<h2>ท็อปส์ เดลี่ ธุรกิจภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้กับวงการร้านสะดวกซื้อ เปิดตัว TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR ไฮบริดโมเดลใหม่ที่ผสาน 2 ความแข็งแกร่งจาก 2 แบรนด์ในเครือเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ได้แก่ ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต และท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ สเปเชียลตี้สโตร์ สร้างนิยามความสะดวกสบายรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าด้วยการขยายไลน์จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมียมจาก 13 ประเทศทั่วโลก กว่า 700 รายการ นำร่องในเฟสแรก 13 สาขาในไพร์มโลเคชัน ได้แก่ ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน และพัทยาเป็นพื้นที่แรก พร้อมตั้งเป้าขยายเพิ่ม 20 - 25 สาขาในปี 2568</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยยังคงมีอัตราการแข่งขันที่สูงจากอานิสงส์เทรนด์การบริโภคใหม่ๆ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย และการเติบโตขึ้นของภาคการท่องเที่ยว โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตสูงถึง 6.38 แสนล้านบาท (ที่มา: ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์) จึงได้เดินหน้าวางหมากกลยุทธ์สำคัญด้วยการสร้างความแตกต่างทางธุรกิจให้กับท็อปส์ เดลี่ เพื่อสู้สังเวียนธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่มีการแข่งขันสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการคาดการณ์ของ ททท. จะมีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 35.54 ล้านคน ซึ่งมาพร้อมดีมานด์สินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 13% ในพัทยาและภูเก็ต บวกกับจุดขายของแบรนด์ใมเครือของท็อปส์ที่มีอยู่ นำมาผสานเข้าด้วยกัน เกิดเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR นิยามใหม่ของร้านสะดวกซื้อไฮบริดโมเดล” สเตฟาน คูม กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/cfuo83EDpFjHyriHf84k.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cfuo83EDpFjHyriHf84k.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR ผสานความแข็งแกร่งของแบรนด์ ท็อปส์ เดลี่ (TOPS DAILY) มินิซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีจุดแข็งในเรื่องของสินค้าอุปโภค-บริโภคหลากหลายจากทุกมุมโลกเข้ากับสเปเชียลตี้ สโตร์อย่าง ท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ (TOPS WINE CELLAR) ซึ่งมีความโดดเด่นด้านการคัดสรรไวน์ที่มีคุณภาพโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการจัดซื้อไวน์ จำหน่ายไวน์ พรีเมียมและไวน์เอกสิทธิ์โดยตรงจากโรงบ่มไวน์ชั้นนำ ในราคาที่คุ้มค่า เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การช็อปปิ้งในร้านสะดวกซื้อในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่แบบตรงจุด ครบจบในที่เดียว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเสริมว่า TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR คือไฮบริดโมเดลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและยังเป็นแบรนด์แรกในตลาดที่รวมร้านสะดวกซื้อและร้านขายไวน์เฉพาะทางเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายพร้อมประสบการณ์ช็อปปิ้งที่สนุกและตอบโจทย์ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ตามแนวคิด Joy-venience Store ของท็อปส์ เดลี่ ซึ่งได้นำร่องเปิดตัวสาขาแรกที่ ท็อปส์ เดลี่ ลากูน่า วิลเลจ จ.ภูเก็ต โดยเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/x9T5tBxMbfihcWgDQrrL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="x9T5tBxMbfihcWgDQrrL.