<h2>Buy Hold Sell คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนของหรู ช่วงนี้ “โปสเตอร์ท่องเที่ยววินเทจ” “ไวน์” และ “เฟอร์นิเจอร์” รุ่นไหนที่น่า “ซื้อ” “เก็บไว้ก่อน” หรือถึงจังหวะที่ต้อง “ขาย” ออกไปบ้าง</h2> โปสเตอร์ท่องเที่ยวสไตล์วินเทจ: คำแนะนำจาก Lauren Cooper รองผู้อำนวยการฝ่ายโปสเตอร์โบราณของ Swann Auctiown Galleries, New York ซื้อ: โฆษณาตามสถานีรถไฟสไตล์อาร์ตเดโค <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/GrqZKY1o9ov9hi8HiAe4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GrqZKY1o9ov9hi8HiAe4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="480,383" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คุณต้องรู้สึกสุขใจไปกับการเดินทางตามรางอันแสนมีเสน่ห์และเร้าใจเป็นแน่ ถึงแม้จะไม่มีขบวนรถไฟให้เห็นก็ตามที ถ้าหากพบเจอของดีมีค่าอย่างโปสเตอร์ที่มีภาพชายหาด Torquay แบบนี้จงรีบคว้าเอาไว้ โปสเตอร์ผลงานของ Bruce Angrove จากทศวรรษ 1930 นี้มีผู้ประมูลไปในราคา 12,500 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือไว้: แลนด์มาร์กเมืองใหญ่ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/jgVvv2vcbv9yvxp9PMMu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jgVvv2vcbv9yvxp9PMMu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="371,560" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภาพวาดสถานที่สำคัญในเมืองใหญ่เป็นของเก่าอันทรงคุณค่า มูลค่าของโปสเตอร์ฝีมือ Chesley Bonestell ซึ่งถ่ายทอดภาพอาคาร Helmsley Building ใน Park Avenue เพิ่งเริ่มขยับขึ้นในระยะหลัง โดยมีผู้ซื้อไปในราคา 13,750 เหรียญในปี 2021 และความน่าสนใจยังคงมีอยู่อย่างล้นเหลือ ขาย: ภาพวันพักผ่อน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/8XfsWNkVgaWdY5VEqpTa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8XfsWNkVgaWdY5VEqpTa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="370,560" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภาพทิวทัศน์วันหยุดอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างโปสเตอร์จากทศวรรษ 1930 ที่ Paul George Lawler รังสรรค์ให้กับ Pan Am ซึ่งงดงามราวกับภาพฝันนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน โปสเตอร์นี้ขายไปในราคา 40,000 เหรียญในปี 2021 หรือสูงกว่าราคาประมาณการถึง 3 เท่า หากคุณกำลังหาเงินเพื่อไปเที่ยว Tahiti อยู่ละก็ ลองนำโปสเตอร์ขอบคุณออกมาขายดูสิ ไวน์เบอร์กันดี: คำแนะนำจาก Victoria James หุ้นส่วนและผู้อำนวยการบริหารฝ่ายเครื่องดื่มของ Gracious Hospitality Mgmt. ซื้อ: 2021 Louis Boillot Gevrey-Chambertin Premier Cru Cherbaudes <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/5kc998CS4dP4BiXNWyFj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5kc998CS4dP4BiXNWyFj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="252,553" style="" data-index="3"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักสะสมที่กำลังมองหาตำนานบทใหม่ไม่ต้องไปค้นหาจากที่อื่นเลย ไร่องุ่นนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ฝังศพของชุมชน Gevrey-Chambertin (Cherbaudes เป็นภาษาละตินซึ่งแปลว่า สุสาน) คุณสามารถเป็นเจ้าของไวน์ขวดนี้ได้ในราคา 170 เหรียญ และจะมีมูลค่าเพิ่มเท่าตัวในอีก 1 ทศวรรษข้างหน้า ถือไว้: 1957-62 2014 Arnaud Ente la Sève du Clos Meursault <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/J5egcfH8fbAr6c54s9pi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="J5egcfH8fbAr6c54s9pi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="450,450" style="" data-index="4"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มีไวน์ 1.5 ลิตรเพียง 160 ขวดเท่านั้นที่ผลิตจากต้นองุ่นอายุ 130 ปีเหล่านี้ นั่นทำให้ไวน์นี้ (ซึ่งมีราคาจำหน่ายปลีกอยู่ที่ราว 3,000 เหรียญ) ยิ่งกลายเป็นของหายาก Arnaud Ente เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ขาวจาก Burgundy ที่ดีที่สุด นี่จึงเป็นเครื่องดื่มสุดล้ำค่าในห้องเก็บไวน์ซึ่งมูลค่ามีแต่จะเพิ่มกับเพิ่มเท่านั้น ขาย: 2011 Red Burgundy <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/ZKXh76WSi48x2aTt7RpF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ZKXh76WSi48x2aTt7RpF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="142,500" style="" data-index="5"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปี 2011 เป็นปีที่ดีสำหรับผู้ผลิตไวน์ที่เพียบพร้อมด้วยความใส่ใจเท่านั้น เนื่องจากปีนั้นทั้งปีการผลิตไวน์ถูกรบกวนจากสภาพอากาศที่แย่และรสชาติผิดเพี้ยนซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการระบาดของแมลงศัตรูพืช ลองพิจารณาดูถึงการนำไวน์เหล่านี้ออกมาขายในขณะที่ไวน์ Domaine de la Romanée-Conti หลายแบบทำราคาประมูลได้ 10,000 เหรียญเมื่อไม่นานมานี้ ไวน์ปี 2010 น่าจะทำเงินได้มากกว่านี้ 3 เท่า เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Midcentury Modern: คำแนะนำจาก Jason Stein ผู้อำนวยการฝ่ายมัณฑนศิลป์และออกแบบของ Bonhams, Los Angeles ซื้อ: ม้านั่งรูปทรงโคนโดย George Nakashima <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/LYS4xzLNAzuQJjzcoqeg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LYS4xzLNAzuQJjzcoqeg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เฟอร์นิเจอร์ไม้ออร์แกนิกพร้อม “ส่วนปลาย” ที่ไม่ผ่านการแต่งด้วยเครื่องมือช่างของผู้ผลิตกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้เป็นเวลาอันควรที่จะคว้าเฟอร์นิเจอร์ฝีมือ Nakashima มาครอบครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นงานที่ทำจากไม้วอลนัตหรือไม้เนื้อแดง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่เป็นที่หมายตาของนักสะสมทำราคาได้อย่างเร้าใจ อย่างเฟอร์นิเจอร์ปี 1960 ชิ้นนี้ซึ่งมีผู้ซื้อไปทีสนนราคา 48,000 เหรียญในปี 2022 ถือไว้: เก้าอี้ Charles and Ray Eames Lounge Chair and Ottoman <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/oSNZJ9Tsmpzqz1v2VRfA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="oSNZJ9Tsmpzqz1v2VRfA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="7"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิกชุดนี้ได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่สามีภรรยาคู่นี้ออกแบบขึ้นในปี 1956 โดยทั่วไปมีราคาขายอยู่ระหว่าง 3,000-5,000 เหรียญ ชุดเครื่องเรือนจากปี 1956 นี้มีผู้ซื้อไปในราคา 3,800 เหรียญในเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่น่าครอบครองและเหมาะอย่างยิ่งที่จะส่งต่อให้กับลูกหลานของคุณ ขาย: เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งโดย Walter Lamb <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/GdJ5j8WWR4AQZefbtdBo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GdJ5j8WWR4AQZefbtdBo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="8"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Lamb เป็นสุดยอดศิลปิน Midcentury Modern ซึ่งผลงานของเขามีราคาเพิ่มขึ้นในทุกๆ การประมูลที่จัดขึ้น เฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามจากทศวรรษ 1950 ที่รังสรรค์ขึ้นจากท่อที่เป็นทองสัมฤทธิ์กับเส้นสายที่เรียงตัวสวยนี้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความมีสไตล์ขั้นสุดในสวนหลังบ้านของคุณ เก้าอี้ยาวปี 1955 คู่นี้ขายไปในราคาเกือบ 11,000 เหรียญเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/alek-teeradej-focuses-on-buy-land-fund-collect-10-luxury-watches" alt="อาเล็ก-ธีรเดช เผย เน้นทำเงินงอกเงยผ่าน 'ที่ดิน-กองทุน' พร้อมสะสมนาฬิกาหรู 10 เรือน">อาเล็ก-ธีรเดช เผย เน้นทำเงินงอกเงยผ่าน 'ที่ดิน-กองทุน' พร้อมสะสมนาฬิกาหรู 10 เรือน</a>​<a target="_blank" href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/b16f6311-0750-4ce0-bc84-a71daf4fa879" alt="​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine"></a><a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/cff663cb-f69a-4970-8286-59647d2b2c12" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/cff663cb-f69a-4970-8286-59647d2b2c12/forbes-thailand-april-2024" alt="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/cff663cb-f69a-4970-8286-59647d2b2c12/forbes-thailand-april-2024" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/GFfZhjRqUM2eoVFJEpkN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="GFfZhjRqUM2eoVFJEpkN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="320,420" data-image-link="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/cff663cb-f69a-4970-8286-59647d2b2c12/forbes-thailand-april-2024" style="width: 300px; height: auto;" data-index="9"></a></figure></div>

