<h2>หรือแอปหาคู่แบบเดิมจะฮิตน้อยลง? เมื่อผลสำรวจพบว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง ‘Instagram’ กำลังกลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมในการพบปะและสื่อสารของเหล่าคนที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นคนรัก หรือเรียกว่า ‘คนที่กำลังคุยๆ กันอยู่’ อย่างน้อยก็คนหลายแสนคนที่ใช้แอปช่วยออกเดตอย่าง Rizz</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rizz เป็นแอป AI ช่วยออกเดตซึ่งเปิดตัวในปี 2022 โดยทำหน้าที่เหมือนโค้ชการออกเดต ช่วยให้ผู้ใช้สร้างคำตอบที่เป็นข้อความที่ฉลาดแหลมคม และประโยคจีบสาวที่ไม่ค่อยน่าเขินอาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โค้ชด้านการออกเดตคิดค่าบริการชั่วโมงละ 30-300 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจ่ายเงินเกิน 30 เหรียญต่อชั่วโมงได้ ดังนั้น เมื่อ ChatGPT เปิดตัว ฉันก็มีแนวคิดนี้อยู่ในใจแล้ว” Roman Khaves ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอของ Rizz กล่าวกับ Business Insider&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้ใช้จะอัปโหลดภาพหน้าจอการสนทนาจากแอปหาคู่ แอปส่งข้อความ หรือโซเชียลมีเดีย ไปยัง Rizz จากนั้นแอปจะสร้างการตอบกลับ โดยแอปนี้ใช้ ChatGPT ในการทำงาน แต่ปรับแต่งการตอบกลับตามการบทสทนาก่อนหน้านี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Khaves กล่าวว่ายิ่งคุณใช้แอปนี้มากเท่าไหร่ การตอบกลับก็จะดีขึ้น และเฉพาะบุคคลมากขึ้นเท่านั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rizz มีค่าใช้จ่าย 7 เหรียญต่อสัปดาห์ หรือ 20 เหรียญต่อเดือน และมีผู้ใช้ใช้งานจริงประมาณครึ่งล้านคนต่อเดือน ฐานผู้ใช้ของแพลตฟอร์มเป็นผู้ชาย 65% และผู้หญิง 35% และส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี ส่วนใหญ่มาจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Khaves แบ่งปันข้อมูลกับ BI ซึ่งแสดงให้เห็นว่า 22% ของภาพหน้าจอที่อัปโหลดไปยัง Rizz มาจาก Instagram ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว ขณะที่ประมาณ 15% มาจาก iMessage และ 11% มาจาก WhatsApp ทั้งนี้ แอปหาคู่มีส่วนแบ่งที่น้อยกว่า โดย Tinder อยู่ที่ 11%, Hinge อยู่ที่ 10% และ Bumble อยู่ที่ 4%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดา ‘คนคุย’ จะพบกันบนแอปหาคู่ และย้ายมาสนทนากันผ่านแอปข้อความหรือแม้กระทั่ง Instagram อย่างรวดเร็ว แต่ Rizz มองเห็นหลักฐานในข้อมูลว่า Instagram กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับแรกสำหรับการหาคู่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Khaves กล่าวว่า “สองเหตุผลที่ทำให้ Instagram ได้พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ คือการที่สามารถส่งข้อความหากันได้โดยตรง หรือการเชื่อมต่อกันตามธรรมชาติผ่านเนื้อหาที่แชร์กัน ผู้คนต่างก็เริ่มต้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นบน Instagram”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การหาคู่บน Instagram ไม่ใช่เรื่องใหม่ คู่รักคนดัง เช่น Joe Jonas และ Sophie Turner หรือ Dua Lipa และ Anwar Hadid อดีตคนรัก รวมถึงคู่รักทั่วไปต่างก็พบรักบน Instagram ข้อมูลจาก Rizz แสดงให้เห็นว่าการหาคู่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้ใช้เลิกใช้แอปหาคู่ทั่วไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อัลกอริทึมของ Rizz สามารถติดตามแหล่งที่มาของภาพหน้าจอ โดยแยกแยะว่าผู้ใช้อัปโหลดภาพจากสตอรี่บน Instagram หรือข้อความโดยตรง สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือประวัติเบื้องหลังความสัมพันธ์ “สิ่งเดียวที่เราไม่รู้คือพวกเขารู้จักบุคคลนี้มานานแค่ไหน พวกเขาเป็นเพื่อนกับบุคคลนี้บน Instagram มาสักระยะหรือไม่” Khaves กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rizz กำลังพัฒนาฟีเจอร์ที่ออกแบบมาสำหรับ Instagram โดยเฉพาะ โดยการเคลื่อนไหวครั้งแรกสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวหรือรูปภาพแทนที่จะใช้คำสั่งบน Hinge นอกจากนี้ Instagram ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ในเดือนกันยายนที่อนุญาตให้ผู้ใช้แสดงความคิดเห็นใต้เรื่องราว ทำให้ผู้ติดตามโต้ตอบกันได้ง่ายขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เหตุผลที่ผู้คนเลิกใช้แอปหาคู่ก็อาจเป็นเรื่องง่ายๆ นั่นก็คือ แอปเหล่านี้ให้ข้อมูลมากเกินไปเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นสิ่งควรรู้หลังได้รู้จักกันแล้ว&nbsp; &nbsp; "ลองคิดดูสิ ในชีวิตจริง คุณไม่ได้เดินเข้าไปหาใครสักคนพร้อมประวัติย่อเกี่ยวกับส่วนสูง อาชีพ และความตั้งใจที่จะออกเดตของคุณ แต่คุณจะได้รู้จักพวกเขาทีละน้อยผ่านช่วงเวลาที่ร่วมกันและความสนใจร่วมกัน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Instagram ทำได้” Khaves กล่าว <a href="https://www.freepik.com/free-photo/woman-showing-instagram-icon_3539850.htm#fromView=search&amp;page=1&amp;position=2&amp;uuid=1fa0e866-a3e8-46ae-bae7-77a32fd5da2c&amp;query=instagram">Image by rawpixel.com on Freepik</a> แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a target="_blank" href="https://www.businessinsider.com/instagram-most-popular-new-dating-app-rizz-data-2025-2" alt="Instagram might be the most popular new dating app, new data shows">Instagram might be the most popular new dating app, new data shows</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/other/thai-chamber-of-commerce-expect-valentine-2025-make-money-2700-million-baht-expansion-in-6-years" alt="หอการค้าไทย คาด 'วาเลนไทน์' ปีนี้ เงินสะพัด 2,700 ล้าน ขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี 7.2%">หอการค้าไทย คาด 'วาเลนไทน์' ปีนี้ เงินสะพัด 2,700 ล้าน ขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี 7.2%</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