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราได้ขยายไลน์กลุ่มสินค้าแอลกอฮอล์เช่น เบียร์ ไวน์ และสุรา จาก 240 รายการ เพิ่มขึ้นเป็น 700 รายการ พร้อมทั้งจัดพื้นที่เป็นโซนพิเศษโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าที่มาช็อปที่ท็อปส์ เดลี่ ได้รื่นรมย์กับสินค้าคุณภาพหลากหลายรายการและได้ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มชั้นเลิศ จึงมั่นใจได้ว่าไฮบริดโมเดลนี้จะดึงความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าในพื้นที่ได้ สะท้อนจากความสำเร็จของสาขา ท็อปส์ เดลี่ ลากูน่า วิลเลจ ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเห็นได้จากยอดขายเฉลี่ยต่อวันของท็อปส์ เดลี่ ลากูน่า วิลเลจ สูงกว่ายอดขายที่คาดการณ์ไว้ถึง 37% โดยมีฐานลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสูงถึง 60%” เมทินี อธิบาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR ร้านสะดวกซื้อไฮบริดโมเดลใหม่ โดดเด่นด้วย 3 ไฮไลต์ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เหนือกว่า ได้แก่&nbsp; &nbsp; 1. ครบ จบ ทุกความต้องการช็อป ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสินค้าครบครันในที่เดียว ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องดื่มคุณภาพสูง ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย ตั้งแต่อาหารสด ของใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงไวน์และเครื่องดื่มนำเข้าจากทั่วโลก&nbsp; &nbsp; 2. ครบครันสินค้าไวน์นำเข้าชั้นเลิศที่คัดสรรอย่างดี ซึ่ง TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR ถือเป็นสวรรค์สำหรับคนรักไวน์และนักสังสรรค์อย่างแท้จริง โดยนำเสนอไวน์พรีเมียมมากกว่า 300 รายการจาก 13 ประเทศ รวมทั้งไวน์พิเศษถึง 200 รายการ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ (Wine Specialist) ที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเลือกไวน์ที่เหมาะกับความชอบของลูกค้า&nbsp; &nbsp; 3. ครบเครื่องด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย เติมเต็มสุนทรียภาพด้วยพื้นที่ที่ให้ลูกค้าได้นั่งสังสรรค์และผ่อนคลายพร้อมเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มหลากหลาย มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับแห่งการช็อปให้กับลูกค้า​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/ekte3CyhJMUpwA3fQW1Q.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ekte3CyhJMUpwA3fQW1Q.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันโมเดลไฮบริด TOPS DAILY x TOPS WINE CELLAR ได้ทดลองเปิดให้บริการเฟสแรกแล้วรวม 13 สาขา ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว อันได้แก่ ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน และพัทยา เพื่อทำความเข้าใจและศึกษาถึงการตอบรับของลูกค้าได้อย่างแท้จริงในแต่ละพื้นที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากการนำร้าน TOPS WINE CELLAR เข้ามาผนวกแล้ว ที่ท็อปส์ เดลี่ สาขาในยาง จ.ภูเก็ต ยังได้เพิ่มสีสันด้วยการผนึกร้าน The Baker Cafe เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสร้างภาพลักษณ์ที่แตกต่างของ ท็อปส์ เดลี่ ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงไลฟ์ไสตล์และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้เรามีเป้าหมายที่จะขยายโมเดลดังกล่าวเพิ่มขึ้น 20 - 25 สาขา ภายในปี 2568” เมทินี กล่าวสรุป ภาพ: ท็อปส์ เดลี่ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/pet-food-thailand-kresearch-mar-2025" alt="ทาสหมาแมวพร้อมเปย์! กสิกรฯ คาดตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงไทยปี 68 โต 12%">ทาสหมาแมวพร้อมเปย์! กสิกรฯ คาดตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงไทยปี 68 โต 12%</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

