<h2>มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เปิดครบแล้ว 77 จังหวัดทั่วไทย สบโอกาสค่าครองชีพสูง เตรียมลุยระดับอำเภอ ทุ่ม 2,000 ล้านบาท เปิดใหม่อีก 200 แห่งปีนี้ เน้นร้านสแตนด์อะโลน พร้อมดึงลูกค้ากำลังซื้อสูงช่วงเศรษฐกิจไม่เป็นใจ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และกำลังซื้อหดจากหนี้ครัวเรือน มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ ประกาศลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่อีก 200 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ ซึ่ง 90% หรือ 180 สาขา จะเน้นการขยายภายใต้รูปแบบสแตนด์อะโลนบนพื้นที่ราว 700 ตารางเมตร เพราะไม่มีการขยายศูนย์การค้า หรือร้านค้าปลีกมากเพียงพอที่จะเอื้อให้เปิดสาขาใหม่ตามที่กำหนด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประกอบกับรูปแบบสแตนด์อะโลนสามารถเปิดได้ทุกที่ที่มีโอกาส จึงสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากขึ้น โดยเฉพาะระดับอำเภอที่เมืองไทยมีอยู่กว่า 900 อำเภอทั่วประเทศ และทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว และอีก 10% หรือ 20 สาขา จะเปิดในพื้นที่ค้าปลีกรูปแบบต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว ใน 3 ปีแรกที่ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เข้ามาทำตลาด ได้เน้นการขยายร้านในพื้นที่ค่าปลีกต่างๆ อาทิ โลตัส บิ๊กซี มาบุญครอง เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่เนื่องจากจำนวนศูนย์การค้า หรือค้าปลีกรูปแบบต่างๆ มีจำนวนจำกัด และการระบาดของโควิคได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้การเปิดสาขาแบบสแตนด์อะโลนตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น จนจำนวนร้านสาขาของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในปัจจุบัน 69% อยู่ภายใต้รูปแบบสแตนด์อะโลน และที่เหลืออีก 31% เป็นร้านที่เปิดในห้างค้าปลีก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/7Jc7EiXVcrX8774CeQ8k.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="7Jc7EiXVcrX8774CeQ8k.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>แอนดี้ ชิน</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากแผนขยาย 200 สาขาในปีนี้แล้ว บริษัทยังวางแผนเปิดสาขาใหม่อีกปีละ 200 สาขาในปี 2569 และปี 2570 ตามลำดับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตามแผนการขยายสาขาดังกล่าวจะทำให้สาขาของร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีทั้งสิ้น 1,132 แห่งในปี 2568 ครอบคลุม 77 จังหวัด โดยจังหวัดพังงาจะเป็นจังหวัดสุดท้ายที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 28 มีนาคมนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในปี 2567 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 195 สาขา ทำให้มีสาขาของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ทั่วประเทศ 932 แห่ง แบ่งเป็น ภาคกลาง 299 แห่ง ภาคอีสาน 198 แห่ง กรุงเทพฯ และภาคตะวันออกอย่างละ 110 แห่ง ส่วนอีก 112 แห่งอยู่ในภาคตะวันตกและภาคเหนืออย่างละเท่าๆ กัน และที่เหลือ 103 แห่งอยู่ในภาคใต้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/TCgQoNSqJ2ZvTeP49BcH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="TCgQoNSqJ2ZvTeP49BcH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โอกาสในการขยายร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ยังมีอีกมากกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับมาเลเซียที่มีจำนวนร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ถึง 1,400 แห่งทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศไทยถึง 50% ร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในมาเลเซีย 1 สาขาให้บริการลูกค้าเฉลี่ย 25,000 คน ขณะที่ประเทศไทยให้บริการลูกค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 77,000 คนต่อสาขา” แอนดี้ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันค่าเฉลี่ยการซื้อต่อบิลอยู่ที่ 160 บาท จากการทำสำรวจพบว่าสินค้าในร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ถูกกว่าคู่แข่งรายสำคัญถึง 24.7% เพราะจัดการต้นทุนโลจิสติกส์และคลังสินค้าด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีและดีลธุรกิจโดยตรงกับซัพพลายเออร์ไม่ต้องผ่านคนกลาง อีกทั้งโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกถึง 4,500 สาขา และมีความยืดหยุ่นเรื่องรูปแบบร้านค้าสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ท่ามกลางวิกฤตของค่าครองชีพที่สูงขึ้น เปิดโอกาสให้มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ขยายสาขาเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ทำให้สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น สินค้ามิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจของลูกค้าระดับล่างถึงกลางเท่านั้น แต่ยังจะดึงความสนใจลูกค้ากำลังซื้อสูงให้หันมาใช้บริการที่ร้านของเรามากขึ้นในอนาคต” แอนดี้กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/oLvo23k8i8N2fz35CJE1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="oLvo23k8i8N2fz35CJE1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากแผนขยายสาขาแล้ว บริษัทยังวางกลยุทธ์สำคัญอีก 3 แนวทาง เพื่อเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้แก่ การยืนหยัดในความคุ้มค่าของสินค้าที่หลากหลายประมาณ 16,000 รายการจาก 6 หมวดสินค้า ซึ่ง 69% นำเข้าจากต่างประเทศ และ 31% สั่งซื้อจากผู้ผลิตภายในประเทศ และ 45% ของสินค้าทั้งหมดเป็นสินค้า Own Brand&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับสินค้าที่ขายมากสุดคิดเป็นสัดส่วน 35.4% ได้แก่ สินค้าของใช้ในครัวเรือนและของตกแต่งบ้าน รองลงมา ได้แก่ สินค้าฮาร์ดแวร์ 16.9% เครื่องใช้ไฟฟ้า 9.1% สินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา 8.7% สินค้าของเด็กเล่น 6.6% และที่เหลือ 23.4% เป็นสินค้าอื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และเพื่อตอกย้ำเรื่องความคุ้มค่าที่ให้กับผู้บริโภค ในปีนี้บริษัทเตรียมจัดโปรโมชั่นและแคมเปญพิเศษมากกว่า 50 รายการตลอดปี เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้อย่างทั่วถึง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากแผนการทั้งหมดนี้จะทำให้ธุรกิจของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักจากยอดขาย 16,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ภาพ: มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/moshi-moshi-set-plan-2025-mar-2025" alt="วิ่งช้าอาจไม่ทันกระแส! MOSHI รับมือทุนจีน-ยุโรปรุกสินค้า Lifestyle ออกสินค้าใหม่เน้น ‘เร็ว-คุ้มค่า’ ขั้นต่ำ 1,000 Sku/เดือน">วิ่งช้าอาจไม่ทันกระแส! MOSHI รับมือทุนจีน-ยุโรปรุกสินค้า Lifestyle ออกสินค้าใหม่เน้น ‘เร็ว-คุ้มค่า’ ขั้นต่ำ 1,000 Sku/เดือน</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ลุยระดับอำเภอ ทุ่ม 2,000 ล้าน เปิดใหม่อีก 200 แห่งปีนี้ เน้นรูปแบบสแตนด์อะโลน

<h2>“บมจ.มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย)” หรือ MR. D.I.Y. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังสำนักงานก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล (Filling) เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “MR. D.I.Y.”) เปิดเผยว่า “การก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นมากกว่าการวางจุดมุ่งหมายความสำเร็จทางการเงิน แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ร่วมเติบโตไปพร้อมกับชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจอยู่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 9 ปี และก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 7.4 ซึ่งตัวเลขส่วนแบ่งตลาดหลักเดียวนี้สะท้อนถึงศักยภาพ และโอกาสในการเติบโตอีกมากในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการขยายสาขา เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และเสริมสร้างความเป็นผู้นำตลาดของเรา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยในปี 2567 เราได้เปิดมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จำนวน 191 สาขา และปี 2568 ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 200 สาขา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเรายังคงยึดมั่นในพันธกิจที่จะขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ส่งมอบคุณค่าให้กับทุกภาคส่วน และเสริมสร้างบทบาทของเราในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่ลูกค้าไว้วางใจในทุกๆ วันของชีวิต​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/PV9gLwrbkSgQUfYPVVDk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="PV9gLwrbkSgQUfYPVVDk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,512"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย นำเสนอสินค้าประมาณ 15,000 รายการ ใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ (1) เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (3) เครื่องใช้ไฟฟ้า (4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา (5) ของเล่น และ (6) อื่นๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ครอบคลุมของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยบริษัทฯ ได้สร้างเครือข่ายในการจัดหาสินค้าที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ ด้วยการประหยัดต่อขนาด (economies of scale) ซึ่งความยึดมั่นทุ่มเทนี้ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย นอกจากนี้บริษัทยังมีกลยุทธ์ที่มุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้บริโภคในตลาดมวลชน (Mass-market Consumers) เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีความเข้าถึงได้และราคาจับต้องได้ พร้อมกับพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีสาขารวม 932 สาขาทั่วประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าร้อยละ 31 และอีกร้อยละ 69 เป็นรูปแบบสแตนด์อโลน ทำให้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เป็นผู้ค้าปลีกธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในประเทศ ด้วยเครือข่ายร้านค้าที่ครอบคลุม 74 จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้งร้านค้าในพื้นที่สำคัญ ทำให้มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สามารถขยายการเข้าถึงและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/8fnoDG8WxWtTCuxvPJMy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8fnoDG8WxWtTCuxvPJMy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,433"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคชาวไทย ด้วยการให้ความสะดวกสบายผ่านการเลือกทำเลร้านค้าอย่างมีกลยุทธ์ พร้อมสินค้าที่หลากหลายและราคาคุ้มค่าตามคำมั่นสัญญา "Always Low Prices" หรือ ราคาถูกคุ้มเสมอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากที่ MR. D.I.Y. ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. โดยล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO โดยจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยและบริษัทร่วมของบริษัทฯ ชำระเงินกู้ของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กนต์ธีร์ ประเสริฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจุบัน MR. D.I.Y. มีทุนจดทะเบียน 3,038.5 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 6,077,097,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 2,798.5 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5,597,097,000 หุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 16.31 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/punthai-coffee-2024-revenue" alt="‘กาแฟพันธุ์ไทย’ โตแรงมาก! ปี 67 กวาดรายได้ 2,575 ล้าน โต 97.4% ปีนี้ตั้งเป้าขยายอีก 600 สาขา">‘กาแฟพันธุ์ไทย’ โตแรงมาก! ปี 67 กวาดรายได้ 2,575 ล้าน โต 97.4% ปีนี้ตั้งเป้าขยายอีก 600 สาขา</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

หลังเปิดในไทยมา 9 ปี! ‘MR. D.I.Y.’ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ล่าสุด ก.ล.ต. นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว

<h2>MR. D.I.Y. ร้านค้าปลีกของ-แต่งบ้านที่มีสินค้ากว่า 15,000 รายการ มี 802 สาขาทั่วไทย ล่าสุดยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น หรือไม่เกิน 16.31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วฯ วางเป้าหมายระดมเงินใช้ ‘ลงทุนขยายธุรกิจ-ชำระเงินกู้-เป็นทุนหมุนเวียน’</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บมจ.มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ MR. D.I.Y. ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยปัจจุบัน บมจ.มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) มีทุนจดทะเบียน 3,038.5 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 6,077,097,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 2,798.5 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5,597,097,000 หุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 16.31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MR. D.I.Y. ภายใต้ธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป เปิดสาขาแรกเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีจำนวน 802 สาขา ครอบคลุม 74 จังหวัด ทั่วประเทศไทย และมีการจ้างพนักงานกว่า 9,700 คน (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;MR. D.I.Y. มีการเสนอขายสินค้าราว 15,000 รายการ ใน 5 แผนกหลัก ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1) เครื่องใช้ในครัวเรือน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3) เครื่องใช้ไฟฟ้า &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5) ของเล่น และหมวดหมู่อื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MR. D.I.Y. กล่าวว่า ปี 2567 ถือว่าครบรอบ 8 ปีของ MR. D.I.Y. ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยช่วงที่ผ่านมามีการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ มีการขยายสาขาใหม่ในปี 2564 จำนวน 121 สาขา ในปี 2565 จำนวน 158 สาขา และในปี 2566 จำนวน 184 สาขา โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 36.3% ต่อปีในปี 2564 - 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ มีการแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/it/xiaomi-q-2-2024-revenue-growth-yoy" alt="Xiaomi อวดรายรับ Q2/67 ทำนิวไฮที่ 8.89 หมื่นล้านหยวน โตเพิ่ม 32% YoY"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/toyota-lowers-production-target-2024-9-8-millions-vehicles" alt="Toyota มั่นใจยอดขายกระเตื้อง หลัง Yaris Cross และ Corolla กลับมาผลิตและส่งออกได้ตามปกติ"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/chinhuay-ch-set-sep-2024" alt="ChinHuay ธุรกิจครอบครัวอายุ 99 ปีที่มี ‘ธรรมนูญโฮลดิ้ง’ และปี 67 นี้คาดรายได้ทะลุ 2,000 ล้าน"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/volvo-gives-up-plans-produce-sell-ev-car-plan-on-2030" alt="Volvo ถอดใจ ล้มแผนผลิตรถ EV เต็มสูบภายในปี 2030 เหตุสภาวะตลาดและดีมานด์ไม่เป็นไปตามคาด">Volvo ถอดใจ ล้มแผนผลิตรถ EV เต็มสูบภายในปี 2030 เหตุสภาวะตลาดและดีมานด์ไม่เป็นไปตามคาด</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events