Buy Hold Sell: คำแนะนำจากกูรู โปสเตอร์, ไวน์ และเฟอร์นิเจอร์รุ่นไหนน่าซื้อ ถือไว้ หรือขายบ้าง

<h2>อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM เดินหน้าสร้างการเติบโตตลาดต่างประเทศ ประกาศความร่วมมือกับ PT Mitra Adiperkasa “MAP Group” (แม๊ป กรุ๊ป) กลุ่มทุนบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินโดนีเซียด้วยสิทธิ์แฟรนไชส์ ปูพรมเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า SOGO ใจกลางเมืองจาการ์ตา 2 สาขาอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปีนี้ หนุนกระแสการแต่งบ้านเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 </h2>
<img class="alignnone wp-image-50937" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/1.-Index-Living-Mall-1024x684.jpeg" alt="อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM" width="720" height="481" />

 กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สู่ตลาดต่างประเทศ ภายใต้โมเดลการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ให้กับพันธมิตรท้องถิ่นในแต่ละประเทศที่มีศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโต 

ล่าสุด บริษัทฯ ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญโดยให้สิทธิ์แฟรนไชส์กับ<a style="color: #008000;" href="https://www.map.co.id"> PT Mitra Adiperkasa “MAP Group” (แม๊ป กรุ๊ป)</a> กลุ่มทุนบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินโดนีเซีย ที่มีธุรกิจค้าปลีกและร้านค้าชั้นนำในด้านแฟชั่น กีฬา เสื้อผ้าเด็ก อาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 2,300 แห่ง ใน 81 เมืองใหญ่ อาทิ  ห้างสรรพสินค้า SOGO, SEIBU, LAFAYETTE GALLERIES และแหล่งรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น Fashion Active (Sports, Golf &amp; Leisure) เป็นต้น 

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในการนำเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่มีคุณภาพขยายสู่ตลาดอาเซียน โดยวางเป้าหมายให้ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ เป็นผู้นำ “Home Stylish and Lifestyle Destination” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของแต่งบ้านในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง จากฐานจำนวนประชากรเป็นอันดับ 4 ของโลกอยู่ที่ 263 ล้านคน และมีประชากรชนชั้นกลางยังขยายตัวสูงที่เพิ่มขึ้น 53.6 % ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 141 ล้านคน

อย่างไรก็ดี แม้ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ด้วยวิถีชีวิตที่ต้องกักตัวและทำงานที่บ้าน (WFH) ส่งผลให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์มีกระแสตอบรับที่ดี โดยคาดว่าการเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศภายใต้สิทธิ์แฟรนไชส์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จะยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

<img class="alignnone wp-image-50938" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/3.-เฟอร์นิเจอร์-Living-Sofa-1024x684.jpeg" alt="อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM" width="720" height="481" />

ด้าน MAP Group ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ ได้วางแผนเปิดธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ในปีนี้จำนวน 2 สาขาภายในห้างสรรพสินค้า SOGO ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศใจกลางเมืองจาการ์ตา ซึ่งมีกลุ่มผู้อาศัยที่มีกำลังซื้อสูง คาดเปิดให้บริการสาขาแรกที่ SOGO Plaza Senayan (พลาซ่า เสนายัน มอลล์) บนพื้นที่ขาย 1,523.95 ตร.ม. เปิดให้บริการเดือนต.ค. นี้ และสาขาที่ 2 SOGO Kota Kasablanka (โกตา คาซาบลังกา) บนพื้นที่ขาย 1,364.95 ตร.ม. เปิดให้บริการเดือนพ.ย. นี้

โดยมุ่งนำเสนอสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในสัดส่วน 70% และอีก 30% เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้าน โดยเปิดให้บริการภายใต้การนำเสนอจุดแข็ง ‘6 Reasons to love ILM’ ด้วยการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุด (The Best Furniture Lifestyle Store in JAKARTA) พร้อมกับการเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของแต่งบ้านครบวงจร ดีไซน์โดดเด่น และคัดสรรวัสดุที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้ตอกย้ำด้านความคุ้มค่าที่สุด (The Best Value) ด้วยดีไซน์ที่ดีที่สุด (The Best Design) หลากสไตล์ และคุณภาพที่ดีที่สุด (The Best Quality) ตลอดจนมุ่งให้บริการที่ดีที่สุด (The Best Impression) และข้อเสนอที่ดีที่สุด (The Best Offers) ซึ่งสะท้อนศักยภาพและขีดความสามารถของ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ ในแง่แบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่มุ่งสู่การเป็น รีจินัลแบรนด์อย่างเต็มรูปแบบ

<img class="alignnone wp-image-50943" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/4.-เฟอร์นิเจอร์กลุ่มสินค้า-Outdoor-และของแต่งบ้-1024x684.jpeg" alt="อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM" width="720" height="481" />

ด้านอาร์โนลดา รัตนวาติ สิดาร์ต้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของห้างสรรพสินค้า SOGO ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า PT Mitra Adiperkasa “MAP Group” กล่าวว่า “ความร่วมมือกับอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในครั้งนี้ ผลักดันให้พอร์ตโฟลิโอกลุ่มสินค้านำเข้าจากต่างประเทศของ “MAP Group” มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะที่สินค้าเฟอร์นิเจอร์นับว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของผู้บริโภคอินโดนีเซีย ซึ่งอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล จะเข้ามาช่วยเติมเต็มตอบสนองไลฟ์

ล่าสุด ห้างสรรพสินค้า SOGO เตรียมจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ ร่วมกับธนาคาร Bank Mandiri  มอบสิทธิพิเศษผ่อน 0% ระยะเวลา 3 เดือน และบัตรกำนัลช้อปปิ้ง SOGO พร้อมบริการจัดส่งฟรีสำหรับลูกค้าช้อปผ่าน SOGO Click &amp; Shop เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

เจอร์ราร์ด แมคเกิร์ก รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารสาขาและธุรกิจค้าปลีกต่างประเทศ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เผยว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาในต่างประเทศ จากการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ใน 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า เนปาล มัลดีฟส์ ปากีสถาน และล่าสุดที่อินโดนีเซีย ส่วนบรูไนวางแผนจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ และวางเป้าหมายภายในปี 2565 จะเปิดครบ 10 ประเทศ

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/news/other/motif-ประกาศกลยุทธ์รุกตลา.html">“MOTIF” ประกาศกลยุทธ์รุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรี่ ปี 64</a>

“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” จับมือ “MAP Group” ปักธงแฟรนไชส์อินโดนีเซีย

<h2>เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดบริการใหม่ Condo Solutions รับออกแบบ-ตกแต่งห้องชุดเบ็ดเสร็จ รับกระแสคอนโดฯ ปล่อยเช่าบูม หวังยอดขายปีหน้า 300 ล้านบาท ด้านยอดขายรวมปี 2561 ไม่เป็นไปตามคาด หั่นเป้าหมายเติบโตเหลือ 5%</h2>
ธัญญรักข์ ชวาลดิษฐ์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า เอสบีฯ ได้เปิดบริการใหม่สำหรับลูกค้าคอนโดมิเนียม “Condo Solutions” รับออกแบบและตกแต่งห้องชุดคอนโดฯ แบบครบวงจร เพื่อตอบรับเมกะเทรนด์การอยู่อาศัยปัจจุบัน

