นักธุรกิจชาวต่างชาติยังคงปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่บนทำเนียบการจัดอันดับมหาเศรษฐีสิงคโปร์ Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta Platforms (ชื่อเดิมคือ Facebook) และผู้พำนักในนครรัฐแห่งนี้มายาวนานกว่าทศวรรษ บัดนี้ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
นักลงทุนชาวบราซิลผู้นี้คือผู้รับทรัพย์มหาศาลในปีนี้หากประเมินเป็นตัวเงิน โดยเขามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 6.4 พันล้านเหรียญยามหุ้นของ Meta ที่เพิ่งเปิดตัว Threads คู่แข่ง Twitter มีมูลค่าพุ่งสูงเกือบ 70% นับจากการคำนวณความมั่งคั่งคราวก่อน
Saverin ยังเป็นเจ้าของร่วมบริษัทเงินร่วมลงทุน B Capital Group ซึ่งมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ 6.3 พันล้านเหรียญ เขาเบียดเข้ามาแทนที่ Li Xiting ประธาน Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics ผู้จัดหาอุปกรณ์การแพทย์ หลังครองตำแหน่งสูงสุดบนทำเนียบมาสองปี Li ก็หลุดลงไปยังอันดับ 3 ยามหุ้นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพตกลงสืบเนื่องจากผลกระทบของการขับเคลื่อนต่อต้านทุจริตในภาคเภสัชกรรมของประเทศจีน
การสับเปลี่ยนตำแหน่งด้านบนของทำเนียบเกิดขึ้นท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ตัวเลขจีดีพีของประเทศเติบโต 3.6% ในปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.5-1.5% ในปี 2023 การส่งออกที่ซบเซาและจำนวนของภาคการผลิตที่ตกลง ทว่าแม้อยู่ในช่วงขาลง มูลค่าความมั่งคั่งรวมของ 50 มหาเศรษฐีกลับเพิ่มขึ้น 8% เป็น 1.77 แสนล้านเหรียญ
พี่น้องนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Robert และ Philip Ng แห่ง Far East Organization ยังคงยึดอันดับ 2 แม้ความมั่งคั่งลดลงเหลือ 1.48 หมื่นล้านเหรียญ ตรงข้ามกับอีกหนึ่งนักธุรกิจอสังหาฯ Kwek Leng Beng ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 18% สู่ 1.1 หมื่นล้านเหรียญ แต่ยังคงอยู่ที่อันดับ 5 เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
หลังโควิด-19 ผ่านพ้นไป City Developments ของ Kwek ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เดินหน้าเข้าซื้อกิจการในระดับโลกอีกครั้ง นั่นคือท่าเรือ St Katherine กลางลอนดอน ด้วยมูลค่า 500 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
มหาเศรษฐีที่ปรากฏในรายชื่อเกินครึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น มีหกคนที่รวยกว่าเดิมทะลุ 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งรวมถึงสองตระกูลเก่าแก่ที่ความมั่งคั่งผูกอยู่กับการธนาคาร หนึ่งคือครอบครัว Lee ที่ครอบครองหุ้นธนาคาร OCBC ส่วนอีกหนึ่งคือครอบครัว Lien แห่ง United Overseas Bank โดยทั้งสองรับทรัพย์เพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุด และยิ่งได้รับโชคจากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่พวกเขาถือครอง
สิงคโปร์ถูกรุมเร้าด้วยข่าวฉาวทางการเมืองที่กระทบหนึ่งในรายชื่อที่ปรากฏในการจัดอันดับ ที่เมื่อเดือนกรกฎาคม สำนักงานต่อต้านการทุจริตของสิงคโปร์ได้จับกุมและให้ประกันตัวรัฐมนตรีคมนาคมพร้อมด้วยนักธุรกิจโรงแรมรายใหญ่ Ong Beng Seng (บริษัท Hotel Properties ของ Ong เผยในแถลงการณ์ว่ายังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ และเขายังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ)
สองผู้ประกอบการจากจีนคือหน้าใหม่ในปีนี้ คนแรกคือ Liang Xinjun ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทจีน Fosun International (ซึ่งดำเนินการสำนักงานครอบครัว XIN Family จากสิงคโปร์ พาเข้าเปิดตัวสู่ทำเนียบในอันดับ 22 ด้วยทรัพย์สิน 2.15 พันล้านเหรียญ
คนต่อมาคือ David Xueling Li ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน JOYY ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ บริษัทของเขาดูแลแพลตเตอร์ไลฟ์สตรีมมิงและโซเชียลมีเดียทั้งยังมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq
ท้ายสุดคือ Lim Kaling ชาวสิงคโปร์ นักลงทุนรุ่นแรกๆ ในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับเล่นเกม Razer ได้ตามผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Min-Liang Tan เข้าสู่ทำเนียบ