TOPS DAILY เปิดตัวโมเดลใหม่ รวม ‘ร้านสะดวกซื้อ-ร้านไวน์’ ไว้ในที่เดียว นำร่องทดลอง 13 สาขาในเมืองท่องเที่ยว

<h2>แสนสิริ (SIRI) รักษาระดับการเติบโต กวาดยอดขาย 9 เดือนแรกปี 2567 ทะลุ 37,000 ล้านบาท คิดเป็น 71% จากเป้าหมาย 52,000 บาทตลอดปีนี้ มีทั้งหมด 7 โครงการที่ Sold Out มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท เมืองท่องเที่ยวภูเก็ต - พัทยา - เชียงใหม่มาแรง ดันยอดขายพุ่งรับดีมานด์ลูกค้าต่างชาติ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิชาญ&nbsp;วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์การรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอและบริหารเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ส่งผลให้รอบ 9 เดือน แสนสิริทำผลงานได้อย่างโดดเด่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แสนสิริสร้างยอดขายรวมไปได้ถึง 37,000 ล้านบาท คิดเป็น 71% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% นอกจากนี้ แสนสิริยังมียอดโอนพุ่งทะลุไปถึง 31,000 ล้านบาท คิดเป็น 72% จากเป้าหมายยอดโอนปีนี้ 43,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15%​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/RDroQsK64HMSo9RC82v2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="RDroQsK64HMSo9RC82v2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน แสนสิริ</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ไตรมาส 3 แสนสิริทำผลงาน Sold Out! 7 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท นำโดยแนวราบ ได้แก่ เดมี สาธุ 49, บุราสิริ สันผีเสื้อ, เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ - ประชาชื่น2, อณาสิริ รังสิต และสราญสิริ รังสิต รวมทั้งคอนโดมิเนียม ได้แก่ เดอะ เบส เพชรบุรี - ทองหล่อ และดีคอนโด พนา” วิชาญกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ผลงานยอดขายที่ดี ยังมาจากบ้านเดี่ยวซิกเนเจอร์แบรนด์ ‘เศรษฐสิริ’ ที่ทำยอดขายรวม 9 เดือน ถึง 6,500 ล้านบาท รวมถึง สราญสิริ ศรีนครินทร์ - แพรกษา ยังปิดการขายเฟสแรกทันทีในวันพรีเซลล์ และมียอดโอนกรรมสิทธิ์ถึง 70% ของเฟสแรกภายใน 3 เดือน ส่วนสราญสิริ รังสิต 2 บ้านเดี่ยวติดริมแม่น้ำ ทำยอดจองกว่า 90% ของเฟสแรก ต่อยอดความสำเร็จของทำเลรังสิต - บางพูน คอมมูนิตี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ ‘เดอะ ริเวอร์’ (THE RIVER) คอลเลคชั่นบ้านเดี่ยวริมน้ำระดับลักชัวรี่มียอดขายกว่า 50% ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รวมทั้งแบรนด์ใหม่ทั้ง ‘ณริณสิริ’ และ ‘เมเบิล’ ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดี โดยมียอดลงทะเบียนสนใจโครงการจำนวนมาก​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/3t3oQuEpD2dPXgv7xk8x.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="3t3oQuEpD2dPXgv7xk8x.