“เราเซอร์เวย์ลูกค้าที่มาซื้อเฟอร์นิเจอร์ของเราเอง พบว่าปัจจุบันลูกค้า 60% ซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อแต่งคอนโดฯ ต่างจากสมัยก่อนที่ส่วนใหญ่อาศัยในบ้าน โดยในกลุ่มลูกค้าคอนโดฯ นั้น 70% ซื้อเพื่ออยู่เอง อีก 30% ซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าและกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นด้วย” ธัญญรักข์กล่าว

“ลูกค้าคอนโดฯ มีปัญหาหลักคือการแต่งห้องให้สวยมีความยุ่งยาก ต้องติดต่อช่างหลายคน คุมเวลายาก ที่สำคัญ กำหนดงบประมาณแน่นอนไม่ได้”

<figure><img style="width: 638px; height: 479px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4160c48f49cd7598a477c73a1f0fb999.jpg" alt="" width="638" height="479" /><figcaption> (ซ้าย) ธัญญรักข์ ชวาลดิษฐ์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์</figcaption></figure>

เอสบี เฟอร์นิเจอร์จึงจับจุดนี้มาสร้างบริการ Condo Solutions ออกแบบและรับเหมาแต่งห้องเบ็ดเสร็จ ไม่เฉพาะติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ แต่รวมถึงแต่งผนัง พื้น ไลท์ติ้ง ผ้าม่าน ฝ้า และระบบสมาร์ทโฮม ถ้าหากลูกค้าต้องการ โดยกำหนดราคาเริ่มต้น 3,500 บาท/ตร.ม. (เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) ปัจจุบันมีห้อง 6 สไตล์ให้เลือก แต่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ

โดยบริษัทจะระบุราคาแน่นอนตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ ตัดปัญหางบบานปลาย ใช้เวลา 10-60 วันในการตกแต่งห้อง ขึ้นอยู่กับปริมาณงาน

<figure><img style="width: 638px; height: 404px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/639c0c690c86801cb9c76618d4e292ad.jpg" alt="" width="638" height="404" /><figcaption> ตัวอย่างห้องแบบ Classy Urban พื้นที่ใช้สอย 52.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 286,096 บาท</figcaption></figure>

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ab55efba12d1fcb993883cb93c83cacc.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> ตัวอย่างห้องแบบ Scandi Chic พื้นที่ใช้สอย 33.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 249,350 บาท</figcaption></figure>

“เร็วที่สุดคือ 10 วันในแพ็กเกจสำหรับนักลงทุน เป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวพร้อมขนย้ายเข้าห้อง เพื่อให้ลูกค้าปล่อยเช่าได้เร็วที่สุด และเชื่อว่าห้องที่สวยงามกว่าจะทำให้ลูกค้ามีโอกาสปล่อยเช่าสูงกว่าและราคาดีกว่า” ธัญญรักข์กล่าว

ทั้งนี้ เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ประเดิมสาขาแรกที่มีบริการ Condo Solutions ที่สาขาบางนา-ตราด และปี 2562 จะเปิดที่สาขาพระราม 2 กับ เดอะมอลล์ บางแค คาดหวังยอดขายจากบริการนี้ 300 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2562

&nbsp;
<h2>ปี 2561 ครึ่งปีหลังกำลังซื้อฝืด</h2>
สำหรับยอดขายรวมตลอดปี 2561 เดิมเอสบี เฟอร์นิเจอร์ตั้งเป้าหมาย 7,800 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 7,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธัญญรักข์กล่าวว่า แม้ช่วงต้นปีตลาดจะคึกคัก แต่ยอดขายเริ่มชะลอตัวในช่วงไตรมาส 3 ทำให้ 10 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้นจากปีก่อนเพียง 4-5% มองว่าถ้าหากไตรมาส 4 ยังไม่มีปัจจัยบวก เช่น มาตรการช็อปช่วยชาติ น่าจะทำให้จบปีด้วยยอดเติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้

ส่วนปี 2562 ภาพรวมมองว่า การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในแบ็กล็อกของบริษัทพัฒนาจัดสรรยังมีอยู่ต่อเนื่อง เชื่อว่าเอสบี เฟอร์นิเจอร์ซึ่งมีจังหวะขายในช่วงโอนคอนโดฯ จะเติบโตได้ 5-10% แต่ยังจับตามองนโยบายจำกัด LTV สินเชื่อบ้านสัญญาที่ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย หากใช้บังคับจริงในปีหน้าอาจส่งผลกระทบเชิงลบกับการโอนคอนโดฯ และมีผลกับตลาดเฟอร์นิเจอร์ตามมา
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news-detail.php?did=2794">นโยบายธปท.สกัดสินเชื่อบ้านหลังที่สอง-บ้านหรู นักลงทุนอาจเสียแรงจูงใจจาก ROI ที่ลดลง</a></li>
</ul>
ด้านสัดส่วนยอดขายของเอสบี เฟอร์นิเจอร์ ปัจจุบันยังขายปลีกเป็นส่วนใหญ่ 80% ลูกค้าโครงการ 10% และส่งออก 40 กว่าประเทศทั่วโลก 10% ซึ่งตลาดส่งออกปีนี้ก็ยังทรงตัวไม่หวือหวา

Forbes Facts
<ul>
 	<li>เอสบี เฟอร์นิเจอร์มีทีม Interior Designer 10 ท่านรองรับสำหรับบริการ Condo Solutions และพนักงานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ 300 ทีม ทำให้บริการติดตั้งได้ 1 หมื่นรายต่อเดือน</li>
 	<li>ธัญญรักข์มองว่า เอสบี เฟอร์นิเจอร์มีการติดตั้งบิลท์อินให้ลูกค้าโครงการหลายแบรนด์อยู่แล้ว เช่น ไอดีโอ, เดอะ ไลน์, วิสซ์ดอม จึงมีแปลนห้องของหลายบริษัท เป็นจุดขายในการแข่งขัน</li>
</ul>

เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เสริมกลยุทธ์รับเหมาแต่งห้องคอนโดฯ ดันยอดขาย 300 ล้าน ปี’61 กำลังซื้อสะดุดปรับลดเป้ารวม

<h2>สตาร์มาร์คปรับตัวตามตลาด รุกหนักขายเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการหรูชิงส่วนแบ่งแบรนด์ต่างประเทศ เชื่อปี 2560 จุดพีคคอนโดฯ-หมู่บ้านไฮเอนด์ดีมานด์สูง แย้มลงทุนสตาร์ทอัพพัฒนาแอพฯตกแต่งบ้านพร้อมเปิดตัวใน 2 เดือน</h2>
พีรพัฒน์ ศรีสกุลภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ สตาร์มาร์ค เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 6.5 แสนล้านบาท และคาดว่าปี 2560 จะเติบโตได้อีก 5-10% ซึ่งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะเติบโตตามตลาดอสังหาฯ ทำให้สตาร์มาร์ควางเป้าการเติบโตที่ 5-10% เช่นกัน

ในแง่การลงทุน บริษัทมีการลงทุนรวม 350-400 ล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านการผลิต ขนส่ง และระบบการจัดการข้อมูลภายในทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้รับข้อมูลคำสั่งของลูกค้าและนำมาผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าด้วยจำนวนมาก (Mass Customization) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ระบบออกแบบ 3 มิติ (KDMAX), ระบบถอดแบบและเชื่อมต่อข้อมูลกับเครื่องจักร (IMOS), การจัดการข้อมูลองค์กรด้วยซอฟต์แวร์ Microsoft Dynamics Ax เป็นต้น

พีรพัฒน์กล่าวต่อว่า บริษัทยังให้ทุนกับสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งมากว่า 2 ปีแล้วเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านการตกแต่งบ้าน (Home Decorations) ซึ่งจะเปิดตัวใน 2 เดือนข้างหน้าและคาดว่าจะนำออกสู่ตลาดได้ทั่วโลก

<figure><img style="width: 340px; height: 500px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fc056c2ec687142bd4c99348df2e57b8.jpg" alt="" width="340" height="500" /><figcaption> พีรพัฒน์ ศรีสกุลภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร และ นันทนา ศรีสกุลภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและการตลาด บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอริ่ง จำกัด </figcaption></figure>

ด้าน นันทนา ศรีสกุลภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและการตลาด บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอริ่ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีช่องทางการขายทั้งแบบลูกค้าโครงการ (B2B) และลูกค้ารายย่อย (B2C) ในสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ 50:50

โดยกลุ่มลูกค้าโครงการปีนี้ มองว่าการเติบโตจะมาจากกลุ่มโครงการไฮเอนด์ ซึ่งตลาดจะยังโตต่อเนื่อง 5% หลังจากปี'59 โตขึ้นมา 10% คาดว่าปี 2560 นี้กลุ่มตลาดไฮเอนด์จะพีคสูงสุด หลังจากนี้อาจชะลอการเติบโตลงบ้างเพราะที่ดินพัฒนาโครงการหาได้ยากขึ้น แต่ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวเนื่องจากดีมานด์ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนยังมีสูง

ซึ่งสตาร์มาร์คปีนี้จะมุ่งเน้นการรับงาน Mass Customization เฟอร์นิเจอร์ให้โครงการไฮเอนด์มากขึ้น โดยมีประสบการณ์และได้รับงานจากแบรนด์อสังหาฯระดับบนมาแล้วหลายโครงการ เช่น หมู่บ้านมัณฑนา(แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) บุราสิริ, คุณ บาย ยู(แสนสิริ) บีทนิค สุขุมวิท 32(เอสซี แอสเสท) ลาวีค สุขุมวิท 57(เรียล แอสเสท)

ปัจจุบันสตาร์มาร์คมีสัดส่วนยอดขายจากเฟอร์นิเจอร์เกรดเอ/ไฮเอนด์ ราคามากกว่า 3 แสนบาท/ชุด อยู่ที่ 5% คาดหวังเป้าหมายยอดขายตลาดกลุ่มไฮเอนด์เติบโต 15% ในปีนี้

"คาดว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์ปี'60 น่าจะโตในเชิงมูลค่าจากกลุ่มไฮเอนด์เป็นหลัก แต่ถ้าคิดในเชิงปริมาณจำนวนหน่วยที่ขายน่าจะยังทรงตัว" นันทนากล่าว

<figure><img style="width: 680px; height: 500px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/bbbe385c2a588fc0691fad264da9e936.jpg" alt="" width="680" height="500" /><figcaption> ตัวอย่างงานดีไซน์ชุดครัวของสตาร์มาร์ค</figcaption></figure>

ส่วนการขายฝั่งรีเทล ปัจจุบันสตาร์มาร์คมีช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด อาทิ โฮมโปร โฮมเวิร์ค ไทวัสดุ ทั้งหมด 79 สาขา และผ่านดีลเลอร์อีก 61 สาขา และมีร้านค้าแฟล็กชิปสโตร์ที่  CDC อีก 1 แห่ง โดยมีสินค้าหลักคือ ชุดครัว ช่องทางจำหน่ายรายย่อยจะเน้นขายเฟอร์นิเจอร์ระดับเกรดบี (ราคา 1-3 แสนบาท/ชุด) จนถึงเกรดซี (ต่ำกว่า 3 แสนบาท/ชุด) เป็นหลัก

