า ร้านอาหารบาร์บีคิวและซุ้มขายของกินเล่นที่มีของกินท้องถิ่นอย่าง Goo-Goo Cluster หรือ Mountain Dew ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งหมดมีไว้เพื่อแข่งขันกับ Jack Daniel’s ซึ่งเปิดโรงกลั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละถึง 300,000 คน ให้ได้เข้าไปลองลิ้มชิมวิสกี้ในเขตที่ไม่ได้เปิดให้จำหน่ายสุราอย่างเสรี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่นี่จัดว่ามีเรื่องราวประวัติศาสตร์แฝงตัวอยู่ Fawn Weaver ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและซีอีโอเปิดตัวแบรนด์ Uncle Nearest เพื่อเป็นเกียรติแก่ Nearest Green อดีตทาสและนักปรุงวิสกี้คนแรกของ Jack Daniel’s ทว่าชื่อของเขากลับถูกลบเลือนหายไปจากเรื่องราวความเป็นมาของวิสกี้ที่เล่าขานกันมานานหลายทศวรรษ เธอจึงปั้นธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่อโอบรับเสรีภาพที่ Green และคนรุ่นหลังไม่เคยมีโอกาสได้รับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ฉันไม่เชื่อว่าเราจะเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าได้อย่างแท้จริงถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ต้นกำเนิดสิ่งนั้นด้วย เรื่องนี้พิเศษและยิ่งสำคัญมากขึ้นอีกสำหรับบรรดาคนผิวดำ” Weaver วัย 47 ปีในชุดสีแดงจาก Athleta กล่าว “ในสมัยก่อนเรามักเน้นเช่ามากกว่าถือครองทรัพย์สิน เน้นเป็นตัวแทน คอยสร้างอะไรต่อมิอะไรให้คนอื่นแทนที่จะสร้างเป็นของตัวเอง”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มาคราวนี้ Weaver จึงลงมือสร้างอย่างเต็มกำลัง หลังเปิดตัวเมื่อปี 2017 ยอดขายของ Uncle Nearest เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวตั้งแต่ปี 2021 และปีนี้น่าจะทำรายได้ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิถึง 20% ซึ่งถ้าอ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิจัยด้านสุรากลั่น IWSR นับว่า Uncle Nearest เป็นแบรนด์วิสกี้อเมริกันที่โตเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขับเคลื่อนธุรกิจที่ Forbes ประเมินไว้อย่างต่ำๆ ว่า น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1.1 พันล้านเหรียญ​&nbsp; &nbsp; หุ้นบริษัทที่ Weaver ถืออยู่ในมือ 40% รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ทำให้เธอมีทรัพย์สินรวมกว่า 480 ล้านเหรียญ มากพอที่จะทำให้เธอติดอันดับที่ 68 ในทำเนียบผู้หญิงสร้างเนื้อสร้างตัวที่ร่ำรวยที่สุดของ Forbes และยังเป็นเจ้าของแบรนด์วิสกี้ซึ่งมีคนผิวดำเป็นเจ้าของและบริหารงานที่ขายดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เบื้องหลังการสร้างธุรกิจ Uncle Nearest การให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าของทำให้ Weaver ตัดสินใจกีดกันการลงทุนจากบรรดาธุรกิจร่วมลงทุนและกองทุนต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย ทำให้มีผู้ถือหุ้นมากถึง 163 รายที่ถือหุ้นกันมูลค่าคนละ 500,000 เหรียญ และคอยจัดการแบ่งสรรปันส่วนการบริหารกิจการและการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ถือหุ้นเกิน 2.3% ส่วนพนักงาน (ที่บางคนเป็นลูกหลานของ Nearest Green) ถือหุ้นได้ไม่เกิน 3% <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" alt="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/SCTbZJC21FYSu5Ke5sFV.jpg" alt="" data-image-link="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SCTbZJC21FYSu5Ke5sFV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></a></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงสร้างการบริหารงานแบบกระจายอำนาจนี้ช่วยให้ Weaver ที่ถือหุ้น 40% ยังควบคุมกิจการได้ เพราะเมื่อรวมกับสัดส่วนหุ้นของ Keith สามี เธอจึงมีสิทธิ์ออกเสียงในการลงมติต่างๆ ถึง 80% และถึงตอนนี้ทางบริษัทยังมีหนี้ธนาคารอยู่อีกประมาณ 106 ล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การปิดกั้นนักลงทุนกลุ่มสถาบันไม่ได้ทำให้บรรดานักลงทุนผู้อยู่เบื้องหลังสถาบันการเงินขยาดบริษัทนี้แต่อย่างใด Byron Trott เศรษฐีพันล้านเจ้าของธนาคารพาณิชย์ BDT &amp; MST ที่ไม่ได้ร่วมลงทุนถึงกับยอมควักกระเป๋าลงขันเป็นการส่วนตัว เขากล่าวว่า “Fawn มีศักยภาพความเป็นผู้นำที่โดดเด่น มีวิสัยทัศน์ยาวไกล และยังรู้จักปรับตัวรับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของผู้ก่อตั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็นเพราะ Weaver ไม่ยอมเปิดรับการลงทุนจากรายใหญ่หรือการปิดกั้นนี้เองที่กลับยิ่งทำให้น่าดึงดูดใจ บรรดาที่ปรึกษาการลงทุนต่างพากันติดต่อไปหาเธออยู่เรื่อยๆ Jason Coppersmith ที่ปรึกษาการลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจาก Goldman Sachs กล่าวไว้ว่า แบรนด์สุรากลั่นหลายเจ้า “มักจะมอดดับไปในที่สุด” เมื่อเติบโตถึงจุดหนึ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ในทางกลับกันวิธีที่ Weaver ใช้คือการวางรากฐานไว้เพื่อระยะยาว เธอได้ขึ้นแท่นเป็นคนผิวดำที่เป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุดใน Tennessee อย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากที่ตั้งของ Uncle Nearest ที่เธอเป็นเจ้าของ (ร่วมกับ Keith) แล้ว ไม่ไกลนักเธอมีที่ดินอีก 148 เฮกตาร์ ส่วนใน Shelbyville เธอถือกรรมสิทธิ์พื้นที่ใจกลางเมืองส่วนหนึ่ง รวมถึงอาคารสไตล์ Georgian ซึ่งเป็นที่ตั้งของสาขาธนาคาร U.S. Bank และสำนักงานใหญ่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Weaver ยังพาผู้สื่อข่าวของ Forbes ชมโรงปั่นฝ้ายเก่าขนาด 35,210 ตารางเมตรที่กำลังจะประกาศขาย ซึ่งที่นี่เคยเป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่คนผิวดำจะหางานทำได้ในยุคหลังการประกาศเลิกทาส หลังจากการชมสถานที่ซึ่งทำให้เธอมองเห็นภาพในอนาคตว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยถังบ่มสุรา สายพานการบรรจุขวด และพื้นที่สำหรับสำนักงานฝ่ายขาย Weaver จึงตกลงซื้อโรงปั่นฝ้ายเก่านี้กับตัวแทนขายอสังหาฯ ในราคา 2.3 ล้านเหรียญก่อนที่จะได้ประกาศขายเสียด้วยซ้ำ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/america/keiser-golf-aug-2024" alt="Mike Keiser ในวัย 79 ปีกับการปลุกปั้น ‘สนามกอล์ฟที่ตามหา’">Mike Keiser ในวัย 79 ปีกับการปลุกปั้น ‘สนามกอล์ฟที่ตามหา’</a>​​<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" alt="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/N91fHcgi1JMckSiYnQWF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="N91fHcgi1JMckSiYnQWF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="1000,1313" data-image-link="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/42072a0b-6d32-48be-a4b9-e32dd05c77f4/august-2024" style="width: 300px; height: auto;" data-index="1"></a></figure></div>

