<h2>Apple ได้ออกมาขอโทษและยอมรับข้อผิดพลาดในวิดีโอโปรโมต iPad Pro ใหม่ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โฆษณาดังกล่าวซึ่ง Tim Cook ซีอีโอของ Apple โพสต์ลงบนแพลตฟอร์ม X เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากโลกโซเชียลที่ต่างก็แสดงความคิดเห็นว่า วิดีโอนี้เสมือนเป็นการเฉลิมฉลองการบดขยี้ความสร้างสรรค์และงานศิลปะของมนุษยชาติ&nbsp; &nbsp;&nbsp;ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บน AdAge นั้น Tor Myhren รองประธานฝ่ายสื่อสารการตลาดของ Apple ได้กล่าวขอโทษพร้อมยอมรับผิด&nbsp; &nbsp;&nbsp;“ความคิดสร้างสรรค์อยู่ในดีเอ็นเอของ Apple และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับงานสร้างสรรค์ทั่วโลกก็สำคัญกับเราเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เป้าหมายของเราคือการเฉลิมฉลองวิธีการมากมายที่ผู้ใช้งานกระทำเพื่อปลดปล่อยตัวตนและรังสรรค์ไอเดียต่างๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างผ่าน iPad” Myhren อธิบาย “เราผิดพลาดกับวิดีโอตัวนี้ และเราต้องขออภัย”&nbsp; &nbsp;&nbsp;Apple ยืนยันว่าแถลงการณ์บน AdAge นั้นเป็นของจริง แต่ปฏิเสธจะกล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม&nbsp; &nbsp;&nbsp;วิดีโอโปรโมต iPad Pro ดังกล่าวชื่อว่า “Crush!” เนื้อหาแสดงการนำสิ่งของต่างๆ การนำสิ่งของต่างๆ เช่น หนังสือ เปียโน งานประติมากรรม โทรทัศน์เก่า เครื่องเล่นเกม และอื่นๆ มาวางเรียงรายและบดขยี้ด้วยเครื่องกดขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนกำเนิดใหม่เป็น iPad Pro สุดอัจฉริยะบางเบากว่าที่เคย&nbsp; &nbsp;&nbsp;แม้ต้องการสื่อความหมายว่า iPad Pro คือขุมพลังแห่งการสร้างสรรค์ สามารถช่วยให้การผลิตผลงานต่างๆ ได้มากมาย แต่การนำเสนอก็ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการทำลายคุณค่าของวัฒนธรรมและงานศิลปะที่มีมาในอดีต&nbsp; &nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ AdAge รายงานว่า Apple ได้ยกเลิกแผนการจะออกอากาศโฆษณาดังกล่าวทางโทรทัศน์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว&nbsp; &nbsp;&nbsp;นับเป็นความผิดพลาดที่พบได้ไม่บ่อยนักสำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่รอบคอบอย่าง Apple แหล่งที่มา: <a href="https://edition.cnn.com/2024/05/09/tech/apple-apologizes-for-ipad-pro-ad/index.html" alt="Apple apologizes for its controversial iPad Pro ad">Apple apologizes for its controversial iPad Pro ad</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/global/apple-new-ipad-pro-commercials-criticism" alt="หรือ Apple จะสิ้นความสร้างสรรค์? เมื่อโฆษณา iPad Pro ใหม่ ไม่ได้ปัง แล้วยังพังกว่าที่คิด">หรือ Apple จะสิ้นความสร้างสรรค์? เมื่อโฆษณา iPad Pro ใหม่ ไม่ได้ปัง แล้วยังพังกว่าที่คิด</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Apple ขอโทษและยอมรับผิดแต่โดยดี กรณีวิดีโอโปรโมต iPad Pro สร้างความไม่พอใจบนโลกโซเชียล