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> ภูเก็ต - เชียงใหม่ - พัทยา ยอดขายพุ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่โครงการในหัวเมืองท่องเที่ยวได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งเชียงใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยได้ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งกลุ่ม Affordable และ Luxury Segment อย่าง อณาสิริ พายัพ และเศรษฐสิริ รวมโชค ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี โดยเฉพาะอณาสิริ พายัพ ที่ Sold Out อย่างรวดเร็วทั้ง 2 เฟส ขณะที่เศรษฐสิริ รวมโชค มีการเสริมงานก่อสร้างให้รองรับดีมานด์บ้านเดี่ยวอย่างรวดเร็วมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนโครงการในภูเก็ต ได้รับการตอบรับที่ดีมากตามการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในภูเก็ตหลังตลาดท่องเที่ยวฟื้นตัว ทั้งโครงการแคนวาส เชิงทะเล ที่เพิ่งเปิดตัวและมีเสียงตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต โกยยอดขายพรีเซลล์ตั้งแต่เปิดตัวถึง 70% รวมทั้ง เวย์ โพธิสาร พัทยา ขายเต็มโควตากลุ่มลูกค้าต่างชาติ ไตรมาส 3 โอนทะลัก 5 คอนโดมิเนียม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผลงานการโอนในไตรมาส 3 แสนสิริตอกย้ำผู้นำตลาดแคมปัสคอนโดและกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงง่าย ลุยโอนไป 5 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์ ‘ดีคอนโด’ เจาะทำเลคอมมูนิตี้ใหญ่ ใกล้มหาวิทยาลัย แหล่งงาน มีดีมานด์สูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังลุยโอนโครงการ ‘VAY’ (เวย์) แบรนด์น้องใหม่ ราคาจับต้องได้ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการ Work Life Balance ในการทำงานควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตส่วนตัวจึงมองหาที่อยู่ที่มีพื้นที่สีเขียวและ Facilities อย่างฟิตเนสและสระว่ายน้ำภายในคอนโด โครงการ ‘เวย์อมตะ’ ชลบุรี มูลค่าโครงการ 670 ล้านบาท​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/kKwZpkkJ2YNtTeMd9uJD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="kKwZpkkJ2YNtTeMd9uJD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div> ลุยต่อไตรมาสสุดท้าย คาดผลงานปลายปีพุ่งนิวไฮ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“จากภาพรวมผลงานในรอบ 9 เดือนที่ดี คาดว่าแสนสิริจะสามารถสร้างผลงานตลอดปี 2567 ได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะทำผลงานที่ดีที่สุดในไตรมาสที่ 4 ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท ไฮไลต์เตรียมเปิดตัว SANSIRI 10 EAST (แสนสิริ เท็น อีสต์) แลนด์มาร์คสำคัญที่ประกอบด้วยโครงการระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่จาก 4 แบรนด์ที่เตรียมเปิดตัว ทั้งบ้านแสนสิริ, สิริณสิริ, นาราสิริ และเศรษฐสิริ บนพื้นที่กว่า 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท” วิชาญ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปี 2567 แสนสิริวางแผนเปิดตัวรวม 46 โครงการ มูลค่ารวม 61,000 ล้านบาท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/kr-home-loan-banking-thailand-sep-2024" alt="ศูนย์วิจัยฯ ประเมินสินเชื่อบ้านโตต่ำสุดในรอบ 23 ปี ผลเศรษฐกิจฟื้นไม่ทั่ว-หนี้เสียสูง">ศูนย์วิจัยฯ ประเมินสินเชื่อบ้านโตต่ำสุดในรอบ 23 ปี ผลเศรษฐกิจฟื้นไม่ทั่ว-หนี้เสียสูง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แสนสิริอวดยอดขาย 9 เดือน 37,000 ล้านบาท โตแรง 10% YoY พร้อมลุยต่อ 16 โครงการไตรมาสสุดท้าย

