<h2>ไอคอนสยาม ประกาศสร้างมหาปรากฏการณ์เคานต์ดาวน์สะกดโลก จัดงานเฉลิมฉลองศักราชใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2025” ชูการผสานที่สุดของไทยและที่สุดของโลก พร้อมเชิญศิลปินอันดับหนึ่งของโลก “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ให้เกียรติร่วมสร้างมหาปรากฏการณ์เฉลิมฉลองสุดพิเศษ มอบเป็นของขวัญส่งต่อความสุขให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนไอคอนสยาม</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อน ภาพลักษณ์และเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งใจจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2025 at ICONSIAM” ให้เป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วโลกภายใต้แนวคิด “Iconic Celebration of The Global Phenomena: ฉลองความยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยและที่สุดของโลก” โดยจะมีงานถึง 3 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่กล่าวขวัญถึงทั่วโลกในช่วงขึ้นปีใหม่ ไอคอนสยามในฐานะภาคเอกชน ตั้งใจทุ่มงบประมาณของบริษัทฯจัดงานครั้งนี้เพื่อสร้าง ‘มหาปรากฏการณ์สะกดโลก’ กับการแสดงครั้งสำคัญจาก ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ศิลปินระดับไอคอนิคที่สร้างชื่อเสียงก้องโลกให้กับประเทศไทยและเป็นแรงบันดาลใจของผู้คนทั่วโลก ที่ไอคอนสยามตั้งใจเรียนเชิญ ให้เกียรติมาพร้อมมหาปรากฏการณ์สะกดใจชาวโลกในค่ำคืนแห่งโชว์อลังการริมโค้งน้ำเจ้าพระยาที่งดงามที่สุด เพื่อมอบเป็นของขวัญ ส่งต่อความสุขให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนไอคอนสยามในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในปีนี้” สุพจน์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุพจน์กล่าวต่อไปว่า งาน “Amazing Thailand Countdown 2025” จะเป็นงานฉลองส่งท้ายปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย ทั้งไฮไลต์การแสดงพลุรักษ์โลก และสุดยอดมหกรรมความบันเทิงระดับเวิลด์คลาสจากบรรดาศิลปินดาราไทยและจากต่างประเทศอีกมากมายตลอด 3 วัน 3 คืน ที่จะมอบความสุขและความประทับใจเหนือความคาดหมาย ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม โดยบริษัทจะจัดงานแถลงข่าว เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมของงานทั้งหมดอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราคาดว่าจะมีผู้ชมการแสดงและผู้ชมถ่ายทอดสดงานเคานต์ดาวน์ รวมมากกว่า 20 ล้านคนจากทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ตอกย้ำศักยภาพให้ประเทศไทยยืนหนึ่งเป็น Global Countdown Destination ของคนทั่วโลก” สุพจน์กล่าวปิดท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/marketing/central-pattana-the-worlds-great-celebration-2025" alt="‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ทุ่ม 700 ล้าน จัดใหญ่อีเวนต์ส่งความสุขข้ามปี ทรานส์ฟอร์มศูนย์ฯ ทั่วประเทศเป็น Santa Village">‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ทุ่ม 700 ล้าน จัดใหญ่อีเวนต์ส่งความสุขข้ามปี ทรานส์ฟอร์มศูนย์ฯ ทั่วประเทศเป็น Santa Village</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไอคอนสยามดึง ‘ลิซ่า’ ร่วมเคานต์ดาวน์สะกดโลก มอบความสุขเป็นของขวัญปีใหม่คนไทย

<h2>หลังจากนักร้องสาวคนดังอย่าง 'ลิซ่า' ได้เปิดตัวเพลงใหม่ 'Moonlit Floor' เป็นครั้งแรก ผ่านการโชว์บนเวทีของเทศกาลดนตรี Global Citizen Festival 2024 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในช่วงค่ำวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา หลายคนต่างชื่นชอบกับความไพเราะหวานละมุนของบทเพลง แถมยังพุ่งเป้าไปที่แต่ละประโยคของเนื้อร้องที่เป็นเรื่องราวความรักอันดูดดื่มของหญิงสาวที่ได้สัมผัสรอยจูบกับหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวท่ามกลางแสงจันทร์ยามคำ่คืน