"เชื่อว่าปี'60 ลูกค้ารายย่อยยังคงมีดีมานด์อยู่ แต่ต้องมีกลยุทธ์การขาย จัดโปรโมชั่นจูงใจเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถซื้อได้ และต้องปรับฟังก์ชันใหม่ๆ ออกมา เรื่องราคาปีนี้เรายังไม่ปรับขึ้น ถึงแม้ต้นทุนวัสดุจำพวกไม้ วัสดุปิดผิวจะขึ้นราคาแล้ว เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากจึงไม่เหมาะที่จะปรับราคา" นันทนากล่าวปิดท้าย

Forbes in Details

-สัดส่วนยอดขายสตาร์มาร์คมาจากสินค้าเกรดเอ 5% เกรดบี 80% และเกรดซี 15%
-ปี 2559 บริษัทมีการทำตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการ โดยมีดีลเลอร์ในประเทศลาวและกัมพูชาประเทศละ 1 ราย และอนาคตต้องการจะเปิดตลาดพม่าเป็นแห่งถัดไป
-นอกจากการขาย B2B ให้โครงการจัดสรรแล้ว ตั้งเป้าจะรุกตลาด B2B ให้กลุ่มโรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเม้นท์มากขึ้น

'สตาร์มาร์ค' ปี'60 ปรับพอร์ตรับตลาดเฟอร์นิเจอร์ไฮเอนด์โตสูงสุด

<h2>เฮเฟเล่ ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้านจากเยอรมนี มองปี 2560 ตลาดยังเติบโต เร่งเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ 10-15% ระดมเซลส์ขายประจำหัวเมืองต่างจังหวัดบุกหนักขายตรงเข้าโครงการอสังหาฯ เปิดสินค้าใหม่เน้นเทคโนโลยี IoT บ้านอัจฉริยะ</h2>
Volker Hellstern กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 นี้ เฮเฟเล่มีการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เน้นเสริมนวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มทางเลือกหลากหลายในงานดีไซน์ เน้นสีดำคลาสสิกซึ่งเป็นสีนำเทรนด์การตกแต่งบ้านในปีนี้ นอกจากนี้ยังนำเสนอสินค้าเด่นประเภทวัสดุ คือหินควอตซ์ ซึ่งเหมาะกับการใช้เป็นหน้าท็อปชุดครัวหรือผนังตกแต่ง เนื่องจากเป็นหินธรรมชาติแท้สวยงามและแตกต่างกันในแต่ละแผ่น

ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของเฮเฟเล่ปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและในห้องน้ำ อาทิ
<ul>
 	<li>เตาแม่เหล็กไฟฟ้า IQcook มีอุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างเตากับตัวรับสัญญาณทำให้สามารถหรี่หรือเพิ่มความร้อนได้เองโดยอัตโนมัติ สามารถตั้งอุปกรณ์ทำครัวไว้บนเตาได้อย่างปลอดภัย</li>
 	<li>เครื่องดูดควัน Gorenje ซึ่งจะปรับเพิ่มความแรงในการดูดได้เองอัตโนมัติ</li>
</ul>
<img style="width: 680px; height: 369px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b859a41894622e3a8743a6accabb0030.png" alt="" />
<ul>
 	<li>ตู้เย็น 2 ประตูจาก Gorenje ติดตั้งระบบ AdaptTech ทำให้จดจำช่วงเวลาที่ใช้งานบ่อย และปรับลดความเย็นลง 1-2 องศาในช่วงนั้นเพื่อลดการสูญเสียความเย็นเมื่อเปิดตู้เย็น</li>
 	<li>กระจกห้องน้ำ LED Mirror Glass มีระบบ touch screen สำหรับเลือกเปลี่ยนแสงไฟสีขาวหรือสีส้มตามการใช้งาน และสามารถไล่ฝ้าบนกระจกได้</li>
</ul>
<img style="width: 680px; height: 528px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/53fc3c81f1ea16fb19de05669c8e920c.png" alt="" />

ทั้งหมดจัดแสดงภายในบูธเฮเฟเล่ งานสถาปนิก’60 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-7 พฤษภาคม 2560

ด้าน รัตนะ พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รายได้ของเฮเฟเล่ในปี 2559 ยังโตตามเป้าหมายเนื่องจากงานก่อสร้างยังไม่ชะลอตัว และเฮเฟเล่ยังรักษามาตรฐานคุณภาพกับลูกค้าจึงยังมียอดขายต่อเนื่อง

สำหรับปี 2560 จะยังเติบโต โดยมีกลยุทธ์แรกคือการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่และรูปแบบ/สีสันใหม่ดังกล่าว ภาพรวมมีการปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ขึ้น 10-15% แต่กลุ่มที่เพิ่มมากที่สุดคืออุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน (Home Appliance) เช่น หน้าท็อปชุดครัว เครื่องดูดควัน เตาแก๊ส/ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นถึง 50% เพราะมีการใช้ นวัตกรรม IoT (Internet of Things) ในสินค้ามากขึ้น และสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ เพิ่มสินค้ากว่า 20%

อีกกลยุทธ์หนึ่งจะเปิดตลาดการขายโดยตรงเข้าสู่โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด โดยกำลังรับสมัครเซลส์ดูแลการขายเข้าโครงการเพิ่มอีก 35 อัตรา ในหัวเมืองต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เพื่อเจาะกลุ่มดีไซเนอร์ท้องถิ่นซึ่งร่วมงานอยู่กับบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4a6ebae8c1107f6842dea61bc357c45f.png" alt="" width="680" height="481" /><figcaption> (ซ้าย) Volker Hellstern กรรมการผู้จัดการ และ (ขวา) รัตนะ พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด</figcaption></figure>

ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้ของเฮเฟเล่ มีจุดแข็งที่อุปกรณ์ประตู หน้าต่าง ได้รับการยอมรับในตลาดระดับกลางถึงบน สัดส่วนรายได้ 40% เป็นการขายโดยตรงสู่ตลาดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการจัดสรร โรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงพยาบาล ฯลฯ อีก 40% เป็นธุรกิจค้าปลีก ทั้งผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและกลุ่มโมเดิร์นเทรด ส่วน 20% สุดท้ายเป็นซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์หลากหลายแบรนด์

นอกจากนี้ รัตนะ กล่าวว่า โกดังสินค้าในไทยที่ถนนบางนา-ตราด กม.22 พื้นที่เก็บสินค้ากว่า 1 หมื่นตร.ม. ยังเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ซึ่งพบว่าตลาดเมียนมามีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต เนื่องจากมีประชากรถึง 70 ล้านคนและกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเอกชนจะเติบโตตาม ทำให้มีความต้องการสำนักงานให้เช่าและโรงแรมสูงขึ้นมากในขณะที่พื้นฐานของประเทศเมียนมาปัจจุบันยังมีอาคารเหล่านี้น้อย เป็นโอกาสในการทำธุรกิจของเฮเฟเล่เมื่อมีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้น

'เฮเฟเล่' บุกหนักตลาดต่างจังหวัด เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ครัว-ห้องน้ำ

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: เอกพงศ์ ตันติผลประเสริฐ

บทเรียนของเด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่คิดการใหญ่นำเงินเกือบล้านบาทจากอาชีพเสริมเพื่อเปิดธุรกิจร้านเครื่องเสียงกับเพื่อน หากแต่ในที่สุดธุรกิจก็ไปไม่รอด เพราะความอ่อนประสบการณ์เป็นลูกหนี้เกือบ 3 ล้านบาท และได้รู้ซึ้งถึงคำว่า “เช็กเด้ง” บทเรียนล่ำค่าที่วันนี้ อารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF และนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ในวัย 45 ปี และ Forbes Thailand พร้อมถ่ายทอดถึงความเปลี่ยนแปลงและการต่อยอดธุรกิจ ท่ามกลางเฟอร์นิเจอร์ไม้ในโชว์รูม ELEGA ซึ่งเขาเป็นเจ้าของตั้งอยู่ใน Index Living Mall บางนา

จากการสวมหมวกหัวหน้าโรงงานของธุรกิจในครอบครัวทำให้เขาได้เรียนรู้ตั้งแต่ระบบสายการผลิต การจัดซื้อ และการรับออเดอร์คำสั่งซื้อ ก่อนจะเกิดความคิดพัฒนาโรงงานให้ทันสมัย และขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจของครอบครัว

“การเปิดตลาดต่างประเทศใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ตอนนั้นผมอายุ 20 กว่าปี ผมทำทุกวิถีทางให้ส่งออกได้ ผมนำข้อมูลจากกรมส่งเสริมการส่งออก ส่งแฟกซ์ตอนกลางคืนเป็นร้อยใบ เพราะเวลาไทยกับต่างประเทศไม่ตรงกัน สมัยนั้นยังไม่มีอีเมล์ และในที่สุดฝรั่งเศสก็ติดต่อกลับมา ใบสั่งซื้อใบแรกของผมในชีวิตเริ่มที่ฝรั่งเศส (Apple Furniture)”

อารักษ์เล่าถึงช่วงเปลี่ยนผ่านจากคนงานไม่ถึงร้อยคนสู่ทีมงานหลักพันคน ในการดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา กระดาษปิดผิวไม้ ยางพาราแปรรูปอบแห้ง และให้บริการตัดแผ่นปิดขอบไม้ (พีวีซี) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ จนเป็นบริษัทเฟอร์นิเจอร์รายแรกในรอบ 78 ปีที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ ECF เดินหน้าอย่างรวดเร็วทั้งกระบวนการผลิตและการรุกต่างประเทศเกิดขึ้นหลังจากการเดินทางเยี่ยมชมโรงงานที่เมือง Wakayama ประเทศญี่ปุ่นในปี 2545 และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนปัจจุบันบริษัทสามารถเดินหน้าเปิดตลาดต่างประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มลูกค้ายุโรป ตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศ AEC จากการให้ความสำคัญกับความละเอียดประณีต และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้รวดเร็ว และแม่นยำ

สำหรับตลาดในประเทศ ECF เน้นการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแบรนด์ “ELEGA” ซึ่งเป็นแบรนด์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา คุณภาพระดับพรีเมียม และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีโชว์รูม 15 สาขาทั่วประเทศใน Index Living Mall และ Home Pro พร้อมขยายตลาดในกลุ่มโมเดิร์นเทรด

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงปี 2557 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 1,235 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 69.88 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ของปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 309.16 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15.3 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 12.87% นอกจากนั้น บริษัทยังได้ลงนามสัญญาเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนจาก Disney เพื่อใช้ผลิตและจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ และเตรียมทิศทางทางการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการ

โดยทิศทางธุรกิจในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 12% อีกทั้งบริษัทได้มีกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย เพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศให้มากขึ้น และเจรจากับกลุ่มลูกค้าใหม่ในต่างประเทศ จัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ และการเจาะกลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

“เราทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เรามีโรงเลื่อยไม้เอง และเครือข่ายโรงเลื่อย โดยใช้ไม้ทั้งระยองและภาคใต้ รวมทั้งนำเข้าจากยุโรป เรายังมีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่ระยองอีก 2 โรงงาน ตั้งแต่เปิดโรงงานเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ” อารักษ์กล่าวถึงความพร้อมรับมือกับการแข่งขัน