อยากมีคนรักก็ทัก DM! ‘Instagram’ อาจกลายเป็นแอปหาคู่ที่คนชอบใช้มากสุด

<h2 class="p1">Blued แอพฯ หาคู่ชาวเกย์ ที่มุ่งเป้าในหมู่ชาวจีน วางแผนเปิดไอพีโอปีหน้า โดยบริษัทได้รับการประเมินมูลค่าไว้ถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Blued มีแนวโน้มความเสี่ยงจากการควบคุมทางสังคมการเมืองในประเทศจีนเองและในประเทศอื่นๆ</h2>
Bloomberg รายงานว่า Blue City บริษัทผู้พัฒนาแอพฯ Blued อยู่ระหว่างเตรียมยื่นเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาช่วงปี 2020 โดยคาดว่าจะระดมทุนได้ 200 ล้านเหรียญ ทั้งนี้ แอพฯ Blued ซึ่งมีต้นกำเนิดในจีน เลือกเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะมีขั้นตอนการจดทะเบียนที่ง่ายกว่าและนักลงทุนก็กระเป๋าหนักกว่าในแดนมังกร
Blued นั้นเป็นแอพฯ หาคู่ที่มุ่งเป้ากลุ่มเกย์ชายและมีผู้ใช้ถึง 40 ล้านคน ซึ่งรายงานบางฉบับกล่าวถึงแอพฯ นี้ว่าเป็นแอพฯ หาคู่ของกลุ่มเกย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
โดยนอกจากจะเป็นแอพฯ หาคู่ให้คนโสดแล้ว ยังมีฟังก์ชันให้คู่รักชาวเกย์สามารถจับคู่กับแม่อุ้มบุญในต่างประเทศได้ด้วย ฟังก์ชันใหม่นี้ถือเป็นการสร้างความหลากหลายที่สำคัญของ Blued ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น