ณ กรุงปารีส ว่าหนุ่มคนดังกล่าวในเนื้อร้องจะเป็น 'เฟรเดอริก อาร์โนลต์' ลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม LVMH หรือไม่</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แผน Marketing หรือการทำการตลาดเพื่อนำเสนอเรื่องราวทางดนตรีของนักร้องสาวคนดังอย่าง 'ลิซ่า' เรียกได้ว่ามีความแยบยลและสร้างกระแสจนเกิดเป็นไวรัลเรียกยอด engagement ในระดับมหาศาลผ่านสื่อโซเชียลได้หลายต่อหลายครั้ง เห็นได้จากเคสล่าสุดช่วง 3 วันก่อนหน้า แอคเคาน์ TikTok ของลิซ่าก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอสั้นๆ เพียง 14 วินาทีออกมาพร้อมกับวลีเด็ดของเนื้อเพลงติดหูที่ว่า "So Kiss Me" ซึ่งวลีดังกล่าวมาจากเพลงดังในอดีตยุค 90 อย่าง&nbsp;“Kiss Me” ของศิลปิน Sixpence None The Richer ที่ปล่อยออกมาในปี พ.ศ. 2540&nbsp; &nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/bpVeLNpDiHes6yu21Y7e.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="bpVeLNpDiHes6yu21Y7e.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;" data-index="0"></figure></div> &nbsp; &nbsp; หลังจากนั้นในช่วงค่ำของคืนวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 'ลิซ่า' ได้ทำการแสดงบนเวทีของเทศกาลดนตรี Global Citizen Festival 2024 พร้อมกับเปิดตัวเพลง 'Moonlit Floor' เป็นครั้งแรก ***เพลงนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในทุกแพลตฟอร์มอีกครั้งในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ต.ค. เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย***&nbsp;โดยเนื้อเพลงดังกล่าวมีการดึงวลีเด็ด 'So Kiss Me' จากเพลง 'Kiss Me' มาใช้ในช่วงท่อนฮุคสร้างความไพเราะติดหูแก่เหล่าแฟนเพลงและคนฟังเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เนื้อหาของเพลงยังเป็นการนำเสนอเรื่องราวความรักของหญิงสาวที่ได้รับสัมผัสจูบอันดูดดื่มจากหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีเขียว ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องในยามค่ำคืนของกรุงปารีส ฝรั่งเศส หลายคนจึงพุ่งเป้าไปยัง&nbsp;'เฟรเดอริก อาร์โนลต์' ลูกชายของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังซุ่มคบหาดูใจกับลิซ่ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เธอได้เริ่มออกมาทำผลงานเพลงเดี่ยวเป็นของตัวเอง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/uEMt9EtXdqbgwUyAGhbg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="uEMt9EtXdqbgwUyAGhbg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​&nbsp; &nbsp; สำหรับประวัติที่น่าสนใจของ 'เฟรเดอริก อาร์โนลต์' ในวัย 29 ปี เขาเป็นลูกชายคนที่ 4 จากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดย 2 คนแรก เป็นพี่น้องต่างมารดา ได้แก่ เดลฟีน และอองตวน ซึ่งเกิดจาก แอนด์ เดวาฟริน ภรรยาคนแรกของเบอร์นาด อาร์โนลต์, หลังจากนั้นเบอร์นาด ได้แต่งงานใหม่ครั้งที่ 2 กับ เฮเลน เมอร์ซิเออร์ โดยมีลูกด้วยกันถึง 3 คน ได้แก่ อเล็กซานเดร, เฟรเดริก และ ฌอน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/EwR1kVqfaXtTuyax8EFk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EwR1kVqfaXtTuyax8EFk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนหน้าที่เฟรเดริกจะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจของครอบครัว เขาเคยฝึกงานระยะสั้นอยู่ที่ Facebook และ Mckinsey ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านที่ปรึกษาทางการเงินในระดับเบอร์ต้นของโลก ในปี พ.