<h2>Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ขึ้นชื่อด้านความคิดสร้างสรรค์และการตลาดที่ไม่เหมือนใคร การเปิดตัว Macintosh เครื่องแรกในปี 1984 ยังคงเป็นตำนาน ทว่าคลิปวิดีโอเปิดตัว iPad Pro ล่าสุดกลับนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบมากมาย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา Apple ได้เผยแพร่วิดีโอสั้นโปรโมต iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ชื่อ “Crush!” เนื้อหาคือการนำสิ่งของต่างๆ เช่น หนังสือ เปียโน งานประติมากรรม โทรทัศน์เก่า เครื่องเล่นเกม และอื่นๆ มาวางเรียงรายและบดขยี้ด้วยเครื่องกดขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนกำเนิดใหม่เป็น iPad Pro สุดอัจฉริยะ บรรเลงคลอด้วยเพลงทำนองสดใส All I Ever Need Is You ของ Sonny &amp; Cher&nbsp; &nbsp;&nbsp;“ลองจินตนาการดูสิครับว่าเจ้าสิ่งนี้จะสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาได้บ้าง” Tim Cook ซีอีโอ Apple เขียนโพสต์บน X เมื่อวันอังคารพร้อมวิดีโอโปรโมตผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของบริษัท​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Uxfd1YCuUujbuQg1GxzS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Uxfd1YCuUujbuQg1GxzS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับแนวคิดของวิดีโอโปรโมตชิ้นนี้ คือการสื่อว่า iPad Pro เครื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันยอดเยี่ยม สามารถดูรายการโทรทัศน์ ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง เล่นเกม สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ถ่ายรูป และอื่นๆ อีกมากมาย บนแท็บเลตที่บางเบากว่าที่เคย&nbsp; &nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม วิดีโอดังกล่าวสามารถตีความได้กว้างกว่านั้น เมื่อผู้ชมจำนวนมากมองเห็นภาพสะท้อนของการที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังบ่อนทำลายอุตสาหกรรมด้านวัฒนธรรม ดังเช่นที่ Hugh Grant นักแสดงชาวอังกฤษชื่อดังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโพสต์ของ Tim Cook ว่าเป็น&nbsp;“การทำลายประสบการณ์ของมนุษย์ ด้วยความอนุเคราะห์จาก Silicon Valley”&nbsp; &nbsp;&nbsp;Asif Kapadia โปรดิวเซอร์และผู้กำกับมือรางวัลก็เผยทาง X ว่า “ผมชอบ iPad ครับ แต่ไม่รู้ว่าใครกันที่คิดว่าโฆษณาตัวนี้เป็นเรื่องดี มันเป็นการอุปมาโดยชัดแจ้งที่สุดถึงสิ่งที่บรรดาบริษัทเทคฯ ทำกับศิลปะ ศิลปิน นักดนตรี นักสร้างสรรค์ นักเขียน และผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งก็คือการบีบคั้นพวกเขา ใช้งานพวกเขา แต่ไม่จ่ายค่าจ้างให้คุ้มค่า ช่วงชิงเอาทุกอย่างไป แล้วบอกว่าตัวเองต่างหากที่สร้างทุกอย่างขึ้นมา”​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/XMQ8p2ARDTjQ3nm3XHtx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XMQ8p2ARDTjQ3nm3XHtx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;“ถ้าคุณคิดว่าโฆษณา iPad ตัวนี้แปลกแล้ว คุณต้องเห็นอันแรกที่พวกเขาเอาตัวละครโปรดของพวกคุณมาวางเรียงแล้วยิงทิ้ง” Luke Barnett นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกล่าวบน X&nbsp; &nbsp;&nbsp;ไม่ใช่เพียงผู้คนจากอุตสาหกรรมบันเทิงเท่านั้นที่ออกมาต่อต้านวิดีโอโปรโมต iPad Pro ล่าสุดของ Apple กระทั่งผู้คนที่ทำงานข้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีบางส่วนก็แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาเช่นกัน&nbsp; &nbsp;&nbsp;“โฆษณาตัวตัวนี้ (ไม่ได้ตั้งใจ) เป็นภาพอุปมาอุปมัยของยุคมืดแห่งวงการสร้างสรรค์ในปัจจุบัน” Adam Singer รองประธานด้านการตลาดจาก AdQuick บริษัทด้านเทคโนโลยีโฆษณาเผยบน X ของเขา โดยอธิบายว่าโฆษณาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือ ผลงานสร้างสรรค์ และความเป็นจริงที่จับต้องได้ของมนุษยชาติถูกบีบอัดให้กลายเป็นอุปกรณ์ไร้จิตวิญญาณของบริษัทเทคฯ มูลค่าหลักล้านล้านเหรียญเท่านั้น&nbsp; &nbsp;&nbsp;Eric Newcomer ผู้ก่อตั้งบริษัทจดหมายข่าวและอีเวนต์ด้านเทคโนโลยีก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ไม่อยากเชื่อว่า Apple จะทำโฆษณาเชยๆ ที่ทำให้นวัตกรรมที่ Steve Jobs ต้องชื่นชมกลายเป็นขยะ”​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/LYvHVtLHrzBAwSHJmeja.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LYvHVtLHrzBAwSHJmeja.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;โฆษกของ Apple ยังไม่ได้ออกมาตอบสนองใดๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น&nbsp; &nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ Apple มีชื่อเสียงด้านการทำโฆษณาอย่างสร้างสรรค์และหลักแหลมมาโดยตลอด ครั้งหนึ่งบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่รายนี้เคยมีสโลแกนว่า “คิดต่าง (Think Different)”&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับโฆษณาที่เป็นตำนานตลอดกาลของ Apple คือ “1984” กำกับโดย Ridley Scott ซึ่งฉายที่งาน Super Bowl ในปี 1984 เนื้อหาวิดีโอได้แรงบันดาลใจจากนวนิยายดิสโทเปียเสียดสีสังคมเรื่อง 1984 จากปลายปากกา George Orwell กล่าวถึงโลกที่ถูกควบคุมโดยเผด็จการ Apple นำเสนอภาพผู้คนในโลกที่อิงจาก 1984 นั่งมองจอฉายโฆษณาชวนเชื่อ ก่อนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งนำค้อนมาทุบจอจนแหลก และมีข้อความกล่าวถึงการมาของ Macintosh ที่จะทำให้โลกนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แหล่งที่มา:<a href="https://variety.com/2024/digital/news/apple-ipad-pro-ad-criticism-hugh-grant-1235996294/" alt="Apple’s New iPad Pro Ad Sparks Outrage as Hugh Grant and More Slam Tech Giant: ‘The Destruction of the Human Experience’">Apple’s New iPad Pro Ad Sparks Outrage as Hugh Grant and More Slam Tech Giant: ‘The Destruction of the Human Experience’</a>​​<a href="https://www.nbcnews.com/tech/tech-news/apple-backlash-new-ipad-pro-ad-rcna151236" alt="Apple faces backlash for 'destructive' iPad ad featuring machine crushing books and instruments">Apple faces backlash for 'destructive' iPad ad featuring machine crushing books and instruments</a>​ รับชมวิดีโอได้ที่&nbsp;<a href="https://www.youtube.com/watch?v=ntjkwIXWtrc" alt="Crush! | iPad Pro | Apple">Crush! | iPad Pro | Apple</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/gen-z-has-more-debt-than-millenials-did" alt="ค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ ทำ Gen Z เริ่มต้นชีวิตผู้ใหญ่ด้วยการเป็นหนี้">ค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ ทำ Gen Z เริ่มต้นชีวิตผู้ใหญ่ด้วยการเป็นหนี้</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