เปิด 8 จุดหมายท่องเที่ยวสุดคุ้มทั่วเอเชีย ‘อุดรธานี’ คว้าอันดับ 1 เดินทางง่าย ที่เที่ยวหลากหลาย ค่าใช้จ่ายไม่แพง

<h2>โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ผู้พัฒนาโครงการพูลวิลล่าระดับลักชัวรีในจังหวัดภูเก็ตด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี เผยแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องหลังประสบความ สำเร็จอย่างล้นหลามในเกาะภูเก็ต เดินหน้าต่อยอดความเข้าใจตลาด HNWI (High Net Worth Individual) ทั้งไทยและต่างชาติ</h2>​&nbsp; &nbsp; โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า (Botanica Luxury Villas)&nbsp;เตรียมทุ่มงบรวมกว่า 1.3 พันล้านบาท รุกปั้นวิลล่าหรูในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์&nbsp;เน้นเจาะทำเลเปี่ยมศักยภาพที่ครบครันทั้งชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและไลฟ์สไตล์เหนือระดับ มุ่งรองรับการท่องเที่ยวที่กลับมาบูมสุดขีดหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและเทรนด์การย้ายถิ่นฐานของทั้งคนไทยและต่างชาติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่าเผยในอนาคตมีแผนเจาะตลาดพังงาและเขาใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการวิลล่าระดับลักชัวรีดีไซน์งดงามภายใต้มาตรฐานระดับโลก ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาวิลล่าหรูชั้นนำที่พร้อมเติมเต็มทุกมิติของลักชัวรี ไลฟ์สไตล์ในหลากหลายภูมิภาคของเมืองไทย ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นหมุดหมายระดับโลกด้านการพักผ่อนและ การอยู่อาศัยที่ครบครันตอบโจทย์ที่สุดของชีวิตเหนือระดับที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า สั่งสมประสบการณ์การพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมานานกว่า 20 ปี ที่ผ่านมาได้พัฒนาและเปิดขายโครงการไปแล้วกว่า 27 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 52,000 ล้านบาท ทุกโครงการล้วนตั้งอยู่บนไพรม์โลเคชัน  มีความโดดเด่นด้านการออกแบบที่งดงามทันสมัยพร้อมมอบความสงบเป็นส่วนตัวและการใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style=""><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/dsZBY5gPGRoYqqY5utyx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="dsZBY5gPGRoYqqY5utyx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1920,1920" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทฯ เพิ่งฉลองการทุบสถิติยอดขายวิลล่าหรูในเกาะภูเก็ตด้วยยอดขาย 1,200 ล้านบาทเฉพาะเดือนมกราคม 2567 พร้อมตั้งเป้าจบปี 2567 ด้วยยอดขายรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจึงพร้อมนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ มารุกตลาดวิลล่าหรูในหัวเมืองใหญ่อื่นๆ เริ่มจากกระบี่ด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท และหัวหิน ด้วยงบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งมีกำหนดการก่อสร้างโครงการในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 66 และไตรมาสที่ 2 ปี 67 ตามลำดับและต่อด้วยการเจาะตลาดพังงาและเขาใหญ่ ในอนาคต&nbsp; &nbsp;&nbsp;อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด&nbsp;กล่าวว่า “ทั้งกระบี่ หัวหิน พังงา และเขาใหญ่ ทุกๆ พื้นที่มีความยูนีคและเสน่ห์ในตัวเอง แต่สิ่งที่มีร่วมกันคือ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เพียบพร้อมด้วยธรรมชาติงดงามตระการตาและไลฟ์สไตล์ฮับครบครัน ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม HNWI ของเราได้เป็นอย่างดี โดยอิงจากราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องในทั้ง 4 จังหวัด นอกจากนี้ โปรเจ็กต์โครงสร้างสร้างพื้นฐาน ใหม่ๆ ก็จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในทั้ง 4 ตลาดใหม่ของเรา ไม่ว่าจะเป็นสนามบินนานาชาติอันดามันในจังหวัดพังงา รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราช เป็นต้น โดยไทม์ไลน์จะเริ่มจากกระบี่ ต่อด้วยหัวหิน และเตรียมแผนรุกตลาดพังงาและเขาใหญ่ต่อไป”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อรรถสิทธิ์ยังเสริมเกี่ยวกับโครงการวิลล่าในกระบี่และหัวหินว่า “จะเป็นสไตล์ Modern Loft ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า ด้วยดีไซน์เรียบหรูและความโปร่งสบายของแปลนบ้าน คาดว่าโครงการจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งชาวไทย ต่างชาติ และนักลงทุน ที่มองหาโครงการวิลล่าหรูที่สวยงามและเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันบนทำเลสุดแรร์ในแต่ละพื้นที่ เรามั่นใจว่าการทยอยรุก 4 ตลาดใหม่ของเราจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและชื่อเสียงของแบรนด์ในฐานะผู้พัฒนาวิลล่าลักชัวรีคุณภาพสูงชั้นนำของเมืองไทย” เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/centara-business-plan-2024" alt="‘เซ็นทารา’ ฟื้นกลับมามีกำไร! ปีนี้เตรียมเปิดโรงแรมอีก 6 แห่ง">‘เซ็นทารา’ ฟื้นกลับมามีกำไร! ปีนี้เตรียมเปิดโรงแรมอีก 6 แห่ง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า’ กางแผนสยายปีกนอกภูเก็ต เตรียมทุ่มงบ 1.3 พันล้าน รุก 4 หัวเมืองท่องเที่ยว