ศ. 2560 คือช่วงเวลาที่เฟรเดริกเริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำงานกับบริษัทในเครือของครอบครัวอย่างเต็มตัวครั้งแรก เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราวแผนกเทคโนโลยี ทำหน้าที่คอยประสานงานกับผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์หรูที่สวิสเซอร์แลนด์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1 ปีถัดมา เฟรเดริกได้นั่งแท่นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล (head of connected technologies) ของนาฬิกาแบรนด์ TAG Heuer และในปี 2563 เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็น CEO ของแบรนด์ ด้วยวัยเพียง 25 ปี​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/2Wc3SGygu35kc3X956QR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2Wc3SGygu35kc3X956QR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp; &nbsp; ณ ปัจจุบัน เฟรเดริก คือ CEO ผู้ขับเคลื่อนนาฬิกาแบรนด์หรูต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อาณาจักร LVMH ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น&nbsp;Zenith, Hublot และ TAG Heuer เป็นต้น โดยที่ผ่านมาเขายังขึ้นชื่อด้วยว่าเป็นผู้ที่สนใจพัฒนาและผลักดันให้นาฬิกาหรูมีฟังก์ชันที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งยังมีบทบาทในองค์กรที่ช่วยเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากการค้าส่งแบบเดิมไปสู่การค้าปลีกและช่วยเพิ่มยอดขายผ่าน E-Commerce อีกด้วย&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดของ Forbes ในช่วงเดือนเมษยน ปี 2024 ระบุว่า เบอร์นาด อาร์โนลต์ ผู้เป็นพ่อของเฟรเดริก ยังคงครองตำแหน่งมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยเป็นอันดับ 1 ของโลก จากมูลค่าทรัพย์สินมหาศาลราว 2.33 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการเป็นผู้ครอบครองอาณาจักร LVMH ที่มีสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ต่างๆ มากมายอยู่ในมือ อาทิ&nbsp;Louis Vuitton, Tiffany &amp; Co. และ Dior เป็นต้น ขณะที่มหาเศรษฐีรายอื่นๆ ที่ติดอยู่ในอันดับ Top 10 ส่วนใหญ่จะมีรายได้มาจากธุรกิจด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/2nhf93dVmwjo2JX6ybPm.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2nhf93dVmwjo2JX6ybPm.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>​แปลและเรียบเรียงจากบทความ :&nbsp;<a href="https://www.forbes.com/sites/zacharyfolk/2024/01/05/who-is-frederic-arnault-billionaire-bernard-arnaults-29-year-old-son-picked-to-lead-lvmh-watch-division/" alt="Who Is Frederic Arnault? Billionaire Bernard Arnault's 29-Year-Old Son Picked To Lead LVMH Watch Division">Who Is Frederic Arnault? Billionaire Bernard Arnault's 29-Year-Old Son Picked To Lead LVMH Watch Division</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/forbes-lists/world-billionaire/forbes-world-billionaires-list-2024" alt="10 อันดับมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2024">10 อันดับมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2024</a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/dentiste-lisa-brand-ambassador-again" alt="เพราะลิซ่าช่วยดันมูลค่าแบรนด์เพิ่ม 3 เท่า! ‘เดนทิสเต้’ คว้าตัว ‘ลิซ่า’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้ง">เพราะลิซ่าช่วยดันมูลค่าแบรนด์เพิ่ม 3 เท่า! ‘เดนทิสเต้’ คว้าตัว ‘ลิซ่า’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้ง</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ถอดรหัสเพลงใหม่ลิซ่า 'Moonlit Floor' กับ 'เฟรเดอริก อาร์โนลต์' ลูกชายมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก 