Fawn Weaver สานต่อเรื่องราวแห่งชาติพันธุ์ ชวนระลึกรสสุราปี 1856

THE BALVENIE แบรนด์สก็อตวิสกี้ซิงเกิ้ลมอลต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต และคุณภาพระดับโลก อวดสุดยอดวิสกี้งานคราฟต์ THE BALVENIE 60 ซึ่งเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ David C. Stewart มือบ่มวิสกี้ระดับตำนาน&nbsp;วางจำหน่ายทั่วโลกให้นักดื่มนักสะสมลิ้มลองและครอบครองเพียง 71 ขวดเท่านั้น THE BALVENIE 60 เป็นวิสกี้ที่ใช้ระยะเวลาในการหมักยาวนานกว่า 60 ปี จึงถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุดที่วางตลาดในวันนี้ โดยแบรนด์ได้ทำการเปิดตัวในปีที่ผ่านมาเพื่อฉลองครบรอบประสบการณ์บ่มวิสกี้อันยาวนานกว่า 60 ปีของ David มอลต์มาสเตอร์ระดับตำนานที่เทคนิคการบ่มวิสกี้ของเขายังคงทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมวิสกี้ในปัจจุบัน เป็นตำนานวิสกี้ที่ยังมีชีวิตอยู่และคลุกคลีกับวิสกี้นานที่สุดในประวัติศาสตร์​​THE BALVENIE 60 บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายงานศิลปะ ซึ่งทำด้วยแก้ว ทอง และทองเหลือง โหลแก้วที่ครอบขวดได้รับการออกแบบให้เป็นเลเยอร์ เพื่อสะท้อนถึงการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานของ David ตัวขวดยังเป็นขวดแรกที่มีลายเซ็นของเขาและ Kelsey McKechnie มอลต์มาสเตอร์คนปัจจุบันของ THE BALVENIE ซึ่งเป็นมอลต์มาสเตอร์หญิงคนแรกของแบรนด์อีกด้วย <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/xT1Jop97669UVeCrkATa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xT1Jop97669UVeCrkATa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ รสสัมผัสของ THE BALVENIE 60 ซึ่งเป็นวิสกี้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 42.4% จะได้กลิ่นของหนังและไม้โอ๊คที่เข้มข้น ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะสำหรับวิสกี้ยุคนี้ ละมุนไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่แตะจมูก และรสชาติที่อุดมไปด้วยท๊อฟฟี่และไม้โอ๊คที่กลิ่นอบอวลเมื่อได้ลิ้มลอง วิสกี้ตัวนี้ได้รับการบ่มในถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่ปริมาณ 250 ลิตร ซึ่งเป็นถังบ่มเดียวและได้รับการบรรจุในปี 1962 ซึ่งเป็นปีที่ David มอลต์มาสเตอร์ชาวสก็อตเริ่มต้นทำงานในโรงกลั่นของ THE BALVENIE​ย้อนกลับไปในปีนั้น David ในวัย 17 ปี เริ่มทำงานในตำแหน่งเสมียนดูแลคลังสินค้าวิสกี้ให้กับ THE BALVENIE ในปีเดียวกันนั้น คอลเลคชันถังไม้โอ๊คยุโรปขนาดใหญ่แบบดั้งเดิมเริ่มนำมาใช้ผลิตวิสกี้ โดยต่อมาในปี 1974 David ในวัยเพียง 29 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมอลต์มาสเตอร์ของ THE BALVENIE คนที่ 5 ของแบรนด์ และในช่วงทศวรรษที่ 1980 เขาได้เริ่มทดลองบ่มวิสกี้เป็นครั้งแรก ซึ่ง 10 ปีต่อมาหลังจากสั่งสมประสบการณ์ในการบ่มวิสกี้ เขาได้ทดลองบ่มวิสกี้ในหลากหลายรูปแบบและได้รังสรรค์วิสกี้ 2 ตัวที่ได้สร้างชื่อให้กับเขา ได้แก่ DoubleWood และ Portwood 21 ซึ่งเป็นวิสกี้ตัวโปรดของเขา ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับโลกในทศวรรษที่สี่นี้เอง ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/FkXv1bwqCeuPCvyD6Kd4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="FkXv1bwqCeuPCvyD6Kd4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> ​​ในช่วงทศวรรษที่ห้าของ David มีการฉลองครบรอบ 50 ปีที่เขาร่วมงานกับ THE BALVENIE และยังเป็นครั้งแรกๆ ที่วิสกี้อายุ 30 ปี 40 ปี และ 50 ปีได้ถูกนำมาบรรจุขวด นับเป็นการทดลองและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องของเขา และในปี 2016 เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษหรือ Most Excellent Order of the British Empire (MBE) จากควีนเอลิซาเบธที่ 2 ในฐานะผู้อุทิศตนและสร้างคุณูปการให้กับวงการสก็อตวิสกี้มาเกินครึ่งศตวรรษ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/zLjqQSFpsVXvvAipeEBA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="zLjqQSFpsVXvvAipeEBA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"><figcaption><div>​David C. Stewart</div></figcaption></figure></div>​ปัจจุบัน David เป็นทูตกิตติมศักดิ์และอดีตมอลต์มาสเตอร์ของ THE BALVENIE เทคนิคในการบ่มวิสกี้ที่เขาได้บุกเบิกส่งอิทธิพลอย่างมากต่อการผลิตวิสกี้ในทุกวันนี้ เขาได้สร้างชื่อจากผลงานที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคการบ่มวิสกี้แบบ Cask finishing หรือการบ่มวิสกี้หลายปีในถังหนึ่งแล้วมาเปลี่ยนถังในช่วงสุดท้ายของการบ่มอีกครั้งเพื่อสร้างรสชาติใหม่ให้กับวิสกี้ ซึ่งเป็นเทคนิคการบ่มวิสกี้ที่ได้สร้างชื่อให้กับ THE BALVENIE และเป็นวิธีที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงสก็อตวิสกี้ในทุกวันนี้​THE BALVENIE เป็นโรงกลั่นวิสกี้แห่งเดียวที่ตั้งอยู่ที่ Scottish Highlands หรือที่ราบสูงสก็อต โดยตั้งอยู่ที่เมือง Dufftown ใน Speyside ซึ่งเป็นแหล่งผลิตซิงเกิ้ลมอลต์ระดับแถวหน้าของสก็อตแลนด์ ถือเป็นโรงกลั่นที่มีความเชี่ยวชาญระดับงานคราฟต์ (Craftsmaship) โดยคราฟต์กันตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงการบ่ม ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/ymLzFzCCMvZGKNkGpe2M.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ymLzFzCCMvZGKNkGpe2M.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ​​เริ่มจาก Home grown barley ไร่บาร์เลย์ที่ปลูกเองเพื่อทำมอลต์ โดยสืบสานการเพาะปลูกแบบที่เป็นเอกลักษณ์จากรุ่นสู่รุ่น​Cooperage หรือการทำถังบ่มวิสกี้ ไม่ว่าจะซ่อมหรือสร้างที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าลมและน้ำไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปในถังได้​Malting floors หรือวิธีการทำมอลต์แบบโบราณ โดยหลังจากแช่ข้าวบาร์เลย์ในน้ำแร่ที่มาจากเนินเขา ก็จะเกลี่ยเมล็ดพืชให้ทั่วพื้นในโรงมอลต์และพลิกหรือไถมอลต์ทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งจะได้มอลต์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยวิธีการทำมอลต์แบบดั้งเดิมนี้เหลือโรงกลั่นเพียงไม่กี่รายในสก็อตแลนด์ที่ยังใช้วิธีนี้อยู่ ​Copper stills หรือการกลั่นด้วยหม้อทองแดง ซึ่งหม้อกลั่นของ THE BALVENIE มีรูปทรงที่ทำให้วิสกี้มีรสชาติเหมือนน้ำผึ้ง จึงเป็นที่มาของสาเหตุที่ว่า ทำไมทักษะการทำหม้อทองแดงจึงสำคัญต่อการรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ THE BALVENIE ​สุดท้าย คือ Malt master ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการผลิตวิสกี้ทั้งหมด โดยใช้วิธีดมกลิ่นที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เพื่อทำให้คงคุณภาพของวิสกี้ของ THE BALVENIE ซึ่งมอลต์มาสเตอร์จะใช้วิธีดมเก็บตัวอย่าง เพื่อให้ได้กลิ่นที่สมดุลและกลิ่นที่เป็นลักษณะเฉพาะในการรังสรรค์ซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้ที่ดีที่สุด โดยทั้ง 5 ส่วนนี้เป็นสิ่งที่แบรนด์ยังคงยึดมั่นและดำเนินงานมาตลอดกว่า 130 ปี ​THE BALVENIE ก่อตั้งโดย William Grant ในปี 1892 หลังจากสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานในโรงกลั่น โดยนำคฤหาสถ์ Balvanie New House ที่ถูกทิ้งร้างมาปรับปรุงเป็นโรงกลั่น เริ่มผลิตวิสกี้ในปี 1893 ต่อมาหลังจากเขาจากไปในปี 1923 John ลูกชายของเขาได้สืบทอดธุรกิจและขยายกิจการโรงกลั่น ผลิตวิสกี้ส่งขายไปยังทั่วโลก โดยวิธีการทำมอลต์แบบ Malting floor ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้เริ่มนำมาใช้ในปี 1929 เป็นต้นมาจวบจนถึงปัจจุบัน

THE BALVENIE 60 คราฟต์วิสกี้จากมอลต์มาสเตอร์ระดับตำนาน David C. Stewart

<h2>3 กูรู จากววงการวิสกี้  รถสปอร์ต และเครื่องประดับ ให้คำแนะนำในการ "ซื้อ ถือ ขาย" เพื่อการสะสมและการลงทุน 
</h2>
&nbsp;

Japanese Whisky

Fred Minnick

<img class="alignnone size-full wp-image-62647" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/4.jpg" alt="" width="147" height="248" />

นักวิจารณ์วิสกี้และผู้ก่อตั้ง American Spirits Council of Testers เมือง Louisville รัฐ Kentucky

 

ซื้อ
Nikka from the Barrel

กลิ่นรสอันเป็นเอกลักษณ์ของ Nikka (80 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับขนาด 750 มิลลิลิตร) ซึ่งเป็นกลิ่นของบัตเตอร์สกอตช์และรสชาติหวานหอมนั้นถูกปากถูกใจบรรดาผู้ชื่นชอบเหล้าเบอร์เบิน จงรีบหาซื้อทันทีเพื่อให้ได้ครอบครองวิสกี้แห่งอนาคตที่โดดเด่นด้วยกลิ่นรสของไม้โอ๊กอันเป็นสุดยอด

ถือ
Yamazaki 18-Year-Old

เครื่องดื่มที่เป็นขวดโปรดของบรรดานักดื่มวิสกี้เพราะมีความซับซ้อนของรสผลไม้ตระกูลส้มที่พบไม่บ่อยนัก ซึ่งได้มาจากการผสมผสานของไม้โอ๊กจากหลากหลายประเทศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขวดนี้มีสนนราคาไม่เกิน 1,500 เหรียญ หากแต่ความทรงจำที่ได้จากการดื่มด่ำนั้นประเมินค่าไม่ได้

ขาย

Suntory Rolling Stones 50th Anniversary
ความเกี่ยวพันกับคนดังทำให้เหล้าที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดขวดนี้มีราคาปรับเพิ่มขึ้น โดยซื้อขายกันอยู่ที่เกือบ 40,000 เหรียญในปี 2019 หากแต่ความโด่งดังนั้นอยู่ได้ไม่นานและทำให้ราคาขายร่วงมาอยู่ที่ 33,000 เหรียญในปี 2020 จงรีบขายออกในช่วงที่คุณยังทำกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ


Sports Cars
<img class="alignnone size-full wp-image-62645" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/2.jpg" alt="" width="147" height="248" />
Ken Gross
นักเขียน และอดีตผู้อำนวยการของ Petersen Automotive Museum เมือง Hamilton รัฐ Virginia

 

ซื้อ
1954-57 Mercedes-Benz 300 SL Gullwing

<img class="alignnone size-full wp-image-62650" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/Mercedes-Benz-300-SL-Gullwing.jpg" alt="" width="650" height="450" />

รถแกรนด์ทัวร์ริงระดับตำนานรุ่นนี้สามารถทำราคาขายได้มากถึง 1.5 ล้านเหรียญ และสนนราคาดังกล่าวก็ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับประตูปีกนกของตัวรถที่ยกสูงขึ้น จงรีบหาซื้อมาครอบครองในตอนนี้ และรอดูราคาทะยานขึ้นเท่าตัวในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้

ถือ
1988-90 Lamborghini Countach LP5000 Quattrovalvole Anniversary Edition 

<img class="alignnone size-full wp-image-62649" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/Lamborghini-Countach-LP5000.jpg" alt="" width="650" height="450" />

Countach ซึ่งได้รับการปรับโฉมโดย Horacio Pagani และผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 25 ปีของ Lamborghini มีสนนราคาใกล้แตะหลักล้านเหรียญเต็มที โดยถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ทำความเร็วได้สูงที่สุด

ขาย
2005-06 Ford GT

<img class="alignnone size-full wp-image-62648" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/Ford-GT.jpg" alt="" width="650" height="450" />

รถคูเป้เครื่องแรงที่ผลิตออกมาเพียง 4,000 คันรุ่นนี้ปัจจุบันมีสนนราคาประมาณ 500,000 เหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากราคาตั้งต้น หากแต่การพุ่งทะยานของราคากำลังมาถึงทางตัน ขอให้คุณรีบขายก่อนที่กระแสความนิยมจะลดน้อยถอยลง

&nbsp;

Jewelry

<img class="alignnone size-full wp-image-62646" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/3.jpg" alt="" width="147" height="248" />

Catharine Becket
หัวหน้าฝ่ายเครื่องประดับชิ้นงามประจำ Sotheby’s ที่ New York

&nbsp;

ซื้อ
กำไลข้อมือเปี่ยมพลังและร่วมสมัย

<img class="alignnone size-full wp-image-62651" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/กำไร.jpg" alt="" width="650" height="450" />

สร้อยข้อมือที่โดดเด่นด้วยการออกแบบกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากเครื่องประดับสมัยใหม่ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะศิลปะแขนงหนึ่งชิ้นงานที่รังสรรค์โดยศิลปินนักออกแบบเครื่องประดับอย่าง “ทองกรติดปีก” ปี 2021 (29,300 เหรียญ) ซึ่งเป็นผลงานออกแบบของ Lorraine West ชิ้นนี้มีอนาคตสดใสเป็นพิเศษ

&nbsp;

ถือ
เครื่องประดับจากช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 อันแสนประณีต

<img class="alignnone size-full wp-image-62652" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/กำไร2.jpg" alt="" width="650" height="450" />

เครื่องประดับทองคำขาวอันวิจิตรจากช่วงต้นศตวรรษ 2000 ยังไม่อยู่ในกระแสความนิยม ขอให้เก็บรักษาชิ้นงานแสนมีสไตล์เอาไว้จนกว่าจะกลับมาติดตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะสร้อยข้อมือประดับเพชรจากช่วงศตวรรษ 2000 ซึ่งมีสนนราคาอยู่ที่ 27,000 เหรียญชิ้นนี้

&nbsp;

ขาย
กำไลข้อมือเปี่ยมพลังยุควินเทจ

<img class="alignnone size-full wp-image-62653" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/กำไร3.jpg" alt="" width="650" height="450" />

กำไลข้อมือจากช่วงปลายทศวรรษ 1960 จนถึงทศวรรษ 1980 กำลังมีราคาดีในปัจจุบัน ดังนั้น จงรีบขายในช่วงที่กำลังอยู่ในกระแส กำไล Van Cleef &amp; Arpels จากศตวรรษ 1970 ชิ้นนี้มีราคาก่อนเปิดตัวเพิ่มเป็นเท่าตัวอยู่ที่ประมาณ 138,600 เหรียญ

&nbsp;

เรื่อง: BUY, HOLD, SELL โดย: ISABELLORD เรียบเรียง: ริศา ภาพประกอบ: CHRIS LYONS, SAM KERR

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/3NxCiIp">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/3NxCiIp"><img class="lazy alignnone wp-image-62126 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--780x1024.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--768x1008.jpg 768w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--780x1024.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/04/EDIT-COVER-107-16-3-65--768x1008.jpg 768w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" /></a>

"ซื้อ ถือ ขาย" เพื่อการสะสมและการลงทุน

<h2>คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนของหรู ตั้งแต่เกราะยุคเรอเนซองซ์ วิสกี้ชั้นเลิศ รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดอัญมณี ช่วงนี้มีอะไรที่น่า “ซื้อ” “เก็บไว้ก่อน” หรือถึงจังหวะต้อง “ขาย” ออกไปบ้าง</h2>
&nbsp;
<h2 style="text-align: left;">- Armor (เกราะ) -</h2>
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-56713" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Thomas-Del-Mar.jpg" alt="" width="300" height="400" />

Thomas Del Mar 

ผู้อำนวยการ Olympia Auctions และที่ปรึกษาของ Sotheby’s

&nbsp;