<figure><img class="wp-image-15869 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/geng_le_high_res-e1567576866581.jpg" alt="" width="800" height="517" /><figcaption> Geng Le ประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง แอพพลิเคชั่น Blued โดย Geng Le เป็นชื่อที่เขาใช้ในห้องแชท ส่วนชื่อจริงของเขาคือ Ma Baoli</figcaption></figure>
อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่งแอพฯ Blued อาจต้องเผชิญความยากลำบากในการจูงใจนักลงทุนจากการเลือกจับกลุ่มเกย์ เนื่องจากในประเทศจีนนั้น แม้ว่ากฎหมายเอาผิดความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันจะถูกยกเลิกไปเมื่อปี 1997 แต่รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่ได้มีทัศนคติที่ดีนักต่อชุมชุม LGBTQ 
ล่าสุดรัฐบาลจีนยังมีการสั่งแบนละครโทรทัศน์ที่ฉายภาพความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน กระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ ขณะที่ในอินโดนีเซีย Blued รวมถึงแอพฯ จับคู่กลุ่ม LGBTQ อื่นๆ ก็ถูกต่อต้านโดยรัฐและถูกตำรวจท้องถิ่นเพ่งเล็งชุมชนนี้
สำหรับการก่อตั้ง Blued นั้นเริ่มขึ้นโดย Geng Le ประธานกรรมการบริษัทผู้พัฒนาแอพฯ นี้ขึ้นในปี 2012 หลังจากที่เขาถูกบีบให้ลาออกจากอาชีพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้ง Blued ระดมทุนสะสมไปแล้ว 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจาก Blued แล้ว แอพฯ หาคู่ชื่อดังในหมู่เกย์ทั่วโลกอย่าง Grindr ก็มีบริษัทจีนเป็นเจ้าของเช่นกัน โดยบริษัท Beijing Kunlun Tech Co. เข้าซื้อหุ้น 60% ใน Grindr เมื่อปี 2016 จากนั้นพวกเขาซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 80% ในปี 2018 
Grindr เองกำลังเตรียมแผนเปิดไอพีโออีกครั้ง หลังจากผ่านปัญหายุ่งยากเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามบีบให้ Beijing Kunlun Tech Co. ขายบริษัท Grindr เพราะกังวลประเด็นภัยความมั่นคงของชาติ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันในแอพฯ นี้มีทั้งเรื่องรสนิยมทางเพศจนถึงข้อมูลการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งอาจจะเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับแบล็กเมล์ได้
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/lisettevoytko/2019/08/30/chinas-largest-gay-dating-app-reportedly-plans-ipo-for-1-billion-valuation/#7623544c47bd">China’s Largest Gay Dating App Reportedly Plans IPO For $1 Billion Valuation</a></li>
</ul>
&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/technology/thailand/%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%8c%e0%b8%89%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%9f%e0%b9%89.html">Blued สื่อรักออนไลน์ฉบับสีฟ้า</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/cover-story/bumble.html">BUMBLE กลเกมหาคู่พันล้าน</a></li>
</ul>

แอพฯ หาคู่ชาวเกย์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน "Blued" เตรียมเปิดไอพีโอพันล้านปีหน้า

BUMBLE กลเกมหาคู่พันล้าน

<h2>ตลอดแนวบันไดทางเดินไปยังสำนักงานของ Baoli เต็มไปด้วยภาพโป๊เปลือยของบรรดาชายหนุ่มแขวนอยู่บนกำแพง ในขณะที่ห้องทำงานมีภาพเปลือยอกของ Baoli และสมาชิกผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Danlan.org จำนวน 7 คนติดอยู่ที่ผนังห้อง เว็บไซต์แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นกระทู้สนทนาของกลุ่มชาวสีรุ้งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีน</h2>
Baoli ซึ่งใช้ชื่อในห้องสนทนาว่า “Geng Le” เคยรับราชการตำรวจ โดยประจำอยู่ที่จังหวัด Hebei ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศมานานเกือบ 20 ปี ก่อนที่เขาจะถูกบีบให้ลาออกจากราชการ เนื่องจากหน่วยงานต้นสังกัดสืบทราบว่าเขาเป็นพิธีกรภาคดึกในห้องสนทนาของเว็บไซต์ Danlan