10 ทำเลบ้านหลังที่สองสุดฮอตรอบโลก

ต่างชาติโอนคอนโดพุ่งกว่า 5 หมื่นล้าน เมืองท่องเที่ยวเริ่มฟื้น

<h2>บริษัทวิจัยการตลาด Euromonitor International เผยรายงาน 100 เมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมประจำปี 2023 โดยภูมิภาคยุโรปยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง Paris เมืองหลวงฝรั่งเศสครองบัลลังก์อันดับ 1 อีกครั้ง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Euromonitor International ได้ทำการสำรวจเปรียบเทียบเมืองต่างๆ ทั่วโลกโดยใช้เกณฑ์คัดเลือก 55 ข้อ นำมาคำนวณถึงความมีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวของแต่ละเมือง โดยมีหลักสำคัญ 6 ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ ประสิทธิภาพด้านการท่องเที่ยว โครงสร้างด้านการท่องเที่ยว นโยบายและความน่าสนใจที่มีต่อการท่องเที่ยว สุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงความยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รายงานเผยว่าการท่องเที่ยวนานาชาติมีการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง เห็นได้จากจำนวนเที่ยวการเดินทางที่เติบโต 38% และคาดว่าจะแตะ 1.3 พันล้านเที่ยว ณ สิ้นปี 2023 ด้วยอานิสงส์จากการคลายมาตรการโควิด-19 และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจนจำนวนมหาศาล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยตัวเลขค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวขาเข้าทั่วโลก ประมาณการว่าจะมีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้&nbsp; &nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นความท้าทายที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องเผชิญในปีหน้า หากเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2024 มีโอกาสที่เที่ยวเดินทางนานาชาติจะเหลือเพียง 1.46 พันล้านเที่ยว น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในทีแรกที่ 1.5 พันล้านเที่ยว&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับภูมิกาคที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวสูงสุดอิงจากเกณฑ์ 55 ข้อนั้นยังคงเป็นยุโรป โดยใน 10 อันดับแรกเป็นเมืองในยุโรปไปแล้ว 7 แห่ง รองลงมาคือเอเชีย และอเมริกาเหนือ ดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. Paris, ฝรั่งเศส&nbsp; &nbsp;&nbsp;2. Dubai, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์&nbsp; &nbsp;&nbsp;3. Madrid, สเปน&nbsp; &nbsp;&nbsp;4. Tokyo, ญี่ปุ่น&nbsp; &nbsp;&nbsp;5. Amsterdam, เนเธอร์แลนด์&nbsp; &nbsp;&nbsp;6. Berlin, เยอรมนี&nbsp; &nbsp;&nbsp;7. Rome, อิตาลี&nbsp; &nbsp;&nbsp;8. New York, สหรัฐอเมริกา&nbsp; &nbsp;&nbsp;9. Barcelona, สเปน&nbsp; &nbsp;&nbsp;10. London, สหราชอาณาจักร&nbsp; &nbsp; ประเทศไทยมีเมืองที่ได้คะแนนสูงติดอันดับ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ (อันดับ 33), ภูเก็ต (อันดับ 80) และพัทยา-ชลบุรี (อันดับ 84) &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนเมืองที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในปี 2023 คือ Istanbul ประเทศตุรกี ตามด้วย London และ Dubai ตามลำดับ แต่หากคำนวณอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว อันดับ 1 คือ Hong Kong คิดเป็น +2,495% เทียบกับปี 2022&nbsp; &nbsp;&nbsp;ส่วนกรุงเทพเติบโตเป็นอันดับ 2 ที่ +142% โดยเป็นผลจากการที่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดจนการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน&nbsp; &nbsp;&nbsp;กระนั้นก็ตาม เมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั้งหลายต่างกำลังพิจารณากลยุทธ์รับมือกับภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง พิจารณาการจัดเก็บภาษีท่องเที่ยว และสนับสนุนโอกาสการลงทุนในแต่ละเมืองไปพร้อมๆ กับการบำรุงรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติและทรัพย์สินด้านวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อความยั่งยืน&nbsp; &nbsp;&nbsp;เมืองหลายแห่งต่างก็นำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้กันแล้ว ไม่ว่าจะโครเอเชีย ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ กรีซ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน แหล่งที่มา:<a href="https://www.euromonitor.com/article/2023s-top-100-city-destinations-ranking-triumphs-and-turmoil-uncovered" alt="2023’s Top 100 City Destinations Ranking: Triumphs and Turmoil Uncovered">2023’s Top 100 City Destinations Ranking: Triumphs and Turmoil Uncovered</a><a href="https://edition.cnn.com/travel/euromonitor-world-top-city-destinations-2023/index.html" alt="The world’s top city destinations for 2023 are revealed">The world’s top city destinations for 2023 are revealed</a> <a href="https://www.forbes.com/sites/laurabegleybloom/2023/12/14/ranked-the-100-best-cities-in-the-world-according-to-a-new-report/?sh=52c24f255c00" alt="Ranked: The 100 Best Cities In The World, According To A New Report">Ranked: The 100 Best Cities In The World, According To A New Report</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/gen-z-is-least-likely-to-travel-abroad" alt="SiteMinder เผยมิลเลนเนียลชาวไทยมีโอกาสเที่ยว ตปท.มากสุดปีหน้า ส่วน Gen Z น้อยสุด">SiteMinder เผยมิลเลนเนียลชาวไทยมีโอกาสเที่ยว ตปท.มากสุดปีหน้า ส่วน Gen Z น้อยสุด</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ท่องเที่ยวนานาชาติฟื้นตัว! Paris คว้าอันดับ 1 จุดหมายยอดนิยม