<h2>ยาสีฟัน Dentiste ยอมควักอีก 140 กว่าล้านบาท ต่อสัญญา ‘ลิซ่า-ลลิษา’ เพิ่มความแข็งแรงของแบรนด์ พร้อมลุย 3 ตลาดหินในอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา หวังยกแบรนด์สู่ระดับโลกภายใน 3 ปี ส่วนเมืองไทยดึง ‘หมาก-คิมเบอร์ลี’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ออกแคมเปญใหม่สัปดาห์หน้า พร้อมเน้นทำตลาด 2 แบรนด์ใหม่เจาะนิชมาร์เก็ต</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ Doctor Smooth Life Co.,Ltd, ผู้ผลิตสมูท อี ครีม และยาสีฟันเดนทิสเต้ เปิดเผยว่า บริษัทได้ต่อสัญญากับ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับยาสีฟันเดนทิสเต้อีก 1 ปี ซึ่งค่าตัวอยู่ที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 140 กว่าล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การใช้ลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ยาสีฟันเดนทิสเต้แข็งแรงขึ้นมาก การมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ดีเหมือนมีที่พิมพ์แบงค์อยู่ที่ออฟฟิศ” ดร.แสงสุข กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การมีลิซ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์มีส่วนทำให้เดนทิสเต้ประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง และทำยอดขายในเกาหลีสูงถึง 40% ของรายได้ในต่างประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 50% ของยอดขายยาสีฟันเดนทิสเต้ทั้งหมดที่มีประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายของเดนทิสเต้ในต่างประเทศเติบโตถึง 100% จากความสำเร็จในสองตลาดหลัก คือ เกาหลี และในญี่ปุ่น ซึ่งได้ลงทุนจ้างพรีเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านบาท เพื่อสร้างการรู้จักและจดจำแบรนด์เดนทิสเต้ที่นั่น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/ZSVJKmY8eKz2FPauyHTi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="ZSVJKmY8eKz2FPauyHTi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันเดนทิสเต้ผลิตจากโรงงานในไทย เกาหลี และเยอรมนี จำหน่ายใน 17 ประเทศ รายได้ 40% และ 15% มาจากเกาหลีและกัมพูชาตามลำดับ และที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“หลังจากเจาะตลาดญี่ปุ่น เกาหลี ได้เรียบร้อยแล้ว เราจะพยายามจะไปเติบโตในตลาดที่มีความท้าทายอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา มากขึ้นในปีนี้ เราจะไม่ใช้นโยบายทุ่มเงินเยอะ เน้นเจาะนิชมาร์เก็ต ขายน้อยแต่กำไรเยอะ” ดร.แสงสุขกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ยาสีฟันเดนทิสเต้เข้าไปลองทำตลาดในอเมริกามา 10 ปี และจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ โดยประชากรในอเมริกามี 330 ล้านคน แต่เดนทิสเต้จะเจาะประชากรส่วนน้อยที่มาจากประเทศอื่นๆ ที่มีอยู่ถึง 100 ล้านคนก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราจะเริ่มเจาะคนไทยกว่า 9 แสนคนที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ลาว 2 ล้านคน เวียดนาม และเกาหลีอย่างละ 4 ล้านคน เราจะใช้ดิจิทัลเจาะในแต่ละรัฐ คนพวกนี้เปลี่ยนแปลงง่ายเพราะเขาคุ้นเคยกับแบรนด์เดนทิสเต้ และเรามีพาร์ทเนอร์คนไทยจัดจำหน่ายสินค้าอยู่ที่นี่ จึงทราบวิธีที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ แต่ถ้าเราเข้าตามปกติอาจจะต้องใช้เงินถึง 1,000 ล้านบาท” ดร.แสงสุขกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับตลาดในประเทศ เดนทิสเต้กำลังจะเปิดตัวแคมเปญใหม่ในต้นอาทิตย์หน้านี้ โดยมี ปริญ (หมาก) สุภารัตน์ และคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอกย้ำ brand promise ในเรื่องการสร้างความมั่นใจในทุกโมเมนต์ที่ดีที่สุดของลูกค้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังจะโปรโมตสินค้าอีก 2 แบรนด์ คือ Repaire และ Remin ที่ได้วางตลาดไปก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าอายุ 40 ปีที่มีปัญหาเรื่องเสียวฟัน ฟันบาง และฟันกร่อน คาดว่ารายได้บริษัทจะมากกว่า 4,000 ล้านบาท เปิดคณะเภสัชฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.