- ซื้อ -

<img class="alignnone size-full wp-image-56720" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_099.jpg" alt="" width="416" height="416" />

เกราะยุคเรอเนซองซ์พร้อมการประดับประดา

เกราะชิ้นเยี่ยมอย่างหมวกเกราะ burgonet สมัยกลางศตวรรษที่ 16 ซึ่งรังสรรค์ขึ้นโดยสุดยอดช่างผลิตอาวุธอย่าง Jörg Sorg the Younger แห่งราชสำนัก Hapsburg (160,000 เหรียญสหรัฐฯ ) จะเป็นที่ต้องตาต้องใจบรรดานักสะสมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและผู้ชำนาญการทั่วไปอีกพักใหญ่

&nbsp;

– ถือ –

<img class="alignnone size-full wp-image-56718" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_097_SM.jpg" alt="" width="416" height="416" />

เกราะสมัยศตวรรษที่ 17

พัฒนาการของอาวุธปืนทำให้เกราะในยุคนี้ทำกันโดยมีจุดประสงค์เชิงสัญลักษณ์เสียเป็นส่วนใหญ่ หากแต่การประดับประดาอย่างเต็มขั้นตามที่เห็นจากหมวกเกราะของพลทหารม้า North Italian (45,000 เหรียญ) ชิ้นนี้เริ่มเข้าตานักสะสมรุ่นใหม่

&nbsp;

– ขาย –

<img class="alignnone size-full wp-image-56721" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_100.jpg" alt="" width="416" height="416" />

เกราะแบบผสมสมัยศตวรรษที่ 19

เกราะแบบผสมเป็นการผสานระหว่างชิ้นงานดั้งเดิมกับชิ้นส่วนที่ผ่านการซ่อมแซมจนบังเกิดเป็นความงามวิจิตรและมีราคาสูง นักออกแบบต่างโหยหาเกราะที่เข้าชุดกันอย่างเกราะจากช่างฝีมือชาวเยอรมันที่มีสนนราคา 80,000 เหรียญ ซึ่งบูรณะมาจากเกราะที่ใช้งานจริงในสมัยศตวรรษที่ 16 นี้

&nbsp;
<h2>- Bourbon (วิสกี้) -</h2>
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-56714" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Fred-Minnick.jpg" alt="" width="300" height="400" />

Fred Minnick 

นักวิจารณ์วิสกี้ ผู้เขียนหนังสือ “Bourbon: The Rise, Fall and Rebirth of an American Whiskey”

&nbsp;

- ซื้อ -

Smoke Wagon

เบอร์เบินหายากและมีจำนวนจำกัดจากโรงกลั่นใน Las Vegas ขวดนี้ให้รสชาติที่ซับซ้อนและหลากหลาย รวมถึงมีราคาสูสีกับคู่แข่งอย่าง Pappy Van Winkle ซึ่งจำหน่ายในตลาดรองอยู่ที่ขวดละ 1,000 เหรียญ ปัญหาก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละ ขออวยพรให้คุณโชคดีและหามาครอบครองได้สักขวด

&nbsp;

- ถือ -

Elijah Craig Barrel Proof

เบอร์เบินเข้มข้นที่มีกลิ่นและรสคาราเมลนำขวดนี้ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมอย่างช้าๆ เนื่องจากหาดื่มได้ง่ายและมีราคาที่จับต้องได้เพียงแค่ 65 เหรียญต่อขวดเท่านั้น หากแต่สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า ขอจงอย่าปล่อยให้ผู้เข้าชิงตำแหน่งสุดยอดวิสกี้ประจำปีหลายครั้งหลายคราขวดนี้หลุดมือ

&nbsp;

- ขาย -

Blue Run

คือสุดยอดเบอร์เบินจากเวที San Francisco World Spirits Competition ประจำปี 2021 เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าน้องใหม่ขวดนี้จะมีราคาปรับเพิ่มขึ้นอีก จงขายเบอร์เบินชั้นเลิศที่มีรสชาติของเครมบูเล่และฟัดจ์ที่สนนราคา 600 เหรียญ พร้อมรับกำไรที่เป็นเหมือนลาภลอย

&nbsp;
<h2>- Jewelry (เครื่องประดับ) -</h2>
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-56715" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Catharine-Becket.jpg" alt="" width="300" height="400" />

Catharine Becket 

หัวหน้าฝ่ายอัญมณีคัดพิเศษของ Sotheby’s

&nbsp;

- ซื้อ -

<img class="alignnone size-full wp-image-56726" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_102.jpg" alt="" width="416" height="416" />

เพชรขาว

ตลาดเพชรขาวเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่หลับใหลมาเป็นเวลานานหลายปี โดยเพชรขาวรูปทรง marquee น้ำหนัก 25 กะรัต มีราคากว่า 800,000 เหรียญ ผู้ผลิตอัญมณีรุ่นใหม่อย่าง Emmanuel Tarpin กำลังปลุกตลาดด้วยฝีมือช่างอันไร้ที่ติ และความงดงามวิจิตรเหนือระดับ ถ้าหากคุณกำลังลังเลอยู่จงรีบตัดสินใจซื้อโดยพลัน

&nbsp;

- ถือ -

<img class="alignnone size-full wp-image-56727" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_103.jpg" alt="" width="416" height="416" />

มุกเลี้ยง

ศิลปินดังอย่าง Harry Styles และ Ariana Grande ช่วยทำให้ตลาดมุกเลี้ยงที่อยู่ในภาวะซบเซามาเป็นเวลานานกลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาของสร้อยคอ Bulgari เส้นนี้ทะยานขึ้นเกือบ 4 เท่า จากราคาประเมินก่อนขายซึ่งตั้งไว้ที่ 227,000 เหรียญ

&nbsp;

- ขาย -

<img class="alignnone size-full wp-image-56728" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/FO081721_104.jpg" alt="" width="416" height="416" />

เครื่องประดับวินเทจแบรนด์ Bulgari และ Van Cleef &amp; Arpels

เครื่องประดับทองแบบนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก หากแต่กระแสความนิยมกำลังใกล้จะแตะจุดสูงสุดแล้ว สร้อยคอ Bulgari ปิดการขายที่สนนราคา 240,000 เหรียญ จงรีบขายเปลี่ยนมือเพื่อกลับมาถือเงินสด