หรือ Apple จะสิ้นความสร้างสรรค์? เมื่อโฆษณา iPad Pro ใหม่ ไม่ได้ปัง แล้วยังพังกว่าที่คิด

หลังจากใช้งาน beta มายาวนาน Apple ได้ปล่อย iOS 8.3 ต่อสาธารณะ โดยผู้ใช้ สามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง โดยไปที่ Settings &gt; General &gt; Software Update ซึ่งอัดเดทนี้เพิ่มเติมสิ่งที่น่าสนใจและความสวยงามให้น่าใช้มากยิ่งขึ้น 
 
โดยสิ่งที่คาดว่าจะส่วนสำคัญใน iOS 8.3 นี้ คือ emojis ใหม่, การแก้ไขการเชื่อมโยงไร้สารกับรถยนต์ (CarPlay), การปรับปรุงการใช้แอพฯ ส่งข้อความต่างๆ โดย Apple กล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพที่เพิ่มเติมให้สำหรับ ระบบปฏิบัติการ อย่างการตอบสนองการใช้แอพฯ ข้อความ, WIFI, การกำหนดค่า การใช้งาน Safari การพิมพ์ในภาษาอื่น ปุ่มการทำลัด และ การลดความยุ่งยากในการพิมพ์ภาษาจีน นี่คือการรายละเอียดของการปรับปรุงที่ถูกกำหนดไว้ใน&nbsp; iOS 8.3 
&nbsp; 
การปรับปรุง WiFi และ Bluetooth 
การปรับปรุงสำหรับ WiFi และ Bluetooth ใน iOS 8.3 คือการแก้ไขการเชื่อมต่อ WIFI ที่มักจะให้ถามถึงรหัสการเชื่อมต่อซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัญญาณ WIFI หลุดไป, การแก้ไขเรื่องการตัดสัญญาณ WIFI ในกรณีที่มีสายเรียกเข้ามาที่ตัวเครื่อง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับลำโพงไร้สายในหลายๆ รุ่น ที่หยุดการส่งสัญญาณระวังใช้งาน ซึ่งส่วนนี้ก็ได้รับการแก้ไข 
 
การปรับปรุงการแสดงผลหน้าจอในแนวตั้งและแนวนอน 
iOS 8.3 ได้แก้ปัญหาการแสดงผลระหว่างการสลับการใช้งานหน้าในแนวตั้งและแนวนอน, การแก้ไขปัญหาการแสดงผลของหน้าจอที่สร้างความยุ่งยากในการอ่านหน้าจอเมื่อ ต้องอ่านกลับหัว ระหว่างที่หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเพื่อแค่ดูการแจ้งเตือนที่เกิดขึ้นบน หน้าจอ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากการตั้งค่าการใช้งาน 
 