แต่เพียงแค่ประมาณ 2-3 ปีหลังจากนั้น สิ่งต่างๆ ในสังคมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น สังคมจีนเริ่มให้การยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1980-1990 มองเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวของบาร์เกย์จำนวนมากในหัวเมืองใหญ่อย่างกรุง Beijing และ Shanghai นับเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบอาชีพใหม่ของ Baoli ในวัย 38 ปีเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยเหตุนี้ ในปี 2012 เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Blue City โดยในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน Baoliได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นหาคู่ที่มีชื่อว่า Blued ซึ่งสามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนโดยอาศัยสัญญาณ GPS ในการระบุพิกัดผู้กำลังออนไลน์ใช้งานแอพฯ นี้ในละแวกใกล้เคียง โดยแอพฯ หาคู่ของเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเหล่าสมาชิกเว็บไซต์ Danlan ซึ่งไม่รีรอที่จะโหลดแอพฯ ดังกล่าวมาทดลองใช้งานในทันที

Blued ระบุว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอพฯ ดังกล่าวแล้วประมาณ 20 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ใช้งานจากต่างประเทศ 6 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติตัวเลขผู้ใช้งานที่แซงหน้าแอพฯ คู่แข่งอย่าง Grindr ในสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกเพียงแค่ 5 ล้านคนเท่านั้น

ในปีที่ผ่านมา Baoli สามารถระดมเงินทุนจำนวน 30 ล้านเหรียญ โดยเป็นการระดมทุนร่วมกับ DCM ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุน (VC) โดย DCM ประเมินมูลค่ากิจการของบริษัทว่าอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านเหรียญ ในปีนี้เขามีแผนจะเจรจากับนักลงทุนเพื่อระดมทุนรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้รับการประเมินมูลค่าสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน Baoli มีแผนจะขยายกิจการไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษในประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเขาตั้งใจจะประชาสัมพันธ์แอพฯ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษในประเทศบราซิล ไทย และสหรัฐอเมริกา ส่วนไต้หวันเป็นประเทศที่เขาจะปักหมุดเป็นรายต่อไป

David Chao ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนของ DCM Ventures กล่าวว่า “เหตุผลที่เราเลือกลงทุนกับ Blued เพราะเราไม่ต้องกังวลในเรื่องการแข่งขันเนื่องจาก Blued กินขาดคู่แข่งทุกราย”

ในเดือนมิถุนายน Blue City ได้ร่วมมือกับ Alibaba ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในการเป็นธุระช่วยเหลือให้คู่รักเพศเดียวกันจำนวน 7 คู่เดินทางไปจดทะเบียนสมรสที่เมือง Los Angeles ทั้งนี้ Alibabaถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทสัญชาติจีนลำดับต้นๆ ที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนในประเทศ โดยข้อมูลของ LGBT Capital ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มของ Galileo Capital of New York ระบุว่าอำนาจการจับจ่ายซื้อสินค้าของของคนกลุ่มนี้สูงถึง 300,000 ล้านเหรียญ เป้าหมายถัดไปของ Baoli คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ภายในห้าปีนับจากนี้

นอกจากนี้ Baoli ยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการที่เขามีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับศูนย์ควบคุมโรคท้องถิ่นในการรณรงค์ให้ความรู้กับกลุ่มเกย์และประชาชนทั่วไป โดยบริษัท Blue City เป็นผู้สนับสนุนทุนในการแจกชุดตรวจเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเองให้แก่ผู้ที่สนใจ Baoli เล่าให้พวกเราฟังว่าเขาตัดสินใจเข้ามาทำงานตรงนี้ร่วมกับรัฐบาลในปี 2009 เนื่องจากเพื่อนสนิทหลายคนของเขาติดเชื้อโรคร้ายดังกล่าว “ผมคิดว่าเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องที่มีอยู่แค่ในตำรา บอกตามตรงว่าผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าโรคนี้มันร้ายแรง”

&nbsp;

เรื่อง: Yue Wang เรียบเรียบ: ชนกานต์ อนันตคุณากร

<hr />

<a href="http://goo.gl/xs62JE">คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "สื่อรักออนไลน์ฉบับสีฟ้า" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ SEPTEMBER 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events