<h2>ในยุคดิจิทัลที่การช็อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทย ผลสำรวจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยปี 2566 โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ระบุว่า E-Commerce ในกลุ่ม B2C (Business to Customer) ครองแชมป์สัดส่วนมูลค่าอีคอมเมิร์ซมากที่สุด โดยช่องทางการขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ e-Marketplace เช่น Lazada และ Shopee</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย แพลตฟอร์มใดที่ผู้บริโภคพูดถึงมากที่สุดในปัจจุบัน? &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ใช้เครื่องมือ DXT360 ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากความคิดเห็นในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ของนักช็อปชาวไทยในช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 10 กันยายน 2567 เพื่อเผยให้เห็นถึงแนวโน้มการเลือกใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซล่าสุด Shopee-Lazada ยังครองใจนักช็อปไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย พบว่า Shopee (แอปส้ม) และ Lazada (แอปฟ้า) เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ได้รับการพูดถึงสูงสุด โดย Shopee ได้รับการพูดถึงมากในสัดส่วน 36%, Lazada 27%, Temu 23%, TikTok Shop 13% และอื่นๆ อีก 1%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Shopee และ Lazada ถือเป็นผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซไทย โดยทั้งสองแพลตฟอร์มมีกลยุทธ์ที่โดดเด่นในการดึงดูดผู้ใช้ที่แตกต่างกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Shopee เน้นการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ ด้วยการออกแบบ UI (User Interface) ที่ใช้งานง่าย และนำเสนอฟีเจอร์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Shopee ยังให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์หรือการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีผ่านแพลตฟอร์ม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่ Lazada มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มตามแนวคิด Shoppertainment โดยเฉพาะผ่านฟีเจอร์ LazLive ซึ่งเป็นการไลฟ์สตรีมที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมและเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ส่งผลให้ผู้ใช้งานใช้เวลาบนแพลตฟอร์มนานขึ้นและมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/ofic96hBCrsu6HyewMHx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ofic96hBCrsu6HyewMHx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1024,768" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div> ส่องประสบการณ์ใช้แอปของนักช็อปออนไลน์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้บริโภคส่วนใหญ่เห็นว่า Shopee มีจุดเด่นในเรื่องการออกแบบ UI ซึ่งทำให้ใช้งานง่ายทั้งการค้นหาสินค้าและการเก็บโค้ดโปรโมชั่นที่สะดวก ในขณะที่จุดเด่นของ Lazada คือราคาสินค้า โดยเฉพาะประเภทสินค้าที่มีราคาสูง หรือสินค้าที่ขายผ่าน Official Store ของแบรนด์ต่างๆ มักจะมีราคาสุทธิที่ถูกกว่า นอกจากนี้ Lazada ยังโดดเด่นในด้านบริการหลังการขาย ทั้งการเคลมสินค้าและการติดต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคส่วนใหญ่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยไม่ได้มีเพียงแค่ยักษ์ใหญ่ 2 เจ้านี้อีกต่อไป แต่ตอนนี้มีผู้เล่นใหม่เข้ามาในตลาด นั่นคือ Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหม่ที่กำลังมาแรงในหลายประเทศ และได้เริ่มขายสินค้าหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Temu คือ แม้จะเข้ามาขายสินค้าในไทยแล้ว แต่ Temu ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนการค้าในประเทศไทย และยังไม่มีการจัดตั้งบริษัทในไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนำไปสู่การพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเกี่ยวกับ Temu แบ่งออกเป็นหัวข้อดังนี้ ยังไม่จดทะเบียนการค้า ยังไม่เข้าข่ายเสียภาษีไทย : Temu เข้ามาทำตลาดในไทยโดยยังไม่มีการจดทะเบียนการค้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ยังไม่เข้าเงื่อนไขต้องเสียภาษีในประเทศไทย ผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย : การเข้ามาของ Temu อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยและร้านค้าปลีกของไทย เนื่องจากโมเดลการทำธุรกิจของ Temu เป็นการซื้อขายโดยตรงกับโรงงานผู้ผลิตสินค้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการทำราคาได้ถูกกว่าคู่แข่งคุณภาพสินค้าและราคา : เนื่องจาก Temu เพิ่งเริ่มดำเนินการในไทย จึงอัดโปรโมชันส่งฟรีทุกออเดอร์ นโยบายคืนสินค้าในทุกๆ ออเดอร์ฟรีภายใน 90 วัน หรือสามารถเลือกรับเป็นการคืนเงินส่วนหนึ่ง โดยไม่ต้องส่งสินค้ากลับคืนได้ความเชื่อมั่นในการติดตั้งแอปพลิเคชัน : ผู้ใช้หลายรายยังมีความกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้ผ่านแอปและความกังวลด้านความปลอดภัย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จะเห็นได้ว่าเสียงตอบรับ Temu จากผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียไม่ค่อยดีนัก ด้วยเหตุผลหลักคือ Temu ยังไม่ได้จดทะเบียนการค้าในไทย รวมถึงราคาสินค้าไม่ได้ถูกกว่า Shopee และ Lazada อย่างที่คาดหวังไว้ ผลที่ตามมาคือผู้ใช้ส่วนใหญ่ตัดสินใจกลับไปใช้บริการยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 เจ้าดังเดิม&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวอย่างที่ชัดเจนคือในแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมา Shopee ประเทศไทย สามารถทำยอดขายได้ถึง 1 พันล้านบาทภายในเวลาเพียง 18 นาที ผ่านช่องทางต่างๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น Shopee Live, Shopee Video และ Shopee Affiliate Program แสดงให้เห็นว่า Shopee ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักช็อปชาวไทย ​TikTok Shop ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Social Commerce คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมไม่แพ้กันในประเทศไทย โดยเฉพาะ TikTok Shop ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ข้อได้เปรียบของ TikTok Shop คือการที่ตัวแอปเป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆ หากมีการทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าหรือการไลฟ์สตรีมขายสินค้า สามารถทำได้จบในแอปเดียวโดยไม่ต้องข้ามไปแพลตฟอร์มอื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความเห็นผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบพบว่า การช็อปปิ้งผ่าน TikTok Shop ได้ส่วนลดสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าผ่านการไลฟ์สตรีมที่จะได้รับโค้ดส่วนลดพิเศษ โดยไม่ต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำตามที่กำหนด ทำให้ประหยัดได้มากกว่าปกติ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/travel/global/united-airlines-deal-with-spacex-free-wifi-2025" alt="United Airlines เซ็นสัญญา SpaceX เตรียมให้บริการ WiFi ฟรีบนเครื่องบิน">United Airlines เซ็นสัญญา SpaceX เตรียมให้บริการ WiFi ฟรีบนเครื่องบิน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เปิดอินไซต์ตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ‘Shopee-Lazada’ ยังครองความนิยมสูงสุด

<h2>ก้าวขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนได้เพียงแค่พริบตาเดียว ล่าสุด Colin Huang ผู้ก่อตั้ง PDD Holdings ซึ่งถือเป็นบริษัทแม่ของ TEMU ก็ร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 4 โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาหายวับไปกับตาราวๆ 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังหุ้น PDD ร่วงเกือบ 30%</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Colin Huang ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทอีคอมเมิร์ซ PDD Holdings&nbsp;ซึ่งถือเป็นบริษัทแม่ของ TEMU อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน&nbsp;ที่ผงาดขึ้นเป็นบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดของประเทศเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2024 แต่ทว่าล่าสุดมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิของมหาเศรษฐีผู้นี้ได้ลดฮวบลงอย่างหนักราว 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากหุ้นของบริษัทร่วงลงเกือบ 30% และไม่เป็นไปตามเป้าไตรมาส 2 ที่ได้คาดการณ์ไว้&nbsp;&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ Huang ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน PDD โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ลดลงเหลืออยู่ราวๆ 3.5 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงมากกว่า 28% และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังทำให้รายชื่อของเขาที่ติดอยู่ในอันดับมหาเศรษฐีเรียลไทม์ของ Forbes หล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 50 ของโลก และกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของประเทศจีน ตามหลัง Zhong Shanshan (4.99 หมื่นล้านเหรียญ) Zhang Yiming (4.34 หมื่นล้านเหรียญ) และ Ma Huateng (4.07 