&nbsp;

เรื่อง: BUY, HOLD, SELL โดย: CHRISTIAN KREZNAR เรียบเรียง: ริศา 
ภาพประกอบ: CHRIS LYONS ภาพ (ซ้าย): SAM KERR

อ่านเพิ่มเติม:
<ul id="crumbs">
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/news/other/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94-5-%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c-big-data-%e0%b8%9b%e0%b8%b5-65.html">เปิด 5 เมกะเทรนด์ BIG DATA ปี 65</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-digital-commerce-%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b9%82%e0%b8%95.html">สร้าง “DIGITAL COMMERCE” ให้เติบโตอย่างยั่งยืน</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/america/adam-wyden-%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%94%e0%b8%b5-%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9c%e0%b8%a5.html">ADAM WYDEN นักลงทุนปากดี…เพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3nVYPTf">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/3nVYPTf"><img class="lazy alignnone wp-image-53407 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000.jpg" sizes="(max-width: 350px) 100vw, 350px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000-229x300.jpg 229w" alt="" width="350" height="459" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/forbes-november-2021_000-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 350px) 100vw, 350px" /></a>

Buy Hold Sell: คำแนะนำจากกูรู ‘การลงทุนในสินค้า Luxury’:  ซื้อ เพชรขาว แล้วปล่อย เครื่องประดับวินเทจ

<h2>Forbes พูดคุยกับ Emma Walker ถึงประสบการณ์อันยาวนานในวงการวิสกี้ และหนทางสู่การเป็นมาสเตอร์เบลนเดอร์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ 200 ปีของ Johnnie Walker</h2>
<img class="alignnone wp-image-54108" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/1200x769-1024x656.jpg" alt="Emma Walker" width="720" height="461" />

จุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการวิสกี้

“สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียน ฉันรู้ว่าฉันถนัดและสนุกกับการเรียนวิชาเคมี ซึ่งความชอบนี้ได้ส่งผลต่อสาขาวิชาที่เลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และที่นั่นเอง ฉันก็เริ่มชอบวิสกี้และหลงใหลในรสชาติของมัน”

“หลังจากจบปริญญาเอก ฉันก็รับงานเป็นนักเคมีเชิงกระบวนการเหมือนเพื่อนๆ หลายคน แต่ยังคงมีความหลงใหลในรสชาติและความรู้สึกที่อยากทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเคมีวิทยาที่เรียนมา ทว่าในปี 2008 ฉันก็ได้สมัครงานที่ Diageo’s Technical Centre ในเมือง Menstrie ประเทศสก็อตแลนด์ และฉันไม่ได้มองย้อนกลับไปตั้งแต่นั้นมา!”

วิธีสร้างสมดุลระหว่างการรักษาธรรมเนียมและสร้างสรรค์นวัตกรรมของแบรนด์ดัง

“เราทุกคนต่างตระหนักดีถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าทึ่งของ <a style="color: #333333;" href="https://www.googleadservices.com/pagead/aclk?sa=L&amp;ai=DChcSEwivof_xv5z0AhV_k2YCHZUICOkYABAAGgJzbQ&amp;ohost=www.google.com&amp;cid=CAESQeD2b327YWI3cqIE8y9oZNVPlF_JANHEtE1ZrQ-flaxnh-lNSg8qS6fGpuXRrGtBaj9uBkNS6Me2f-wHz2cwQzE6&amp;sig=AOD64_1Z1GWw-GB889OYzz1DxoG4KdHgMw&amp;q&amp;adurl&amp;ved=2ahUKEwj8tfXxv5z0AhUQ6XMBHXsDDOIQ0Qx6BAgCEAE">Johnnie Walker</a> ผู้ผสมวิสกี้ทุกคนในทีมคำนึงถึงบทบาทของตนเองในแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี”

“Johnnie Walker ผู้ก่อตั้งของเราแสวงหาวิสกี้ชั้นเยี่ยมจาก 4 มุมของสก็อตแลนด์เพื่อรังสรรค์สิ่งที่พิเศษจริงๆ สำหรับลูกค้าของเขา และเราก็เป็นผู้ที่สืบทอดสิ่งเหล่านั้นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีนวัตกรรมเป็นส่วนประกอบหลักที่อยู่ในดีเอ็นเอของเราตลอดมา เพราะตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เราก็ไม่เคยอยากหยุดนิ่งเลย เราสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในวิสกี้อยู่เสมอ”

หนทางสู่การเป็นมาสเตอร์เบลนเดอร์ 

“ฉันอยู่ที่ Johnnie Walker Blending Rooms ในสก็อตแลนด์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ผลิตวิสกี้ผู้เชี่ยวชาญ 12 คน ซึ่งในขณะที่ฉันจะเป็นผู้นำทีม สิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจ คือ ไม่มีวันไหนที่เหมือนกันสักวันเลย และในทุกๆ วันเราจะได้ทำงานกับคนที่น่าทึ่งมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือวันที่เราจะทำการทดลองหลายร้อยครั้ง เพื่อค้นหารสชาติที่พิเศษจากนวัตกรรมใหม่ๆ สภาวะการกลั่น เมล็ดพืช และไม้โอ๊คประเภทต่างๆ"

“ฉันโชคดีที่มีเวลาในการทำความเข้าใจวิสกี้และรสชาติในช่วงปีแรกๆ โดยการเรียนรู้จาก Jim, Maureen และคนอื่นๆ รวมถึงทีมงานทางเทคนิค จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่กระบวนการในการผลิต อย่างเช่น การหมัก การกลั่น การทำให้สุก การผสม และการวิเคราะห์คุณภาพ ซึ่งทำให้ฉันสามารถพัฒนาความเข้าใจอย่างรอบด้าน”

“ฉันรักงานของฉัน เพราะมันทำให้ฉันมีโอกาสผนวกศาสตร์และศิลป์ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับความชอบส่วนตัว”

การประสานทั้งศาสตร์และศิลป์ในวิสกี้ชั้นดี 

“สำหรับฉัน ภูมิหลังทางวิทยาศาสตร์และความคิดเชิงวิเคราะห์เป็นเครื่องมือที่มีค่าในการผสมสก็อตวิสกี้ ทว่าความหลงใหลในรสชาติอย่างลึกซึ้งเป็นรากฐานของทุกสิ่ง สิ่งที่เราทำคือทำความเข้าใจกับวิสกี้แต่ละชนิด ลักษณะเฉพาะและผลกระทบเฉพาะตัว ตลอดจนวิธีที่วิสกี้เหล่านั้นผสมผสานกัน จนกลายเป็นรสชาติพิเศษที่เราไม่สามารถทำได้จากวิสกี้เพียงแก้วเดียว”