แสงสุข ในฐานะอธิการบดีสถาบันวิทยาการประกอบการแห่งอโยธยา (IESA) กล่าวว่า ได้เปิดคณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ ขึ้นในปีนี้ เป็นหลักสูตร 6 ปี ที่เน้นสอนและยกระดับบัณฑิตให้เป็นเภสัชกรที่กล้าคิด กล้าสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักศึกษาสามารถเลือกเรียนควบปริญญาตรีและโทเพื่อรับวุฒิ เภสัชศาสตรบัณฑิต (ภ.บ.) และ MBA (Master of Business Administration) ได้ในหลักสูตรเดียว และหลักสูตรนี้ได้รับความเห็นชอบและรับรองสถาบันจากสภาเภสัชกรรมแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คณะเภสัชฯ เปิดรับนักเรียนที่จบมัธยมปลายเกรดเฉลี่ย 2.70 จำนวน 25 คน ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 สิงหาคมนี้ นักศึกษาที่จบจาก IESA สามารถเข้าสอบและรับใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมได้ตามปกติ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/06/cDDDo7rnRnEXPzPbyEDq.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="cDDDo7rnRnEXPzPbyEDq.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.แสงสุข กล่าวว่า เภสัชศาสตรบัณฑิต ของ IESA มีจุดเด่นที่แตกต่างจากสถาบันอื่นๆ ด้วยหลักสูตรที่จะปลูกฝังจิตวิญญาณ “Entrepreneur” ให้กับเภสัชกร ทำให้เภสัชกรเป็น “Pharmapreneur” (Pharmacy + Entrepreneur) ในอนาคต ความเป็น Entrepreneur หรือ ผู้ประกอบการ ไม่ได้หมายถึงการทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่มีกรอบความคิด (mindset) ที่กล้าแสวงหาการพัฒนาสิ่งใหม่ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยยกระดับการประกอบอาชีพเภสัชกรรมได้และสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/muji-open-new-store-at-central-khonkaen" alt="เปิดแล้ว MUJI เซ็นทรัล ขอนแก่น สาขาแรกในภาคอีสาน พร้อมเตรียมขยายสู่อุดรธานี">เปิดแล้ว MUJI เซ็นทรัล ขอนแก่น สาขาแรกในภาคอีสาน พร้อมเตรียมขยายสู่อุดรธานี</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Dentiste ควักอีก 140 กว่าล้าน ต่อสัญญา ‘ลิซ่า-ลลิษา’ พร้อมลุย 3 ตลาดหิน ‘อังกฤษ-อเมริกา-ฝรั่งเศส’

<h2>TAG Heuer จัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ณ พิพิธภัณฑ์ Rubell ที่ไมอามี เพื่อเป็นเกียรติแก่การคืนชีพซีรีส์แรกของนาฬิกาคอลเล็กชัน Formula 1 ของ TAG Heuer ที่ได้ร่วมกับแบรนด์ไลฟ์สไตล์อย่าง Kith</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีเหล่าดาราและศิลปินดังมาเข้าร่วมงาน อาทิ Alexandra Daddario (House Ambassador), Jonathan Kuminga, Victor Cruz, Lily Chee และ Valentina Ferrer พร้อมกับเซอร์ไพรส์การปรากฏตัวของนักร้องสาว ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่มาร่วมงานโดยสวมใส่นาฬิกา TAG Heuer Formula 1 I Kith พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ Julien Tornare ซีอีโอของ TAG Heuer และ Frédéric Arnault ซีอีโอของ LVMH Watches และ Ronnie Fieg ผู้ก่อตั้ง Kith​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/pbXipgXWzNNhHsTUAuRE.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="pbXipgXWzNNhHsTUAuRE.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์การแข่งขัน Miami Race Week, TAG Heuer และ Kith ได้จัดงานเฉลิมฉลองอาหารค่ำแบบส่วนตัวเพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานร่วมกันของ TAG Heuer x Kith และการเปิดตัวนาฬิกา TAG Heuer Formula 1 รุ่นดั้งเดิมอีกครั้ง ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 และเป็นหนึ่งในคอลเล็กชันที่เหล่าคนรักนาฬิกาและนักสะสมในยุค 80 ต่างรอคอยมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งานเลี้ยงอาหารค่ำจัดโดย CEO ของ LVMH Watches, Frédéric Arnault, CEO ของ TAG Heuer, Julien Tornare และผู้ก่อตั้ง Kith, Ronnie Fieg ซึ่งเหล่าเพื่อนและครอบครัวของทั้งสองแบรนด์ต่างมาร่วมเฉลิมฉลองการฟื้นตัวของ TAG Heuer Formula 1 Series 1 สุดไอคอนิก โดยจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Rubell ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงคอลเล็กชันงานศิลปะร่วมสมัยที่ดีที่สุดของโลกและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/UTdeBRUfXW2CqKt4WiCE.