หมื่นล้านเหรียญ) ตามลำดับ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/gdZ7R6TX2r68iuj9fbRT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="gdZ7R6TX2r68iuj9fbRT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; PDD Holdings ได้รายงานถึงผลกำไรต่อหุ้นที่ปรับลดลง 23.24 หยวน (3.20 เหรียญ) ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน โดยมียอดขายอยู่ที่ 9.706 หมื่นล้านหยวน (1.36 หมื่นล้านเหรียญ) ลดลงจากการคาดการณ์ของเหล่านักวิเคราะห์ที่ 100.17 หยวนหรือ 1.41 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งทาง Jun Liu รองประธานฝ่ายการเงินของ PDD&nbsp;ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "อัตราการเติบโตของรายได้บริษัทได้ชะลอตัวลงทุกไตรมาสและยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นและท้าทายจากปัจจัยภายนอก"&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ Chen Lei ผู้ร่วมก่อตั้งของ PDD Holdings กล่าวเพิ่มเติมว่า "แนวโน้มการเติบโตรายได้ของบริษัทอาจจะอยู่ในภาวะทรงตัวไปอีกนานจากการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของเหล่าบรรดาอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ อย่าง&nbsp;Alibaba และ ByteDance (TikTok)"&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม&nbsp;PDD ไม่ใช่ตลาดออนไลน์ยักษ์ใหญ่เจ้าเดียวในจีนที่มีผลประกอบการแบบไม่เป็นตามแผนที่คาดหวังไว้ และจากปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกและภายในประเทศเองที่อยู่ในภาวะตกต่ำ ส่งผลให้มีอัตราการว่างงานสูงและรายได้ครัวเรือนลดลง ทาง Alibaba เองก็ยังรายงานตัวเลขรายได้สุทธิที่ลดลง 28.77% ในเดือนมิถุนายน ส่วน JD.Com มีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้เช่นเดียวกัน อีกทั้ง สำนักข่าว CNBC ยังมีรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ด้วยว่า กลุ่มผู้บริโภครุ่นเยาว์เริ่มหันมาออมเงินมากขึ้นกว่าคนรุ่นก่อนๆ และยังแนวคิดตั้งเป้าหมายการใช้จ่ายให้ต่ำมากๆ จนกลายเป็นกระแสโซเชียลมีเดียที่เรียกว่า "การออมแบบแก้แค้น" ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศนั่นเอง เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/bot-nesdc-fidf-aug-2024" alt="เผยสาเหตุแบงก์ชาติปรับเกณฑ์รอบใหม่ช่วยลูกหนี้ ‘บัตรเครดิต-หนี้เรื้อรัง’ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/a-5-repayment-bonds-series-1-2022-totaling-491-67-million-baht" alt="A5 โชว์ศักยภาพธุรกิจ ชำระคืนหุ้นกู้ชุด 1/2565 ตามนัด จ่ายเงินต้น-ดอกเบี้ยครบรวม 491.67 ล้านบาท">A5 โชว์ศักยภาพธุรกิจ ชำระคืนหุ้นกู้ชุด 1/2565 ตามนัด จ่ายเงินต้น-ดอกเบี้ยครบรวม 491.67 ล้านบาท</a><a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/bot-press-briefing-aug-2024" alt="เผยสาเหตุแบงก์ชาติปรับเกณฑ์รอบใหม่ช่วยลูกหนี้ ‘บัตรเครดิต-หนี้เรื้อรัง’ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี"></a><a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/other/fti-herbs-factories-are-under-standard" alt="อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยวิกฤต! ส.อ.ท. เผยโรงงาน 500 แห่งยังไม่ผ่านมาตรฐาน เสี่ยงถูกปิดตัว"></a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Colin Huang เจ้าของบริษัทแม่ Temu เงินหายวับ 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังหุ้น PDD ร่วงเกือบ 30%

<h2>แพลตฟอร์ม Temu ที่ขายสินค้าจากจีนด้วยราคาถูกแสนถูกได้รุกคืบสู่หลายประเทศ ทั้งตีตลาดในสหรัฐ และกำลังเป็นกระแสหลังเปิดตัวในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังนำสู่การตั้งคำถามว่า การมาของแอปพลิเคชันจากจีนแผ่นดินใหญ่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการชาวไทยมากน้อยแค่ไหน รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าที่กำลังเป็นข่าวสำคัญในเกาหลีใต้ ซึ่งไทยอาจศึกษาเป็นกรณีตัวอย่างในการรับมือ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางสถานการณเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัด ดังนั้นเมื่อเจอแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซที่เต็มไปด้วยสินค้าราคาถูกย่อมเป็นทางเลือกอันเย้ายวนใจ ดังเช่น กรณีของ Temu ที่ขยายฐานลูกค้าในสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาอันสั้น รวมถึงกรณี Shein ที่ถึึงขั้นเตรียม IPO ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนของสหราชอาณาจักร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางการเติบโตก้าวกระโดดของทั้งสองแอปพลิเคชันนี้ กลับมาพร้อมข้อกังขามากมาย