เมื่อเปรียบมวยกับคู่ชกในอาเซียน ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไทยยังคงมีหมัดเด็ดที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบที่ประเทศส่วนใหญ่อย่างมาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ต้องมาสั่งซื้อไม้จากไทย เพราะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่และภูมิประเทศของประเทศ รวมทั้งคุณภาพและฝีมือของแรงงานไทยที่มีความประณีตมากกว่า

ในฐานะรุ่นพี่และนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย อารักษ์ทิ้งท้ายคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเปิดตลาดต่างประเทศว่า ก่อนทำธุรกิจในต่างประเทศ ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุด ทั้งความเข้าใจการส่งออก โครงสร้างราคา และต้นทุนธุรกิจ โดยสามารถผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความพร้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และเพิ่มแข็งแกร่งด้านเงินทุน  รวมทั้งการพยายามมองหาช่องทางแสดงสินค้าต่างประเทศ และติดต่อสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/DECEMBER%202015/chart---ECF.jpg" alt="" width="620" height="235" />

<hr />

<a href="http://goo.gl/8MhWJo">คลิ๊กอ่าน "ECF ผงาดสู่ตลาดโลก ท้าชนเฟอร์นิเจอร์ในอาเซียน" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ DECEMBER 2015</a>
<a href="http://goo.gl/8MhWJo"><img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/DECEMBER%202015/cover%20new.jpg" alt="" width="332" height="434" /></a>

ECF ผงาดสู่ตลาดโลก ท้าชนเฟอร์นิเจอร์ในอาเซียน

เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย ภาพ: ทวีศักดิ์ ภักดีหุ่น และ The Classic Chairs 
&nbsp; 
ชายหนุ่มผู้คืนลมหายใจให้เฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรปอายุกว่า 200 ปีให้ดำรงมนต์เสน่ห์ในโลกสมัยใหม่ โดยยังคงเอกลักษณ์แห่งยุคสมัยเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน จน The Classic Chairs ซึ่งเขาเป็นส่วนสำคัญในการร่วมขยายกิ่งก้านสาขา มีโอกาสถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ของไทย รวมทั้งพระราชวังและพระตำหนักของหลายราชวงศ์ทั่วโลก 
&nbsp; 
&ldquo;ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ชอบเฟอร์นิเจอร์มาตั้งแต่เด็ก&rdquo; ฐิรัฐ นาถวิริยกุล วัย 44 ปี Managing Director บริษัท เดอะ คลาสสิค แชร์ส จำกัด (The Classic Chairs) พูดพลางหัวเราะ ขณะแดดอ่อนจากภายนอกผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามากระทบโต๊ะเก้าอี้ไม้สีขาว ที่เขาและ Forbes Thailand ใช้เป็นมุมสนทนา ขับเน้นลายไม้ให้โดดเด่นชวนมอง สะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในคฤหาสน์ในชนบทของฝรั่งเศส ราวศตวรรษที่ 18-19 
&nbsp; 
จากการคลุกคลีในการทำงานจาก อนันต์ ผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่ร้านแว่นตาเวียงไทย และธุรกิจอื่นๆ รวมไปถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ที่อนันต์ผู้เป็นพ่อร่วมหุ้นกับเพื่อนชาวฮ่องกง ผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามสั่งสไตล์คลาสสิคจีนและจากเฟอร์นิเจอร์คลาสิคนี้เอง ได้ดึงดูด Paul Kenny ชาวออสเตรเลีย ผู้ทำธุรกิจด้านวัตถุโบราณ ที่สนใจทำเฟอร์นิเจอร์คลาสสิคจีน 
&nbsp; 
จากสัมพันธ์ของคนรุ่นพ่อได้ตกทอดมาสู่รุ่นลูก โดยมีความชอบในความคลาสสิคของเฟอร์นิเจอร์ที่สานต่อและทำให้ ฐิรัฐ นาถวิริยกุล หันหลังต่อธุรกิจส่งออกเครื่องเงินที่สร้างรายได้ 5000-6000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ต่อวันเมื่อครั้งที่ศึกษายังสิงคโปร์ เพื่อมาสืบต่อความคลาสสิคของการทำเฟอร์นิเจอร์ร่วมกับบิดาและ Kenny ในวัย 80 ปี โดยเปิดบริษัท เดอะ คลาสสิค แชร์ส จำกัด ขึ้นในประเทศไทยเมื่อ ปีพ.ศ.2545 
&nbsp; 
&ldquo;ผมเห็นธุรกิจหลายอย่างที่คุณพ่อทำ แต่ไม่ค่อยชอบ เคยช่วยงานที่ร้านแว่นอยู่สักพัก ขยายได้ 2-3 สาขา แต่ยังไม่รู้สึกกับธุรกิจนั้นมาก พอมีโอกาสกระโดดเข้ามาทำงานเฟอร์นิเจอร์ ผมก็คิดว่ายอมทิ้งทุกอย่างได้เลย&rdquo; เขาพูดพลางยิ้ม 
&nbsp; 
ในฐานะพสกนิกรชาวไทย สิ่งที่ฐิรัฐ และช่างฝีมือทุกคนภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ คือ การทำโต๊ะทรงพระอักษร สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ที่โรงพยาบาลศิริราช รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในพระตำหนักจักรีบงกช ซึ่งเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นต้น และเฟอร์นิเจอร์ของ The Classic Chairs ยังปรากฏอยู่ในพระราชวังและสถานที่สำคัญหลายแห่ง บ้านมหาเศรษฐี และโรงแรมชั้นนำทั้งไทยและทั่วโลก 
<hr />
<a href="http://goo.gl/6pbsXG">คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "ฐิรัฐ นาถวิริยกุล สามัญชนคนทำเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ APRIL 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events