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UTdeBRUfXW2CqKt4WiCE.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในช่วงสัปดาห์การแข่งรถ Miami racing week รถโชว์ของ Oracle Red Bull Racing Formula 1 ได้จัดแสดงบนเวทีกลางงาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง TAG Heuer กับโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ต และความร่วมมืออันยาวนานกับทีมแข่งรถ ซึ่งได้รับรางวัล Constructor's Championship ทั้งสองรายการในปี 2022 และ 2023&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อเป็นไฮไลต์พิเศษสำหรับสุดสัปดาห์นี้ นักแข่งของ Oracle Red Bull Racing Max Verstappen และ Checo Pérez จะเปลี่ยนโลโก้ของผู้สนับสนุนเป็นโลโก้พันธมิตร “Kith Heuer” ซึ่งประดับอยู่บนอุปกรณ์และชุดแต่งรถแทนที่ตราโล่ TAG แบบดั้งเดิม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/6mKpWUMXDQc3Qc4B7H17.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="6mKpWUMXDQc3Qc4B7H17.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 ของ TAG Heuer Formula 1 ซีรีส์แรกก็ได้กลายเป็นดั่งผู้บุกเบิกวงการ ทั้งยังเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ใช้ชื่อ TAG Heuer ด้วยสีสันอันโดดเด่นและการออกแบบที่แสนท้าทาย นาฬิกาเรือนนี้จึงกลายเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักสะสมมือใหม่ ร่วมถึง Ronnie Fieg ผู้ก่อตั้ง Kith ด้วย ซึ่งในวันนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิสได้นำนาฬิกาเรือนนี้กลับมาพร้อมกับแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใครอย่าง Kith ในรูปแบบใหม่และวัสดุที่ยกระดับขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เรื่องราวใหม่ของ TAG Heuer Formula 1 | Kith ได้รับการบอกเล่าผ่านดีไซน์รอยหยักอันสง่างามของนาฬิการุ่นคลาสสิกนี้ แม้ว่ากระจกของนาฬิการุ่นดั้งเดิมจะทำจากคริสตัลพลาสติก แต่รุ่นที่ได้รับการปรับแต่งใหม่นี้ได้เลือกใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ และสายนาฬิกาได้รับการอัพเกรดจากพลาสติกเป็นยางคุณภาพดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ Fieg เขาได้มีส่วนร่วมในรายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น TAG Heuer และ Kith นั้นได้ทำงานร่วมกันในเลือกสรรการผสมผสานสีสันที่โดดเด่นและมีความแปลกใหม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในก้าวเดินครั้งใหม่นี้ นับเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์อันเลื่องลือของ TAG Heuer ผู้ผลิตนาฬิกาลักชัวรีสัญชาติสวิส ที่ได้หลอมรวมโลโก้ของตนเข้ากับโลโก้ของพันธมิตร TAG Heuer Formula 1 | Kith นำเสนอสัญลักษณ์ในเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ โดยผสมผสานระหว่าง Kith และ Heuer บนหน้าปัด สายนาฬิกายาง และฝาหลัง ซึ่งบนหน้าปัดยังประกอบด้วยคำขวัญของ Kith ว่า “Just Us” เพื่อให้เกียรติต่อมิตรภาพอันแน่นแฟ้นกับ Fieg เดอะ คอลเล็กชัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Formula 1 รุ่นดั้งเดิมเป็นรากฐานของความสำเร็จและความยั่งยืนของ TAG Heuer โดยมีการผลิตไปมากกว่าสามล้านชิ้น ซึ่งได้รับการชื่นชมจากทั้งชายและหญิงไม่แพ้กันตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่าง TAG Heuer และ Kith นี้ยังคงนำเสนอตัวเลือกอันวิจิตรไว้หลากหลายรูปแบบ ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นเครื่องประดับที่มีความสนุกสนานและนำเทรนด์ตั้งแต่แรกเริ่ม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/ebSheCFGPN4bDqZrjMvZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ebSheCFGPN4bDqZrjMvZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นาฬิการุ่นใหม่ทั้งหมด 10 เรือน มาในรูปแบบทั้งสายนาฬิกาสตีลและสายนาฬิกายาง โดยนาฬิกาเจ็ดเรือนเป็นนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับ Kith โดยเฉพาะ และแต่ละเรือนสะท้อนถึงร้านค้าในเครือข่ายทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นาฬิกาเหล่านี้โดดเด่นด้วยสีสันสดใส: สีแดงสไตล์รถสปอร์ต; สีดำและสีเหลือง; สีเขียว สีเหลือง และสีแดง ซึ่งเป็นการผลิตซ้ำรุ่นหายากจากยุค 80 ที่ทำขึ้นโดยความร่วมมือกับนักแข่ง F1 ชาวญี่ปุ่น Ukyo Katayama; สีครีม; และสีดำด้าน ผลิตออกมาเพียงสีละ 250 เรือน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/rknQUccndBnBbPRBcZAg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="rknQUccndBnBbPRBcZAg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"><figcaption><div>รุ่นที่ลิซ่าในงานอีเวนต์ครั้งนี้</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับรุ่นพิเศษเฉพาะของ Kith ยังมีสายนาฬิกาแบบสตีลสองแบบมาพร้อมขอบหน้าปัดสีน้ำเงินและอีกรุ่นหนึ่งเป็นสีเขียว สินค้ามีจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 350 เรือน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;: <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/alek-teeradej-focuses-on-buy-land-fund-collect-10-luxury-watches" alt="อาเล็ก-ธีรเดช เผย เน้นทำเงินงอกเงยผ่าน 'ที่ดิน-กองทุน' พร้อมสะสมนาฬิกาหรู 10 เรือน">อาเล็ก-ธีรเดช เผย เน้นทำเงินงอกเงยผ่าน 'ที่ดิน-กองทุน' พร้อมสะสมนาฬิกาหรู 10 เรือน</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

TAG Heuer จัดฉลองคืนชีพซีรีส์แรก คอลเล็กชัน Formula 1 ร่วมกับ Kith ‘ลิซ่า ลลิษา’ ร่วมงานด้วย

<h2>เป็นที่ทราบกันดีว่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า (Lisa) แห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK ปฏิเสธการต่อสัญญาแบบเดี่ยวกับค่าย YG Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ BLACKPINK ทำให้บรรดาแฟนคลับคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรต่อ วันนี้เป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่า ลิซ่าเลือกจะเปิดค่ายเพลงของตัวเธอเอง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 ลิซ่าประกาศการมาถึงของ LLOUD ผ่าน Instagram ของเธอพร้อมข้อความว่า&nbsp; &nbsp;&nbsp;“ขอแนะนำ LLOUD แพลตฟอร์มนำเสนอมุมมองที่ฉันมีต่อดนตรีและสื่อบันเทิง มาร่วมการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นสู่พรมแดนใหม่ไปด้วยกันนะคะ”&nbsp; &nbsp;&nbsp;ไม่เพียงแค่ประกาศทาง Instagram ของเธอเท่านั้น ทั้งเว็บไซต์, Facebook, YouTube, Instagram, X และ TikTok ของ LLOUD ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเช่นดัน โดยมีการแนะนำตัวบนเว็บไซต์ว่าเป็น “การผสมผสานระหว่างเสียงและนวัตกรรม”&nbsp; &nbsp;&nbsp;LLOUD เป็นบริษัทบริหารจัดการศิลปินที่ต้องการสร้างสรรค์ประสบการณ์ซึ่งอยู่เหนือทุกแนวเพลงและเชื่อมโยงคนทุกรุ่นเข้าด้วยกัน หัวใจหลักของบริษัทคือนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและยึดมั่นในความถูกต้อง LLOUD ไม่เพียงแค่มุ่งหมายขยายขอบเขต แต่ยังตั้งใจสร้างนิยามใหม่ของดนตรีอีกด้วย ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/other/nualphan-lamsam-first-female-president-fa-thailand" alt="“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ผู้หญิงคนแรก นายกสมาคมบอลไทย">“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” ผู้หญิงคนแรก นายกสมาคมบอลไทย</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events