“เราพยายามมองภาพใหญ่ ทำความเข้าใจว่าส่วนประกอบทั้งหมดเหล่านี้จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร และสามารถนำมาผสมผสานกันเพื่อค้นพบรสชาติหรือเนื้อสัมผัสใหม่ๆ สำหรับเรา วิสกี้ที่ดีมักเริ่มต้นด้วยวิธีการ ช่วงเวลา และสถานที่ที่ผู้คนจะเพลิดเพลินไปกับการดื่มวิสกี้”

“ทั้ง Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Pittyvaich, White Walker by Johnnie Walker และ Johnnie Walker Black Label ล้วนถูกรังสรรค์ขึ้นในลักษณะนี้ ทว่าถูกนำไปใช้ในโอกาสที่แตกต่างกันมาก”

<img class="alignnone wp-image-54109" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/image-1024x682.jpg" alt="Emmie Walker" width="720" height="480" />

ในฐานะมาสเตอร์เบลนเดอร์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ของ Johnnie Walker คุณมีคำแนะนำอย่างไรสำหรับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ต้องการทำงานในวงการวิสกี้

“คำแนะนำของฉันสำหรับคนที่ต้องการทำงานในวงการนี้ คือ การพยายามดื่มวิสกี้ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้และคิดถึงรสชาติและวิธีที่คุณพูดถึงวิสกี้ พูดคุยกับผู้คนที่ทำงานในอุตสาหกรรม พยายามสะสมประสบการณ์ให้มาก”

“ฉันมักถูกถามเกี่ยวกับการทำงานในอุตสาหกรรม 'ผู้ชาย' แต่ความจริงแล้ว สิ่งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงประสบการณ์ของฉัน ตำแหน่งที่ฉันได้รับนี้มาจากการสนับสนุนจากผู้คนที่น่าทึ่งทั่วทั้งอุตสาหกรรม และการได้รับโอกาสต่างๆ ในการเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะความสามารถ ทีมงานของเราที่ Johnnie Walker ได้รับการชื่นชมในด้านคุณธรรม เราเติบโตไปด้วยกันและไม่มีการแบ่งแยกเพศ ทั้งยังมีมาสเตอร์เบลนเดอร์หญิงมากความสามารถจำนวนมากในทีม ได้แก่ มาสเตอร์เบลนเดอร์สำหรับ Buchanan's, J&amp;B Rare และ Signature ซึ่งทำงานร่วมกับมาสเตอร์เบลนเดอร์ชายของเรา ซึ่งรวมถึง Jim” 

“ความหลากหลายนี้สะท้อนให้เห็นในการบริหาร จัดการโรงกลั่นของเรา ซึ่งมีผู้หญิงอยู่ในทุกภาคส่วน ดังนั้นฉันจึงไม่รู้สึกเหมือนเป็นผู้บุกเบิก ฉันเป็นเพียงหนึ่งในทีมในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายพอๆ กับวิสกี้ของเรา”

การเอาชนะทัศนคติด้านเพศสภาพในวงการวิสกี้

“ฉันสามารถพูดได้เฉพาะในกรณีของ Johnnie Walker ซึ่งฉันโชคดีที่ได้รับประสบการณ์ดีๆ จากที่นี่ และเป็นสิ่งสำคัญที่อุตสาหกรรมวิสกี้จะต้องพูดถึงกลุ่มคนที่หลากหลายที่ทำงานอยู่ในวงการอยู่เสมอ หากคุณเห็นคนที่เหมือนคุณทำงานอยู่ จะเป็นการง่ายกว่าที่จะนึกภาพตัวเองในบทบาทที่คล้ายคลึงกัน เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าวิสกี้เป็นของทุกคน และเราสนับสนุนให้มีการไม่แบ่งแยกและความหลากหลายในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นในสถานที่ทำงาน ในชุมชน และกับผู้บริโภคของเรา”

เป้าหมายหรือความท้าทายของคุณในฐานะมาสเตอร์เบลนเดอร์คนใหม่ 

“เพื่อสืบสานตำนานที่สร้างมานานกว่า 200 ปี โดยใช้วิสกี้ที่สร้างขึ้นในอดีตเพื่อผลิตวิสกี้ให้กับลูกค้าของเราในปัจจุบัน พร้อมๆ กับรังสรรค์วิสกี้เพื่อใช้ในอนาคต ฉันรู้สึกว่าตนเองได้งานที่ดีที่สุดงานหนึ่ง! ได้ร่วมงานกับทีมที่ยอดเยี่ยมเพื่อผลิตวิสกี้ที่ดีที่สุดในโลกให้กับคนสก็อตแลนด์และทั่วโลก”

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Emma Walker On Becoming The First Female Master Blender In Johnnie Walker’s 200-Year History เผยแพร่บน Forbes.com โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค 

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/alex-rodrigues-วัย-26-ปี-ขึ้นแท่นซีอีโอข.html">Alex Rodrigues วัย 26 ปี ขึ้นแท่นซีอีโอของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีอายุน้อยที่สุด</a>

Emma Walker ขึ้นแท่นมาสเตอร์เบลนเดอร์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ 200 ปีของ Johnnie Walker

<h2>Buy Hold Sell: ซื้อ ถือ หรือขาย ในยุคนิวนอร์มอล จาก 3 กูรู ผู้เชี่ยวชาญในด้านวิสกี้ งานศิลปะ และ วิดีโอเกม Uncle Nearest 1820 วิสกี้รสชาติซับซ้อน  ประติมากรจาก Brooklyn หรือ Little Samson ของ NES เกมหายากในอดีต</h2>
&nbsp;

Whiskey

<img class="alignnone size-full wp-image-46272" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/Screen-Shot-2564-06-04-at-10.32.52-AM.png" alt="" width="382" height="566" />

Fred Minnick
นักวิจารณ์วิสกี้,
ผู้แต่งหนังสือ Bourbon: The Rise, Fall and Rebirth of an American Whiskey

&nbsp;