ทั้งข้อสงสัยในการหลบเลี่ยงภาษี การใช้แรงงานที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนคุณภาพสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งพบในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาทางสหภาพยุโรปได้จัด Shein เข้าไปในกลุ่มรายชื่อบริษัทที่มีขนาดใหญ่จนต้องมีกฎระเบียบควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น มาตรการคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดกัย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุดฝั่งเอเชียเองก็มีประเด็นเช่นกัน เมื่อหน่วยงานทางการของโซล เกาหลีใต้ เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2024 ว่า หลังการตรวจสอบสินค้า 144 ชิ้นที่สั่งซื้อมาจาก Shein, AliExpress และ Temu ได้แก่ บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร 94 ชิ้น, เครื่องสำอาง 13 ชิ้น, รองเท้าและหมวกรวม 28 ชิ้น และผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย 9 ชิ้น พบว่าผลิตภัณฑ์หลายอย่างไม่ผ่านมาตรฐาน โดยมีสารเคมีที่เป็นอัตรายเกินเกณฑ์กำหนด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รองเท้าคู่หนึ่งจาก Shein มีสาร Phthalate ซึ่งเป็นสารเคมีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้พลาสติกมากกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 229 เท่า หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากหน่วยอนามัยสิ่งแวดล้อมของโซลบอกกับ AFP ว่า “สารสำหรับใส่พลาสติกที่มีส่วนผสมของ Phthalate ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ เช่น ลดปริมาณเชื้ออสุจิ มีบุตรยาก และอาจทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เจ้าหน้าที่ยังพบสาร Formaldehyde ซึ่งมักใช้ในวัสดุก่อสร้างในหมวกของ Shein สูงกว่าเกณฑ์ถึง 2 เท่า น้ำยาทาเล็บของแบรนด์ดังกล่าวก็มี Methanol เข้มข้นกว่าเกณฑ์ที่กำหนดถึง 1.4 เท่า และสาร Dioxane สูงกว่าเกณฑ์ถึง 3.6 เท่า โดย Dioxane เป็นพิษต่อตับและยังเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งนอกจากที่กล่าวมานี้ก็ยังมีสารเคมีชนิดอื่นที่เป็นสารก่อมะเร็งในสินค้าอื่นๆ เช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อ Shein รับทราบข่าวดังกล่าวจึงออกมาเปิดเผยว่า “พวกเราทำงานร่วมกับหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยสากลที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างใกล้ชิด มีการส่งตัวอย่างไปตรวจเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จากซัพพลายเออร์ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของ Shein”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน Temu เจ้าหน้าที่พบว่ารองเท้าแตะที่สั่งซื้อจากแอปดังกล่าวมีสารตะกั่วเกินมาตรฐานที่กำหนดกว่า 11 เท่า โดย Temu ยังไม่ได้ออกมาแถลงการณ์ใดๆ ในประเด็นนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบเหล่านี้ต่างก็เป็นของที่ต้องมีการสัมผัสร่างกายของผู้ใช้โดยตรง ทำให้หน่วยงานทางการในโซลได้มีคำสั่งระงับการขายทันที อีกทั้งจะมีการตรวจสอบสินค้าต่างๆ และเปิดเผยผลให้ประชาชนได้รับทราบกันอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดกรณีแบบนี้ ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม หน่วยงานทางการของโซลตรวจพบสารเคมีอันตรายเกินเกณฑ์ที่กำหนด 428 เท่าในรองเท้าเด็ก กระเป๋า และเข็มขัดที่สั่งมาจาก Shein แหล่งที่มา:​<a href="https://www.barrons.com/news/seoul-authorities-find-toxic-substances-in-shein-and-temu-products-81144406" alt="Seoul Authorities Find Toxic Substances In Shein And Temu Products">Seoul Authorities Find Toxic Substances In Shein And Temu Products</a>​ ​<a href="https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2024/08/113_375473.html" alt="Toxic substances 428 times above permitted limit found in children's shoes from China's Shein">Toxic substances 428 times above permitted limit found in children's shoes from China's Shein</a>​ ​<a href="https://www.bernama.com/en/world/news.php?id=2329035" alt="Seoul City Finds Toxic Substances In Products From Temu And Shein Apps">Seoul City Finds Toxic Substances In Products From Temu And Shein Apps</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/gmm-music-strategic-partnership-with-warner-music-asia" alt="GMM Music จับมือ WMA เผยเตรียมร่วมตั้งค่ายเพลง ตั้งเป้าโตเท่าตัวภายในปี 2030">GMM Music จับมือ WMA เผยเตรียมร่วมตั้งค่ายเพลง ตั้งเป้าโตเท่าตัวภายในปี 2030</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events