<h2>Time Out สื่อระดับโลกเมืองผู้ดีเปิดลิสท์ top 40 coolest neighbourhoods ย่านที่ดีที่สุดทั่วโลกจากความสนุกสนาน อาหาร วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของชุมชน นำโดย Esquerra de l'Eixample ในเมืองบาร์เซโลนา ส่วน "จุฬา-สามย่าน" อยู่ในอันดับที่ 16</h2>
จากการรวบรวมและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้คนในท้องถิ่นผ่านการสำรวจ Time Out Index ประจำปี ซึ่งสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วโลกกว่า 38,000 คนเกี่ยวกับย่านที่พวกเขาชอบใช้เวลาผ่อนคลายมากที่สุด ไม่เฉพาะความรู้สึก อาหาร เครื่องดื่ม ชีวิตยามค่ำคืน และวัฒนธรรมเสรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณของชุมชนที่สะท้อนความรักและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในชุมชน

สำหรับย่านที่สามารถครองใจคนทั่วโลกในปี 2563 ได้แก่ Esquerra de l'Eixample ในเมือง Barcelona ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของชุมชนได้อย่างน่าทึ่งผ่านโครงการริเริ่มหลายโครงการ เช่น Hidrogel Sessions โดยเป็นกิจกรรมที่บ้านต่างๆ พากันออกมาร้องรำทำเพลงกันที่ระเบียงบ้านของตนเองในช่วงเวลาที่เมืองถูกล็อกดาวน์ รวมทั้ง ย่าน Esquerra de l'Eixample ยังเต็มไปด้วยพื้นที่สาธารณะ เช่น สวน Espai Germanetes ที่ดูแลโดยชุมชน และธุรกิจอิสระที่ไม่เหมือนใครอย่าง Odd Kiosk แผงนิตยสาร LGBTQ+ แห่งแรกของโลก

ส่วนจุฬา-สามย่าน ของกรุงเทพมหานครฯ ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยความคูลติดอันดับที่ 16 ของโลกและอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน จากการผสมผสานไลฟ์สไตล์ของพื้นที่โดยรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งแหล่งรับประทานอาหาร ช้อปปิ้ง ร้านค้ามากมาย ซึ่งผู้ที่อยู่ในย่านนี้ยังสามารถเดินเล่นชิมอาหารแนว street food รสชาติดั้งเดิมได้ในราคาไม่แพงตลอดเส้นบรรทัดทอง หรือจะข้ามไปยังสามย่านมิตรทาวน์ที่มีร้านหนังสือเปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึง โรงภาพยนตร์ที่คัดสรรภาพยนตร์นอกกระแสดีๆ ให้ได้เลือก พร้อมด้านข้างที่มีโรงแรม Triple Y ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านศิลปะและการออกแบบสไตล์ดีไซน์โฮเทล

นอกจากนั้น ย่านที่ติดอันดับ 2 ยังเป็นของ Downtown เมือง Los Angeles และอันดับ 3 ได้แก่ Sham Shui Po ฮ่องกง โดย 5 อันดับแรกที่ติดอันดับในลิสท์ top 40 coolest neighbourhoods ทั่วโลก  ดังนี้

&nbsp;

1.Esquerra De L'Eixample, Barcelona

<img class="alignnone size-full wp-image-35492" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/0001.jpg" alt="" width="600" height="450" />

2.Downtown, LA

<img class="alignnone size-full wp-image-35487" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/002.jpg" alt="" width="600" height="400" />

3.Sham Shui Po, Hong Kong

<img class="alignnone size-full wp-image-35488" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/003.jpg" alt="" width="600" height="400" />

04.Bedford-Stuyvesant, New York

<img class="alignnone size-full wp-image-35489" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/004.jpg" alt="" width="600" height="400" />

05.Yarraville, Melbourne
<img class="alignnone size-full wp-image-35490" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/005.jpg" alt="" width="600" height="400" />


16. จุฬา-สามย่าน , Bangkok

<img class="alignnone size-full wp-image-35496" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/10/บรรทัดทอง_03.jpg" alt="" width="600" height="400" />

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/commentaries/thought-leaders/%e0%b8%96%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%81%e0%b9%88.html">ถนนไทยและความปลอดภัย ก่อน-หลัง “โควิด-19”</a>

<article id="post-34018" class="post-34018 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-marketing category-news tag-891 tag-11994 tag-11992 tag-1970 tag-11993">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">
<div>

<hr />

ไม่พลาดบทความด้านกลยุทธ์องค์กรและธุรกิจ ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine </a>
และ <a href="https://twitter.com/Forbes_TH">ทวิตเตอร์ Forbes Thailand</a>