เมื่อมีผู้มาใหม่ ย่อมต้องมีผู้จากไป หนึ่งในนั้นคือ David Chen อดีตมหาเศรษฐีพันล้านผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซและเกม Sea ซึ่งพบว่ามูลค่าหุ้นตกลงจากผลประกอบการไตรมาสสองอันไม่เป็นที่น่าพอใจ
ส่วนผู้ร่วมก่อตั้ง Sea อีกสองคน Forrest Li และ Gang Ye ยังคงอยู่ในทำเนียบ แม้ทรัพย์สินของพวกเขาจะตกลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมูลค่าทรัพย์สินต่ำสุดในการจัดอันดับปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 750 ล้านเหรียญ จาก 705 ล้านเหรียญเมื่อปีที่ผ่านมา
สำหรับ 10 อันดับแรกของมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศสิงคโปร์ประจำปี 2023 มีดังนี้
อันดับ 1
Eduardo Saverin
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.6 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: เทคโนโลยี
ปี 2016 เขาได้ก่อตั้งบริษัทร่วมลงทุน B Capital ร่วมกับ BCG, Bain Capital และ อดีตทหารผ่านศึก Raj Ganguly โดยบริษัทร่วมลงทุนของเข้ามีทรัพย์สินภายใต้การดูแลมากถึง 6.5 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2022 B Capital ระดมทุน 250 ล้านเหรียญ เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพหน้าใหม่ นักลงทุนชาวบราซิลรายนี้ถือสัญชาติสิงคโปร์หลังจากสละสัญชาติสหรัฐเมื่อปี 2012 เพื่อนำ Facebook เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
อันดับ 2
Robert และ Philip Ng
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.48 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
สองพี่น้อง Robert และ Philip Ng คือผู้ร่วมกุมบังเหียน Far East Organization เจ้าของที่ดินและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทก่อตั้งโดย Ng Teng Fong หลังจากย้ายถิ่นฐานจากจีนสู่สิงคโปร์เมื่ปี 1934 จนกระทั่งรุ่นก่อตั้งผู้เป็นบิดารายได้ได้รับฉายา “ราชาแห่งถนนออชาร์ต” ทั้งนี้ Sino Group บริษัทในกลุ่มของเขาบริหารงานโดย Robert ญาติผู้พี่ร่วมกับ Philip ในปี 2022 ได้เปิดขาย อะพาร์ตเมนต์หรู 17 ห้องที่นำสถานี Westminster Fire ในอังกฤษพัฒนาเป็นอะพาร์ตเมนต์ระดับหรูหรา
อันดับ 3
Li Xiting
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.4 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การดูแลสุขภาพ
ผู้ร่วมก่อตั้งและนั่งประธาน Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics บริษัทผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือการแพทย์ โดยบริษัท Mindray ก่อตั้งเมื่อปี 1991 มีสำนักงานใหญ่ที่ Shenzhen ประเทศจีน
อันดับ 4
Goh Cheng Liang
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.23 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: การผลิต
Goh Cheng Liang ผู้ถือหุ้นหลักในบริษัท Nippon Paint Holdings สัญชาติญี่ปุ่น บริษัทสีอันดับที่สี่ที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก เขาได้เริ่มต้นธุรกิจสีจากโรงงานเล็กในสิงคโปร์ก่อนที่จะเข้าร่วมกับ Nippon Paint เมื่อปี 1962 ทั้งนี้ในปี 2021 Hup Jin บุตรชายเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมด้วยจำนวนเงิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และเงินสด ทำให้เขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด เมื่อเดือนมีนาคม 2021 บริษัทแห่งเพิ่งครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้งบริษัท
อันดับ 5
Kwek Leng Beng และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.1 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
Kwek Leng Beng นั่งตำแหน่งกรรมการบริหาร Hong Leong Group ประเทศสิงคโปร์ ที่ก่อตั้งโดยบิดาของเขาเมื่อปี 1941 นอกจากนี้เขายังนั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร City Developments ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับสองของประเทศ เมื่อมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อ St Katharine Docks กลางกรุงลอนดอนด้วยราคา 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และร่วมไปถึงการเข้าซื้อกิจการโรงแรมในเครือที่ Brisbane ออสเตรเลีย และกรุงโซล เกาหลีใต้