ซื้อ
Uncle Nearest 1820
ตั้งชื่อตามอดีตทาสผู้ที่สอนศาสตร์และศิลป์ของการกลั่นให้กับ Jack Daniel หวังว่าการวางจำหน่ายวิสกี้ที่หมักบ่มจากถังเดียวและมีรสชาติซับซ้อนนี้ (120-200 เหรียญสหรัฐฯ) จะเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก

ถือ
Blanton’s Gold
สุดยอดวิสกี้ 103 proof ซึ่งครั้งหนึ่งเคยผลิตเพื่อส่งออกโดยเฉพาะขวดนี้จะมีค่ามากขึ้นตามกาลเวลา เฉกเช่นทองคำแท้ ถ้าหากคุณหาซื้อได้ในราคาต่ำกว่า 200 เหรียญ จงอย่ารีบเปิดขวดฉลอง ให้จับตารอดูราคาพุ่งสูงขึ้น

ขาย
Pappy Van Winkle 23-Year-Old
น่าจะเป็นหนึ่งในวิสกี้ซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก ราคาที่ทะยานขึ้นถึง 300-2,000 เหรียญต่อขวด สะท้อนถึงความนิยมไม่ได้เป็นเครื่องหมายรับประกันถึงรสชาติ

&nbsp;

&nbsp;

Art and Design

<img class="alignnone size-full wp-image-46273" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/Screen-Shot-2564-06-04-at-10.33.08-AM.png" alt="" width="381" height="560" />
Cordelia Lembo
หัวหน้าฝ่ายออกแบบประจำาทวีปอเมริกาของ Phillips

ซื้อ
เฟอร์นิเจอร์สแกนดิเนเวีย
<img class="alignnone size-full wp-image-46275" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/87.jpg" alt="" width="181" height="170" />
เนื่องด้วยเฟอร์นิเจอร์จากสแกนดิเนเวียสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้างและกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดงานดีไซน์ ช่างเฟอร์นิเจอร์ Nordic อย่าง Kaj Gottlob และ Hans Wegner กำลังรังสรรค์สุดยอดเก้าอี้และโซฟาซึ่งคุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 4 หลักกลางๆ

ถือ
Katie Stout
<img class="alignnone size-full wp-image-46276" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/88.jpg" alt="" width="179" height="170" />
คุณสามารถเป็นเจ้าของชิ้นงานแสนแหวกแนวและเต็มไปด้วยลูกเล่นของประติมากรจาก Brooklyn รายนี้ได้ในราคาหลายพันเหรียญ ถ้าหากโชคดีหาพบสักชิ้น และถ้าหากว่าคุณโชคดีมากๆ จนมีผลงานของศิลปินรายนี้อยู่ในครอบครองแล้ว จงอย่าปล่อยให้หลุดมือไป

ขาย
Lalannes
<img class="alignnone size-full wp-image-46277" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/89.jpg" alt="" width="181" height="170" />
งานประติมากรรมและเฟอร์นิเจอร์สุดแปลก ผลงานของคู่สามีภรรยาอย่าง François Xavier และ Claude Lalanne ซึ่งเก็บสะสมมานานหลายทศวรรษจนราคาทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องในการประมูลจาก 300,000 เหรียญ ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 500,000 เหรียญ ให้คุณขายทำกำไรทันที

&nbsp;

Video Games

<img class="alignnone size-full wp-image-46274" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/Screen-Shot-2564-06-04-at-10.33.20-AM.png" alt="" width="378" height="590" />
Jeff Maza
หัวหน้าฝ่ายวิดีโอเกม Metropolis Collectibles, New York


ซื้อ
เกมสำหรับเครื่องเล่นยุคแรกๆ
<img class="alignnone size-full wp-image-46269" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/FB095-EBOOK-RES150-215.jpg" alt="" width="103" height="160" />
เกมสำหรับใช้กับเครื่องเล่นเฉพาะแบรนด์ที่วางจำหน่ายเป็นลำดับแรกๆ อย่าง Super Mario สำหรับเครื่องเล่นเกม NES หรือ Halo สำหรับ Xbox เป็นสิ่งมีคุณค่าที่ทำให้เราหวนระลึกถึงวันชื่นคืนสุข เกมเหล่านี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าจะไม่มีมูลค่าใดๆ เว้นแต่เกมหายากซึ่งไม่ผ่านการเปิดใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมที่ผลิตจำนวนจำกัด สามารถขายทำเงินได้มากกว่า 100,000 เหรียญ

ถือ
เกมหายาก
<img class="alignnone size-full wp-image-46270" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/FB095-EBOOK-RES150-216.jpg" alt="" width="111" height="162" />
เกมซึ่งผลิตขึ้นในช่วงปลายของยุควิดีโอเกมมักจะมียอดขายไม่สู้ดี แต่กลับกลายเป็นของที่บรรดานักสะสมตัวจริงต้องมีไว้ในครอบครอง เกม Little Samson ของ NES ที่วางจำหน่ายในปี 1992 ซึ่งแทบจะไม่มีผู้ใดรู้จักกลับมีราคาขายสูงถึง 18,000 เหรียญเมื่อเร็วๆ นี้

ขาย
เกมของ Atari ซึ่งรีบเร่งวางตลาด
<img class="alignnone size-full wp-image-46271" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/FB095-EBOOK-RES150-217.jpg" alt="" width="115" height="160" />
Atari เคยเป็นผู้บุกเบิกในวงการวิดีโอเกม แต่กลับกลายเป็นผู้ผลิตที่มีแต่เกม ซึ่งรีบเข็นออกวางจำหน่าย โดยเกมเหล่านี้กำลังเสื่อมมูลค่าลงอย่างรวดเร็วดังเช่นนมที่บูดเสียง่าย เกม Spider-Man สำหรับ Atari 2600 (จากปี 1982) เคยมีราคาอยู่ที่ 9,000 เหรียญในเดือนพฤษภาคม แต่ราคาตกลงเหลือเพียง 1,560 เหรียญในเดือนตุลาคม

รับชมเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/video/%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%94%E0%B8%B2-jwd.html">ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา “JWD” ขยายฐานธุรกิจ B2C สร้างบริการตอบโจทย์นักสะสม (Video)</a>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3f27cbr">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-45133 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n-229x300.jpg 229w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/164909248_2802330646648674_4099079801379144138_n-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events