</div>
</div>
</article>&nbsp;

&nbsp;

จุฬา-สามย่าน ติดอันดับย่านสุดคูลทั่วโลก

"Branded" vs "การันตีผลตอบแทน" ลงทุนให้รุ่งใน "เมืองท่องเที่ยว"

<h2>ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังคงเผชิญหน้ากับ หลากปัจจัยลบที่ล้วนส่งผลให้ตลาดชะลอตัว</h2>
แต่จากการสำรวจตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่ในเมืองท่องเที่ยวยังคงเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากโครงการหรูที่เตรียมจ่อคิวเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้

<img class="alignnone size-full wp-image-25245" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/Veyla-Natai-Residences-BEACH_Living-dining-pantry.jpg" alt="" width="800" height="445" />
Veyla Natai Residences


พัฒนาโดย บริษัท ไอเดียส์ 1606 จำกัด บนชายหาดนาใต้ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา แบ่งเป็น Veyla Sea 67 ล้านบาท และ Veyla Beach 98 ล้านบาท

<img class="alignnone size-full wp-image-25242" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/Banyan-Tree-Residences-–-3Bedroom-Pool-Villa-e1576775472971.jpg" alt="" width="800" height="500" />

Banyan Tree Residences

วิลล่าหรูพื้นที่รวมกว่า 403 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบันยันทรีภูเก็ต บนทำเลลากูน่า ภูเก็ต หาดบางเทา พัฒนาโดย บันยันทรี กรุ๊ป ประกอบด้วยห้องนอนพร้อมห้องน้ำน้ำในตัว 3 ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ศาลาทรงไทย สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่ และลานอาบแดด ระดับราคา 50 ล้านบาท

<img class="alignnone size-full wp-image-25243" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/MGallery-Residences-MontAzure-Lakeside_Bedroom.jpg" alt="" width="800" height="450" />

61M Gallery Residences MontAzure Lakeside

ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของโครงการมอนท์เอซัวร์ บนทำเลชายหาดกมลา ภูเก็ต ระดับราคา 7.3-13.5 ล้านบาท พัฒนาโดย บริษัท กมลา บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล แมนเนจเม้นท์ จำกัด

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/bebabb02-eb1c-4942-ab9c-3fbf41894111/forbes-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A1-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-2562">คลิกเพื่ออ่านบทความทางด้านการลงทุนได้ที่ Forbes Life แถมฟรีมาในนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2019 ในรูป e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-24460" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/ForbesLifeNov2019.jpg" alt="" width="300" height="359" />

ลักชัวรี่เรซิเดนซ์ เมืองท่องเที่ยวแรงดีไม่ตก

Central Group ร่วมกับรัฐบาล นำเสนอโครงการประชารัฐ &ldquo;แปลงโฉมจังหวัดอยุธยา&rdquo; เพื่อดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดอยุธยากลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย และสร้างเสริมศักยภาพมีคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมคืนกลับสู่สังคม และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย 
 
ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาอยุธยา คือการซ่อมแซม บูรณะวัดและสถานที่โบราณ ปรับภูมิทัศน์เกาะอยุธยาผ่านการปลูกต้นไม้ใหญ่ พัฒนาพื้นที่สาธารณะในสวยงามและร่มรื่น ออกแบบจัดแสงให้กับโบราณสถานเพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ในเวลาค่ำคืน ปรับถนนและทางเท้าเพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางและเส้นทางการปั่นจักรยาน จัดโซนนิ่งเมืองเพื่อตอบสนองกับรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงปรับปรุง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสำคัญให้เทียบเคียงพิพิธภัณฑ์ระดับนานาชาติ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อเชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับคนยุคดิจิตอลได้อย่างน่าสนใจ 
 
ด้วยศักยภาพภายหลังการแปลงโฉมอยุธยา คาดการณ์นักท่องเที่ยว เพิ่มขึ้น 15-20 ล้านคน ในปีเป้าหมาย 2568 เพื่อสร้างให้อยุธยาติดอันดับ 10 เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นต้นแบบการปรับปรุงเมืองท่องเที่ยว อาทิ สุโขทัย ต่อไป 
 
 
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/ZTCV99iqwBw" width="100%"></iframe>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events