อันดับ 6
Zhang Yong และ Shu Ping
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 9.7 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ : อาหารและเครื่องดื่ม
สองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งร้านหม้อไฟ Haidilao อันโด่งดังจนเปิดตัวสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกันยายนปี 2018 ปัจจุบันมีจำนวนสาขาราว 1,500 แห่งในนานาประเทศ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในจีน โดย Zhangyong ดำรงตำแหน่งประธาน
อันดับ 7
ครอบครัว Khoo
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 8.5 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทายาท Khoo Teck Puat นายธนาคารผู้ลงทุนใน Standard Chartered Bank เมื่อปี 1986 โดยความมั่งคั่งของตระกูลมาจากการขายหุ้นธนาคารดังกล่าวด้วยมูลค่า 4 พันล้านเหรียญในปี 2006 นอกจากนี้พวกเขายังดูแลกิจการโรงแรมหรูเก่าแก่ Goodwood Park Hotel ซึ่งมี Mavis Khoo-Oei เป็นประธาน
อันดับ 8
Wee Cho Yaw
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.1 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ : การเงินและการลงทุน
ประธานกิตติคุณแห่ง United Overseas Bank ธนาคารใหญ่อันดับสามของสิงคโปร์หากนับจากมูลค่าทรัพย์สิน ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารนี้คือพ่อของเขา Wee Khiang Cheng ในปี 1935 ปัจจุบันลูกชายคนโตของเขา Wee Ee Chong ทำหน้าที่ซีอีโอ ส่วนลูกชายอีกคน Wee Eee Lim เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร
อันดับ 9
Leo Koguan
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 6.5 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: เทคโนโลยี
ประธานบริษัทเทคโนโลยี SHI International ที่เขาร่วมก่อตั้งกับอดีตภรรยา Thai Lee ในปี 1989 โดยปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งซีอีโอ บริษัทมียอดขายถึง 1.4 หมื่นล้านเหรียญเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมาเขายังเป็นแฟนบอยของ Elon Musk และทุ่มเงินมหาศาลลงทุนใน Tesla อีกด้วย
อันดับ 10
พี่น้อง Kwee
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 6.3 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
สี่พี่น้องเจ้าของ Pontiac Land ผู้ดูแลโรงแรมหรูและอาคารสำนักงานอันโด่งดังมากมายในสิงคโปร์ บริษัทนี้ก่อตั้งโดยพ่อของเขา Henry Kwee ชาวอินโดนีเซียที่ย้ายมายังนครรัฐแห่งนี้ในปี 1958 ปัจจุบัน Kwee Liong Tek ดำรงตำแหน่งประธานและยังลงทุน 400 ล้านเหรียญในรีสอร์ตที่มัลดีฟส์
วิธีการจัดทำ
การจัดอันดับนี้มาจากการรวบรวมข้อมูลการถือหุ้นและการเงินจากทั้งครอบครัวและรายบุคคล การซื้อขายหุ้น รายงานประจำปี การวิเคราะห์ต่างๆ ตลอดจนแหล่งข้อมูลอื่นๆ อันดับความมั่งคั่งครั้งนี้นับรวมทั้งรายบุคคลและครอบครัวตลอดจนการแบ่งสรรในกลุ่มเครือญาติ เช่น Kwek Leng Beng และวงศาคณาญาติของเขา
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอ้างอิงจากราคาหุ้นและอัตราการแลกเปลี่ยน ณ เวลาปิดตลาดวันที่ 18 สิงหาคม 2023 บริษัทเอกชนต่างๆ ได้รับการประเมินมูลค่าโดยอิงจากบริษัทแบบเดียวกันที่เป็นมหาชน
รายชื่อการจัดอันดับยังรวมชาวต่างชาติที่มีธุรกิจ ที่อยู่อาศัย หรือพันธะอื่นๆ ในประเทศ และพลเมืองสิงคโปร์ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศแต่มีธุรกิจหรือพันธะอื่นๆ ในประเทศ ทางกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลหรือนำรายชื่อใดรายชื่อออกหากมีข้อมูลใหม่
กิตติกรรมประกาศ
ขอบคุณทีมวิจัย JLL และผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นที่ช่วยเหลือเราในการจัดทำรายงานและการประเมินมูลค่าต่างๆ ซึ่งรวมถึง Govinda Singh จาก Colliers และ Dan Voellm จาก AP Hositality Advisors
แปลและเรียบเรียงจาก Singapore,s 50 Richest 2023: Facebook Cofounder Eduardo Saverin Is New No. 1 As Combined Wealth Rises 8% To $177 Billion
อ่านเพิ่มเติม : ผ่าทรัพย์สิน Robert F. Kennedy Jr. ผู้นำชื่อเสียงและความมั่งคั่งสู่สนามการเมือง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine Magazine