การแก้ไข การใช้งาน The Messages App 
การแก้ไขข้อผิดพลาดในการใช้งาน The Messages App อย่างการรวมกลุ่มข้อความเข้าไว้ด้วยกัน, การแก้ไขส่งต่อ หรือลบข้อความด้วย ทั้งนี้ iOS 8.3 ได้เพิ่มความสามารถในการรายงานข้อความความขยะจาก The Messages App และสามารถคัดกรอง iMessages ที่ไม่ได้มาจากรายชื่อของคุณได้อีกเช่นกัน 
 
การแบ่งปันแอพฯ ในสมาชิกของครอบครัว 
iOS 8.3 ได้แก้ไขการใช้งานและอัพเดท เกี่ยวกับการใช้งานแอพฯ ระหว่างสมาชิกของครอบครัวในการแบ่งปันแอพที่โหลดไว้แล้วได้ฟรี โดยต้องเสียเงินในการดาวน์โหลดแอพฯ กันเอง 
 
แก้ปัญหาการเชื่อมต่อกับรถยนต์ (CarPlay) 
Apple ได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลบนหน้าจอของรถยนต์ภายหลังจากการแสดงผล ระหว่างการเชื่อมโยงกับ CarPlay ที่เกิดปัญหาจอดำบ้าง การแสดงผลหน้าจอที่ผลไม่ถูกต้องเมื่อมีการเปลี่ยนมุมมองแผนที่ และยังได้แก้ไขในการใช้คีย์บอร์ดให้ใช้ได้อย่างแท้จริงหลังจากที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในตัวเก่า 
 
การแก้ไขด้านอื่นๆ 
Apple ได้พัฒนาในการใช้งานหลายๆ ส่วนในการอัพเดท iOS 8.3 นี้ อย่างการเพิ่มเติมการสร้างปฎิทินนัดหมายที่เลือกการแสดงเวลาภายใน Note, การแก้ไขในการตอบสนองต่อการใช้งานและการจำค่าบันทึกรหัสผ่านต่างๆ ผ่านเวปไซต์ที่เข้าไปใช้งาน ทั้งนี้ใน iOS 8.3 ยังแก้ไขเรื่องการสั่งงานด้วยเสียง, การใช้งานเสียง และอักษรเบรลล์ สำหรับ iPhone 6 plus สามารถพิมพ์ตัวเอียง และเพิ่มคำใต้เส้นบนตัวอักษร ห่างเลือกการใช้งานหน้าจอในแนวนอน ทั้งนี้สำหรับ Apple Pay คุณสามารถลบที่อยู่ในการจัดส่ง บิลๆ ต่าง ได้แล้ว 
 
Siri เข้าใจภาษาได้มากขึ้น 
Siri ได้เพิ่มภาษาไทยและภาษาอื่น เพื่อรองรับการใช้จากหลากหลายประเทศ ตามรายชื่อเหล่านี้ 
English (India, New Zealand), Danish (Denmark), Dutch (Netherlands), Portuguese (Brazil), Russian (Russia), Swedish (Sweden), Thai (Thailand) and Turkish (Turkey). และเพิ่มเติมภาษาการสั่งงานเพิ่มเติมอย่าง Arabic (Saudi Arabia, United Arab Emirates) and Hebrew (Israel). 
&nbsp; 
รูปแบบใหม่ของ Emojis 
และนี้น่าจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการอัพเดท iOS 8.3 ในครั้งนี้ เพราะเป็นการออกแบบการแสดงใหม่หมด โดยสามารถเลือกใช้ Emojis ได้มากกว่า 300 แบบ และยังสามารถปรับเปลี่ยนสีผิว และลงรายละเอียดไปถึงการแสดงผลการแต่งกายที่แตกต่างไปตามสีผิว และวัฒนธรรมการแต่งตัว แต่ไม่มีสีผิวดำในเลือกใช้ และสามารถให้ผู้ใช้งานเลือกใช้สถานะความสัมพันธ์ที่เปิดเผยมากขึ้น มีธงชาติมากขึ้นถึง 32 ประเทศ 

	<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/april%202015/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/IMG_2368-copy.png" /> 
	เรียบเรียงใหม่จากบทความของ Amit Chowdhry จาก forbes.com
<hr />
<a href="http://goo.gl/htNnWW">อ่าน Forbes Thailand ฉบับ APRIL 2015 ในรูปแบบ E-Magazine และฉบับย้อนหลังได้ที่นี่</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events